The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา ตอนที่24 ชิงอันดับหนึ่ง 2
EP.24 ชิงอันดับหนึ่ง 2
ระหว่างนี้ ผู้ตรวจโอสถก็เดินวัดระดับโอสถไปตามโต๊ะต่างๆ ต่อ
ในที่สุด ผู้ตรวจโอสถคนหนึ่งก็มาถึงโต๊ะของร้านโอสถไป่หลิง แล้วใช้แท่งแก้วทดสอบโอสถของฉู่เฟิง มีสีหน้าประหลาดใจในทันที ก่อนจะวัดระดับโอสถผิวศิลาของหลินมู่อวี่ต่อ ครั้งนี้สีหน้าของเขาดูตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก และประกาศเสียงดังว่า “ร้านโอสถไป่หลิง โอสถพลังเทวะระดับห้าเกรดสาม! โอสถผิวศิลาระดับสี่เกรดหนึ่ง!”
“อะไรนะ!?”
ชวีฉู่ตาเป็นประกาย ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น “ผู้ใด…ผู้ใดเป็นคนปรุงโอสถระดับสี่เกรดหนึ่งนั่น”
ถังเสี่ยวซีนั่งไม่ติดแล้ว นางลุกขึ้นแล้วพุ่งลงไปด้านล่าง มุ่งตรงไปยังโต๊ะของหลินมู่อวี่ทันที ชวีฉู่รีบตามไปติดๆ ด้านหลังยังมีองครักษ์ในชุดเกราะเต็มยศตามไปอีกเป็นพรวน
“องค์หญิงซี ทรงช้าก่อน!” ชวีฉู่ตะโกน
ถังเสี่ยวซีรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เร็วจนน่าตกใจ นางถีบตัวแค่สองครั้งก็มาอยู่หน้าโต๊ะของร้านโอสถไป่หลิงแล้ว ก่อนจะหยิบขวดโอสถผิวศิลาขึ้นมา “โอสถผิวศิลาเกรดหนึ่ง…ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ”
ชวีฉู่พูด “กระหม่อมทราบ แต่พระองค์ทรงหุนหันพลันแล่นเกินไปแล้ว ถ้าเกิดอะไรกับพระองค์ขึ้นมา กระหม่อมจะอธิบายให้เสด็จปู่ของพระองค์ฟังได้อย่างไร กระหม่อมให้คำมั่นไว้แล้วว่าจะรับประกันความปลอดภัยของพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ”
ความสนใจทั้งหมดของถังเสี่ยวซีอยู่ที่โอสถผิวศิลา ก่อนจะเงยหน้ามองหลินมู่อวี่ตาเป็นประกาย “โอสถผิวศิลานี่ เจ้าเป็นคนปรุงมันหรือ”
หลินมู่อวี่เกร็งเล็กน้อยเพราะถูกจ้อง ก่อนจะพยักหน้า “อะอื้ม…”
“ฮิ…”
ถังเสี่ยวซีฉีกยิ้มดุจดอกไม้บานสะพรั่งพร้อมกับพูดว่า “เจ้ายังดูเด็กอยู่เลย แต่กลับสามารถปรุงโอสถเกรดหนึ่งได้ ยอดไปเลย ข้าขอลองโอสถผิวศิลานี่ได้หรือไม่”
“ได้สิ…” มีหรือที่หลินมู่อวี่จะกล้าปฏิเสธ เพราะด้านหลังของอีกฝ่ายคือองครักษ์หน้าตาโหดเหี้ยมกำลังจ้องมาที่เขา ความแข็งแกร่งของแต่ละนายน่าจะมากกว่านัยน์ตาเหยี่ยวร้อยเท่า ตนเองยังไม่อยากตายเสียหน่อย
ถังเสี่ยวซีพรมโอสถลงบนข้อมือตัวเอง จากนั้นไม่กี่วินาทียาก็ออกฤทธิ์ พลังป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก นางตีข้อมือตัวเอง “อืม ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ด้วย…”
เด็กสาวแบมือข้างขวาออก เพลิงสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาจากฝ่ามือ เห็นเป็นร่างจิ้งจอกอัคคีพันรอบแขนของนาง นั่นวิญญาณยุทธ์! เด็กสาวอายุยังไม่เท่าไหร่แต่กลับมีวิญญาณยุทธ์ที่ระดับไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! นางกำหมัดชกเข้าใส่ข้อมือซ้ายที่มีฤทธิ์ของโอสถผิวศิลาของตนเองเต็มแรง!
ตูม!
นางกัดฟันด้วยความเจ็บปวดแล้วหัวเราะ “ยอดชะมัด…แค่เจ็บนิดเดียวเอง ถ้า…ถ้าข้าอาบโอสถผิวศิลาทั้งตัว ทั้งดาบทั้งหอกก็จะฟันข้าไม่เข้าใช่หรือไม่”
หลินมู่อวี่สีหน้ากระอักกระอ่วน มองเนินอกขาวเนียนของหญิงสาว คิดในใจว่าถ้าใช้โอสถนี้อาบต่างน้ำตรงนั้นก็จะไม่อ่อนนุ่มอีกต่อไป คงน่าเสียดายไม่น้อย แต่มีหรือที่เขาจะกล้าพูดเรื่องนี้ออกมา จึงตอบไปว่า “องค์หญิง ระยะเวลาออกฤทธิ์ของโอสถขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ใช้ ยิ่งมีร่างกายที่แข็งแกร่ง จะออกฤทธิ์ได้นานขึ้น แต่ว่ามีเวลาจำกัดแน่นอนขอรับ”
“แบบนี้หรอกหรือ…”
ถังเสี่ยวซีทำปากจู๋ผิดหวังปาก “ท่านปู่ชอบดุที่ข้าทำตัวเองบาดเจ็บตอนฝึกบ่อยๆ ข้านึกว่าโอสถผิวศิลาเกรดหนึ่งนี่จะช่วยได้เสียอีก! คิกๆ แต่ไม่เป็นไร ข้าจะลองทดสอบพลังป้องกันของมันอีกครั้งหน่อยนะ!”
นางพูดพร้อมกับชักดาบขององครักษ์ที่อยู่ใกล้ตัวออกมา ก่อนจะฟันลงไปที่ข้อมือข้างซ้ายเบาๆ
“โอ้ย…”
หญิงสาวขมวดคิ้ว “ข้าเลือดออกล่ะ…”
หลินมู่อวี่อยากตาย “องค์หญิง ท่าน…”
ชวีฉู่กล่าวอย่างร้อนรน “องค์หญิง รีบกลับไปที่นั่นของท่านเถอะ นี่ไม่ใช่ที่ที่ท่านควรอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากถังเสี่ยวซีและชวีฉู่กลับไปยังที่นั่ง หลินมู่อวี่ก็มองไปข้างหน้าและเห็นว่าฮว๋าหวันกำลังจ้องมาด้วยสายตาราวกับจะฆ่าคน แย่ล่ะสิ สงสัยตัวเองจะแย่งหน้าของท่านเจ้าเมืองน้อยเข้าให้แล้ว
หลังจากนั้นเกือบสองชั่วโมง การตรวจสอบเสร็จสิ้น
ฮว๋าเทียนถาม “องค์หญิงซี พระองค์คิดว่าใคร…ควรจะได้เป็นสามอันดับแรก”
มุมปากของถังเสี่ยวซียกขึ้น “โอสถผิวศิลาชั้นหนึ่งนั่นน่าสนใจดี คนนั้นชื่อหลินมู่อวี่สินะ ข้าคิดว่า…เขาควรจะได้ที่หนึ่งนะ เจ้าว่าอย่างไร”
แน่นอนว่าฮว๋าเทียนไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ยังประสานมือคำนับ “องค์หญิงซีเป็นผู้แทนพิเศษ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในงานประชุมตำรับโอสถประจำปีนี้ก็คือร้านโอสถไป่หลิง”
“ดีมาก”
ด้วยเหตุนั้น ฮว๋าเทียนยืนขึ้น เคลื่อนลมปราณ ประกาศเสียงดัง “ฝ่าบาททรงแต่งตั้งองค์หญิงซีเป็นผู้แทนพิเศษมาที่เมืองหยินซาน เป็นเกียรติแก่พวกเราชาวเมืองหยินซานเป็นอย่างมาก ตอนนี้ผลการแข่งขันออกมาแล้ว อันดับหนึ่งหลินมู่อวี่แห่งร้านโอสถไป่หลิง อันดับสองฮว๋าหวันแห่งห้างโอสถเสินอวี่ อันดับสาม หลิวเกอจากร้านโอสถเทียนชิง!”
ฮว๋าเทียนยิ้มแล้วประกาศต่อ “ส่วนเงินสนับสนุนในปีนี้ เนื่องจากได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษ ร้านโอสถไป่หลิงได้รับเงินบริหารจำนวนหนึ่งร้อยเหรียญทอง และสามารถนำโอสถที่ทางร้านปรุงเข้าประมูลในหอประมูลได้ นอกจากนี้ ป้ายอาญาสิทธิ์ในปีนี้ยังคงให้ผู้มีฝีมือรุ่นเยาว์มาประลองฝีมือกันเหมือนเดิม”
“วิเศษไปเลย!” จ้าวซิน หลัวไค และคนอื่นๆ ต่างดีใจจนออกนอกหน้า
แต่หลินมู่อวี่กลับเงียบขรึม จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย
ระหว่างนี้ ผู้ตรวจโอสถก็เดินวัดระดับโอสถไปตามโต๊ะต่างๆ ต่อในที่สุด ผู้ตรวจโอสถคนหนึ่งก็มาถึงโต๊ะของร้านโอสถไป่หลิง แล้วใช้แท่งแก้วทดสอบโอสถของฉู่เฟิง มีสีหน้าประหลาดใจในทันที ก่อนจะวัดระดับโอสถผิวศิลาของหลินมู่อวี่ต่อ ครั้งนี้สีหน้าของเขาดูตกตะลึงยิ่งกว่าเดิมเสียอีก และประกาศเสียงดังว่า “ร้านโอสถไป่หลิง โอสถพลังเทวะระดับห้าเกรดสาม! โอสถผิวศิลาระดับสี่เกรดหนึ่ง!”“อะไรนะ!?”ชวีฉู่ตาเป็นประกาย ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น “ผู้ใด…ผู้ใดเป็นคนปรุงโอสถระดับสี่เกรดหนึ่งนั่น”ถังเสี่ยวซีนั่งไม่ติดแล้ว นางลุกขึ้นแล้วพุ่งลงไปด้านล่าง มุ่งตรงไปยังโต๊ะของหลินมู่อวี่ทันที ชวีฉู่รีบตามไปติดๆ ด้านหลังยังมีองครักษ์ในชุดเกราะเต็มยศตามไปอีกเป็นพรวน“องค์หญิงซี ทรงช้าก่อน!” ชวีฉู่ตะโกนถังเสี่ยวซีรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง เร็วจนน่าตกใจ นางถีบตัวแค่สองครั้งก็มาอยู่หน้าโต๊ะของร้านโอสถไป่หลิงแล้ว ก่อนจะหยิบขวดโอสถผิวศิลาขึ้นมา “โอสถผิวศิลาเกรดหนึ่ง…ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ ” ชวีฉู่พูด “กระหม่อมทราบ แต่พระองค์ทรงหุนหันพลันแล่นเกินไปแล้ว ถ้าเกิดอะไรกับพระองค์ขึ้นมา กระหม่อมจะอธิบายให้เสด็จปู่ของพระองค์ฟังได้อย่างไร กระหม่อมให้คำมั่นไว้แล้วว่าจะรับประกันความปลอดภัยของพระองค์นะพ่ะย่ะค่ะ”ความสนใจทั้งหมดของถังเสี่ยวซีอยู่ที่โอสถผิวศิลา ก่อนจะเงยหน้ามองหลินมู่อวี่ตาเป็นประกาย “โอสถผิวศิลานี่ เจ้าเป็นคนปรุงมันหรือ”หลินมู่อวี่เกร็งเล็กน้อยเพราะถูกจ้อง ก่อนจะพยักหน้า “อะอื้ม…” “ฮิ…”ถังเสี่ยวซีฉีกยิ้มดุจดอกไม้บานสะพรั่งพร้อมกับพูดว่า “เจ้ายังดูเด็กอยู่เลย แต่กลับสามารถปรุงโอสถเกรดหนึ่งได้ ยอดไปเลย ข้าขอลองโอสถผิวศิลานี่ได้หรือไม่”“ได้สิ…” มีหรือที่หลินมู่อวี่จะกล้าปฏิเสธ เพราะด้านหลังของอีกฝ่ายคือองครักษ์หน้าตาโหดเหี้ยมกำลังจ้องมาที่เขา ความแข็งแกร่งของแต่ละนายน่าจะมากกว่านัยน์ตาเหยี่ยวร้อยเท่า ตนเองยังไม่อยากตายเสียหน่อยถังเสี่ยวซีพรมโอสถลงบนข้อมือตัวเอง จากนั้นไม่กี่วินาทียาก็ออกฤทธิ์ พลังป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างมาก นางตีข้อมือตัวเอง “อืม ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ด้วย…”เด็กสาวแบมือข้างขวาออก เพลิงสายหนึ่งก็พุ่งขึ้นมาจากฝ่ามือ เห็นเป็นร่างจิ้งจอกอัคคีพันรอบแขนของนาง นั่นวิญญาณยุทธ์! เด็กสาวอายุยังไม่เท่าไหร่แต่กลับมีวิญญาณยุทธ์ที่ระดับไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! นางกำหมัดชกเข้าใส่ข้อมือซ้ายที่มีฤทธิ์ของโอสถผิวศิลาของตนเองเต็มแรง!ตูม!นางกัดฟันด้วยความเจ็บปวดแล้วหัวเราะ “ยอดชะมัด…แค่เจ็บนิดเดียวเอง ถ้า…ถ้าข้าอาบโอสถผิวศิลาทั้งตัว ทั้งดาบทั้งหอกก็จะฟันข้าไม่เข้าใช่หรือไม่”หลินมู่อวี่สีหน้ากระอักกระอ่วน มองเนินอกขาวเนียนของหญิงสาว คิดในใจว่าถ้าใช้โอสถนี้อาบต่างน้ำตรงนั้นก็จะไม่อ่อนนุ่มอีกต่อไป คงน่าเสียดายไม่น้อย แต่มีหรือที่เขาจะกล้าพูดเรื่องนี้ออกมา จึงตอบไปว่า “องค์หญิง ระยะเวลาออกฤทธิ์ของโอสถขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ใช้ ยิ่งมีร่างกายที่แข็งแกร่ง จะออกฤทธิ์ได้นานขึ้น แต่ว่ามีเวลาจำกัดแน่นอนขอรับ”“แบบนี้หรอกหรือ…”ถังเสี่ยวซีทำปากจู๋ผิดหวังปาก “ท่านปู่ชอบดุที่ข้าทำตัวเองบาดเจ็บตอนฝึกบ่อยๆ ข้านึกว่าโอสถผิวศิลาเกรดหนึ่งนี่จะช่วยได้เสียอีก! คิกๆ แต่ไม่เป็นไร ข้าจะลองทดสอบพลังป้องกันของมันอีกครั้งหน่อยนะ!”นางพูดพร้อมกับชักดาบขององครักษ์ที่อยู่ใกล้ตัวออกมา ก่อนจะฟันลงไปที่ข้อมือข้างซ้ายเบาๆ“โอ้ย…”หญิงสาวขมวดคิ้ว “ข้าเลือดออกล่ะ…”หลินมู่อวี่อยากตาย “องค์หญิง ท่าน…”ชวีฉู่กล่าวอย่างร้อนรน “องค์หญิง รีบกลับไปที่นั่นของท่านเถอะ นี่ไม่ใช่ที่ที่ท่านควรอยู่นะพ่ะย่ะค่ะ”หลังจากถังเสี่ยวซีและชวีฉู่กลับไปยังที่นั่ง หลินมู่อวี่ก็มองไปข้างหน้าและเห็นว่าฮว๋าหวันกำลังจ้องมาด้วยสายตาราวกับจะฆ่าคน แย่ล่ะสิ สงสัยตัวเองจะแย่งหน้าของท่านเจ้าเมืองน้อยเข้าให้แล้วหลังจากนั้นเกือบสองชั่วโมง การตรวจสอบเสร็จสิ้น ฮว๋าเทียนถาม “องค์หญิงซี พระองค์คิดว่าใคร…ควรจะได้เป็นสามอันดับแรก”มุมปากของถังเสี่ยวซียกขึ้น “โอสถผิวศิลาชั้นหนึ่งนั่นน่าสนใจดี คนนั้นชื่อหลินมู่อวี่สินะ ข้าคิดว่า…เขาควรจะได้ที่หนึ่งนะ เจ้าว่าอย่างไร”แน่นอนว่าฮว๋าเทียนไม่เห็นด้วย แต่เขาก็ยังประสานมือคำนับ “องค์หญิงซีเป็นผู้แทนพิเศษ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในงานประชุมตำรับโอสถประจำปีนี้ก็คือร้านโอสถไป่หลิง” “ดีมาก”ด้วยเหตุนั้น ฮว๋าเทียนยืนขึ้น เคลื่อนลมปราณ ประกาศเสียงดัง “ฝ่าบาททรงแต่งตั้งองค์หญิงซีเป็นผู้แทนพิเศษมาที่เมืองหยินซาน เป็นเกียรติแก่พวกเราชาวเมืองหยินซานเป็นอย่างมาก ตอนนี้ผลการแข่งขันออกมาแล้ว อันดับหนึ่งหลินมู่อวี่แห่งร้านโอสถไป่หลิง อันดับสองฮว๋าหวันแห่งห้างโอสถเสินอวี่ อันดับสาม หลิวเกอจากร้านโอสถเทียนชิง!”ฮว๋าเทียนยิ้มแล้วประกาศต่อ “ส่วนเงินสนับสนุนในปีนี้ เนื่องจากได้รับการอนุมัติเป็นพิเศษ ร้านโอสถไป่หลิงได้รับเงินบริหารจำนวนหนึ่งร้อยเหรียญทอง และสามารถนำโอสถที่ทางร้านปรุงเข้าประมูลในหอประมูลได้ นอกจากนี้ ป้ายอาญาสิทธิ์ในปีนี้ยังคงให้ผู้มีฝีมือรุ่นเยาว์มาประลองฝีมือกันเหมือนเดิม”“วิเศษไปเลย!” จ้าวซิน หลัวไค และคนอื่นๆ ต่างดีใจจนออกนอกหน้าแต่หลินมู่อวี่กลับเงียบขรึม จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องดีเลย
คอมเม้นต์