Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 2 ตอนที่ 167 นางแอ่นหวนมาดั่งเคยรู้จัก
แต่คิดถี่ถ้วนก็เหมือนไม่มีความทรงจำ หญิงรับใช้ไม่ได้หยุด กระแอมทีหนึ่ง“นี่คือหมอที่เชิญมาใหม่” นางเอ่ยผู้หญิงไม่กี่คนนั้นยิ้มแล้ว“อาการป่วยของพี่สามยังไม่ดีหรือ”“ต้องรักษาหายดีล่ะ ใต้เท้าชอบฟังนางพูดที่สุดแล้ว”“ใช่แล้ว ครั้งนี้เสียบแหบไป ใต้เท้าไม่ชอบเห็นนางแล้ว น่าผิดหวังนักเชียว”“บอบบางจริงนะ นานขนาดนี้ยังไม่หายดี เปลี่ยนท่านหมอมาสามคนแล้ว”“ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ขายชาหรือ? เดิมทีตากแดดตากลมป่วยไข้ง่ายขนาดนี้เชียวรึ”หญิงรับใช้เพียงทำไม่ได้ยินเงียบเดินไปข้างหน้า คุณหนูจวินก็ก้าวตามไปด้วยคนในบ้านนี้เหมือนไม่ค่อยกลมเกลียวกันนัก บรรยากาศประหลาดอยู่บ้างรอเห็นหญิงสาวผู้ถูกหญิงรับใช้เรียกว่าคุณนายสามที่ต้องการปรึกษาอาการคนนี้ ความรู้สึกประหลาดยิ่งมากขึ้นคุณนายสามคนนี้อยู่ในห้องหรูหรา สิ่งที่สวมใส่ก็หรูหรา เพียงแต่กิริยาหน้าตาอย่างไรก็ขัดอยู่บ้างเหมือนกับสิ่งที่สวมใส่ที่อยู่นี่ไม่ใช่ของปกติของนางแต่อาการป่วยของนางไม่ได้ประหลาด ก็แค่ร้อนรนจนร้อนในดังนั้นจึงเสียงแหบธรรมดา“อยากมีเสียงเร็วที่สุด?” คุณหนูจวินเอ่ยขึ้น “ที่จริงดูแลไปอีกสองสามวันก็หายดีแล้วเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากขนาดนี้”“อั้ยยะ ท่านหมอจวิน ใครสนใจเงินไม่เท่าไรนั่นเล่า” หญิงรับใช้เอ่ย “คุณนายสามของพวกเราแค่อยากหายดีเร็วขึ้นบ้าง”คุณนายสามก็มองคุณหนูจวินพยักหน้าคุณหนูจวินไม่เอ่ยวาจาอีก เปิดหีบยาหยิบผงยาห่อหนึ่งออกมา เอาน้ำละลาย“ดื่มเจ้านี่ เวลาต้มชาหนึ่งกาก็ใช้ได้แล้ว” นางเอ่ยคุณนายสามดีใจรับไปดื่มอึกใหญ่ เพิ่งดื่มเสร็จก็ร้องอ๊อกทีหนึ่งอาเจียนออกมา หญิงรับใช้ตกใจสะดุ้งโหยง“เป็นอะไรแล้ว? เป็นอะไรแล้ว?” นางตะโกนสุดเสียงคุณนายสามกลับพูดไม่ออก ยื่นมือกุมลำคอ สีหน้าหวาดผวาทรมานผู้หญิงคนอื่นเวลานี้ก็ตามเข้ามาหมดด้วย พอดีเห็นฉากนี้ หัวเราะออกมาทันใด“ข้าว่าพี่สาม ท่านอย่าใจร้อนเกินไปนักเลย เชิญหมอพเนจรหมอชาวบ้านพวกนี้มา กลับจะทำให้เสียงพังเสีย”“ใช่น่ะสิ ท่านหมอที่ใต้เท้าเชิญมาให้ท่านก็ออกจะดี ท่านไม่เชื่อใต้เท้าหรือ?”พวกนางพูดคุยหัวเราะพี่สามเพียงกุมลำคอพูดไม่ออก หญิงรับใช้ร้อนใจจนกระทืบเท้านี่เกี่ยวพันถึงอนาคตของตัวนางและครอบครัวเหมือนกันนะ“นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” นางมองคุณหนูจวินร้อนใจเอ่ยขึ้น “เจ้าเอาอะไรให้นางกิน?”คุณหนูจวินสีหน้าสงบ“ไม่เป็นไร รอสักครู่ก็หายดีแล้ว” นางว่าสิ้นเสียง พี่สามด้านนั้นก็ไอออกมาหลายทีจริงๆ“ป้าหวง” นางร้องเรียกเสียงใสกังวานคนด้านในด้านนอกห้องล้วนอึ้งไป หญิงรับใช้กับพี่สามดีใจเหมือนเป็นบ้า“ข้าพูดได้แล้ว” พี่สามร้อง “เสียงข้าไม่เป็นไรแล้ว”ป้าหวงดีใจพยักหน้า พวกผู้หญิงคนอื่นก็มองคุณหนูจวินอุทานตกตะลึง“นี่ทำให้นางอาเจียนออกมาก็หายดีแล้ว?” ผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ย ประเมินคุณหนูจวิน “มหัศจรรย์อยู่นะ”คุณหนูจวินกำลังจะเอ่ยวาจาก็มีเสียงดังมาจากด้านนอก“อะไรมหัศจรรย์?”นี่เป็นเสียงผู้ชายทุ้มเข้มเสียงหนึ่งทำให้คนได้ยินเข้าจิตใจสงบแต่คุณหนูจวินกลับดั่งสายฟ้าฟาด พริบตาร่างแข็งทื่อ ดวงตาของนางหมุนเคลื่อน มองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงประตูคนผู้นั้นยังไม่ถอดชุดขุนนางสีแดงสด ดวงหน้าขาวดุจกระเบื้องใต้แสงตะวัน ยืนอยู่ด้านหลังบรรดาหญิงสาวบุปผาอวดโฉม ราวกับรูปสลักศิลารูปหนึ่งลู่อวิ๋นฉีถึงกับได้พบลู่อวิ๋นฉีแล้วตอนแรกสุดนางคิดถึงลู่อวิ๋นฉีจริงๆเมื่อองครักษ์เสื้อแพรพวกนั้นปรากฏตัวที่โรงหมอจิ่วหลิงแน่นอนที่นางอยากพบไม่ใช่ลู่อวิ๋นฉี แต่เป็นไปบ้านของลู่อวิ๋นฉี พบพี่สาวแต่โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น ดังนั้นบ้านที่นางเห็นตรงหน้าจึงไม่ใช่จวนสกุลลู่แต่คิดไม่ถึง บนโลกนี้ก็มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ ถึงกับได้พบลู่อวิ๋นฉีที่นี่ที่นี่…สายตาของคุณหนูจวินเคลื่อนไปรอบๆ ช้าๆ อีกครั้ง กวาดตามองพวกผู้หญิงเหล่านี้ ในใจพลันเข้าใจที่นี่ย่อมเป็นจวนสกุลลู่เหมือนกันคือสถานที่ซึ่งคนข้างนอกพูดกันว่าลู่อวิ๋นฉีเลี้ยงผู้หญิงมากมายเอาไว้พวกนางดีใจลิงโลดโถมเข้าใส่ลู่อวิ๋นฉี“อวิ๋นฉี”“ลู่อวิ๋นฉี”พวกนางพากันเอ่ยเรียกพวกนางเรียกชื่อของเขารึคุณหนูจวินมองลู่อวิ๋นฉีที่ถูกเหล่าหญิงสาวรุมล้อม สีหน้าหวาดผวาอยู่บ้าง“ลู่อวิ๋นฉี”เสียงใสกังวานของผู้หญิงเสียงหนึ่งดังขึ้นอีก กลบเสียงหวานของผู้หญิงเหล่านั้นคุณหนูจวินร่างกายแข็งทื่อห้ามไม่ได้อีกครั้งก่อนหน้านี่เอ่ยวาจาไม่รู้สึกอย่างไร แต่เรียกชื่อลู่อวิ๋นฉีคำนี้ฟังดูแล้วทำไมคุ้ยเคยอยู่นางมองไปทางคุณนายสามที่เพิ่งได้ตนรักษาหายดีคนนั้นคุณนายสามคนนั้นมองลู่อวิ๋นฉีเอียงอายลู่อวิ๋นฉีก็มองไปทางนาง บนหน้าเผยรอยยิ้ม“มา” เขายื่นมือออกมานี่เป็นครั้งแรกที่เขามองนางตรงๆ ตั้งแต่หลังเสียงนางแหบ ในที่สุดก็ยิ้มให้นางเหมือนก่อนหน้านี้อีกครั้งคุณนายสามดีใจโถมเข้าไปผู้หญิงคนอื่นถูกเบียดออก เผยสีหน้าริษยาและไม่ได้รับความยุติธรรมออกมา“อวิ๋นฉี อวิ๋นฉี” พวกนางพากันร้องเรียกเบียดเข้ามาอีกครั้งมองภาพถูกสาวงามรุมล้อมกอดซ้ายกอดขวา คุณหนูจวินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เพียงลำพังรู้สึกอยากหัวเราะอยู่บ้าง แล้วก็รังเกียจอย่างประหลาดอยู่บ้างภาพนี้ก็คุ้ยเคยนักเช่นกันตอนนั้นนางทำได้เพียงอยู่ในบ้าน แม้ลู่อวิ๋นฉีจะจัดแต่งในบ้านให้กว้างขวาง สร้างภูเขาลำธารทะเลสาบจำลองไว้ แต่นั่นก็เป็นโลกที่ล้อมไว้ในเรือนใบหนึ่งนอกจากนี้เรื่องที่ตั้งแต่เล็กจนโตต้องการทำก็ไม่มีแล้ว นางที่ไม่มีเป้าหมายไม่รู้ว่าควรทำอะไร ทั้งวันไม่มีสิ่งใดทำ กับพวกสาวใช้หญิงรับใช้ก็ไม่มีอะไรพูดด้วย ทุกวันยามที่ลู่อวิ๋นฉีคุยกับนาง เล่าเรื่องราวข้างนอกเป็นเวลาที่นางเบิกบานใจที่สุดลู่อวิ๋นฉีน้อยครั้งนักจะออกจากบ้าน เมื่อออกไปกลับมา นางก็จะเรียกชื่อเขาเหมือนเช่นนี้ส่วนเขาก็จะยื่นมือออกมาหานางอย่างดีใจเช่นกัน เหมือนกับชมชอบมากมายความชมชอบเช่นนี้ที่แท้ใครก็เหมือนกันบางทีที่ชมชอบก่อนหน้านี้อาจเป็นของปลอมทั้งหมด เพียงเวลานี้ถึงชมชอบจริงๆคุณหนูจวินหลุบสายตา ในเวลาเดียวกันสายตาคู่หนึ่งก็หยุดบนร่างนางลู่อวิ๋นฉีที่เหล่าหญิงสาวรุมล้อมอยู่มองไปยังเด็กสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้คนนี้ราวกับจนกระทั่งเวลานี้ถึงเพิ่งสังเกตว่าคนแปลกหน้าเพิ่มมาคนหนึ่ง“นางเป็นใคร?” เขาเอ่ยถามเจ้าไม่มีวันรู้ว่าข้าเป็นใครแล้วคุณหนูจวินหลุบสายตาลุกขึ้นยืน ย่อเข่าคำนับ“อวิ๋นฉี นี่เป็นท่านหมอที่ข้าเชิญมา เป็นนางรักษาเสียงของข้าหายดี” คุณนายสามดึงแขนของลู่อวิ๋นฉีเอ่ยขึ้น“ใช่แล้ว ร้ายกาจมากจริงๆ”“เพิ่งเชิญมา ก็รักษาหายแล้ว”“คุณนายสามพบดาวช่วยเหลือแล้วจริงๆ ใต้เท้าก็ไม่ต้องกังวลใจแล้ว”บรรดาผู้หญิงคนอื่นไม่ยอมถูกทิ้งอยู่ข้างหลังพากันร่วมวงเอ่ยขึ้นลู่อวิ๋นฉีไม่ได้สนใจพวกนาง เพียงมองคุณหนูจวินสายตาของเขาเหมือนกับงูตัวหนึ่งลอบมองเหยื่อ เย็นเยียบและน่าขนลุก สายตานี้จับบนร่างเหมือนดั่งถูกงูเลื้อยผ่านร่าง“เป็นเจ้า” เขาเอ่ยคุณหนูจวินหนาวสันหลังขนลุกชันเป็นไปไม่ได้ตนเองห่มหนังผืนนี้อยู่ เขาไม่มีทางจดจำตนเองได้……………………………………….
คอมเม้นต์