Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 2 ตอนที่ 166 เป็นกฏแต่ก็ไม่ใช่กฏ
ตอนที่รถม้าขโยกเขยกมาถึงหน้าโรงหมอจิ่วหลิง หน้าประตูโรงหมอจิ่วหลิงก็มีรถม้าจอดอยู่สองคันแล้วโรงหมอจิ่วหลิงแม้ทำให้ท่านหมอมากมายและชาวบ้านโกรธแค้นด้านหน้าไม่มีคนต่อแถวแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังมีลูกค้าไม่ขาด นอกจากนี้ที่มาก็เห็นชัดว่าล้วนเป็นรถม้าของผู้มั่งคั่งสูงศักดิ์ที่ไม่เปลี่ยนยังมีกฎที่คุณหนูจวินรับตรวจหญิงรับใช้ที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะเล่าอาการป่วยของนายหญิงตระกูลตนเองจบก็มีท่าทางคาดหวังมองคุณหนูจวินแต่คุณหนูจวินครุ่นคิดนิดหนึ่งก็ส่ายศีรษะ“โรคนี้ไม่ต้องให้ข้ารักษา” นางเอ่ยหญิงรับใช้สีหน้ามีความหวัง“แต่โรคของนายหญิงตระกูลข้าเป็นมาช่วงหนึ่งแล้ว” นางเอ่ย “คุณหนูจวินท่านไม่ใช่รักษานายหญิงของติ้งหยวนโหวหายหรือ?”“ข้ารักษาให้นางเพราะโรคของนางรักษาเช่นนี้ได้” คุณหนูจวินเอ่ย “นายของท่านไม่เหมาะ โรคของนายของท่านต้องค่อยๆ รักษา รักษาเร็วกลับไม่ดี ยาที่ท่านหมอคนนี้ให้เหมาะสมมากแล้ว พวกท่านอย่ารีบร้อน”นางเอ่ยอย่างมีมารยาททั้งยังมีเหตุมีผล แม้เชิญนางไปรักษาไม่ได้ก็ยังปลอบประโลมหญิงรับใช้ได้“ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณคุณหนูจวินมาก” นางเอ่ย“มีปัญหาอะไรมาปรึกษาข้าได้ตลอดเวลา” คุณหนูจวินเอ่ย “ตัวอย่างเช่นตรงไหนที่ไม่สะดวกเล่าให้ท่านหมอฟัง ก็พูดกับข้าได้ ข้าจะขบคิดสูตรยากับท่านหมอให้ได้”มีบางครั้งจริงๆ ที่พบโรคบางอย่างซึ่งไม่สะดวกเอ่ยกับบรรดาท่านหมอ แล้วก็ไม่สะดวกดูฟังถามจับหญิงรับใช้ได้ฟังดีใจมาก ขอบคุณหลายครั้งเห็นนางออกไป หญิงรับใช้คนต่อไปก็รีบเข้ามา“ข้าเป็นคนของตระกูลบัณฑิตเฉิงหนานหยาง” นางเอ่ย พลางส่งป้ายชื่ออันหนึ่งให้นี่ก็เป็นหนึ่งในกฎการพบหมอของคุณหนูจวิน ต้องแจ้งชาติตระกูลหญิงรับใช้คนนี้นั่งลงเอ่ยกระซิบกระซาบกับคุณหนูจวินราวกับกลัวถูกคนอื่นได้ยินเฉินชีที่ยืนอยู่ด้านหลังโต๊ะเข้าใจ“ข้าดูท่าหลังจากนี้นางคงเป็นหมอของพวกผู้หญิงแล้ว” เขาหัวเราะเอ่ยเสียงเบากับฟางจิ่นซิ่ว“นี่ก็ดีนะ” ฟางจิ่นซิ่วเอ่ย “แบบนี้ก็ไม่ขัดแย้งอะไรกับท่านหมอเหล่านั้นแล้ว อย่างไรพวกเขาผู้ชายพวกนั้นตรวจโรคของผู้หญิงก็ไม่สะดวก”“นอกจากนี้เงินของผู้หญิงก็หาง่าย” เฉินชีหัวเราะเอ่ยเสียงเบาฟางจิ่นซิ่วถลึงตามองเขา“ด้านในโรงหมออย่ายิ้มระรื่น” นางเอ่ยเฉินชีรีบเก็บรอยยิ้ม รับคำ ส่วนหญิงรับใช้ด้านนั้นเล่าอาการป่วยกับคุณหนูจวินจบแล้ว“นี่ไม่ต้องให้ข้ารักษา เจ้าเอายาไปขวดหนึ่งก็ได้แล้ว” คุณหนูจวินเอ่ย พลางยกพู่กันเขียนเทียบยา “กินยาขวดนี้หมดก็ไม่เป็นไรแล้ว”แม้เชิญไปรักษาถึงบ้านไม่ได้ แต่ได้ยาก็ดีใจมากแล้วเหมือนกันได้ยินท่านหญิงของติ้งหยวนโหวแนะนำ ท่านหญิงผู้เฒ่าของเป่าหนิงกงก็ได้ยาสงบจิตของคุณหนูจวินไปเหมือนกัน หลังกินเข้าไป นางที่เดิมทีเดินต้องมีคนประคองก็เดินเล่นวนทั้งสวนดอกไม้ได้ แม้กระทั่งผมดำก็งอกออกมาเสียดายเพียงยาของคุณหนูจวินก็ซื้อยากนักเหมือนกับปรึกษาอาการหญิงรับใช้ดีใจหยิบใบสั่งยาไปที่โต๊ะที่นี่ พนักงานสองคนคนหนึ่งรับเงินคนหนึ่งหยิบยาขวดหนึ่ง มองหญิงรับใช้คนนั้นขอบคุณฟ้าขอบคุณดินเดินจากไปหญิงรับใช้ด้านนี้จากไป ด้านนั้นมีหญิงรับใช้เข้ามา“ท่านหมอจวิน คุณนายน้อยของบ้านข้าเสียงแหบ” นางเอ่ย “ท่านไปดูหน่อยเถอะ”คุณหนูจวินทำท่าให้นางนั่ง“เจ้ามาจากบ้านไหน?” นางเอ่ยถาม“เมืองฝั่งตะวันตก” หญิงรับใช้เพียงเอ่ยนั่งลงไม่ได้เอาป้ายชื่อออกมา แล้วก็ไม่แจ้งชื่อตระกูลคุณหนูจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย“แหบอย่างไรตั้งแต่เมื่อไร” นางเอ่ยถาม “เจ้าเล่ามาก่อนเถอะ”หญิงรับใช้ขานรับเล่าอาการป่วย กินยาอะไรรอบหนึ่งคุณหนูจวินยิ้มแล้ว“นี่ไม่มีปัญหา” นางว่า “ยาที่ท่านหมอผู้นั้นให้ถูกแล้ว กินไปก็หาย”นางพูดจบก็มองด้านนอกประตูคนปรึกษาอาการเดินเข้ามาอีก เตรียมรับคนต่อไปแต่หญิงรับใช้คนนี้กลับยังคงนั่งไม่ขยับ“ท่านหมอจวิน ยังไงก็ไปดูหน่อยเถอะ” นางเอ่ยคุณหนูจวินยังไม่ทันพูด หญิงรับใช้ที่เข้ามาใหม่ก็ไม่พอใจแล้ว“เจ้าคนนี้ ไม่รู้กฎของคุณหนูจวินหรือ?” นางเอ่ย “ความหมายนี่ก็คือคนของบ้านเจ้าไม่เป็นไร ไปหาหมอคนอื่นดูสิ”หญิงรับใช้คนนั้นเบะปากยิ้ม“บ้านข้าจะให้ท่านหมอจวินตรวจ” นางเอ่ย พลางกระแอมเบาๆ ตะโกนออกไปข้างนอก “เข้ามา เชิญคุณหนูจวินไปตรวจ”นี่เป็นคนหาเรื่องคนหนึ่งนี่ เฉินชีกับฟางจิ่นซิ่วขมวดคิ้ว“เฮ้ เจ้าคนนี้ อาศัยอำนาจรังแกคนเรอะ” หญิงรับใช้ที่เข้ามาใหม่ดูต่อไปไม่ได้เอ่ยขึ้น “คนมากมายขนาดนี้มาใครไม่ทำตามกฏระเบียบบ้าง แม้กระทั่งจวนติ้งหยวนโหวยังเป็นเช่นนี้ เจ้ามาจากที่ไหน…”คำพูดของนางพูดมาถึงตรงนี้ฉับพลันก็หยุดลง มองคนหลายคนที่ก้าวเข้าประตูมา สีหน้าฉับพลันหวาดผวาเฉินชีกับฟางจิ่นซิ่วก็สีหน้าแข็งทื่อไปคนเหล่านี้ร่างสวมชุดปลาบินเอวห้อยดาบปักวสันต์สีหน้าทะมึน ทำให้บรรยากาศด้านในโถงใหญ่ฉับพลันชะงักค้างเป็นองครักษ์เสื้อแพรนี่ความนิ่งเงียบด้านในโถงรวมถึงสีหน้าของทุกคน หญิงรับใช้เห็นได้ชัดว่าพอใจมาก“ท่านหมอจวิน เชิญเถอะ” นางมองคุณหนูจวินยิ้มเอ่ยขึ้นคุณหนูจวินสีหน้านิ่งสงบเหมือนเก่า ไม่ได้ตกใจกลัวรวมถึงโกรธเกรี้ยวที่ถูกขู่บังคับ“แบบนี้เอง” นางยืนขึ้นเอ่ย “จิ่นซิ่ว เอาหีบยาให้ข้า”นี่คือตกลงแล้ว?หญิงรับใช้ยิ้มกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่บ้าง นับว่าเจ้ารู้จักดูสถานการณ์ พูดเรื่องกฏ องค์ชายองค์หญิงชนชั้นสูงเหล่านั้นต้องมีหน้าตาทำตามกฏกับเจ้า พวกเขาหาต้องถกเรื่องกฏกับเจ้าไม่ใต้เท้าของพวกเราก็คือกฎ“ไหวหรือไม่น่ะ?” ฟางจิ่นซิ่วส่งหีบยาให้นางเอ่ยถามเสียงเบา “ข้าไปหาผู้ดูแลใหญ่หลิ่วไหม?”“ไหว ไม่มีปัญหา ไม่มีโรคที่ข้ารักษาไม่ได้” คุณหนูจวินเอ่ยนอกจากนี้ก็รู้อยู่ว่าที่เมืองหลวงช้าเร็วย่อมต้องมีวันหนึ่งที่ข้องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรแบบนี้ เพียงแค่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้เท่านั้น“ท่านหมอจวินเช่นนี้ดีที่สุดแล้ว” หญิงรับใช้ยิ้มเอ่ย เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนนำทางมองคุณหนูจวินนั่งรถม้าจากไป หญิงรับใช้ที่ยืนอยู่ด้านในโถงถึงกล้าผ่อนลมหายใจดูท่าคุณหนูจวินพูดถึงกฎคึกคักเช่นนี้ กับบรรดาหมอหลวงก็ยังกล้าเถียง แต่เห็นองครักษ์เสื้อแพรอะไรก็ไม่กล้าพูดแล้ว ไม่พูดถึงกฎแล้วด้วยกฎนี่ อย่างไรก็มองคนจริงๆแต่ นี่เป็นองครักษ์เสื้อแพรใต้เท้าท่านไหนเล่า ใช้องครักษ์เสื้อแพรมาคุ้มครองรถม้าได้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่คุณหนูจวินนั่งอยู่ในรถม้าไม่ได้มองไปข้างนอก จนกระทั่งรถหยุดลง“ท่านหมอจวิน ถึงแล้ว” หญิงรับใช้เอ่ย เลิกม่านรถคุณหนูจวินมองไปด้านนอก มือที่ประสานอยู่ด้วยกันคลายออก ในมือเหงื่อบางๆไม่ใช่มั้งนางมองประตูบ้านไม่สะดุดตาเบื้องหน้า หลุบสายตาลง ก้มหน้าลงจากรถที่เดินเข้าไปตอนนี้เป็นประตูหลัง นายทหารเฒ่าคนหนึ่งเปิดประตู เสตามองประเมินนางทีหนึ่งก็ไม่สนใจอีกเห็นประตูไม่ใหญ่ แต่บ้านนี่กลับไม่เล็ก คนดูเหมือนก็ไม่น้อย ไกลออกไปได้ยินเสียงคุยเล่นหัวเราะ อ้อมกำแพงดอกไม้อันหนึ่งไป ก็มองเห็นเงาร่างผู้หญิงใต้ร่วมไม้เขียวขจีดั่งนกนางแอ่นบินขยับขึ้นมาเสียงหัวเราะดุจกระดิ่งเงินดังขึ้นพร้อมอาภรณ์ที่ขยับพลิ้วไหวนี่คือพวกผู้หญิงกำลังเล่นชิงช้ากันอยู่นี่คุณหนูจวินมองทีหนึ่งก็รั้งสายตากลับมา ดวงตาไม่วอกแวก แต่ผู้หญิงหลายคนนั้นกลับมองเห็นนางเข้าแล้ว“ป้าหวง นี่คือใครหรือ?” มีเสียงผู้หญิงเอ่ยถามคุณหนูจวินมองตามเสียงไปโดยไม่รู้ตัว เห็นผู้หญิงสี่คนยืนอยู่ใต้คานชิงช้าฝั่งนั่น มองไปทีหนึ่งบุปผาอวดโฉมหน้าตาแตกต่างกันเท้าของนางพลันหยุดกะทันหันความรู้สึกประหลาดนักผู้หญิงพวกนี้…เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน?……………………………………….
คอมเม้นต์