Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 2 ตอนที่ 176 นี่เจตนาคืออะไร
หรือตกหล่นไปรึ?ครั้งนั้นต่อกระดูก ต่อไม่ติด?ท่านหมอเฒ่าเฝิงจัดกระดูกมาทั้งชีวิต มือวางตรงไหนก็รู้ว่ากระดูกสมบูรณ์ดีหรือหักแตกเขาไม่มีทางทำผิดพลาดเช่นนี้ได้เขาจำได้ชัดเจนกระดูกที่หักบนขาบาดเจ็บข้างนี้ล้วนต่อดีหมดแล้วแต่ตอนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น?หรือว่ากระดูกที่ถูกตนเองต่อนี่ถูกกดหักอีกแล้ว?นี่ยิ่งเหลวไหลหรือเขาตกหล่นกระดูกหักชิ้นนี้จริงๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมนายหญิงคนนี้ไม่ดีขึ้นสักที?ท่านหมอเฒ่าเฝิงรู้สึกเพียงเสื้อตัวในถูกเหงื่อที่ผุดพรายออกมาทำชื้นทันที ในสมองว่างเปล่า ข้างใต้มือยังลูบขาของคนเจ็บ แต่ในใจไม่มีความคิดอะไรทั้งสิ้นความรู้สึกนี้ก็เคยมีมาก่อน นั่นเป็นนาทีนั้นตอนที่เขาเพิ่งร่ำเรียนศาสตร์คลำกระดูกกับบิดาเป็นครั้งแรก“เกิดอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”หญิงรับใช้ข้างตัวรวมถึงชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างรีบร้อนเอ่ยถามเกิดอะไร? เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ท่านหมอเฒ่าเฝิงสีหน้าหม่นหมองอยู่บ้างมองไปทางคนเหล่านี้ พวกเจ้าพังร้านของข้าถูกต้องแล้ว ข้าไม่ได้ถูกใส่ร้ายเขาอยากตอบเช่นนี้ แต่มีคนเอ่ยปากก่อนเขา“ไม่มีอะไร เจ็บก็เป็นเรื่องดี บ่งบอกว่าอาการบาดเจ็บของนายหญิงกำลังดีขึ้น” คุณหนูจวินเอ่ยท่านหมอเฒ่าเฝิงมองไปทางนางตกตะลึงนางค้นพบแล้วใช่หรือไม่? ไม่อย่างนั้นทำไมจะบังเอิญเช่นนี้?ถามเขาว่าจัดกระดูกอย่างไร ยังบอกว่าวาดมือเท่านั้นไม่พอ ทำที่ขาอีกข้างก็ไม่ได้ ต้องการให้สาธิตใหม่อีกครั้งบนขาที่เจ็บข้างนี้ หลังจากนั้นก็บังเอิญขนาดนี้ชี้จุดหนึ่งออกมา หลังจากนั้นกดลงไปทำให้เขาพบปัญหาตรงนี้นางตั้งใจทำอะไร?“ท่านหมอเฝิง ตรงนี้ที่แท้ต้องกดหรอกหรือ” คุณหนูจวินกลับไม่ได้มองเขา สีหน้าตั้งใจมองขาของคนเจ็บ “กดอย่างนี้ก็ต่อเสร็จสมบูรณ์ดีแล้วหรือ? ข้าจำได้ว่ารวมบันทึกจัดกระดูกตระกูลต่งมีบันทึกตัวอย่างการรักษาอันหนึ่งไว้ บอกว่ามีอาการบาดเจ็บทางกระดูกชนิดหนึ่งรักษาแล้วแตกทีหลัง ไม่รู้ว่าวิธีกด ดันเหมาะจะใช้หรือไม่”ประโยคนี้เอ่ยออกมา ท่านหมอเฒ่าเฝิงรู้สึกตรงหน้าสว่าง สมองกระจ่างทันทีรวมบันทึกจัดกระดูกตระกูลต่งไม่ใช่หนังสือแพทย์เล่มหนึ่ง พูดให้ชัดเป็นเรื่องสนุกนานาชนิดที่หมอแซ่ต่งคนหนึ่งรวบรวมไว้ตอนเป็นหมอ ไม่ได้อธิบายวิชาแพทย์ไว้ละเอียดนัก แต่เพราะยกตัวอย่างหายากประหลาดอยู่มาก ดังนั้นทุกคนล้วนอ่านๆ ดู แต่ส่วนใหญ่อ่านไม่แตกฉานเวลานี้คุณหนูจวินเอ่ยเช่นนี้ ท่านหมอเฒ่าเฝิงก็คิดขึ้นมาได้ มีสภาพเช่นนี้จริงๆ กระดูกแรกเริ่มดูเหมือนหายดีไม่เสียหาย แต่กลับหักแตกเมื่อกระดูกบาดเจ็บที่อื่นประสานดีสภาพเช่นนี้พบน้อยนัก แต่ก็ไม่ใช่ไม่มี ขอแค่พบแล้วก็รักษาง่ายนัก ก็แค่ปะกระดูกใหม่อีกครั้งก็เรียบร้อยแล้วแต่หากหาไม่พบละก็…มือของท่านหมอเฒ่าเฝิงที่นิ่งมาตลอดสั่นเล็กน้อยขาข้างนี้ก็เสียแล้ว“ท่านหมอเฝิง ใช่หรือไม่เล่า?” เสียงของเด็กสาวเอ่ยขึ้นอีกครั้งข้างหูท่านหมอเฒ่าเฝิงอดไม่ได้ฉุกคิดขึ้นมา มองคุณหนูจวินสีหน้าสับสนอยู่บ้างนาง ทำไม ไม่พูดออกมา? ยังแสร้งทำไม่รู้อีก?คุณหนูจวินมองเขาสีหน้าอ่อนโยนท่านหมอเฒ่าเฝิงหลุบสายตาลง มือวางกลับลงบนขาของนายหญิงคนนี้ ครั้งนี้ไม่แตะเพียงทำท่าเป็นสิ้นสุดอีกแล้ว แต่กดนวดลงไป“วิธีของข้าเป็นเช่นนี้ ข้าไม่รู้ของเจ้า” เขาเอ่ย เสียงยังคงสั่น แต่กลับแตกต่างจากอาการสั่นสะท้านเพราะความโกรธเกรี้ยวก่อนหน้านี้เพราะการกดนวดของเขาครั้งนี้ นายหญิงจึงร้องเจ็บปวดออกมาอีกครั้ง ทำให้คนในห้องเคร่งเครียดขึ้นมาอีกรอบ“ขาของนางยังไม่หายดีนะ เจ้าก็กดสะเปะสะปะเช่นนี้ แบบนี้ใช้ได้หรือ?” ชายวัยพลางคนตั้งคำถามเอ่ยสองสามทีท่านหมอเฒ่าเฝิงก็เก็บมือแล้ว“คุณหนูจวินจะลองไหม?” เขาไม่สนใจชายวัยกลางคน แต่ก้มหน้าเอ่ยเสียงหดหู่คนในห้องล้วนมองไปทางคุณหนูจวิน ท่าทางคาดหวังอยู่บ้างคุณหนูจวินส่ายศีรษะ“ไม่ต้องแล้ว วิธีรักษาของข้ากับเขาเหมือนกัน” นางเอ่ยคนในห้องผิดหวังทันที นายหญิงคนนั้นหมอบอยู่บนเตียงร้องไห้ขึ้นมา“ข้าไม่อยู่แล้ว” นางตะโกน ทุบเตียง“คุณหนูจวิน นี่ไม่มีวิธีแล้วหรือ?” ชายวัยกลางคนรีบเอ่ย “ทนเช่นนี้จะทนได้อย่างไร”“ก็ไม่ต้องทนนานนักหรอก ข้าคิดว่าผ่านไปอีกสามวันห้าวันต้องดีขึ้นแน่นอน” คุณหนูจวินเอ่ยชายวัยกลางคนแค่นเสียง“สามวันห้าวัน สามวันหันวัน พวกเจ้าก็พูดเป็นแค่นี้” เขาเอ่ยโกรธ “นี่กี่สามวันห้าวันผ่านไปแล้ว”ท่านหมอเฒ่าเฝิงห่อยาทาใหม่ช้าๆ สวมประกบแผ่นไม้หลิวเสร็จ“ข้าจะเปลี่ยนยาอีกสูตร ผ่านไปสามวันห้าวันยังไม่ดี ไม่ต้องให้พวกเจ้ามาพัง ข้าจะปิดร้านปลดป้ายโรงหมอเอง” เขาเอ่ย พลางหยิบกระดาษพู่กันในห้องขึ้นมาเขียนเทียบยาเสียงของเขาไม่ได้อารมณ์รุนแรงเช่นก่อนหน้า หดหู่ราวกับใช้เรี่ยวแรงหมดสิ้น เขียนวางไว้ก็ประสานมือคำนับหมุนตัวจากไปแล้วคนในห้องมองแผ่นหลังของเขา แล้วก็มองคุณหนูจวิน“คุณหนูจวิน ท่านดู” ชายวัยกลางคนหยิบเทียบยาเอ่ยขึ้นคุณหนูจวินพยักหน้าให้เขา“ท่านหมอเฒ่าเฝิงต้องรักษาหายดีได้แน่” นางเอ่ย “ใต้เท้าวางใจ”ชายวัยกลางคนถอนหายใจ วาดมือสื่อความหมายให้ส่งแขกตอนคุณหนูจวินเดินออกประตู ท่านหมอเฒ่าเฝิงกำลังถูกบรรดาชาวบ้านล้อมอยู่“ท่านหมอเฝิง เป็นอย่างไรเล่า?”“ท่านหมอเฝิง คุณหนูจวินคนนั้นรักษาหายดีแล้วจริงๆ หรือ?”ท่านหมอเฒ่าเฝิงไม่สนใจทั้งสิ้น ก้มหน้าเบียดฝูงชนเดินออกไป บรรดาชาวบ้านมองเห็นคุณหนูจวินเดินออกมาอีก อยากเข้าไปล้อมแต่ก็ไม่กล้า เพราะรถหนึ่งคันมารับแล้ว ที่ตามมายังมีคนคุ้มกันท่าทางดุร้ายหลายคนเบื้องหลังของโรงหมอจิ่วหลิงคือเต๋อเซิ่งชาง เต๋อเซิ่งชางคือเทพแห่งเงินตรา ข้างใต้ก็มีคนจำนวนหนึ่งบรรดาชาวบ้านมองคุณหนูจวินนั่งรถจากไปแล้ว กลับตัดใจแยกย้ายไม่ได้ ยืนอยู่ที่เดิมถกเถียงคาดเดาอย่างสงสัยใคร่รู้แต่การคาดเดาเช่นนี้ไม่ได้นานนัก ห้าวันให้หลังทุกคนก็รู้ผลลัพธ์ เพราะครอบครัวที่พังโรงหมอของท่านหมอเฒ่าเฝิงแห่งนี้ไปมอบของขวัญชดใช้ขอขมาให้แก่ท่านหมอเฒ่าเฝิง ชดใช้เครื่องเรือนที่ทุบทำลาย มอบป้ายชื่อดังนั้นท้ายที่สุดคนป่วยบ้านนี้ก็ยังเป็นท่านหมอเฒ่าเฝิงรักษาหายดี“ก็บอกแล้วท่านหมอเฒ่าเฝิงรักษาหายดีได้” มีชาวบ้านเอ่ยขึ้นด้วยโกรธแค้นเต็มอกแต่คำพูดนี้ไม่ได้รับการร้องรับ ชาวบ้านที่ล้อมดูได้ยินเข้าแปลกใจอยู่บ้าง“คุณหนูจวินก็บอกแล้วว่าได้ เขารักษาหายดีได้” คนผู้หนึ่งเอ่ยพึมพำคำพูดนี้ทำให้บรรดาชาวบ้านเงียบไปพักหนึ่งถ้าอย่างนั้นพูดว่าท่านหมอเฒ่าเฝิงร้ายกาจ ใช่บอกว่าคุณหนูจวินพูดถูกด้วยใช่หรือไม่ หรือก็คือพูดว่าคุณหนูจวินร้ายกาจ?“นี่จะเป็นนางร้ายกาจได้อย่างไรเล่า? นี่เป็นท่านหมอเฒ่าเฝิงร้ายกาจต่างหาก!”“ใช่แล้ว ครั้งนี้เป็นนางบอกว่าท่านหมอเฒ่าเฝิงรักษาหายได้ แสดงว่านางความเห็นปราดเปรื่อง หากนางบอกว่าท่านหมอเฒ่าเฝิงรักษาไม่ได้เล่า?”“ดังนั้นถึงบอกว่า นางบอกก็ส่วนนางบอก ท้ายที่สุดคนที่รักษาคนป่วยหายดีก็ยังเป็นท่านหมอเฒ่าเฝิง ดังนั้นท่านหมอเฒ่าเฝิงร้ายกาจที่สุด”คำพูดนี้ก็ถูก บรรดาชาวบ้านเอ่ยชมท่านหมอเฒ่าเฝิงอีกครั้ง น่าเสียดายสุดท้ายเขาก็ได้รับความอยุติธรรมครั้งหนึ่งเพราะคำพูดของคุณหนูจวินไปเปล่าๆทุกคนคุยกันว่าจะเข้าไปปลอบท่านหมอเฒ่าเฝิงที่ได้รับความอยุติธรรม กลับพบว่าท่านหมอเฒ่าเฝิงไม่ได้อยู่ในโรงหมอไม่รู้เพราะความวุ่นวายหนนี้ร่างกายทนรับไม่ไหวกลับบ้านไปพักผ่อนแล้วหรือไม่ความคึกคักของโรงหมอไป๋เฉ่าฝั่งนี้ เฉินชีรู้ตั้งแต่เวลาแรก ด้านในโถงพนักงานสองคนเบะปากยิ้ม“ก็บอกแล้วว่าคุณหนูจวินของพวกเราไม่ผิดไหม” เขาเอ่ย พลางส่ายศีรษะ “คนเหล่านี้น้า ช่างไม่รู้จักดีเลวจริงๆ”เขาเอ่ยถึงตรงนี้ พนักงานสองคนก็ร้องเอ๋ ใช้ข้อศอกถองเขา“ทำอะไร? อย่าไร้ระเบียบเช่นนี้กับข้า” เฉินชีขมวดคิ้วเอ่ย “อย่างไรข้าก็เป็นผู้ดูแลใหญ่”“ผู้ดูแลใหญ่ นั่นใครมา” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้นใคร? เฉินชีเงยหน้าสีหน้าตะลึง มองเห็นท่านหมอเฒ่าเฝิงยืนอยู่ตรงปากประตูเอ๋ ทำไมเขามาอีกแล้วเล่า?มาอวดหรือ?เฉินชีรวมถึงพนักงานทั้งสองสีหน้าเคร่งเครียดอยู่บ้าง คุณหนูจวินเดินออกมาจากด้านหลังเช่นกัน“มีอะไร?” นางเอ่ยถาม จากนั้นมองเห็นท่านหมอเฒ่าเฝิงที่ยืนอยู่ตรงปากประตูนางยังไม่ทันเอ่ยวาจา ท่านหมอเฒ่าเฝิงพลันประสานมือขึ้นสูงก้มตัวคำนับจนสุดให้นาง จากนั้นหมุนตัวจากไปแล้วเฉินชีรวมถึงพนักงานทั้งสองคนล้วนสีหน้าอึ้ง“ผู้เฒ่าคนนี้หมายความว่าอย่างไร?” เฉินชีเอ่ยขึ้นคำนับยกมือขึ้นสูงเช่นนี้ แสดงความนับถืออย่างจริงใจที่สุดต่อเจ้านาย บิดาและอาจารย์ถึงจะใช้นี่ไม่เพียงเป็นการขอบคุณ ยังเป็นความนับถือแต่เกิดเรื่องอะไรขึ้นทำให้ท่านหมอเฒ่าที่ครั้งก่อนยังชิงชังไม่อาจอภัยโรงหมอจิ่วหลิง นับถือคนรุ่นหลังอายุน้อยเช่นนี้คนหนึ่งขนาดนี้?“คงเพราะข้าบอกว่าเขารักษาหายได้กระมัง” คุณหนูจวินเอ่ย ส่งกล่องยาเม็ดที่เพิ่งห่อเสร็จข้ามมา……………………………………….
คอมเม้นต์