Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 3 ตอนที่ 90 ไปช่วยเขา
จางเป่าถัง ฟางจิ่นซิ่วกับเฉินชียังคงจำได้ เป็นสหายของจูจั้น มาหาหมอที่โรงหมอจิ่วตั้งแต่แรกสุด“จะช่วยได้อย่างไร” เฉินชีเอ่ย ผายมือ “นี่เป็นบัญชาของฮ่องเต้ ตอนนี้คนที่ช่วยจูจั้นได้ก็มีแต่บิดาของเขาแล้ว”ข่าวของที่นี่ต้องส่งไปยังเจิ้นเป่ยแล้วแน่“มีเฉิงกั๋วกงอยู่ ฮ่องเต้ไม่มีทางเอาชีวิตท่านชายจริงๆ” เฉินชีเอ่ยต่อ“นั่นก็ไม่แน่” คุณหนูจวินว่า “ฮ่องเต้ไม่เอา ลู่อวิ๋นฉีอาจเอา อย่างไรก็แค่หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิต”หากตัดทายาทของเฉิงกั๋วกงได้ กำจัดความหยิ่งยโสของเฉิงกั๋วกงได้สิ้นเชิง หนึ่งชีวิตแลกหนึ่งชีวิตนี่คุ้มเกินไปแล้วนอกจากนี้ ยังมีชีวิตของใต้เท้าน้อยหวงอีกจูจั้นปรากฏตัวในเหตุการณ์ คนที่บอกว่าม้าตื่นก็คือเขา คนที่สังหารม้าตื่นก็คือเขา เขาพูดว่าใช่ได้ คนอื่นก็พูดว่าไม่ใช่ได้ อย่างไรก็แค่พูดเท่านั้นบวกกับใต้เท้าน้อยหวงกำลังกล่าวโทษเฉิงกั๋วกง หากบอกว่าจูจั้นทำเรื่องเช่นนี้ออกมาก็ไม่น่าแปลกใจสักนิดเช่นกันเหมือนเมื่อตอนนั้นที่เจิ้นเป่ยเขาโยนเกี้ยวของผู้ตรวจการลงน้ำผู้ตรวจการคนนี้ถูกเฉิงกั๋วกงเกลี้ยกล่อมไม่ให้ฟ้องอีก แต่หวงเฉิงเกรงว่าไม่อาจเกลี้ยกล่อมได้แล้วอย่างไรเขาไม่ใช่ถูกโยนลงน้ำ แต่บุตรชายของเขาตายเขาก็มีบุตรชายคนนี้เพียงคนเดียว“ไม่แน่ว่าองครักษ์เสื้อแพรท้ายที่สุดอาจบอกว่าหลานสาวของว่านต้าชุนเป็นจูจั้นจงใจเตรียมไว้ก็ได้นะ” เฉินชีเอ่ยเสียงเบาเป็นไปได้อย่างยิ่งคุณหนูจวินกับฟางจิ่นซิ่วเงียบไป“ดังนั้นตอนนี้ไม่ใช่พวกเราจะแก้ไขได้แล้ว” เฉินชีเอ่ย“เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะแก้ไขได้จริงๆ” คุณหนูจวินเงียบไปครู่หนึ่งเอ่ยขึ้น “แต่มีเรื่องที่ข้าทำได้ เขาถูกโทษโบย ข้ารักษาบาดแผลให้เขาได้”รักษาบาดแผล?เฉินชียิ้มฝืดเฝื่อนนิดหนึ่ง“เจ้าไปตรวจโรคให้คนอื่นที่ไม่มีแค้นไม่มีเคืองกับลู่อวิ๋นฉี เขายังหาเรื่อง เขาจะให้เจ้าไปพบท่านชายได้อย่างไร” เขาเอ่ย ส่งสายตาให้ฟางจิ่นซิ่วด้วยฟางจิ่นซิ่วเงียบงันครู่หนึ่ง“ไม่มีใครช่วยได้ เจ้าอยากพบท่านชายจูก็ได้แต่ไปหาลู่อวิ๋นฉี” นางเอ่ยใช่สิคุณหนูจวินมองไปด้านนอกประตู นี่เป็นทางที่เร็วที่สุดง่ายที่สุด“ดี เอาอย่างนี้แหละ” นางเอ่ย ลุกขึ้นมาเฮ้ย…เฉินชีตะโกนในใจ กลายเป็นดีได้อย่างไร?ท่านชายในสายตาลู่อวิ๋นฉีนับว่าเป็นคู่ปรับ บุรุษคนไหนยินดีมองเห็นสตรีที่ตนชอบไปใกล้ชิดสนิทสนมกับบุรุษอื่นเจ้าไปดูเขา เกรงว่าเขาคงตายเร็วกว่าเดิมอีกอย่าง เจ้าอยากพบจูจั้นต้องขอร้องลู่อวิ๋นฉี ขอร้องลู่อวิ๋นฉีเชียวนะ…เฉินชีมองคุณหนูจวิน ตรงหน้าภาพที่เคยเห็นผุดขึ้นมาแล้วชนบทของหยางเฉิงมีผู้มีอิทธิพลชั่วช้าคนหนึ่งต้องตาภรรยาของผู้อื่น จงใจสร้างความลำบากให้บุรุษคนนี้ ภรรยาตัวน้อยเพื่อผู้ชายของตนลำบากอ้อนวอน ท้ายที่สุดเพื่อช่วยผู้ชายของตนเองจำยอมแก่อำนาจมืดของผู้มีอิทธิพลชั่วช้ามองดูคุณหนูจวินเดินไปทางข้างนอก เขารีบลุกขึ้นยืน“ไปตอนนี้เลยรึ?” เขารีบร้อนเอ่ยถามคุณหนูจวินส่ายศีรษะ“ย่อมไม่” นางเอ่ยใช่สิ ต้องวางแผนให้ยาว เฉินชีถอนหายใจ“ข้าจะไปทำยาที่จะให้เขาใช้ก่อน” คุณหนูจวินเอ่ยต่อลมหายใจเฮือกหนึ่งของเฉินชีกลั้นเก็บไปอีกครั้งหวิดสำลักแล้ว ยังจะพูดอะไรอีกก็ถูกฟางจิ่นซิ่วถลึงตาใส่ ฉับพลันไม่เอ่ยวาจาอีก มองคุณหนูจวินเข้าไปในห้องอบ“มีอะไรต้องใช้เล่า?” เฉินชีตอนนี้ถึงเอ่ยขึ้น “ได้ใช้หรือเปล่ายังไม่แน่เลย”“ยาทำแล้วอย่างไรก็ต้องได้ใช้” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ยหากเป็นก่อนหน้านี้เฉินชีรู้สึกว่าคำพูดนี้ไม่ผิด แต่ตอนนี้เวลานี้ไม่มั่นใจขนาดนั้นแล้ว“อย่างไรก็ดีกว่าสิ่งใดก็ไม่ทำ” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ยอีกคุณหนูจวินไปหาลู่อวิ๋นฉีจะพบจูจั้นได้หรือไม่ ฟางจิ่นซิ่วไม่ได้คาดหวัง เพียงแต่อย่างไรก็ต้องให้นางทำบางสิ่งถึงจะดี ไม่เช่นนั้นนั่งอยู่คนเดียวคิดว้าวุ่นง่ายกว่าอย่างไรจูจั้นก็เกิดเรื่องต่อหน้านาง นอกจากนี้ยังบังเอิญขวางไม่ให้นางช่วยรักษาคนที่ไม่อยากรักษาด้วยต่อให้ไม่เจตนา สำหรับนางก็มีความเกี่ยวโยงความคิดแล่นผ่าน ฟางจิ่นซิ่วก็ส่ายหน้าอีกครั้งอะไรคือต่อให้ไม่เจตนา แน่นอนย่อมไม่เจตนา หรือเพื่อแก้ไขสถานการณ์ลำบากที่ไม่อยากช่วยแต่ไม่อาจไม่ช่วยตอนนั้นของนาง จูจั้นถึงสังหารใต้เท้าน้อยหวงเสียงั้นหรือ?นี่บ้าบอเกินไปแล้วกระมัง?สรุป ตอนนี้อย่างไรก็ต้องให้นางทำบางอย่าง ไม่เช่นนั้นจิตใจยิ่งย่ำแย่ตอนนั้นตนเองก็เป็นเช่นนี้ หากไม่ใช่ต่อมาฟางเฉิงอวี่นำของขวัญกลับมาให้ตนเอง อนุภรรยาหยวนผลักตนเองเดินออกมาทำงาน ยังไม่รู้ว่าจะกลายเป็นอย่างไร“ข้าจะไปทำบัญชี” นางเอ่ย “รายการบัญชีหน่อฝีพักนี้มากเกินไปแล้ว”อ้อใช่ อย่างน้อยยังมีหน่อฝีนะเฉินชีพยักหน้าหน่อฝีรวบรวมมาจากท่านหมอที่ปลูกฝีในที่ต่างๆ แล้วใช้ประโยชน์อีกครั้ง ฝีกำเนิดหน่อฝี หน่อฝีกำเนิดฝี แม้หน่อฝีราคาไม่มาก แต่จำนวนที่ใช้มากเกินไปแล้วจริงๆ“ข้าก็ต้องไปหารือเรื่องตรวจตราหน่อฝีกับใต้เท้าเฒ่าเฝิง” เขาเอ่ย “ต่อให้ไม่มีคนมาให้พวกเราโรงหมอจิ่งหลิงตรวจรักษา คนใต้หล้าก็ไม่อาจไม่ใช้หน่อฝี ขอเพียงการปลูกฝียังไม่หยุดลงวันหนึ่ง โรงหมอจิ่งหลิงก็ไม่เลิกวันหนึ่ง”เฉินชีสั่งคนเตรียมรถ แต่คนเพิ่งเดินออกมาก็มองเห็นรถม้าหรูหราคันหนึ่งขับมาท่ามกลางองครักษ์กลุ่มหนึ่งรถม้าองครักษ์เช่นนี้มีเพียงเชื้อพระวงศ์ถึงใช้ได้ คนเดินทางบนถนนรีบหลบหลีกโอรสของฮ่องเต้องค์ก่อนไม่น้อย แต่ที่ตายก็ตาย ที่แต่งตั้งไปต่างเมืองก็แต่งตั้งไปต่างเมือง วันนี้ที่เหลืออยู่ที่เมืองหลวงมีเพียงเสียนอ๋องคนเดียวเพราะอายุน้อย ทั้งยังได้รับความโปรดปรานจากไทเฮายิ่งนัก ดังนั้นจึงรั้งอยู่ที่เมืองหลวง แม้ชื่อมีคำว่าดีงาม แต่กลับไม่เคยทำเรื่องดีงามอะไรกินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นไม่ทันไรก็เข้าวังไปหาไทเฮาฮ่องเต้ร้องไห้ว่าจนต้องการเงิน ในราชสำนักก็ถูกกล่าวโทษหลายครั้ง ก่อเรื่องกับพวกผู้ตรวจการจนความสัมพันธ์ตึงเครียดนักโดยเฉพาะอย่างยิ่งปีที่แล้วตอนต้นๆ ปี ปลอมตัวไปหอคณิกาแย่งหญิงคณิกาอันดับหนึ่งกับคนอื่นจนทะเลาะกัน บรรดาผู้ตรวจการก็พากันถวายรายงานให้ขับเขาออกจากเมืองหลวง ฮ่องเต้โกรธจัดลงโทษอยู่พักหนึ่ง ท้ายที่สุดไทเฮาออกหน้าถึงขวางไว้ได้ หลังเรื่องนี้เสียนอ๋องทำตัวดีขึ้นมาก หลายวันนี้ไม่ออกมาเที่ยวเล่นแล้ววันนี้ทำไมออกมาได้ ยังโอ้อวดเช่นนี้ หรือว่าจะไปหาหญิงคณิกาอันดับหนึ่งอีกแล้ว?คนบนถนนหลบออกไปสองด้านชี้มือชี้ไม้พูดคุยเฉินชีก็หยุดหลบไปเช่นกัน สีหน้ามีความอิจฉาอยู่บ้างนี่เป็นอ๋องที่แท้จริง ไม่ใช่ลู่อวิ๋นฉีหรือบุตรชายเฉิงกั๋วกงขุนนางลูกหลานชนชั้นสูงเช่นนี้เทียบได้รถม้าของเสียนอ๋องขับเร็วรี่บนถนนค่อยๆ ใกล้เข้ามากลับไม่ได้ขับผ่านไปแต่หยุดลงเฉินชีอึ้งนิดหนึ่ง มองดูรถม้าตรงหน้าตนเองหรือว่ารถม้านี่ขวางทางเสียนอ๋องหรือ?ขันทีคนหนึ่งลงมาจากบนรถ“คุณหนูจวินอยู่หรือไม่ฮึ?” เขาเอ่ยถาม เงยหน้ามองป้ายสำนักมา โรงหมอจิ่วหลิง? มาหาคุณหนูจวิน?เฉินชีตะลึง รีบขานรับว่าอยู่“ท่านขันที…” เขาคำนับแล้วจะเอ่ยถามอีกคำพูดไม่ทันออกจากปาก ขันทีคนนั้นก็หมุนตัวไม่สนใจเขาแล้ว“ท่านอ๋อง ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เขาเอ่ยไปทางด้านในรถอย่างนอบน้อม “คุณหนูอยู่พ่ะย่ะค่ะ”พร้อมกับเสียงนี้ ม่านรถก็เลิกขึ้น บุรุษหนุ่มอ้วนฉุสวมอาภรณ์หรูหราเดินลงมา……………………………………….
คอมเม้นต์