Jun Jiu Ling หวนชะตารัก ภาค 2 ตอนที่ 96
เรื่องหลอกฟางเฉิงอวี่รู้ว่าเรื่องราวมากมายล้วนหลอกลวงนางทารุณตนเองเป็นเรื่องหลอกนางอาละวาดเพราะสาวใช้เป็นเรื่องหลอกนางวางอำนาจบาตรใหญ่ในบ้านเป็นเรื่องหลอกนางอวดดีไร้มารยาทหยาบคายน่าชังก็เป็นเรื่องหลอกแต่แต่งงานนี่ ก็เป็นเรื่องหลอกได้ด้วยหรือ?ในห้องเงียบงันไปพักหนึ่ง“เฉิงอวี่ เจ้านั่งลงก่อน” นายหญิงใหญ่ฟางเอ่ยขึ้นอย่างวิตกพลางมองนายหญิงผู้เฒ่าฟาง “ท่านแม่ เรื่องนี้เล่าแล้วยาวนัก ไม่สู้รอเจินเจินกลับมาทุกคนอยู่พร้อมกันค่อยพูดดีกว่าหรือ”เรื่องนี้ให้จวินเจินเจินบอกกับบุตรชายเองถึงจะดีไหมเล่า“เรื่องนี้เจินเจินทำเพื่อพวกเรา ย่อมต้องเป็นพวกเราพูดให้กระจ่าง” นายหญิงผู้เฒ่าฟางเอ่ยขึ้น “งานให้นางทำเอง ยังให้นางพูดเองอีก อย่างไรก็รู้สึกน่าสงสารเกินไปแล้ว”แต่บุตรชายของนางน่าสงสารยิ่งกว่านี่นายหญิงใหญ่ฟางมองฟางเฉิงอวี่ บุตรชายคนนี้ของนางเห็นชัดๆ ว่านับจวินเจินเจินเป็นภรรยาแล้ว นอกจากนี้ยังรักลึกซึ้งอีกด้วยบอกว่านี่เป็นเรื่องหลอกกะทันหันตอนนี้ เขาจะรับได้อย่างไรกันเล่าบุตรชายของนางเคยเสียทุกสิ่งไป วันนี้เพิ่งครอบครองทุกสิ่งใหม่อีกครั้ง กลับจะต้องถูกควักมุมหนึ่งไป แล้วยังเป็นมุมหนึ่งบนหัวใจอีกมนุษย์มีชีวิตอยู่บนโลก ไม่อาจสมปรารถนาทุกเรื่องได้งั้นหรือ?เวลาแห่งความดีใจเช่นนี้ ไม่อาจยาวนานขึ้นอีกนิดหรือ?“หลอกได้อย่างไรเล่า?” ฟางเฉิงอวี่พลันยิ้ม เอ่ยถาม “เรื่องนี้หลอกได้อย่างไรเล่า”“เฉิงอวี่ นี่เพียงเพื่อปิดหูปิดตาคนรักษาอาการป่วยให้เจ้า” นายหญิงผู้เฒ่าฟางเอ่ยขึ้น “เจ้าก็รู้นางรักษาอาการป่วยให้เจ้าอย่างไร เรื่องเหล่านั้นมีแต่ให้สามีภรรยาที่แต่งงานกันมาทำเหมาะสมที่สุด”ฟางเฉิงอวี่มองนางไม่พูดจานายหญิงใหญ่ฟางอดไม่ไหวร้องวิงวอนท่านแม่คำหนึ่งอีกครั้งผู้หญิงตระกูลฟางไร้หัวใจ ผู้ชายตระกูลฟางย่อมไม่อาจมากรักคือสิ่งใดก็คือสิ่งนั้น อย่าได้เหลือภาพลวงตาไว้ให้แก่ตนเองนายหญิงผู้เฒ่าฟางสีหน้าเคร่งขรึม“เจ้าอยู่ด้วยกันกับนางนานขนาดนั้น นอกจากรักษาอาการป่วยให้เจ้า นางเคยทำเรื่องที่สามีภรรยาควรทำกับเจ้ารึ?” นางเอ่ยขึ้นฟางเฉิงอวี่สีหน้าอึ้งไป นายหญิงใหญ่ฟางสีหน้าย่ำแย่นี่ คำพูดนี่พูดได้…“ท่านแม่ เฉิงอวี่เขาป่วยอยู่นะเจ้าคะ” นางอดไม่ได้หลุดปากออกมาจะทำเรื่องอย่างนั้นได้อย่างไร“ถ้าอย่างนั้นมีความรักระหว่างสามีภรรยาไหมเล่า?” นายหญิงผู้เฒ่าฟางเอ่ยถามอีกครั้ง จ้องฟางเฉิงอวี่ “เจ้าเป็นเด็กฉลาดคนหนึ่ง มีหรือไม่มี ในใจเจ้าย่อมกระจ่าง”ฟางเฉิงอวี่เงียบงันไม่พูดจานางดีกับเขามาก ดีมาก ดีมากเลย“มีเรื่องหนึ่งเจ้าไม่เคยเอ่ยถาม พวกเราก็ไม่เคยบอกกล่าว” นายหญิงผู้เฒ่าฟางไม่หยุดเอ่ยต่อ “ตอนแรกทำไมนางบอกว่าจะรักษาอาการป่วยให้เจ้า เจ้ารู้ไหม?”“ท่านแม่” นายหญิงใหญ่ฟางสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ก้าวเข้าไปข้างหน้าจับแขนเสื้อของนายหญิงผู้เฒ่าฟาง ส่ายศีรษะวอนขอนายหญิงผู้เฒ่าฟางสะบัดมือของนางออก มองเพียงฟางเฉิงอวี่“เพราะนี่เป็นการแลกเปลี่ยนครั้งหนึ่ง” นางว่า “รักษาอาการป่วยของเจ้าหายดี นางต้องการค่าตอบแทน”ค่าตอนแทนรึฟางเฉิงอวี่มองนายหญิงผู้เฒ่าฟางยังคงไม่พูดจานี่โหดร้ายเกินไปแล้วจริงๆ“ไม่ใช่นะ ท่านแม่ เจินเจินนางไม่ได้ต้องการค่าคอบแทน นางต้องการใช้ชีวิตสุขสบายไปด้วยกันกับพวกเรา” นายหญิงใหญ่ฟางรีบร้อนเอ่ยขึ้น พูดพลางมองฟางเฉิงอวี่“ถ้าอย่างนั้นตอนเจ้าพูดว่าหากรักษาชีวิตของเฉิงอวี่ไว้ได้จริงๆ ยินดีประเคนทุกสิ่งที่เฉิงอวี่ควรได้รับมอบให้นางประโยคนั้น นางตอบว่าอย่างไร?” นายหญิงผู้เฒ่าฟางมองนายหญิงใหญ่ฟาง“ท่านแม่ นั่นก็เพียงแค่ล้อเล่นตามน้ำเท่านั้น” นายหญิงใหญ่ฟางเอ่ยขึ้น “เพื่อแสดงถึงความแน่วแน่ว่าทุกคนเชื่อมั่นในกันและกัน”นายหญิงผู้เฒ่าฟางมองนาง“ล้อเล่น? เจ้าคิดเช่นนี้รึ?” นางขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น “แต่ข้ามองว่าเจินเจินนางไม่ได้นับเรื่องนี้เป็นการล้อเล่นนะ”นายหญิงใหญ่ฟางยังต้องการพูดอะไรอีก ฟางเฉิงอวี่ก็เอ่ยปากขึ้น“ท่านแม่ ตอนนั้นนางตอบว่าอย่างไร?” เขาเอ่ยถาม สีหน้าติดจะอยากรู้นายหญิงใหญ่ฟางมองไปทางเขาส่ายหน้า“นางบอกว่าตกลง ท่านป้าอย่าได้ลืมสิ่งที่พูดล่ะ” นายหญิงผู้เฒ่าฟางตอบออกมาตรงๆในที่สุดก็พูดออกมาแล้ว นายหญิงใหญ่ฟางสีหน้ากังวลและเศร้าโศกมองฟางเฉิงอวี่ความปิติและความจริงใจของเขาที่แท้มอบให้แก่การแลกเปลี่ยนครั้งหนึ่ง สำหรับเด็กหนุ่มแรกรุ่นคนนี้คงเป็นการทำร้ายจิตใจใหญ่หลวงสินะสีหน้าของฟางเฉิงอวี่เข้าใจขึ้นมาบ้าง“แบบนี้เอง” เขาเอ่ยขึ้นแล้วก็ยิ้ม “แบบนี้หรือ?”“เฉิงอวี่ เจ้าไม่ต้องคิดมาก เวลานั้นความสัมพันธ์ของเจินเจินกับตระกูลเราไม่ดีนัก ยามความสัมพันธ์ไม่ดีคำพูดล้วนเย็นชาง่าย” นายหญิงใหญ่ฟางรีบยื่นมือไปพยุงเขารีบร้อนเอ่ยขึ้นฟางเฉิงอวี่ยิ้มให้นาง สีหน้าเศร้าสร้อยพรูลมหายใจ“ที่แท้นางก็เคยวางแผนไว้เช่นนั้นจริงๆ” เขาเอ่ยขึ้นเคยวางแผนอะไร?นายหญิงผู้เฒ่าฟางกับนายหญิงใหญ่ฟางมึนงง“แต่เฉิงอวี่เจ้าอย่าคิดมากเกินไป ที่จริงเรื่องไม่ใช่เช่นนี้…” นายหญิงใหญ่ฟางกำแขนของเขาไว้เอ่ยขึ้นฟางเฉิงอวี่พลิกมือกำแขนของนาง เอ่ยขัดคำพูดของนาง“ท่านแม่ ใช่แล้ว เรื่องไม่ใช่เช่นนี้แล้ว” เขายิ้มเอ่ยขึ้น “นางไม่ได้คิดเช่นนี้แล้ว”หมายความว่าอย่างไร?นายหญิงใหญ่ฟางตะลึงไปอีกครั้งส่วนนายหญิงผู้เฒ่าฟางขมวดคิ้ว“เฉิงอวี่ ลูกผู้ชายโตแล้ว อย่าได้หมกมุ่นกับความรักชายหญิงเหล่านี้” นางว่า “ทำสิ่งใดต้องทำได้ปล่อยวางเป็น เมื่อควรตัดก็ตัด เมื่อควรทิ้งก็…”คำพูดของนางยังไม่ทันพูดจบก็ถูกฟางเฉิงอวี่ขัด“ท่านย่า ใช่แล้ว เรื่องนี้ต้องให้คำอธิบายสักอย่าง” ฟางเฉิงอวี่เอ่ยขึ้น “เรื่องนี้หลอกได้อย่างไร?”พูดตั้งนานยังพูดไม่เข้าใจหรือ?นายหญิงผู้เฒ่าฟางขมวดคิ้วแน่นขึ้น“เรื่องหลอกก็คือเรื่องหลอก” นางร้อนรนโมโหขึ้นมา “มีทำไมมากมายขนาดนั้นที่ไหน”“เรื่องหลอกก็กลายเป็นจริงได้เหมือนกัน” นายหญิงใหญ่ฟางอดไม่ได้รีบร้อนเอ่ยขึ้น “เฉิงอวี่ พวกเราพูดกับเจินเจินดีๆ หากนางรู้ใจจริงของเจ้า ละครหลอกลวงนี้ก็กลายเป็นจริงได้เหมือนกัน…”ฟางเฉิงอวี่ยิ้มแล้ว“ท่านแม่ ท่านย่า ข้าหมายถึงว่า เรื่องนี้จะหลอกได้อย่างไร” เขาเอ่ยขึ้น “นี่คือการแต่งงาน ไม่ใช่แสร้งป่วย แต่งงานต้องคารวะฟ้าดิน บูชาเทพ คนทั้งเมืองชมพิธีการ”นี่หลอกได้อย่างไร?“เรื่องนี้ไม่ใช่พวกเรารู้ว่าหลอกก็คือเรื่องหลอก” ฟางเฉิงอวี่เอ่ยว่า “เรื่องนี้ต่อให้พวกเรารู้ก็ไม่ยุติธรรมกับพี่สาว”นายหญิงผู้เฒ่าฟางกับนายหญิงใหญ่ฟางมองเขาก็ใช่ เด็กสาวคนหนึ่งคารวะฟ้าดินเข้าห้องหอกับผู้อื่น คนทั้งเมืองล้วนรู้ว่าแต่งงาน ใครสนว่านางทำเพื่อรักษาอาการป่วย ร่วมห้องเป็นสามีภรรยากันจริงหรือไม่ ในสายตาคนทั้งโลกนางก็แต่งงานกับผู้อื่นแล้ว เป็นภรรยาของผู้อื่น“เฉิงอวี่ ถ้าเช่นนั้นความหมายของเจ้าคือ?” นายหญิงผู้เฒ่าฟางเอ่ยถาม“ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เพียงต้องให้ข้ารู้ชัดเจน” ฟางเฉิงอวี่เอ่ยขึ้น สีหน้ายิ้มแย้ม มีชีวิตชีวา “ยังต้องให้คนทั้งเมืองล้วนรู้ ยังต้องให้ฟ้าดินรู้ด้วย ต้องให้เทพเทวารู้ให้หมด”เพื่อเขา นางหลอกฟ้าดิน หลอกเทพ หลอกชาวบ้านเต็มเมือง ถ้าเช่นนั้นเขาก็ต้องบอกฟ้าดิน บอกเทพ บอกชาวบ้านทั้งเมืองว่านางเป็นคนดีคนหนึ่งอย่างไร แล้วทำคุณงามความดีอย่างไรนี่ถึงยุติธรรมกับนาง
คอมเม้นต์