Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 109 ใครกล่อมใคร
หญิงรับใช้ตระหนกลนลานวิ่งออกมา เรือนของคุณหญิงใหญ่หนิงกลับมาสงบอีกครั้งหนิงอวิ๋นเยี่ยนยังคงโกรธหน้าอกพองยุบอย่างรุนแรงหนิงอวิ๋นเจามองนางทีหนึ่งไม่พูดจา เดินเข้าไปในห้องนายหญิงใหญ่หนิงนอนอยู่บนเตียงหันเข้าด้านใน ประหนึ่งไม่ได้ยินแล้วก็มองไม่เห็นเรื่องข้างนอกหนิงอวิ๋นเจานั่งลงข้างเตียง ยกน้ำแกงชามหนึ่งขึ้น“ท่านแม่ ทานอะไรหน่อยเถอะ” เขาเอ่ย“ท่านพี่!” หนิงอวิ๋นเยี่ยนเข้ามาจากนอกประตู กัดฟันตะโกน “หากท่านเป็นห่วงท่านแม่จริงๆ อยากให้ท่านแม่ดีขึ้นก็รีบไปจัดการเรื่องนี้”“เรื่องแต่งงานย่อมต้องจัดการอยู่แล้ว” หนิงอวิ๋นเจาเอ่ย“ท่านจะยกเลิกสัญญาหมั้นหรือจะกับผู้หญิงต่ำ…” หนิงอวิ๋นเยี่ยนเอ่ยเสียงแหลมคำว่าต่ำเพิ่งออกจากปาก หนิงอวิ๋นเจาก็วางชามน้ำแกงลงบนโต๊ะ เหมือนไม่ตั้งใจจึงชนกับกาน้ำชาด้านข้าง ส่งเสียงใสกังวานทั้งแสบแก้วหูนิดๆ ออกมาเหมือนแม่สามีวางถ้วยชาแรงๆ ยามไม่พอใจ หนิงอวิ๋นเยี่ยนตัวสั่นหยุดพูด จากนั้นก็ขอบตาแดงนางก็ไม่ใช่เด็กน้อย ย่อมรู้ว่าการกระทำเช่นนี้ไม่มีทางไม่ตั้งใจ แต่เป็นจงใจแม่สามีดูไปแล้วเป็นมิตร ที่จริงมักถือนางเป็นคนนอก เอ่ยชมขอไปที แต่ไม่พอใจดันไม่พูดเพียงสะบัดหน้า การสะบัดหน้านี้นางมองออก คนรับใช้ทั้งหลายของสามีก็มองออกเช่นกัน หลังจากนั้นก็ปฎิบัติกับนางเช่นนี้ไปด้วยนางไม่อาจไม่ระวังเพิ่มเป็นสิบสองส่วน สังเกตถ้อยคำมองสีหน้าแม่สามี ปรนนิบัติอย่างระมัดระวังความสบายใจยามทำตามใจตนเองเมื่อครั้งเป็นลูกสาว นางลืมไปหมดสิ้นแล้ว เพียงแต่หลายวันนี้ได้ยินพวกนางเอ่ยถึงจวินเจินเจินเสมอ ถึงคิดถึงชีวิตของตนเองในตอนนั้นขึ้นมาได้เวลานั้นล้วนเป็นทุกคนมองสีหน้าของนาง ไม่ต้องระวังสักนิดอย่างสิ้นเชิง พอใจก็พอใจ ไม่พอใจก็ไม่พอใจ ท่านแม่ ท่านพี่ล้วนเอาใจนางแต่ตอนนี้แค่เพราะตนเองจะด่าจวินเจินจินคนนั้นว่าต่ำช้าคำหนึ่ง พี่ชายถึงกับชักสีหน้าใส่นาง ถึงกับทำท่าทางเช่นเดียวกับแม่สามีด้วยน้ำตาของหนิงอวิ๋นเยี่ยนฟึบไหลออกมาแล้วพี่ชายมองนางเป็นคนนอกแล้วนางเคยคิดว่าหลังพี่ชายแต่งงานคงมองนางเป็นคนนอก คิดไม่ถึงยังไม่ทันแต่งงานก็เป็นเช่นนี้แล้วนอกจากนี้ยังเป็นเพราะคนนอกคนหนึ่งจวินเจินเจินเพื่อจวินเจินเจินผู้หญิงต่ำช้าคนนี้ พี่ชายทำเช่นนี้กับนาง“มีอะไรก็พูดดีๆ อย่าร้องไห้โวยวาย”เสียงหนิงอวิ๋นเจาดังตามมา ยังคงอ่อนโยนสนิทสนม แต่หนิงอวิ๋นเยี่ยนกลับไม่รู้สึกถึงการตามใจของพี่ชายแบบนั้นอย่างก่อนหน้านี้อีกต่อไปนี่คือตำหนิไม่พอใจเสียงร้องไห้ของหนิงอวิ๋นเยี่ยนยิ่งดัง“เจ้าว่าใครกัน?” นายหญิงใหญ่หนิงลุกพรวดนั่งบนเตียงคิ้วตั้งตวาด ยื่นมือชี้นิ้ว “เจ้าออกไปซะ ที่นี่ข้าไม่ต้องให้เจ้าปรนนิบัติ กระแทกนั่นกระแทกนี่ เจ้าชักสีหน้าให้ใครดู?”พูดพลางทั้งร่างสั่นเทิ้ม“ข้าจะถือว่าไม่ได้ให้กำเนิดเลี้ยงดูเจ้าลูกคนนี้”จากนั้นก็นอนฟุบลงไปกับหมอนร้องไห้โฮ“เวลานั้นข้าร่างกายอ่อนแอตั้งท้องเจ้า เกือบตายไปแล้ว ท่านหมอเกลี้ยกล่อมว่าอย่าเก็บไว้ ข้าไหนเลยตัดใจลง สู้สุดชีวิตให้กำเนิดมา ผลสุดท้ายตอนนี้ยังต้องถูกเจ้าเอาชีวิตแล้ว”มองเห็นมารดาร้องไห้ เสียงร้องไห้ของหนิงอวิ๋นเยี่ยนยิ่งดัง นายท่านใหญ่หนิงที่เพิ่งเดินมาถึงด้านนอกเรือนนวดหู“ข้ารอสักพักค่อยมาก็แล้วกัน” เขาเอ่ยแล้วมองด้านในเรือนท่าทางนับถือและเห็นใจ “เป็นอวิ๋นเจาไม่ง่ายจริงๆ”ในห้องหนิงอวิ๋นเจานั่งสง่าดั่งต้นสนท่ามกลางเสียงร้องไห้ของสตรีสองนาง สีหน้าไม่เปลี่ยนสักนิด“ท่านแม่ สิ่งเหล่านี้ข้าล้วนรู้ ท่านไม่ต้องร่ำไห้ เรื่องราวอย่างไรก็ต้องจัดการ” เขาเอ่ยเสียงอ่อนโยน “เมื่อครู่ท่านก็ได้ยิน นางกลับมาแล้ว”ก่อนหน้านี้เขามักบอกว่าเรื่องนี้ต้องรอคุณหนูจวินกลับมาค่อยจัดการแต่ต้นเหตุของเรื่องนี้ไม่ใช่คุณหนูจวินกลับมาหรือไม่กลับมาสักนิดผู้ชายไม่เข้าใจหรือว่าแสร้งเลอะเลือน?นายหญิงใหญ่หนิงหยุดร้องไห้มองเขา“เจ้ากับนางจะจัดการอย่างไร?” นางเอ่ย“ถามนางก่อนถึงจะรู้” หนิงอวิ๋นเขาเอ่ยจริงจัง“ตอนนี้ข้าไม่ต้องการถามนาง คนที่ข้าต้องการถามคือเจ้า” นายหญิงใหญ่หนิงตวาด “ไม่ว่านางบอกว่าจัดการอย่างไร เจ้าก็ยังชอบนางใช่หรือไม่? ต่อให้นางบอกว่าจะยกเลิกสัญญาหมั้น เจ้าก็ยังไม่ใช่นางไม่แต่งใช่หรือไม่?”หนิงอวิ๋นเจายิ้มแล้ว“ไม่ใช่นางไม่แต่งคำมั่นสัญญานี่ใหญ่เกินไปแล้ว” เขาเอ่ย “ไม่มีใครรู้เรื่องราวภายหลัง คำนี้ข้าก็ไม่กล้าเอ่ย”บอกว่าเขาบ้าไปแล้วเถอะ เขาอยู่ดีๆ บอกว่าชอบจวินเจินเจินบ้าเกินไปแล้วจริงๆเหมือนกับคนหนุ่มข้างบ้านคนนั้นที่ลำบากนักกว่าจะได้เป็นซิ่วไฉ ครอบครัวยังไม่ทันดีใจ ลูกชายซิ่วไฉคนนี้ก็เป็นบ้าจะแต่งแม่หม้ายสาวคนหนึ่งแต่หนิงอวิ๋นเจาก็ไม่เหมือนซิ่วไฉคนนั้นเป็นบ้าร่ำร้องว่าไม่ใช่นางไม่แต่งจะเป็นจะตายบุตรชายเป็นคนมีเหตุผลมาตลอด“อวิ๋นเจา” นายหญิงใหญ่หนิงท่าทางเศร้าโศกอยู่บ้างคาดหวังอยู่บ้างจูงมือเขา “ผู้หญิงต่ำช้านั่นล่อลวงเจ้าใช่หรือไม่?”หนิงอวิ๋นเจายิ้มแล้ว“ท่านแม่ ท่านยังไม่รู้จักข้าบุตรชายของท่านหรือ” เขาเอ่ย “ข้าเป็นคนที่ถูกผู้อื่นล่อลวงได้พรรค์นั้นรึ?”นายหญิงใหญ่หนิงถูกว่าอึ้งไป ทั้งปากขมขื่นอีกครั้งทันทีนางยินดีไม่รู้!นางสะบัดมือของหนิงอวิ๋นเจาออกอย่างโกรธเกรี้ยว“สรุปก็คือเจ้าชอบนางไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ชอบ หลังจากนี้ไปก็ไม่อนุญาตให้ชอบแล้ว” นางตวาด “ข้าจะหาหญิงสาวดีๆ คนหนึ่งให้เจ้าอีกครั้ง เจ้าก็พูดแล้วว่าไม่มีใครรู้เรื่องราวภายหลัง”“ท่านแม่ ชอบไม่ชอบเรื่องนี้ไหนเลยง่ายดายเช่นนี้”หนิงอวิ๋นเจายิ้ม โอบหัวไหล่นายหญิงใหญ่หนิงดังนั้นพูดมาเนิ่นนานก็ยังเท่ากับว่าสิ่งใดล้วนไม่ได้พูดไม่ ไม่ใช่สิ่งใดล้วนไม่ได้พูด เขาพูดโน้มน้าวตนเองอยู่ตลอดนายหญิงใหญ่หนิงหัวใจเย็นเฉียบดุจน้ำแข็งตนเองล้มหมอนนอนเสื่ออดอาหาร เขาแลดูเหมือนกตัญญูคอยปรนนิบัติ แต่ตลอดมายังคงพูดโน้มน้าวตนเอง ไม่ได้จะคล้อยตามตนสักนิดตนเองในสายตาเขายังสู้ผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นไม่ได้!“ออกไปซะ!” นางตะโกนเสียงแหบ ผลักหนิงอวิ๋นเจาออก “ออกไปซะ ข้าไม่มีลูกชายอย่างเจ้า!”หนิงอวิ๋นเจายังคงไม่ร้อนรนไม่หงุดหงิด ถอนหายใจเบาๆ“ท่านแม่ระวังโทสะ” เขาเอย “ข้าฟังคำท่าน ท่านอย่าโกรธ ข้าจะออกไปก่อน”พูดจบก็ถอยออกไปเวลานี้ฟังคำพูดนางแล้ว?นายหญิงใหญ่หนิงมองหนิงอวิ๋นเจาเดินออกไป หนึ่งฝ่ามือกวาดชามน้ำแกงบนโต๊ะร่วงลงพื้น“ท่านแม่ ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?” หนิงอวิ๋นเยี่ยนร้องไห้เอ่ย “ท่านพี่ถูกนางจิ้งจอกตัวนั้นทำเสน่ห์แล้ว”นายหญิงใหญ่หนิงกำมือแน่น สีหน้าซีดขาว“นอกจากข้าตายแล้ว” นางกัดฟันเอ่ย “ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะกล้าทำเพื่อผู้หญิงต่ำช้าคนนั้น ไม่เอาข้ามารดาคนนี้จริงๆ”ขอเพียงท่านแม่ยังยืนหยัดอยู่ก็พอหนิงอวิ๋นเยี่ยนโล่งใจขึ้นบ้าง ท่านพ่อพึ่งไม่ได้ คนอื่นในตระกูลหนิงยิ่งน่าชัง หลายวันนี้เดินออกไปถึงกับยังมีคนชอบมาถามนางว่าคุณหนูจวินจะแต่งเข้ามาเมื่อไรหน้าไม่อายจริงๆ ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี แต่ละคนๆ ถึงกับเหมือนเก็บของล้ำค่าได้“ท่านแม่” นางคิดอะไรได้ มองซ้ายขวา หยิบของว่างไม่กี่ชิ้นออกมาจากในลิ้นชักเล็กด้านข้าง “ท่านรีบทานอะไรหน่อย อย่าอดจนย่ำแย่ไปจริงๆ ถ้าเช่นนั้นคงปล่อยให้ผู้หญิงต่ำช้าคนนั้นสมหวังแล้ว”อดอาหารย่อมต้องเป็นเรื่องหลอกนายหญิงใหญ่หนิงหน้าบึ้งตึงยื่นมือรับไป……………………………………….
คอมเม้นต์