Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 84 ขอร้องให้ช่วยกับขอร้องให้ไม่ช่วย
ใต้เท้าเฒ่าหวงฉับพลันคุกเข่าทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตกใจสะดุ้ง“คุณหนูจวิน สองขานี้ของข้า เพียงคุกเข่าให้ฟ้าดินเจ้าแผ่นดินและอาจารย์” ใต้เท้าเฒ่าหวงเพราะขาพิการร่างกายอ่อนแอแทบจะคุกเข่าไม่ไหว คนทั้งร่างหมอบฟุบไปบนพื้นนาทีนี้ทุกคนเห็นเพียงผู้เฒ่าผู้โรยราคนหนึ่งลืมเลือนตำแหน่งฐานะของเขา มองดูผู้เฒ่าผู้น่าสงสารที่กำลังจะต้องเป็นคนผมขาวส่งคนผมดำคนนี้“ขอร้องท่าน” ใต้เท้าเฒ่าหวงโขกศีรษะกับพื้น ครั้งแล้วครั้งเล่า เส้นผมสีดอกเลากลายเป็นยุ่งเหยิง บนหน้าผากเปรอะเปื้อนฝุ่นดิน ผสมกับน้ำตาทำให้ทั้งใบหน้ากลายเป็นน่าเวทนายิ่งนักสตรีที่มุงดูอยู่มากมายอดไม่ได้น้ำตาไหล“เมื่อหมาป่าตัวหนึ่งหมอบลง ทุกคนล้วนทำประหนึ่งมันเป็นสุนัขตัวหนึ่ง” จูจั้นเอ่ย “ดูท่าไม่มีใครจำได้แล้วว่าผู้เฒ่าคนนี้หลังคุกเข่าทุกครั้งล้วนมีคนหลายคนถูกกินเสมอ”มือของซื่อเฟิ่งตบไหล่เขา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเสมอเคร่งขรึมอยู่บ้าง กลับไม่ได้เอ่ยวาจา“คุณหนูจวินจะช่วยจริงหรือ?” จางเป่าถังอดไม่ได้เอ่ยเสียงเบา “นางบอกว่าช่วยไม่ได้แล้วก็ได้…”“นาง?” จูจั้นแค่นเสียง “ทิ้งชื่อเสียงครั้งนี้ได้หรือ?”“นี่สำหรับคุณหนูจวินแล้วก็นับว่าเป็นโอกาสครั้งหนึ่ง” ซื่อเฟิ่งครุ่นคิดครู่หนึ่ง มือยังคงกดหัวไหล่จูจั้น พลันเอ่ยขึ้น “ฝีมือสำแดงแล้ว ชื่อเสียงนับเป็นอะไรอีก นอกจากนี้นางเป็นเพียงแค่หมอคนหนึ่ง ไม่มีใครเหี้ยมโหดกับนางหรอก”มุมปากจูจั้นเบะออก“นางก็ไม่ใช่หมอคนหนึ่งสักหน่อย” เขาเอ่ยพี่น้องสองคนข้างกายล้วนมองไปทางเขา สีหน้าไม่เข้าใจไม่ใช่หมอแล้วเป็นอะไร?“เป็นเจ้าโง่คนหนึ่ง” จูจั้นเอ่ย เดินผ่านฝูงชน มองดูคุณหนูจวินที่ผู้คนหลีกทางให้ยืนเดียวดายอยู่บนถนนคุณหนูจวินมองใต้เท้าเฒ่าหวงโขกศีรษะ“คุณหนูจวิน ท่านช่วยได้หรือไม่เล่า เอ่ยมาตรงๆ เถอะ” หัวหน้ากองร้อยเจียงตะโกน “ทุกคนกำลังรออยู่นะ”คุณหนูจวินเงยหน้า“ข้าช่วยได้” นางเอ่ยคำพูดนี้ออกมาคนตระกูลหวงยินดี ชาวบ้านที่ล้อมดูอยู่รอบด้านกลับสีหน้ายุ่งยากใจไม่ใช่จะบอกว่าช่วยคนไม่ดี หากคนที่ช่วยเป็นคนดีควรจะดีเท่าไรใต้เท้าเฒ่าหวงให้ข้ารับใช้ประคองลุกขึ้น เขาที่ประหนึ่งทั้งร่างสั่นระริกไร้เรี่ยวแรงก้มศีรษะลงต่ำ ไม่มีใครมองเห็นแววโหดเหี้ยมในดวงตาของเขาขอแค่ลูกชายของเขาไม่ตาย พวกเจ้าทั้งหมดรอก่อนเถอะคุณหนูจวินก้าวเดินเข้ามา ฉับพลันเสียงโขกศีรษะทีหนึ่งก็ดังขึ้น ฝีเท้าของนางชะงักมองไปข้างเท้าเด็กสาวแขน ขาพิการเลือดไหลไม่หยุดที่ถูกเตะเมื่อครู่คนนั้น ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่นางออกแรงยกศีรษะโขกกับพื้นครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงหน้าซึ่งรอยเลือดเปรอะเป็นด่างดวงเงยขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำมองนาง“ขอร้องท่าน ขอร้องท่าน” นางเอ่ยเสียงแหบเมื่อครู่ผู้เฒ่าผมขาวโขกศีรษะขอร้องให้ช่วยบุตรชายที่บาดเจ็บหนักของตนเอง ตอนนี้สตรีแรกแย้มคนนี้ก็โขกศีรษะขอร้องบ้างอาการบาดเจ็บของนางก็หนักเช่นกัน แต่ที่นางขอร้องไม่ใช่ขอให้ช่วยตัวนางเองคุณหนูจวินมองนาง บนร่างนางเต็มไปด้วยแผลดาบ แผลดาบนี่เทียบกับตนเองยามนั้นไม่ได้ แต่นางต้องเจ็บปวดกว่าตนแน่นอนเพราะนางถูกรุมฟันตาย ตายแล้วก็คือตายแล้ว ไม่เจ็บปวดแล้วแต่เด็กสาวคนนี้กลับไม่อาจตาย ต้องอดทนกับความเจ็บปวด ยังจะต้องอดทนกับความเจ็บปวดเป็นไม่สู้ตายมากกว่านี้ที่จะตามมาต่อให้เป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ในดวงตาของนางก็มีเพียงความยินดีเปี่ยมล้น ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว ตายก็ไม่เสียดายแต่ตอนนี้ มองดูคุณหนูจวินก้าวเข้ามา ในดวงตานางเต็มไปด้วยความสิ้นหวังนั่นเป็นความผิดหวังที่ทุกสิ่งซึ่งลงแรงก่อนหน้าสูญเปล่า นั่นเป็นความสิ้นหวังที่ทำอันใดไม่ได้เห็นชัดมากว่านางรู้คุณหนูจวินเป็นผู้ใด“ขอร้องท่าน อย่าช่วย” นางโขกศีรษะครั้งแล้วครั้งเล่า พึมพำเอ่ย “อย่าช่วยเขา”ดวงตาของคุณหนูจวินขัดเคืองสายตาพร่ามัวทันทีตำแหน่งเป็นสิ่งสัมพัทธ์ หวังจือเช่อกล่าวไว้คนทุกคนยามตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากล้วนคาดหวังว่าจะมีคนร่วงจากฟ้ามาช่วยเหลือคนที่ช่วยผู้อื่นได้ย่อมถูกมองเป็นเทพเซียน มองเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นที่ซาบซึ้งได้รับการคารวะขอบคุณแต่นี่เป็นมุมองของคนที่ถูกช่วยจากสถานการณ์ลำบากคนที่ถูกช่วยจากความลำบากย่อมขอบคุณ ถ้าอย่างนั้นคนที่จงใจให้คนผู้นี้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเล่า?สำหรับพวกเขาแล้ว คนที่มาคลี่คลายสถานการณ์ลำบากผู้นี้ย่อมไม่ควรค่าให้ขอบคุณ แล้วไม่ได้เห็นเป็นพระโพธิสัตว์ ตรงกันข้ามกลับเป็นมารร้าย มีเพียงความเคียดแค้นชิงชังที่ขาดอีกก้าวเดียวจะสำเร็จกลับล้มเหลวคุณหนูจวินมองเด็กสาวที่ยังคงโขกศีรษะอยู่คนนี้นางคนเดียวหนีรอดมา แบกความแค้นลึกล้ำนางซ่อนสกุลกลบฝังชื่อหลบซ้ายหลบขวาอย่างไร แล้วตัดสินใจแน่วแน่ชำระแค้นอย่างไรแขนของนางบิดไปด้านข้าง กลางฝ่ามือที่แบออกมองเห็นหนังด้านชั้นหนึ่งเพื่อหนึ่งดาบแทงใส่ใต้เท้าน้อยหวงนั้นเมื่อครู่ นางวันคืนฝึกฝนไม่หยุดใช่หรือไม่?“ขอร้องท่าน” นางเงยหน้า รอยเลือดก็ปิดบังดวงหน้าที่ยิ่งซีดขาวขึ้นทุกทีของนางไม่ได้ นางไม่มีแรงโขกศีรษะแล้ว ทำได้เพียงผงกศีรษะ เอ่ยพึมพำ สองตาจับจ้องนิ่งอยู่ที่นาง“คนต่ำช้า!”ข้ารับใช้ตระกูลหวงด้านข้างร้องด่า ยกเท้าเตะเข้าใส่หน้าของเด็กสาวคนนี้อีกครั้งคุณหนูจวินยื่นมือคว้าหีบยาในมือของหลิ่วเอ๋อร์มา พร้อมกันนั้นหมุนตัวหีบยาหนักหน่วงบังเอิญชนบนร่างของข้ารับใช้ผู้นี้พอดี เขาร้องตกใจทีหนึ่งโซเซล้มไปข้างหน้า เท้าที่ยกก็ร่วงลงบนพื้น พันกับขาอีกข้างหนึ่ง คนทั้งร่างล้มหมอบกับพื้น“อา ขอโทษด้วย” คุณหนูจวินเอ่ย “ยื่นมือไปพยุง”“เจ้าคนนี้ทำไมไม่มองทาง” หลิ่วเอ๋อร์ตะโกนไม่พอใจ “เจ้าขวางคุณหนูของข้า ไม่อยากให้ครอบครัวของเจ้ารักษาแล้วรึ?”คนที่อยู่ด้านข้างถูกหลิ่วเอ๋อร์ตะโกนใส่มึนงงไปอยู่บ้าง ข้ารับใช้คนนี้ไม่มีตาขวางทางหรือ?แต่ตอนนี้ไม่สนเรื่องนี้แล้ว“หลบไปให้หมด รีบเชิญคุณหนูจวิน” ใต้เท้าเฒ่าหวงตะโกนได้ยินประโยคนี้ ข้ารับใช้ที่วุ่นวายอยู่บ้างรีบหยุด คุณหนูจวินมองใต้เท้าน้อยหวงที่นอนอยู่บนพื้น หิ้วหีบยาในมือ กำลังจะยกเท้าก้าวเดินได้ยินประโยคนี้ ใต้เท้าถังที่ยืนอยู่ด้านข้าง เวลานี้นาที้ถึงได้สติกลับมานิดหน่อยมีคุณหนูจวินอยู่ ใต้เท้าน้อยหวงต้องไม่เป็นไรแน่คุณหนูจวินถึงกับบังเอิญอยู่ที่นี่ด้วย หรือนี่คือที่พูดกันว่าเป็นเจตนาฟ้า?ใต้เท้าถังสงบหัวใจที่เต้นรัว สีหน้าทีซีดขาวค่อยๆ ดีขึ้นส่วนจูจั้นที่มองดูด้านนี้อยู่นอกฝูงชน ได้ยินประโยคนี้ก็ยักไหล่ทีหนึ่ง ยกเท้าก้าวเดินซื่อเฟิ่งที่วางมือบนไหล่เขาอยู่ตลอดรู้สึกตัวทันที มือออกแรงทันใด“อย่าเคลื่อนไหว” เขาเอ็ดเบาๆ ยึดหัวไหล่จูจั้นไว้ ขวางก้าวเท้าของเขา สีหน้าเคร่งขรึมทั้งยังกังวลอยู่บ้าง “ไม่ต้องจริงๆ ตอนนี้เช่นนี้ค่อนข้างดี ไม่นับว่าย่ำแย่ คนแซ่หวงนี่เจ็บอย่างน้อยก็ครึ่งปี เพียงพอคลี่คลายสถานการณ์ลำบากแล้ว”จูจั้นไม่สนเขา ยังคงมองเหตุการณ์ซื่อเฟิ่งมองตามสายตาของเขาไป จับอยู่บนร่างคุณหนูจวินที่กำลังก้าวเดินคนนั้น“คุณหนูจวิน ขอแค่รักษาเขาหายดี ก็พอ ชื่อเสียงเท่านั้น ก็ไม่นับว่าตกที่นั่งลำบากเช่นกัน” เขาร้อนรนเอ่ยเสียงเบา “ตอนนี้ไม่เคลื่อนไหวถึงไร้กังวล”หากนางไม่ยอมรักษาเขาให้หายเล่า?ผู้หญิงเจ้าเล่ห์คนนี้ ไม่ใช่หมอจิตใจเมตตาอะไรสักหน่อยจูจั้นสะบัดหัวไหล่ คนก้าวยาวไปข้างหน้าซื่อเฟิ่งถึงกับจับไว้ไม่อยู่อีกต่อไป ในใจร้องตะโกนแย่แล้ว……………………………………….
คอมเม้นต์