Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 527
ทุกคนสบตากับชูฮัน มันมีแววตาที่ไม่แน่ชัดฉายอยู่ในนัยน์ตาของทุกคน พวกเขารอคอยให้ชูฮันพูดต่อให้จบ “เราไม่รู้จักศัตรู ไม่รู้จำนวนของมัน ไม่รู้ระดับของอันตรายที่กำลังจะเผชิญ แต่ฉันขอถามทุกคนตอนนี้” ทันใดนั้นชูฮันก็หยุดนิ่ง “พวกคุณกลัวความตายมั้ย?!” “ไม่กลัวครับ!” ทุกคนใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเองเค้นเสียงตอบดังฟังชัด “ฉันจะถามพวกคุณอีกครั้ง!” เสียงของชูฮันสูง “สงครามครั้งนี้ เราจะสู้ได้มั้ย?!” “ได้ครับ!” กองทัพเขี้ยวหมาป่าที่ตอนนี้มีจำนวนไม่ครบ 300 คนตอบรับกันอย่างพร้อมเพรียงด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาของทุกคนแดงก่ำอย่างแข็งกร้าว “เยี่ยมมาก” ชูฮันยิ้มมุมปาก จากนั้นก็ออกคำสั่งเสียงดัง “พลทหารของกองทัพเขี้ยวหมาป่า—–” “ครับ” เสียงตอบรับที่ดังสนั่นและพร้อมเพรียงดังขึ้น “ใช้ความเร็วที่สุดของตัวเองถอยกลับไป 5 กิโลเมตร จัดการสนามรบ รอฟังคำสั่งของฉัน กำจัดศัตรูซอมบี้ 20,000 ตัวและลูกผสม 300 ตัว! จัดการฝังกระดูกของพวกมันไว้ในภูเขาลูกนี้ ทำให้ที่นี้เป็นสุสานแรกของสงครามของกองทัพเขี้ยวหมาป่าของเรา!” “ครับท่าน!” ————- สิบกิโลเมตรห่างจากค่ายเขี้ยวหมาป่า ฝูงซอมบี้หนึ่งหมื่นตัวที่ขับเคลื่อนราวกับระเบิดทำลายล้าง ท้ายขบวนของฝูงซอมบี้มีกลุ่มคนชุดดำที่เดินอย่างสบายๆตามมา ด้วยจำนวนที่มากเกือบถึง 300 ตัว ใบหน้าของแต่ละตัวนั้นมีความคล้ายคลึงกับซอมบี้ พวกมันเดินกินเนื้อมนุษย์สดๆในมือไปด้วย พร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้ายและน่าขยะแขยง ผู้นำทั้งสองคนที่เดินนำกลุ่มลูกผสมอยู่ตรงกลางของขบวน ทั้งสองคนใช้ผ้าสีดำคลุมปิดรอบตัวสนิท ไม่กินอะไรขณะเดิน เหมือนกับลูกผสมตัวอื่น “แหวะ! น่าขยะแขยง ดูไร้การศึกษาที่สุด! คนละเรื่องกับพวกลูผสมที่เมืองหยิน ไอ้พวกนี้ทำตัวไม่ต่างกับสัตว์เดรัจฉาน!” หนึ่งในผู้นำทั้งสองคนพูดขึ้น เธอชื่อว่า เจียวเหยียน ลูกผสมทรงพลังระดับ 5 และเธอก็เป็นหนึ่งในผู้ติดตามของมู๋เย๋ “ไม่ใช่ทุกคนจะได้รับการเรียกตัวจากท่านมู๋เย๋ พวกลูกผสมพวกนี้คุ้นชินกับการอาศัยอยู่ข้างนอกด้วยตัวเอง พวกมันหลงลืมมารยาทต่างๆของมนุษย์ไปหมดแล้ว” ผู้ชายอีกคนซึ่งเป็นลูกผสมและผู้นำอีกคนพูดขึ้น เขาเองก็ยิ้มเยาะอย่างสมเพชเช่นกัน เขาชื่อว่าเฉินจีกวง ซึ่งทรงพลังและมีระดับสูงกว่าเจียวเหยียน เขาเป็นลูกผสมแสนทรงพลังระดับ 6 และเป็นผู้นำของขบวนลูกผสมในครั้งนี้ “นายคิดว่าทำไมท่านมู๋เย๋ถึงต้องการให้เรามาเองถึงนี้? อีกฝ่ายมีคนแค่สามร้อยคนเท่านั้น และพวกมันส่วนใหญ่ก็เป็นแค่คนธรรมดา แม้แต่พวกมนุษย์สายพันธุ์ใหม่ก็ไม่ได้มีระยะวิวัฒนาการสูงมากมายอะไร แต่ถึงกับให้พวกเรามาด้วยตัวเองแถมยังพาลูกผสมมาถึงสามร้อยตัวอีก? มันไม่มากเกินไปเหรอ?” เจียวเหยียนค่อนข้างไม่พอใจเท่าไหร่ จากทางมาจากเมืองหยิน เธอได้เจอแต่กับเรื่องน่าขยะแขยงมากมายจนหมดความอดทน “ท่านมู๋เย๋ต้องมีเหตุผลของท่าน” เฉินจีกกวงเองก็รำคาญเล็กน้อย “แต่เรารอคอยมาหลายวันแล้ว อีกฝ่ายใกล้จะมาถึงแล้ว รีบทำภารกิจให้สำเร็จและบ่นให้น้อยลง” “ฉันรู้สึกไม่มีความอยากอาหารไปแล้ว ฉันไม่ได้กินเนื้อมนุษย์สดๆมาหลายวันแล้ว” เจียนเหยียนยังคงบ่นคร่ำครวญไม่เลิก “ค่ายข้างหลังภูเขานี้มีคนอยู่ตั้งมาก ทำไมเราทำได้แค่มองแล้วไม่เริ่มสักที!” “ท่านมู๋เย๋ต้องมีเหตุผลของท่าน” “ไม่ใช่ว่านายกลัวว่าชูฮันจะเจอพวกเราแล้วหนีไปก่อนเหรอ? ไอ้ผู้ชายคนนั้นยิ่งกว่าหมาจิ้งจอกซะอีก” เฉินจีกวงพูด “ท่านมู๋เย๋มีเหตุผลของท่าน และเมื่อเราจัดการกับชูฮันและคนของมันเรียบร้อย หลังจากเสร็จภารกิจ เราจะกลับไปที่ค่ายของมันและฆ่าคนในค่าย เมื่อเธออยากกินก็กินซะให้เต็มที่” “ฮ่าฮ่าฮ่า! ถ้านายพูดอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ขัด” เจียวเหยียนยิ้มกว้าง หากต่อมาก็พลันนิ่วหน้า “แต่ทำไมเราต้องเอาซอมบี้ 20,000 ตัวติดมาด้วย แล้วเรายังต้องอยู่ติดกับซอมบี้ 10,000 ตัวแล้วให้ 10,000 ตัวมุ่งหน้าไปก่อนทำไม?” เฉินจีกวงเองก็งงไม่ต่าง “ฉันก็ไม่เข้าใจ ท่านมู๋เย๋ไม่ได้อธิบายกลยุทธ์ของท่านให้ฉันฟัง” “ซอมบี้พวกนี้มันน่าขยะแขยงชะมัด แม้แต่แมลงเน่าและหนูที่พื้นมันยังจับกิน หลายวันมานี้ฉันแขยงจนจะอ้วกอยู่แล้ว” เฉินจีกวงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็นิ่วหน้า “พวกมันมีกลิ่นเหม็นเน่าติดตัวอยู่ตลอดจนเกินจะทนจริงๆ” ไม่ว่าจะทั้งเฉินจีกวงหรือเจียวเหยียน ทั้งคู่ต่างเป็นลูกผสมกลุ่มแรกที่ติดตามมู๋เย๋ไปตั้งรกรากที่เมืองหยิน แม้พวกเขาจะเคยมีประสบการณ์การกินแบบเดียวกันกับลูกผสมตัวอื่นๆและเอาตัวรอดท่ามกลางความสกปรกและน่าขยะแขยงมาเหมือนกันในอดีต แต่หลังจากติดตามมู๋เย๋ และตั้งแต่เมืองหยินกลายเป็นอาณาจักรของลูกผสม สถานการณ์นี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นกับทั้งคู่อีก พวกเขายังคงกินเนื้อมนุษย์อยู่ แต่จานอาหารทั้งหมดถูกปรุงโดยพ่อครัว พวกเขามีที่พักอาศัยหรูหราและสะอาดอยู่ในเมืองหยิน แถมยังมีคนรับใช้ที่คอยเสริฟเนื้อมนุษย์ที่คัดสรรค์มาแล้วให้พวกเขาได้กิน “หรือ จะปล่อยให้ซอมบี้หมื่นตัวพวกนี้มุ่งหน้าไปก่อน” หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่ เจียวเหยียนก็เสนอขึ้นมา “ฉันทนไม่ไหวแล้ว” “ไม่ดีมั้ง?” เฉินจีกวงลังเล “มันดีเหรอที่จะไปทำให้แผนของท่านมู๋เย๋ยุ่งเหยิง? มันจะเกิดอะไรขึ้น?” “แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?” เจียวเหยียนไม่สนใจ “อีกฝ่ายมีแค่ 300 คนเท่านั้นเอง แล้วเราเป็นกลุ่มลูกผสมที่เหนือกว่าพวกมันตั้งเท่าไหร่แต่กลับต้องมาซุ่มโจมตีอยู่แบบนี้ ฉันว่าฝูงซอมบี้ 20,000 ตัวนั้นก็เพียงพอที่จะกวาดล้างพวกมันแล้วด้วยซ้ำ มันไม่จำเป็นที่จะต้องพาทีมลูกผสมมาด้วยเลย!” “อย่าประมาทศัตรู” เฉินจีกวงส่ายหัว “อีกฝ่ายเป็นคนที่สามารถทำให้ท่านมู๋เย๋ระแวงได้ เราจะต้องไม่ประมาทฝีมือมัน” “ฉันยอมรับว่าชูฮันเก่งกาจจริง และเขาก็เป็นคนที่สุดยอด” เจียวเหยียนแสยะยิ้ม “แต่สำหรับพวกทหาร 300 คนที่เหลือของเขา พวกเขาจะมีฝีมือเหมือนกับชูฮันได้เหรอ?” เฉินจีกวงถอนหายใจ “เอาล่ะ ปล่อยให้คลื่นซอมบี้พวกนี้ฆ่าพวกมันให้หมดก่อน” “มันก็ควรจะเป็นอย่างนั้น” เจียวเหยียนถอนหายใจอีกครั้ง จากนั้นก็พลันออกคำสั่งแก่พวกลูกผสมที่เดินตามอยู่รอบๆ “ไป จัดการให้ซอมบี้เร่งความเร็วขึ้น ให้พวกมันซอมบี้หมื่นตัวข้างหน้ามุ่งหน้าตรงไป” “ครับ ท่านผู้หญิง” เหล่าลูกผสมที่อยู่ถัดไปรับคำสั่ง มันยิ้มเผยให้เห็นฟันเน่าสกปรก “อี๋ น่าขยะแขยงชะมัด อย่ามาหัวเราะฉันนะ!” เจียวเหยียนหัวเสีย “ให้ตายสิ!” “ครับ ครับ ครับ!” ลูกผสมตัวนั้นพยายามระงับความโกรธในอกตัวเองเอาไว้และรีบขยับตัวหนีออกไปให้ห่างทันที ทว่าในใจนั้นเหมือนกับโดนตบเข้าที่กลางหน้า ลูกผสมทุกตัวก็เหมือนกันหมด มันมีสิทธิอะไรมาพูดว่าเขาน่ารังเกลียด ตัวมันก็เหม็นเหมือนเขาไม่ใช่เหรอไง?
คอมเม้นต์