Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 70 พูดเหลวไหล
พี่ชายใยแค่หาคู่ครองเล่า พี่ชายควรแต่งงานแล้วหนิงอวิ๋นเยี่ยนยืนอยู่หลังร่างมารดา สายตากวาดผ่านผู้คนในห้อง มองเห็นความกระตือรือร้นในสายตาของนายหญิงเหล่านี้ชัดเจนกระตือรือร้นก็ไร้ประโยชน์ ลูกสาวของตระกูลพวกเจ้าเหล่านี้ ก่อนหน้านี้ไม่คู่ควรกับพี่ชายของข้า ตอนนี้ยิ่งปีนป่ายเกาะไม่ถึงแต่ตอนนี้ตระกูลที่ท่านแม่ถูกใจคือตระกูลไหนกัน?นางแต่งออกไปแล้ว เรื่องของตระกูลมารดาน้อยนักจะรู้ มาหามารดาที่นี่ก็รีบมารีบไป เรื่องมากมายมารดาล้วนไม่เอ่ยกับนางหนิงอวิ๋นเยี่ยนมองนายหญิงใหญ่หนิง นายหญิงใหญ่หนิงอมยิ้มพยักหน้า“เด็กคนนี้พูดอยู่เสมอว่าหลังสอบจอหงวนค่อยพูดเรื่องแต่งงาน ดึงมาจนอายุมากเช่นนี้” นางเอ่ย“อายุไม่มาก อายุไม่มาก ผู้เข้าสอบอายุเจ็ดสิบแปดสิบพวกนั้นยังไม่แต่งงานเลย” นายหญิงคนหนึ่งหลุดปากเอ่ยพวกที่อายุเจ็ดสิบแปดสิบยังไม่แต่งงานเหล่านั้นเพราะสอบไม่ได้ตำแหน่งไม่มีคนยอมแต่งไหมเล่านายหญิงใหญ่หนิงในดวงตาความกรุ่นโกรธจางๆ แล่นผ่านเทียบกับบุตรชายของนางได้รึ?นายหญิงคนนั้นเห็นชัดรู้ตัวว่าพูดผิดแล้ว ยิ้มประจบเขินอาย“แต่ตอนนี้อวิ๋นเจาก็หาคู่ครองได้แล้ว เลือกหญิงสาวได้ตามใจ” นางยิ้มประจบเอ่ยนายหญิงใหญ่หนิงคร้านจะสนใจนาง“หาคู่ครองคนหนึ่งง่ายดาย ขอแค่เป็นคนดี ชาติตระกูลพวกเราไม่ถือ” นางเอ่ยกับบรรดานายหญิงด้านข้างบรรดานายหญิงพากันพยักหน้าเอ่ยว่าใช่หนิงอวิ๋นเยี่ยนในใจร้อนรนอยู่บ้าง แม้ไม่ได้อยู่ข้างกายมารดาแล้ว แต่นิสัยของมารดานางยังคงเดาออก นายหญิงใหญ่หนิงเอ่ยเช่นนี้ต้องมีคนในใจแล้วแน่ ไม่แน่อาจตกลงกันแล้ว รอแค่หนิงอวิ๋นเจาขึ้นชื่อบนกระดานทองกลับมา สองมงคลเยือนประตูตระกูลใคร? คุณหนูคนไหนกัน?หนิงอวิ๋นเยี่ยนอยากหาโอกาสถามมารดา จนปัญญาด้วยบรรดานายหญิงเหล่านี้ในห้องไม่เพียงไม่ยอมไป ตรงกันข้ามยิ่งมากขึ้นทุกทีกำลังคุยเล่นหัวเราะอยู่ ด้านนอกก็แจ้งว่านายหญิงหม่าจวนเจ้าเมืองไท่หยวนมาแล้วนายหญิงจวนเจ้าเมืองถึงกับมาแสดงความยินดีด้วยตนเองนายหญิงใหญ่หนิงรีบนำพวกผู้หญิงลุกขึ้น นายหญิงหม่ายิ้มเข้ามา“ยินดีด้วย ยินดีด้วย” นางยิ้มเอ่ย “สองมงคลเยือนประตูจริงๆ”สองมงคล?หนิงอวิ๋นเยี่ยนดวงตาทอประกายเป็นอย่างที่คิดหรือ?เรื่องแต่งงานของพี่ชายเกี่ยวข้องกับนายหญิงหม่ารึ?นายหญิงใหญ่หนิงกลับไม่คิดมาก บางทีคงพูดถึงเรื่องที่หนิงอวิ๋นเจาได้ตำแหน่งขุนนาง แม้เป็นจอหงวนอย่างไรก็ต้องได้ แต่ก็เรียกว่าสองมงคลได้ล่ะมั้งนางเอ่ยขอบคุณพลางคล้องแขนนายหญิงหม่าเชิญเข้ามานั่ง“สุราจอหงวนนี่เมื่อไรจะดื่มเล่า?” นายหญิงหม่ายิ้มถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ“วันพรุ่งนี้ประดับบุปผาแห่ขบวน วันมะรืนก็จะออกเดินทางกลับมากับอาของเขาแล้ว” นายหญิงใหญ่หนิงเอ่ย “ถึงบ้านเร็วที่สุดก็ต้องวันที่ยี่สิบสามยี่สิบสี่”นายหญิงหม่ายิ้มพยักหน้า“ถึงเวลาคงต้องมาขอดื่มสุราสักจอก” นางเอ่ย“นั่นแน่นอน” นายหญิงใหญ่หนิงยิ้มเอ่ย พลางเชิญนายหญิงหม่าดื่มชานายหญิงหม่ายิ้มจิบชาคำหนึ่ง วางถ้วยชาลงยิ้มอีกครั้ง“ถ้าอย่างนั้นสุรามงคลของคุณชายหนิงดื่มเมื่อไรเล่า?” นางเอ่ยถามหนิงอวิ๋นเยี่ยนกำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น สายตาหมุนไปหมุนมาบนร่างมารดากับนายหญิงหม่านายหญิงใหญ่หนิงครั้งนี้คิดมากแล้ว เพียงแต่สิ่งที่คิดคือนายหญิงหม่าก็อยากดื่มสุราแม่สื่อด้วยนายหญิงคนอื่นในห้องก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน สีหน้าบางคนอิจฉา บางคนได้ใจ บางคนริษยารวมถึงร้อนรนคุณชายหนิงเดิมทีก็เป็นคู่หมายแต่งงานที่ทุกคนแย่งชิงกันอยู่แล้ว วันนี้ได้เป็นจอหงวนนั่นก็ยิ่งดึงดูดคน นอกจากนี้ก็คัดคนกลุ่มใหญ่ออกไปด้วย“เรื่องนี้ไม่รีบร้อน” นายหญิงใหญ่หนิงยิ้มเอ่ย “อย่างไรก็ต้องจัดการทีละเรื่องๆ”นายหญิงหม่ายิ้มพยักหน้าตอบว่าใช่ แล้วก็ถามถึงนายหญิงผู้เฒ่าหนิง ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานของหนิงอวิ๋นเจาอีก แล้วก็ไม่ได้ลอบสื่อถึงแม่นางบ้านไหนด้วยบางทีคนมากคงไม่สะดวกพูดมากกระมังนายหญิงใหญ่หนิงก็ย่อมไม่เป็นฝ่ายเอ่ยถามเอง“นายหญิงผู้เฒ่าไม่ถูกกับเสียงเอะอะ ตอนปีใหม่ร่างกายไม่ค่อยสบาย ตอนนี้อากาศดีแล้วจึงไปอยู่ที่คฤหาสถ์นอกเมือง” นางตอบตามนายหญิงหม่าพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้นพวกท่านก็ไม่ต้องกังวลแล้ว” นางยิ้มตาหยีเอ่ย “รอลูกสะใภ้คนใหม่มาก็ใช้ฝีมือยอดเยี่ยมทำให้นายหญิงผู้เฒ่าหายดีได้แล้ว”ว่าแล้ว มีลูกสะใภ้ใหม่แล้วจริงๆ ด้วย?ฟังไปแล้วยังเป็นคนที่รู้วิชาแพทย์คนหนึ่งด้วย? หนิงอวิ๋นเยี่ยนอดไม่ได้เข้ามาใกล้อีกหน่อยจะบอกว่าหลานสะใภ้แต่งเข้าบ้าน นายหญิงผู้เฒ่าดีใจ ดังนั้นร่างกายจึงดีขึ้นหรือ? หรือนายหญิงหม่าจะพูดถึงผู้หญิงที่เข้าใจหลักวิชาแพทย์คนหนึ่ง?นายหญิงใหญ่หนิงอมยิ้มฟัง“ก็ไม่หวังให้พวกนางคนรุ่นหลังมาปรนนิบัติคนแก่หรอก” นางยิ้มเอ่ยนายหญิงหม่าส่งเสียงโถ่ทีหนึ่ง“อย่าสิ คนมากเท่าไรอยากหาแต่หาไม่ได้” นางเอ่ย เข้ามาใกล้อีกนิดหนึ่งยิ้มตาหยี “วันนี้ข้าคงต้องขอน้ำใจครั้งหนึ่งก่อนเลย รอคุณหนูจวินแต่งเข้าบ้าน ท่านต้องพานางไปเป็นแขกบ้านข้านะ ถึงเวลาไม่ว่าอย่างไรก็พูดกับพวกเราไม่ได้นะว่าให้หาหมอคนอื่นอะไร”หืม?นายหญิงใหญ่หนิงบนหน้ายังมีรอยยิ้ม ในสมองกลับตะลึงเหมือนในคำพูดนี้มีชื่อประหลาดอะไรปนเข้ามาด้วยเป็นนางฟังผิดหรือนายหญิงหม่าพูดผิด?คนอื่นในห้องก็ล้วนยิ้มประจบ บางคนไม่ได้ยิน บางคนก็เหมือนได้ยินไม่ชัดอยู่บ้าง บรรยากาศแลดูพิกลนิดๆนายหญิงหม่ากลับไม่ได้สังเกต มองดูนายหญิงใหญ่หนิงไม่พูดจาก็เอ่ยปากอีกครั้ง“ท่านอย่าบอกว่าท่านแม่สามีผู้นี้คุมนางไม่ได้เชียว”นางยิ้มเอ่ย เหมือนกับว่าต้องได้สัญญาสักคำถึงวางใจได้“นายหญิงหม่า ท่านพูดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ?” หนิงอวิ๋นเยี่ยนทนไม่ไหวอีกต่อไป เอ่ยถามต่ออย่างตรงไปตรงมายิ่งนัก “ท่านจะเป็นแม่สื่อให้พี่ชายข้ากับลูกสาวบ้านไหน? เป็นคนที่ทำงานอะไรเจ้าคะ?”คำพูดนี้ออกมาคนในห้องล้วนมองนายหญิงหม่า ท่าทางสงสัยเช่นกันนายหญิงหม่ากลับงุนงงแล้ว มองหนิงอวิ๋นเยี่ยน“ข้าเป็นแม่สื่อให้พี่ชายเจ้ากับผู้หญิงคนไหน?” นางเอ่ยหนิงอวิ๋นเยี่ยนในใจร้องชิคำหนึ่ง คงเพราะหนิงอวิ๋นเจาได้เป็นจอหงวน อารมณ์ร้ายที่ถูกกล่อมเกลาไปบ้างแล้วของนางจึงผุดขึ้นมาอีกครั้ง“นายหญิงหนิง ท่านคำหนึ่งก็แม่สามี ลูกสะใภ้ใหม่ ไม่ใช่จะเป็นแม่สื่อหาภรรยาให้พี่ชายข้าหรือ?” นางแสร้งทำซุกซนเอ่ยถาม “ท่านพูดมาตรงๆ เถอะ เป็นคุณหนูบ้านไหนกันหรือเจ้าคะ? ไม่เช่นนั้นพวกเราล้วนฟังจนมึนงงแล้ว”นายหญิงหม่าหุบยิ้ม มองหนิงอวิ๋นเยี่ยน แล้วมองนายหญิงใหญ่หนิง มองนายหญิงคนอื่นในห้อง“เจ้าพูดอะไรน่ะ ข้าสับสนแล้ว” นางเอ่ย “ข้าจะเป็นแม่สื่อหาภรรยาให้คุณชายหนิงได้อย่างไร เขาไม่ใช่มีภรรยาแล้วหรือ”หนิงอวิ๋นเยี่ยนสีหน้าตะลึง รอยยิ้มบนหน้านายหญิงใหญ่หนิงก็นิ่งค้างไปเช่นกันมี…ภรรยา?หมายความว่าอย่างไร?หรือนายหญิงหม่ารู้ว่าตนเองมีคนที่ถูกใจจะตกลงแต่งงานด้วยแล้ว? ดังนั้นจึงจงใจเอ่ยวาจาประหลาดเหล่านี้?“นายหญิงหม่าล้อเล่นแล้ว” นายหญิงใหญ่หนิงยิ้มเอ่ย “ยังไม่มีหรอก รอหลังเขากลับมาค่อยหาคู่ครอง ไม่รีบร้อน”นายหญิงหม่าก็ยิ้มบ้างแล้ว“ยังไงก็รีบแต่งหน่อยเถอะ” นางเอ่ย ท่าทางเอ่ยออกมาจากใจจริงอยู่บ้าง “วันนี้คุณชายหนิงกับคุณหนูจวินชื่อเสียงโด่งดัง รีบแต่งงานหน่อยก็วางใจได้เร็วหน่อย”คุณหนู…จวิน?ทำไมนางได้ยินชื่อนี้อีกแล้วนายหญิงใหญ่หนิงมองนายหญิงหม่า“คุณหนูจวินที่ไหนจะแต่งงานกับพี่ชายข้า?” เสียงของหนิงอวิ๋นเยี่ยนแหลมอยู่บ้างดังขึ้นนายหญิงหม่าขมวดคิ้วมองหนิงอวิ๋นเยี่ยน“คุณหนูจวินจวินจิ่วหลิงที่คิดค้นยาป้องกันฝีดาษไงเล่า” นางเอ่ย “คุณหนูจวินตระกูลจวินจากหรู่หนานของอดีตนายอำเภอฝู่หนิง หลานสาวฝั่งมารดาของตระกูลฟางแห่งเต๋อเซิ่งชางที่พวกท่านหมั้นไว้ไง”คำพูดนี้ออกมาคนทั้งห้องเงียบกริบ แต่ละคนๆ สีหน้าอึ้งๆ มองนายหญิงหม่านายหญิงใหญ่หนิงยิ่งตะลึง“อะไรนะ?“ นางเอ่ย แล้วสงบจิตใจอีกครั้ง เค้นรอยยิ้มบางออกมา “ท่านพูดถึงเรื่องนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้เคยมีสัญญาหมั้น ต่อมาเป็นความเข้าใจผิด ยกเลิกแล้ว…”นายหญิงหม่ายิ้ม ยื่นมือตบแขนของนายหญิงใหญ่หนิง“อั้ยย่ะ ท่านไม่ต้องปิดบังแล้ว เรื่องของตระกูลฟางคลี่คลายแล้ว ไม่ต้องเล่นละครต่อแล้ว” นางยิ้มเอ่ย “คุณชายหนิงวันที่สองหลังกระดานทองประกาศนามก็พูดต่อหน้าผู้คนแล้วว่ายังคงมีสัญญาหมั้นกับคุณหนูจวิน สัญญากันว่าหลังสอบเสร็จค่อยแต่งงาน”ในห้องยังคงเงียบกริบไม่มีเสียง สีหน้าของคนทั้งหมดจากอึ้งกลายเป็นตะลึงงันนายหญิงใหญ่หนิงมองนายหญิงหม่า ในหูเหมือนกลองกระหน่ำ พริบตาเดียวสิ่งใดล้วนไม่ได้ยินทั้งสิ้น สองหูดังวิ้งๆ ในใจปั่นปวนสับสนแต่ดันมีหลายประโยคดังซ้ำๆ อยู่ในหูคุณชายหนิงวันที่สองหลังกระดานทองประกาศนาม….พูดต่อหน้าผู้คนว่ายังคงมีสัญญาหมั้นกับคุณหนูจวิน…สัญญาว่าหลังสอบเสร็จแต่งงาน…คุณชายหนิง กับ คุณหนูจวิน แต่งงานแต่งงานเสียงกลองกระหน่ำในหูนายหญิงใหญ่หนิงหยุดลง ประหนึ่งไม้กลองด้ามหนึ่งเขวี้ยงใส่หน้า ดวงตามืดดับคนก็ล้มไปข้างหลัง“ท่านพูดเหลวไหล!พี่ชายของข้าไม่มีทางแต่งงานกับจวินเจินเจิน!”เสียงตะโกนแหลมของหนิงอวิ๋นเยี่ยนดังขึ้นในหู จากนั้นทุกสิ่งก็กลายเป็นความมืดมิดในห้องชะงักนิ่งไปครู่หนึ่งจากนั้นก็วุ่นวาย“ใครมานี่เร็ว!”เสียงร้องตะโกนฉีกความยินดีที่ห้อมล้อมท้องฟ้าตระกูลหนิงอยู่…………………………………………………
คอมเม้นต์