Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 88 ลำบากใหญ่แล้ว
มองเห็นใต้เท้าถังนั่งอยู่บนพื้น ทหารยศน้อยที่พยุงอยู่ก็เบะปากขุนนางพลเรือนเหล่านี้ไร้ประโยชน์จริงๆ ยามปกติตะโกนโหวกเหวกดุร้ายโหดเหี้ยม เห็นม้าตื่นตัวเดียว เห็นคนตายหนึ่งคนก็กลัวจนเป็นเช่นนี้แล้วทหารหันหน้าไปตะโกนเรียกสหายด้านข้างทีหนึ่ง ทหารอีกคนหนึ่งก็เข้ามาประคองปีกใต้เท้าถังลากออกไปด้วยกันกับเขาไม่มีใครมาที่นี่ยื่นหัวยื่นศีรษะ ที่นี่ราวกับกลายเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนหวาดกลัวแต่นี่ไม่ได้ขวางเรื่องนี้แพร่ไปทั่วเมืองหลวงประหนึ่งสายลมขุนนางชั้นสูง การลอบสังหารของทายาทขุนนางต้องโทษ ม้าตื่นเหยียบคนตาย เรื่องราวดั่งละครเช่นนี้กระทั่งนักเล่านิทานยังแต่งออกมาไม่ได้คดีของว่านต้าชุนเมื่อสามปีก่อนถูกรื้อออกมาต่อหน้าผู้คนอีกครั้งเป็นการแก้แค้นของทายาทขุนนางต้องโทษที่เต็มไปด้วยเจตนาร้าย หรือการทวงความแค้นด้วยความอยุติธรรมจุกอก?บุตรชายเฉิงกั๋วกงสังหารม้ากลางถนนเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ ใต้เท้าน้อยหวงจะกล่าวโทษเฉิงกั๋วกงจริงหรือ?ข่าวสารต่างๆ นานา ทำให้เมืองหลวงทั้งหมดเดือดพล่าน“สะเทือนอารมณ์เกินไปแล้วจริงๆ”เฉินชีก้าวเดินไปกลับในโรงหมอจิ่วหลิง สีหน้าเริงร่า“เด็กสาวตระกูลว่านคนนี้ร้ายกาจจริงๆ !”“อย่าพูดจาส่งเดช” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ย “ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”“ยังเกิดเรื่องอะไรขึ้นได้ ดวงตาของฝูงชนกระจ่างชัด” เฉินชีเอ่ย “ดังนั้นถึงบอกว่าโลกนี้มีความยุติธรรม”พูดพลางก็ถอนหายใจอีก“น่าเสียดายความยุติธรรมของตระกูว่านต้องเอาชีวิตมาแลก”เอาชีวิตมาแลกแล้วอย่างไร โชคดีกว่าเอาชีวิตมาแลกก็ยังไม่ได้มามากแล้ว ฟางจิ่นซิ่วเงียบงัน ความคิดแล่นผ่านไปก็เงยหน้าอีกครั้ง“ม้าตื่นนั้นเป็นเรื่องบังเอิญจริงหรือ?” นางเอ่ยถามคุณหนูจวินผู้หลังกลับมาเล่าเรื่องจนจบก็นิ่งเงียบมาตลอดได้ยิน มองไปทางนาง“บังเอิญหรือไม่ นั่นก็ดูว่าฮ่องเต้จะว่าอย่างไรแล้ว” นางเอ่ยใต้เท้าน้อยหวงตายแล้ว จูจั้นบังเอิญหรือไม่บังเอิญก็ปรากฏตัวในเหตุการณ์วันนี้ขุนนางพลเรือนในราชสำนักไม่พอใจเฉิงกั๋วกงมากนัก ครั้งนี้ยังเกี่ยวข้องกับความตายของใต้เท้าน้อยหวง เกรงว่า…เฉินชีหยุดเท้า สีหน้าเคร่งขรึมต่อให้ไม่ใช่คนในราชสำนัก เขาก็รู้ว่าเรื่องนี้สำหรับเฉิงกั๋วกงแล้วลำบากมาก“ทำไมดันเป็นบุตรชายเฉิงกั๋วกงได้นะ” เฉินชีเอ่ยเขารู้สึกดีกับบุตรชายเฉิงกั๋วกงมาก อย่างไรก็ช่วยเหลือโรงหมอจิ่วหลิงหลายครั้ง เขามองเขาเป็นคนของตนเองไปแล้วอืม เป็นคนของตนเองมากกว่าหนิงอวิ๋นเจาอยู่หน่อยในใจเฉินชีชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบนิดหนึ่ง“ข้าจะไปสอบถามข่าวคราว” เขาเอ่ยคุณหนูจวินไม่ได้ขวางเขา“ไปหาผู้ดูแลใหญ่หลิ่วที่นั่น เส้นสายของเต๋อเซิ่งขางมากอยู่” นางเอ่ยนางก็ร้อนใจอยากรู้ผลลัพธ์เช่นกันเฉินชีขานรับรีบร้อนออกไปข่าวไม่ได้ให้รอนานนัก เมื่อฟ้ามืดมาเยือนก็ส่งออกมาแล้ว อย่างไรเรื่องนี้ก็ใหญ่เกินไป นอกจากนี้เกี่ยวพันถึงคดีสามปีก่อนหลังคนกลุ่มนี้มาถึงพระราชวัง ได้รู้ข่าวฮ่องเต้ที่ใจอ่อนนิสัยเมตตามาตลอด ไหนเลยจะทนเห็นคนผมขาวส่งคนผมดำได้ อยู่นอกตำหนักกุมศีรษะร้องไห้เจ็บปวดกับใต้ท้าเฒ่าหวง ใต้เท้าเฒ่าหวงร้องไห้เป็นลมล้มพับไป ฮ่องเต้ก็ได้เหล่าขุนนางทำหน้าอกให้โล่งป้อนยา เกรงทำร้ายพระวรกายประกาศความผิดผู้ร้ายทันที แม้ผู้ร้ายตายไปแล้ว แต่ก็ให้เฆี่ยนศพ ทั้งยังออกคำสั่งแขวนบนประตูเมืองประจานส่วนบุตรชายเฉิงกั๋วกง“บุตรชายเฉิงกั๋วกงกัดฟันบอกว่าถูกใส่ร้าย บอกว่ามองเห็นม้าตื่น เขาผ่านทางชมดูเรื่องสนุกถึงลงมือหยุดยั้ง”“ม้าตื่นไม่ใช่เรื่องของเขา เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมม้าตื่นเหมือนกัน”“บอกว่าไม่สู้ตรวจสอบเรื่องม้าดู”“ก่อนหน้านี้ม้าของกรมทหารม้าห้าเมืองไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน ทำไมม้าที่กรมปศุสัตว์ส่งมาใหม่ถึงกลายเป็นเช่นนี้ไป?”เฉินชีเลียนแบบน้ำเสียงจูจั้นเอ่ย สีหน้าเกินจริง พูดพลางก็มองคนด้านในโถง“พวกเจ้ารู้ว่าหัวหน้าใหญ่ของกรมปศุสัตว์เป็นใครไหม?” เขายักคิ้วหลิ่วตาเอ่ย“ไม่ใช่ให้เจ้าเล่ารึ” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ยเย็นชาเฉินชีขัดเขิน“คือหวังจื่อหยาง ผู้พิพากษาหวัง” เขาเดิมอยากพูดว่าพวกเจ้ารู้ว่าหวังจื่อหยางเป็นใครไหม แต่เห็นใบหน้าเย็นชาของฟางจิ่นซิ่วรีบกลืนกลับลงไป สีหน้าเคร่มขรึมเอ่ย “เป็นลูกชายบุญธรรมของใต้เท้าน้อยหวง”ฟังดูแล้วก็ไม่มีช่องโหว่ให้เล่นงาน แต่ฮ่องเต้เชื่อไหม?คุณหนูจวิน ฟางจิ่นซิ่วมองเขา ไม่มีใครปรบมือกระโดดโลดเต้นเพราะเรื่องนี้เฉินชีก้มศีรษะแบมือ“เอาเถอะ หลังจากนั้นฮ่องเต้ก็บัญชาให้องครักษ์โบยจูจั้นห้าสิบไม้ ริบตำแหน่งผู้บัญชาการฝึกทัพ คุมตัวเข้าคุกหลวงรอตัดสินโทษ” เขาเอ่ยพลางถอนหายใจ “ในวังข่าวบอกมาว่าตีเหี้ยมนัก ฮ่องเต้ทรงแย่งกระบองเหล็กในมือองครักษ์ไปตีจูจั้นเอง เพราะมีการกระทำของฮ่องเต้ โทษโบยต่อมาจึงรุนแรงโหดเหี้ยมอย่างที่สุด จูจั้นสลบไปตรงนั้น”ฟางจิ่นซิ่วกำมือแน่นเหมือนกัน มองไปทางคุณหนูจวิน แม้นางก็ไม่รู้ว่ามองนางทำไม ตามหลักแล้ว ท่านชายคนนี้กับพวกนางก็ไม่นับว่าคุ้นเคยกันบนหน้าที่สงบมาตลอดของคุณหนูจวินคิ้วเรียวขมวด มือประสานกุมอยู่หน้าร่างโทษโบยยังเป็นเรื่องรอง ที่คุมขังเป็นถึงคุกหลวงเชียวนะ“คุกหลวงทำไมหรือ?” ฟางจิ่นซิ่วไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเหล่านี้นักเอ่ยถาม“คุกหลวงเป็นสถานที่ซึ่งกรมสืบสวนฝ่ายเหนือคุม” ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วเอ่ยด้านข้างองครักษ์เสื้อแพรรึ“ตอนแรกบุตรชายเฉิงกั๋วกงเข้าเมืองหลวง ฮ่องเต้ดูเหมือนพิโรธมากกลับให้สามกรมสอบสวน เห็นชัดว่าเข้าข้าง ไม่อย่างนั้นคงมอบให้กรมสืบสวนฝ่ายเหนือสอบสวนตรงๆ ไปแล้ว” ผู้ดูแลใหญ่หลิ่วเอ่ยต่อ “แต่ตอนนี้ฮ่องเต้บัญชาให้ส่งเขาแก่กรมสืบสวนฝ่ายเหนือ”องครักษ์เสื้อแพรน่ะมีแค้นกับจูจั้นอยู่นะ ตอนนี้จูจั้นตกอยู่ในมือพวกเขาแล้วนอกจากนี้เขายังทนรับโทษโบยจนสลบไปอีก หากมีคนยินดีล่ะก็ ไม่ต้องพูดถึงโทษโบยหนังปริเนื้อแตก นิ้วกรีดเป็นแผลก็เอาชีวิตได้ในคุกใหญ่ที่องครักษ์เสื้อแพรทั่วไปหมด จะมีคนรักษาบาดแผลให้ยากับเขาไหม?มือของคุณหนูจวินยิ่งกำเข้าด้วยกันแน่นนี่ลำบากมากจริงๆ แล้ว…ในคุกหลวงที่มืดมิดไร้แสงตะวัน เสียงฝีเท้าหนักหน่วงดังขึ้น ที่ตามมาคือกลิ่นสมุนไพรเพียงแต่กลิ่นเน่าเหม็นในที่แห่งนี้มากเกินไป กลิ่นยากลืนหายเข้าไปในนั้นอย่างรวดเร็วยิ่ง“ข้าที่นี่ก็ขาดแคลนมากเช่นกัน”เสียงทุ้มต่ำทื่อมะลื่อเสียงหนึ่งดั่งขึ้นในความมืดสลัว“ได้แต่หวุดหวิดหาห้องเดี่ยวห้องนี้มาให้ท่าน เล็กไปหน่อย ท่านชายโปรดให้อภัย”เสียงนี้แม้ไม่มีทำนองสูงต่ำ แต่ฟังดูแล้วดันทำให้คนรู้สึกว่าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างจริงใจเสียงฝีเท้าหยุดลง เสียงก็หยุดไปด้วยคบไฟแท่งหนึ่งถูกจุด แสงไฟขับไล่ความมืดมิดที่ทำให้คนอึดอัดหายใจไม่ออกไป แต่แสงสว่างกลับยิ่งทำให้พื้นที่แห่งนี้น่าสะพรึงกำแพงดั่งหมึกเปรอะเปื้อนรอยเลือดสีแดงสด บนนั้นเครื่องทรมานนานาชนิดแขวนอยู่ ด้านข้างองครักษ์เสื้อแพรที่ผอมแห้งดั่งก้านปอ สองคนยืนอยู่ ในคุกที่แสงสว่างความมืดประสานกันแห่งนี้ประดุจภูตผี“ใส่ยาให้ท่านชายเถอะ”เสียงบุรุษทื่อๆ ดังขึ้นอีกครั้งองครักษ์เสื้อแพรสองคนก้าวเท้าเดินไปถึงอีกด้าน ฝั่งนั้นวางเตียงไม้กระดานหลังหนึ่งไว้ เวลานี้คนผู้หนึ่งนอนคว่ำอยู่ด้านบนหันเข้าด้านในเหมือนกับหมดสติอยู่องครักษ์เสื้อแพรสองคนเคลื่อนไหวว่องไวไปคลายเสื้อผ้าบนร่างของคนผู้นี้ หลักๆ คือกางเกงคบไฟฝั่งนี้ก็ถูกจุดสว่าง ส่องเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยรอยเลือดของคนผู้นี้ผ้าติดกับเนื้อและเลือดไปแล้ว คนทั่วไปเห็นคงได้แต่กลัวจนทำอันใดไม่ถูก แต่องครักษ์เสื้อแพรสองคนกลับไม่ลังเลสักนิด ยกมือทึ้งเส้อผ้านี่ลงมาในห้องเหมือนจะมีเสียงแควกดังขึ้น เหมือนกับถลกหนังมนุษย์ชั้นหนึ่งออกมา……………………………………….
คอมเม้นต์