Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 55 กล้าหรือไม่กล้า
หน้าตำหนักงดงามว่างเปล่าไม่มีคนสักคน ชายหญิงอายุน้อยประจันหน้ากันอย่างอ่อนโยนเป็นมิตร ไม่ได้ทะเลาะไม่มีข่มเหงรังแกบีบบังคับ หากถูกคนนอกมองเห็น คนที่โกรธแค้นสงสัยเหล่านั้นคงต้องถอยกระจายไปบ้างแล้วไม่ได้บีบบังคับได้ข่มเหงรังแก นี่ก็คือสองฝ่ายชอบพอแม้ไม่มีคนมองเห็นฉากนี้ได้ แต่คิดดูก็รู้ว่าคนเท่าไรข้างนอกกำลังคาดเดาอยู่ การคาดเดานี่มีแค่สองฝั่ง รักหรือชังก่อนหน้านี้คนที่คิดว่าระหว่างทั้งสองคนคือการรังแกรวมถึงถูกรังแกจนเกลียดชังครองส่วนมากแต่หลังจากนี้เล่า?เมื่อไม่ว่าจะแสดงความโกรธแค้นอย่างไร ลู่อวิ๋นฉีล้วนเงียบงันไม่เอ่ยวาจา เคารพมีมารยาทเล่า?เมื่อนางเข้ามาในวังไหวอ๋องครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งยังมีลู่อวิ๋นฉีเคียงข้างเดินออกมาอย่างปลอดภัยเล่าชาวบ้านจะคิดอย่างไร“เจ้าเดิมทีไม่ควรมา” ลู่อวิ๋นฉีเอ่ย มองเด็กสาวตรงหน้า“หมอรักษาโรคทุกคน หากมีคนป่วยไข้มาร้องขอ ไม่อาจถามเขายากดีมีจน แก่เฒ่าเยาว์วัยงดงามน่าเกลียด คู่แค้นครอบครัวมิตรรัก คนร่วมชาติต่างชาติโง่เง่าฉลาดล้วนเหมือนกัน ล้วนคิดประหนึ่งญาติสนิท ไม่อาจเหลียวหน้าเหลียวหลัง คิดถึงโชคลาภคราวเคราะห์ของตน ถนอมชีวิตตัวได้” คุณหนูจวินเอ่ยลู่อวิ๋นฉีพลันหัวเราะฮ่าฮ่าแล้วเสียงหัวเราะของเขา คนข้างนอกมองเห็นคงประหลาดใจนัก เพราะแต่ไหนแต่ไรมาไม่รู้ว่าหน้าที่เหมือนกระเบื้องเผานี้ของลู่อวิ๋นฉีจะขยับได้มากขนาดนี้ การขยับนี้ทำให้ดวงหน้าขาวดุจกระเบื้องดวงนี้ของเขาปริแตกหน้าของเขาปริแตกตามรอยยิ้มกว้าง เผยหน้าตาอีกแบบหนึ่งออกมา หน้าตานี้คนนอกไม่คุ้นตา แต่สำหรับคุณหนูจวินไม่ใช่ของแปลกหน้าเขายื่นมือตบแขนของนาง เหมือนกับลูบคลำแมวน้อยสุนัขน้อยตัวหนึ่ง“ใจเมตตาของแพทย์ เจ้ามีของพรรค์นี้ที่ไหน” เขาเอ่ย “ไม่ต้องล้อเล่นเช่นนี้แล้ว เจ้ามาที่นี่เพียงเพราะเจ้าอยากมา เจ้าตัดใจไม่มาไม่ได้”คุณหนูจวินยังคงปล่อยให้เขาขยับ สีหน้านิ่งสงบ ไม่ประหลาดใจถึงกับไม่โกรธแค้น“แต่เจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าอยากทำอะไรข้าไม่สนใจ” ลู่อวิ๋นฉีเอ่ย “ข้าเพียงแต่ทำสิ่งที่ข้าควรทำก็พอแล้ว”“ใต้เท้าลู่ ท่านเชื่อหรือไม่ว่าข้าฆ่าท่านได้?” คุณหนูจวินเอ่ยลู่อวิ๋นฉีมองนางหัวเราะอีกครั้ง มือรั้งกลับไปวางลง“ไม่เชื่อ” เขาเอ่ย “องค์ชายตกปลาอยู่ในสวนดอกไม้ด้านหลัง”พูดจบก็ไม่พูดมากอีก เดินผ่านนางไปคุณหนูจวินมองเขาเดินออกจากวังไหวอ๋อง เมื่อลู่อวิ่นฉีขยับเดินบรรดาองครักษ์เสื้อแพรที่กระจายอยู่รอบด้านก็ตามเขาจากไปด้วยเหล่าขันทีซึ่งไม่รู้ว่าหลบซ่อนอยู่ที่ใดก้มศีรษะเดินเงียบเชียบออกมา“คุณหนูจวิน เชิญด้านนี้” เขาเอ่ย เหมือนกับพวกเขายังคงนำทางอยู่ เมื่อครู่สิ่งใดล้วนไม่เคยเกิดขึ้นคุณหนูจวินรั้งสายตากลับตามไปด้านหลังเขา ร่างกายเหยียดตรงมือกุมอยู่ด้านหน้าหากนางต้องการ เมื่อครู่ลู่อวิ๋นฉีตายไปแล้วในมือนางมีกำไลที่มีพิษร้ายอยู่ ในปากนางก็มีพิษถึงชีวิตซ่อนไว้เช่นกัน นางกัดลงบนมือเขาคำหนึ่ง หรือนางยกมือขึ้นตบหน้าเขาหนึ่งฝ่ามือก็แย่งชิงชีวิตเขาก่อนหน้าเขาทำร้ายตนเองได้ทั้งนั้นแต่นางทำไม่ได้ย่อมไม่ใช่นางกลัวตาย ความจริงแล้วสังหารลู่อวิ๋นฉีนางก็ไม่มีทางตายเด็กสาวผู้เป็นทายาทของขุนนางผู้ภักดี สตรีผู้บริสุทธิ์สูงส่ง ขับไล่หายนะชั่วร้ายขจัดภัยร้ายของฝีดาษ ขณะที่ไม่ปฏิเสธภาระวุ่นวาย เรื่องฝีดาษจบก็วิ่งตรงมายังวังไหวอ๋องตรวจซ้ำ กลับถูกบุรุษผู้ต้องการย่ำยีชื่อเสียงของนางกระทำไม่สมควร ด้วยความโกรธแค้นหวาดกลัวพลั้งมือสังหารบุรุษคนนี้ตายจะผิดหรือ?จะมีคนคิดว่านางทำผิดได้หรือ?ไม่เพียงจะไม่กลายเป็นความผิด ยังได้ผู้คนมากมายตบมือชมว่าดีด้วยซ้ำอย่างไรคนที่อยากให้ลู่อวิ๋นฉีตายก็มากกว่าคนที่อยากให้นางตายอยู่นิดหน่อยคุณหนูจวินติดตามขันทีเลี้ยวโค้งหนึ่ง ฝีเท้าไม่รีบร้อนไม่ชักช้าก้าวข้ามประตูบานหนึ่ง ทว่าคนที่อยากให้นางตายแต่ไม่อยากให้ลู่อวิ๋นฉีตายอย่างน้อยก็มีคนหนึ่งแม้มีแค่หนึ่งคน อำนาจของหนึ่งคนนี้ตอนนี้เพียงพอกลบคนพันหมื่นฮ่องเต้คนที่ไม่อยากให้ลู่อวิ๋นฉีตายที่สุดก็คือฮ่องเต้หากตอนนี้ลู่อวิ๋นฉีถูกตนสังหารไป ไม่ว่าจะจำนนต่อความคิดของประชาชนหรือจำนนต่อราชโองการที่ตระกูลฟางถืออยู่ ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางสังหารนาง แต่เมืองหลวงแห่งนี้ย่อมไม่อาจอยู่ได้แล้ว นอกจากนี้ชื่อเสียงที่สั่งสมมาก่อนหน้านี้ย่อมต้องถูกฮ่องเต้ทำลายสิ้น ไม่เพียงโรงหมอจิ่วหลิง ยังมีเต๋อเซิ่งชาง ทุกสิ่งนี้จะถูกทำลายด้วยความพิโรธแห่งองค์ฮ่องเต้ออกจากเมืองหลวง ออกห่างไหวอ๋องกับพี่สาว ถูกทำลายความนิยมเงินทองที่พึ่งซึ่งลำบากกว่าจะสั่งสมมาได้คุณหนูจวินพลันยิ้มไม่เชื่อที่ลู่อวิ๋นฉีพูด ไม่ใช่ไม่เชื่อว่านางสังหารเขาได้ แต่ไม่เชื่อว่านางจะกล้าสังหารเขาสินะก็เหมือนที่รู้ชัดว่าเวลานี้ไม่ควรมาวังไหวอ๋อง นางก็ยังมาทำเรื่องมากมายขนาดนี้ จะตัดใจให้สิ่งที่ลงแรงก่อนหน้าสูญเปล่าอีกได้อย่างไรลู่อวิ๋นฉีคนนี้ไม่ใช่ลู่อวิ๋นฉีที่นางรู้จักจริงๆ นี่ถึงเป็นลู่อวิ๋นฉีที่แท้จริง ยมราชลู่ผู้ไม่ว่าวิธีการหรือความคิดล้วนทำให้คนหวาดกลัวคุณหนูจวินเงยศีรษะมองด้านหน้า ข้ามผ่านสีเขียวขจีแถบหนึ่ง ทะเลสาบแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้า คุณหนูจวินมองแวบเดียวก็มองเห็นร่างเล็กๆ ร่างหนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบสีหน้าของนางกลายเป็นอ่อนโยน ทั้งยังท่าทางแน่วแน่อยู่บ้างอีกครั้งนั่นแล้วอย่างไร?ลู่อวิ๋นฉีจะอาศัยการที่นางตัดใจทิ้งทุกสิ่งที่ได้มาในมือไม่ได้ตอแยนาง ถ้าอย่างนั้นนาง เพื่อทุกสิ่งที่ได้มาไว้ในมือจะกลัวเขาตอแยรึ?“คุณหนูจวินมาแล้ว”บัณฑิตกู้หมุนตัวมามองเด็กสาวที่เดินเข้าใกล้ยิ้มเอ่ยขึ้นไหวอ๋องยังคงนั่งตัวตรงข้างทะเลสาบ กำคันเบ็ดสีหน้าจดจ่อตั้งใจมองผิวทะเลาสาบ ไม่ได้ลุกขึ้นหรือหันหน้ามองมาบัณฑิตกู้ยิ้ม“จะตรวจซ้ำสินะ” เขากดเสียงเบาเอ่ย ราวกับกลัวรบกวนปลาที่กำลังจะติดเบ็ดของไหวอ๋อง ปิดบังว่าไม่ใช่ไหวอ๋องเจตนาไม่สนใจคนคุณหนูจวินยิ้ม กดเสียงเบาขานรับด้วยสามคนยืนอยู่ริมทะเลสาบเงียบงันอยู่ครู่หนึ่ง“พูดถึงตรวจซ้ำ ข้าจะไปเรียกขันทีเข้ามา เขาบอกว่าองค์ชายเมื่อคืนนี้หลับไม่สบายอยู่บ้าง ให้เขาเล่าให้ท่านฟังสักหน่อย” บัณฑิตกู้พลันคิดอะไรขึ้นมาได้เอ่ยขึ้นหลับไม่สบายหรือ? คุณหนูจวินมองไหวอ๋องทีหนึ่ง พยักหน้าบัณฑิตกู้หมุนตัวจากไปแล้วริมทะเลสาบเหลือเพียงคุณหนูจวินกับไหวอ๋องสองคน คุณหนูจวินวางหีบยามองเด็กชายที่นั่งตัวตรงอยู่ เพราะป่วยหนักหนหนึ่ง แผ่นหลังจึงยิ่งแลดูผอมบาง“องค์ชายชอบตกปลาหรือเพคะ?” นางอดไม่ได้เอ่ยถามไหวอ๋องตอบอืมทีหนึ่ง นิ่งไม่ขยับอืมอะไร เขาชอบตกปลาตั้งแต่เมื่อไร เอาตาข่ายช้อนปลายังทำเนา ตอนนั้นใช้ตาข่ายช้อนปลาหวิดตกน้ำ ถูกนางหิ้วขึ้นมาตียกหนึ่งคุณหนูจวินก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง มองข้องปลาข้างกายไหวอ๋อง“องค์ชายตกได้กี่ตัวแล้วเพคะ…” นางเอ่ยถามพูดยังไม่ทันจบ ไหวอ๋องพลันหมุนตัว คันเบ็ดในมือเหวี่ยงฟึบเข้ามา“เจ้าทำไมน่ารำคาญเช่นนี้! เจ้าทำปลาของข้าตกใจหนีไปแล้ว!” เขาขึ้นเสียงตะโกนเอ่ยคันเบ็ดหวดบนร่างคุณหนูจวินอย่างแรง สิ่งนี้ทำให้คุณหนูจวินที่ไม่ทันตั้งตัวอึ้งไปเช่นกัน แม้กำลังของเด็กน้อยไม่มากนัก แต่คุณหนูจวินรู้สึกว่าบนแขนเจ็บปวดแสบร้อนนางมองไหวอ๋องตรงหน้า ไหวอ๋องยังคงนั่งอยู่ บนหน้าไม่มีสีหน้าสง่าเช่นนั้นอย่างวันวาน หน้าบึ้งตึง ในดวงตาไม่ปิดบังความเกลียดชังสักนิดเกลียดชังเพราะพูดจนปลาของเขาตกใจหนีไปหรือสายตาของคุณหนูจวินจับอยู่บนคันเบ็ดที่ร่วงอยู่ข้างเท้า“เจ้าตกปลาไม่ใช้ตะขอหรือ” นางเอ่ยหน้าของไหวอ๋องบึ้งตึงอีกครั้ง ยกมือจะยกคันเบ็ดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง“กล้านัก เจ้าถึงกับใช้คำว่าเจ้า เจ้า เรียกข้า” เขาตะคอก ท่าทางโมโหอย่างเด็กน้อย ตีคันเบ็ดใส่คุณหนูจวิน “เจ้าคนต่ำช้าคนนี้!”คันเบ็ดตีบนแขน บนหัวไหล่ของคุณหนูจวินอีกครั้งคุณหนูจวินรู้สึกเพียงทั้งร่างเจ็บปวดแสบร้อนขึ้นมาต่ำช้า?ต่ำช้า?……………………………………….
คอมเม้นต์