Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 112 ใส่ใจคนถึงใส่ใจเรื่อง
นายหญิงน้อย ไว้ชีวิตประโยคนี้ห่างนานอยู่บ้างแล้วจริงๆคุณหนูจวินมองสตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า แน่นอนยังจำได้ว่านางเป็นใครนางก็นับว่าเป็นขุนนางที่สร้างผลงานในเรื่องนั้นริมฝีปากคุณหนูจวินปรากฎรอยยิ้ม“อยู่ดีๆ ไว้ชีวิตอะไรกัน” นางเอ่ยได้ยินประโยคนี้ หลิงจือที่ร้องไห้ร่างกายสั่นเทาอยู่ก็ทำใจกล้าเงยหน้าขึ้นนายหญิงน้อย ไม่โกรธ?เกือบหนึ่งปีนี้ แม้นางยังคงอยู่ในเรือนของนายน้อย แต่ไม่เคยได้รับอนุญาตให้มาอยู่ต่อหน้านายน้อย ไม่มีใครทารุณนาง แต่ก็ไม่มีคนสนใจนางสภาพไม่ตายไม่เป็นเช่นนี้ทำให้คนเป็นบ้าจริงๆนางก็ไม่กล้าไปโวยวายต่อหน้านายน้อยเช่นกัน ไม่เป็นไม่ตายอย่างไรก็ดีกว่าตายเมื่อวานได้ยินว่าคุณหนูจวินกลับมาแล้ว นางพลันรู้สึกว่านี่คือโอกาสวันเวลาเหล่านี้แม้ไม่มีคนสนใจนาง แต่ก็ได้ยินทุกคนล้วนพูดว่านายน้อยชอบคุณหนูจวินในเมื่อนายน้อยชอบคุณหนูจวิน ด้วยอารมณ์ร้ายนั่นของคุณหนูจวิน ต้องคิดเล็กคิดน้อยเรื่องตอนนั้นแน่ตอนนั้นเรื่องที่นายน้อยทำกับตน มีเพียงตนกับนายน้อยรู้ นายน้อยคงอยากให้ตนอธิบายกับคุณหนูจวินแน่นี่ก็คงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมตลอดมานายน้อยยังไม่จัดการตนเองสินะไม่เช่นนั้นโบยแล้วขายทิ้งเหมือนผู้อื่นจัดการพวกที่เรียกว่าสาวใช้ปีนขึ้นเตียงอย่างตนเองอย่างนั้นก็ได้แล้วหากโบยแล้วขายตนเองทิ้ง ใยไม่ใช่บ่งบอกว่าเรื่องตอนนั้นเป็นเรื่องจริงตอนนี้ขอเพียงตนอธิบายแทนนายน้อย ให้นายหญิงน้อยเชื่อว่าเรื่องตอนนั้นเป็นเรื่องโกหก นายน้อยต้องเห็นค่านางใหม่แน่ หลังเกิดความคิดนี้ นางก็ห้ามตนเองไม่อยู่อีกครั้ง แอบลอบเข้ามาหลบอยู่ที่นี่รอ เดิมทีอยากรอตอนนายน้อยกับคุณหนูจวินเดินเข้ามาค่อยแสร้งพบโดยบังเอิญ คิดไม่ถึงหลิ่วเอ๋อร์คนนี้ตาไว ถึงกับพบนางเข้าพบแล้วก็พบสิ ดูไปแล้วเหมือนคุณหนูจวินไม่ได้โกรธมากแววตาของหลิงจือตกใจสงสัยไม่สงบส่วนฟางเฉิงอวี่กำมือไว้ สีหน้ายากปิดบังความกระวนกระวายแล้วยังมีความหดหู่จางๆกระวนกระวายย่อมเพราะการปรากฏตัวกะทันหันของหลิงจือหลิงจือต้องได้ปรากฎตัวแน่ ไม่เช่นนั้นเขาไม่มีทางทิ้งนางไว้นานเช่นนี้ แล้วยังปล่อยให้นางเดินวุ่นวายอยู่ในเรือนเพียงแต่นานขนาดนี้แล้ว เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะบอกเรื่องนี้กับคุณหนูจวินอย่างไรก็ใช่ว่าไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร แต่กระดากอายที่จะพูดและที่หดหู่ก็เพราะ คุณหนูจวินเห็นหลิงจือเข้า เหมือนจะไม่ได้โกรธมากตอนที่เรื่องนั้นเพิ่งเป็นเรื่องเมื่อตอนนั้น ปฏิกิริยาของคุณหนูจวินก็ไม่ได้โกรธ นางไม่โกรธ เขาจึงโมโหโกรธามาก เพราะนั่นหมายความว่านางไม่ใส่ใจตอนนี้นางยังคงไม่โกรธ ย่อมหมายความว่าไม่ใส่ใจเช่นกัน ครั้งนี้เขาไม่โกรธแต่ผิดหวังได้ยินคำพูดของคุณหนูจวิน หลิ่วเอ๋อร์ไม่ได้มีความคิดซับซ้อนเช่นนี้อย่างหลิงจือกับฟางเฉิงอวี่ นางเพียงแค่นเสียง“อยู่ดีๆ ไว้ชีวิตอะไร” นางตะโกนประโยคหนึ่งตาม ประเคนให้หลิงจืออีกหนึ่งฝ่ามือ “พูดเหมือนคุณหนูของข้าต้องการชีวิตเจ้า ชีวิตต้อยต่ำนี่ของเจ้าคุณหนูของข้าจะเอาไปทำอะไร”หลิงจือถูกตบ ก้มตัวลงไปร้องไห้กระซิกๆ กับพื้นอีกครั้ง“พอแล้ว ร้องไห้อะไร” คุณหนูจวินเอ่ย “เจ้ามาหาข้าใช่ไหม?”หลิงจือร้องไห้โขกศีรษะ“ไม่ต้องโขกศีรษะแล้ว ถามคำถามเจ้าแล้วก็รีบตอบหน่อย” หลิ่วเอ๋อร์ตวาดอย่างไม่สบอารมณ์ “ร้องไห้กระซิกๆให้ใครดูกัน ร้องอีกจะขายเจ้าซะ”พูดคำนี้แล้วก็ไม่ลืมตวัดตามองฟางเฉิงอวี่สาวใช้คนนี้อยู่ที่บ้านคำพูดคำจามีผลนักหลิงจือไม่กล้าชักช้าอีกทันที“นายหญิงน้อย เรื่องนั้นขอให้นายหญิงน้อยอย่าได้กล่าวโทษนายน้อย เป็นข้า…” นางร้องไห้เงยหน้าเอ่ยคำพูดยังไม่ทันเอ่ยจบ ฟางเฉิงอวี่ก็ขัดนาง“จิ่วหลิง เรื่องนั้นเป็นความคิดของข้า” เขาเอ่ย “ตอนนั้นข้าจะเล่นงานเจ้าจึงจะทำเรื่องนี้กับสาวใช้คนนี้จริงๆ ไม่มีเหตุผลอื่น แล้วก็ไม่ได้แสร้งหลอก แต่เป็นเรื่องจริง”ประโยคนี้ของเขาเอ่ยออกมา สามคนที่อยู่ที่นั่นล้วนตะลึงไปแล้วคุณหนูจวินยังดี เรียกความนิ่งสงบกลับมาได้ทันที หลิ่วเอ๋อร์ก็ยังดีแค่นเสียงทีหนึ่ง“รู้ตั้งนานแล้วว่าเป็นเรื่องจริง” นางเอ่ยมีเพียงหลิงจือหลังตะลึงก็ทำอันใดไม่ถูกอยู่บ้างนายน้อยทำไมพูดคำนี้? จะถอยเพื่อรุกหรือ?“ไม่ ไม่ใช่นะ” นางติดอ่างเอ่ยปากอีกครั้ง คุกเข่าเดินไปหาคุณหนูจวิน “เป็นข้าล่อลวง…”“หลิงจือ ไม่ต้องพูดจาเช่นนี้แล้ว คำพูดเช่นนี้พูดออกมาน่าขำปานใด” ฟางเฉิงอวี่ขัดนางอีกครั้ง “กับจิ่วหลิงไม่ต้องเล่นละครพรรค์นี้ น่าเบื่อเกินไปแล้ว”น่าขำ? น่าเบื่อ?หลิงจือถูกต่อว่าจนยิ่งทำอันใดไม่ถูกกว่าเดิมนอกจากนี้เป็นนายน้อยพูดอยู่ตอลด คุณหนูจวินเพียงสีหน้านิ่งสงบมอง ไม่ร้อนใจ ไม่โกรธ แล้วก็ไม่รำคาญด้วย“ข้าเก็บเจ้าไว้ก็เพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องในตอนนั้นไม่ใช่ปัญหาของเจ้า เป็นความคิดของข้าเอง” ฟางเฉิงอวี่เอ่ย “ส่วนเจ้าหลังจากนั้นเลือกอย่างไรจึงเข้ามาในเกมนี้ นั่นเป็นเรื่องของเจ้า เป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่ข้าทำ”เขาพูดพลางมองไปทางคุณหนูจวิน“จิ่วหลิงเรื่องของข้ากับหลิงจือ เป็นข้าต้องการทำเอง นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องจริง ข้าผิดไปแล้ว ขอโทษ”ห่างนานขนาดนี้ ประโยคข้าผิดไปแล้วนี่ในที่สุดก็พูดออกมาแล้ว ง่ายกว่าในจินตนาการอยู่มากคุณหนูจวินยิ้ม“ขอโทษไม่ต้องหรอก เวลานั้นพวกเราก็ไม่คุ้ยเคยกัน” นางเอ่ย “บวกกับที่จงใจปิดบังเจ้า ชักนำเจ้า คำขอโทษนี้ไม่จำเป็นต้องพูด”ฟางเฉิงอวี่มองนาง บีบนิ้วมือ“จริงหรือ?” เขาเอ่ย “แต่น่าขายหน้ามากจริงๆ”หลิ่วเอ๋อร์แค่นเสียงเหอะ“เจ้าขายหน้าก็ขายหน้าไปสิ เกี่ยวอะไรกับคุณหนูของข้า” นางเอ่ยครั้งนี้ฟางเฉิงอวี่ไม่ได้สนใจนาง แต่มองไปทางนาง“เพราะข้าขายหน้าต่อหน้าจิ่วหลิง” เขาเอ่ย “ข้าใส่ใจมาก”หลิ่วเอ๋อร์กลอกตาให้เขาทีหนึ่ง“คุณหนูของข้าไม่ใส่ใจนี่” นางแค่นเสียงเอ่ยนางไม่ใส่ใจบางครั้งไม่ใส่ใจสามคำก็ทำให้คนเสียใจจริงๆฟางเฉิงอวี่มองไปทางคุณหนูจวินคุณหนูจวินมองความเศร้าสร้อยกระวนกระวายบนใบหน้าเขา กลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่แล้ว“ข้าบอกแล้วไง ก่อนหน้านี้พวกเราไม่คุ้ยเคยกัน ข้ายังทำเพื่อรักษาโรคให้เจ้า เวลานั้นจะพูดว่าข้าเป็นพี่สาวของเจ้า ยังไม่สู้พูดว่าข้าเป็นหมอคนหนึ่ง” นางเอ่ย ยื่นมืออกไปหาฟางเฉิงอวี่ฟางเฉิงอวี่กำมือนางไว้ แต่สีหน้ายังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด“สิ่งใดเรียกว่าหมอเล่า คนในชาติคนต่างชาติโง่เง่าฉลาดล้วนเท่าเทียมเหมือนกัน ข้าจะทำเรื่องอย่างโกรธ ใส่ใจเพราะคนป่วยได้อย่างไรเล่า” คุณหนูจวินเอ่ยฟางเฉิงอวี่กะพริบตา“ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ล่ะ?” เขาเอ่ยถาม“คุณหนูของข้าไม่ได้พูดแล้วรึ ตอนนี้ไม่โกรธ” หลิ่วเอ๋อร์อดไม่ได้สอดปากเอ่ยขึ้น ทนคนโง่เช่นนี้ไม่ไหวจริงๆครั้งนี้ฟางเฉิงอวี่ไม่ได้สนใจนาง เพียงมองคุณหนูจวินคุณหนูจวินยิ้ม ตบมือเขาเบาๆ แล้วหุบยิ้มอีกครั้ง“ตอนนี้หากเจ้าทำเรื่องเช่นนี้อีก ข้าย่อมโกรธ นอกจากนี้ไม่มีทางให้อภัยเจ้า” นางเอ่ยหน้าขรึมบนหน้าฟางเฉิงอวี่รอยยิ้มแย้มออก ประหนึ่งหิมะน้ำแข็งละลาย เมฆสลายตะวันโผล่ หลิ่วเอ๋อร์ที่เดิมทีสีหน้าดูแคลนมาตลอดยังอดมองอึ้งไม่ได้เจ้าหมอนี่ ยิ้มขึ้นมาดูดีจริงๆ หล่อกว่าท่านเขยเสียอีกความคิดเช่นนี้ผิดจริงๆ ท่านเขยต้องเป็นคนที่หล่อที่สุดบนโลกแน่นอนถึงจะถูก“จิ่วหลิงถ้าเช่นนั้นตอนนี้เจ้าจะทำอะไร?” เสียงของฟางเฉิงอวี่ดังขึ้น สบายใจมีความสุข เหมือนกับก่อนหน้านี้พวกเขากำลังคุยเล่นกันอยู่“ข้าอยากอ่านหนังสือแล้ว เจ้าอย่าหนวกหูข้า” คุณหนูจวินเอ่ย ปล่อยมือฟางเฉิงอวี่เดินไปด้านหน้าฟางเฉิงอวี่ยิ้มตามไป“ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปดูสมุดบัญชี” เขาเอ่ย “ตอนข้ากลับมาจะเอาของกินมาให้เจ้าหน่อยดีหรือไม่? ร้านหมั่นโถวร้านหนึ่งที่เปิดใหม่ที่ถนนอร่อยมากยิ่งนัก”คุณหนูจวินยิ้มไม่พูด สองคนหนึ่งหน้าหนึ่งหลังเดินไปข้างหน้า หลิ่วเอ๋อร์ก็เตะๆ ต่อยๆ ตามหลังไปพริบตาตรงหน้าก็ไม่มีคนอยู่แล้ว หลิงจือนิ่งอึ้งไปอยู่บ้างก็ ไปแบบนี้หรือ?ถ้าอย่างนั้นนางเล่า?คำพูดของนางยังไม่ทันเอ่ยจบเลยนะ……………………………………….
คอมเม้นต์