Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 470

อ่านนิยายจีนเรื่อง Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 470 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

ชูฮันยิ้มอีกครั้ง ไร้การเตือนใดๆ—-
 
“ปัง!”
กำปั้นชนเข้ากับกำแพงที่อยู่ถัดไป!
“ผลั้วะ ~”
บ้านหลังเล็กๆเพียงหลังเดียวที่มีสภาพสมบูรณ์จากทั้งหมู่บ้านถล่มลงมาอย่างกระทันหันจนกลายเป็นเหลือแต่กองซากปรักหักพัง
 
ครั้งนี้ ฝูงชนกลายเป็นเงียบสนิททันที
 
อารมณ์ทั้งหลายตีกันวุ่นไปหมด ทั้งช็อค วิตก และความไม่พอใจต่างปรากฏอยู่บนสีหน้าหลายๆคนทันที จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงระเบิดลั่นที่เต็มไปด้วยอาการหวาดกลัวของเหล่าผู้ลี้ภัย 200 คนที่ตีกันวุ่น
 
ไม่เพียงแต่แค่ 200 คนนั้นที่อึ้งแต่หลิวยู่ติงที่ยืนอยู่ข้างชูฮันก็ช็อคเช่นกัน เขามองไปที่บ้านที่ไม่มีอยู่อีกแล้ว หัวใจเต้นรัวราวกับจะระเบิด ก่อนหน้านี้ชูฮันให้เอกสารในมือให้เขามาถือเอาไว้ แสดงว่าชูฮันรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น นี้เขาคาดการณ์และวางแผนทุกอย่างไว้หมดแล้วสินะ
 
เฉินช่าวเย่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางทีม 100 คน ก็ตะลึงไปเช่นกัน น้ำเสียงของหัวหน้านั้นดังชัดเจนท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด “ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่พอใจอย่างมากกับการมาถึงของพวกเรา”
 
โดยไม่คาดคิด นี้คือการพูดเปิดของชูฮัน ไม่มีการแนะนำ ไม่มีการคำรามอย่างโมโห ไม่มีการใช้อารมณ์เพื่อให้มันสอดคล้องกับบรรยากาศดุดัน!
 
“แต่พวกคุณไม่ใช่ทั้งถูกรบกวนและไร้ประโยชน์ พวกซอมบี้ทั้งหมดถูกพวกเราฆ่าเรียบร้อยแล้ว วิกฤตปัญหาถูกแก้ไขแล้วโดยพวกเรา เราเข้ามายึดครองสถานที่แห่งนี้!” ชูฮันยกเท้าขึ้นและออกเดินย่ำไปมาตามขนาดพื้นที่ที่มีอยู่อย่างจำกัด ซึ่งจังหวะการเดินของชูฮันเป็นเหมือนการยั่วยุอารมณ์ของคนคนหนึ่งให้ปะทุขึ้นมา
 
“พวกคุณมีอะไร? พวกคุณไม่มีอะไรสักอย่าง!” เมื่อชูฮันพูดขึ้นมาอีกรอบ ฝูงชนต่างก็ทำตัวไม่ถูกกันไปหมดแล้ว “พวกคนที่มีความสามารถก็ไม่มีใครกล้าจะทำอะไร เพราะแต่ละคนไม่สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นจะตาย พวกคุณสนแต่ตัวเองเท่านั้น ฉันสามารถฆ่าพวกคุณทั้งหมดและปล่อยเลือดไหลนองเป็นแม่น้ำได้ง่ายๆ เพราะอย่างไรก็ตามนี่เป็นยุคโลกาวินาศ การที่จะฆ่าผู้ลี้ภัยสองร้อยคนหรือแม้แต่พันคน ก็ไม่มีใครสามารถเอาผิดฉันได้”
 
หลังจากพูดแบบนั้นพร้อมกับหยุดยืนต่อหน้าฝูงชนด้วยสายตาน่ากลัว ชูฮันก็เลิกเสื้อคลุมออกเล็กน้อยเพื่อให้เห็นด้านบน นิ้วแตะลงตรงตราบนหน้าอก “พวกคุณรู้จักตรานี้มั้ย?”
ทันใดนั้นกลุ่มคนก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา ไม่ใช่เพียงแค่เพราะคำพูดของชูฮันแต่เป็นเพราะพวกเขานึกไม่ออก ด้วยความรู้ที่มี…พวกเขาไม่เคยได้เห็นหรือรับรู้ถึงตราสัญลักษณ์นี้มาก่อนเลย
 
“นี่คือเครื่องหมายแสดงถึงพลเอก” ชูฮันอธิบายจบ อีกครั้งที่น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจและความกดขี่ก็ดังขึ้น “ฉันชูฮัน พวกคุณอาจรู้จักชื่อฉันแต่ไม่เคยเห็นหน้าฉันมาก่อน ฉันเป็นหนึ่งในสิบห้าพลเอกของจีนและก็ยังเป็นนายพลเอกที่อายุน้อยที่สุด ฉันอายุ 21 ปี ต่อสู้จนได้รับชัยชนะมามากมาย และทุกครั้งที่มีสงครามและการต่อสู้กวาดล้างฝูงซอมบี้ กองทัพของฉันไม่เคยมีใครเสียชีวิต!”
 
ภายในการพูดไม่กี่ไม่ประโยคของชูฮัน ส่งผลให้ไม่มีใครกล้าส่งเสียงออกมา ทั้งสองร้อยคนต่างถูกดึงดูดไปกับคำพูดของชูฮัน เนื่องจากความมืดภายในใจของพวกเขานั้นคิดว่าไม่ใช่เพราะชูฮันไม่ได้น่าเบื่อเหมือนกับพวกคนมียศคนอื่นๆ แต่เป็นเพราะเนื้อหาที่ชูฮันพูดนั้น่าสนใจและดึงดูด
พลังการต่อสู้ที่สุดยอด เอกลักษณ์ที่โดดเด่น การกระทำระดับตำนาน แต่ละอย่างทำให้หลายๆคนได้แต่เกิดความสงสัย ในเวลานี้เหล่าคนสองร้อยคนไม่ได้คิดว่าเลยว่าคนแบบนี้จะมายืนปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา และกลายเป็นว่าคนคนนั้นคือชูฮัน ผู้ที่ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดี!
“ฉันไม่สนใจเกี่ยวกับพวกคุณและไม่สนใจความคิดของพวกคุณเลยสักนิด พวกคุณอยากจะพูดอะไรก็พูดไปแต่รู้ไว้เลยว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะมาขออะไรจากฉัน ฉันแค่จะบอกว่ารอให้ฉันจากไปเอง อยากจะทำอะไรก็ทำแต่อย่าทำต่อหน้าให้ฉันเห็นละกันเพราะฉันเป็นที่รู้จักดีเรื่องฆ่าคน” น้ำเสียงของชูฮันโหดเหี้ยม “ทรัพยากรของฉันนั้นมีไว้สำหรับทหารของฉันเท่านั้น ไม่ใช่เอามาเสียเปล่ากับพวกขยะ!”
 
หลังจากชูฮันพูดจบ สองร้อยคนต่างพลันหน้าซีดเผือด
 
หากยังมีอีกเสียงโพล่งขึ้นตามมา “ฉันไม่ใช่ขยะ!”
 
ชูฮันบิดปาก
 
“ไม่ใช่ขยะ?” ชูฮันเย้ยหยันและพูดต่อ “กลุ่มคนจำนวนสองร้อยคน กลัววิ่งหนีหดตดหายเมื่อเห็นซอมบี้พันตัวเข้ามาใกล้ นี่ไม่ใช่ขยะงั้นเหรอ?”
“นั่นก็เพราะพวกเราไม่มีปืน!” บางคนโต้แย้งขึ้น
 
น้ำเสียงของชูฮันตอบกลับอย่างเย็นชา “คนของฉันไม่มีปืน”
 
“นั่นก็เพราะพวกแกทั้งหมดเป็นวิวัฒนาการต่างหาก!” เสียงคัดค้านยังคงดำเนินต่อไป “พวกแกต้องเป็นวิวัฒนาการไม่ก็พรสวรรค์ ไม่อย่างนั้นพวกแกจะเอาชนะซอมบี้มากขณะนี้ได้ยังไง แต่พวกเรามีแค่ 20 ที่เป็นและอีก 180 คนก็เป็นแค่คนธรรมดากันหมด มันจะไปเทียบกันได้ยังไง?”
 
“คนธรรมดาจำเป็นต้องกลัวซอมบี้ด้วยเหรอ? คนธรรมดาก็สามารถฆ่าซอมบี้เป็นพันตัวได้เหมือนกัน!” รอยยิ้มในแววตาของชูฮันฉายวาวขณะคำนวนทุกอย่างอยู่ในหัว ชูฮันแสยะยิ้มจากนั้นก็ชี้นิ้วไปทางกองทัพหนึ่งร้อยคนที่ยืนอยู่ถัดไปด้วยสีหน้านิ่งๆ “ในกลุ่มนี้ มีเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นมนุษย์สายพันธุ์ใหม่และอีกครึ่งก็เป็นคนธรรมดา”
 
ความสยองปรากฏขึ้นบนใบหน้าของสองร้อยคน จากนั้นมันก็กลายเป็นความไม่เชื่อ
 
“ไม่เชื่องั้นเหรอ?” ชูฮันสั่งหลี่ชวน “หลี่ชวน บอกพวกเขาสิ”
สายตาของทุกคนพลันเปลี่ยนจากชูฮันไปมองที่ด้านข้างแทนทันที
 
หลี่ชวนเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น หากสีหน้าที่แสดงออกต่อหน้าทุกคนกลับเป็นความจริงจัง เขาแสดงท่าวันทยาหัตถ์แก่ชูฮันและร้องตอบเสียงดังฟังชัด “ครับ! ท่าน!”
 
การปฏิบัติตามระเบียบของทหารที่ดูเป็นทางการสะดุดตาของทุกคน เครื่องแบบทหารของหลี่ชวนเองก็เปื้อนไปด้วยหยดเลือดสีดำของซอมบี้ ซึ่งแตกต่างจากเสื้อผ้าที่สะอาดสะอ้านของทหารหลายๆคน
 
หลังจากทำท่าวันทยาหัตถ์เสร็จ หลี่ชวนก็ยืนตัวตรงพร้อมพูดเสียงดังสุดคอและเต็มไปด้วยความภาคภูมิ “ผมชื่อหลี่ชวน อายุ 22 ปี ตำแหน่งสิบเอก ไม่ใช่ทั้งวิวัฒนาการหรือพรสวรรค์!”
หลายคนที่ได้ยินต่างมีแววตาประกาย คนธรรมดาก็สามารถเป็นทหารได้?
 
“ผม…ผมมีประสบการณ์การต่อสู้มาแล้วทั้งหมด 6 สนาม!”
 
“ครั้งแรกคือการต่อสู้เคียงข้างท่านชูฮัน สงครามครั้งนั้นคือสงครามเมืองแห่งความตาย กองกำลังของเขามีคนทั้งหมด 700 คน เราฆ่าซอมบี้ตายทั้งหมดโดยไม่มีผู้บาดเจ็บ!”
 
“ครั้งที่สองก็คือการต่อสู้ร่วมกับท่านชูฮันเช่นกัน กองทัพของเราหนึ่งร้อยคนสามารถฆ่าซอมบี้ 3,000 ตัวตายโดยไม่มีผู้บาดเจ็บ! อีกทั้งมันยังมีซอมบี้ระยะ 3 และ 4 อยู่ด้วย ซอมบี้ระยะ 3  หนึ่งร้อยตัว ในสงครามครั้งนี้ตัวผมได้ฆ่าซอมบี้ซอมบี้ระยะ 2 ไปทั้งหมดแปดตัว และซอมบี้ระยะ 1 สามสิบตัว!”
“ครั้งที่สามคือสงครามซอมบี้ และกองทัพของเรามีคนทั้งหมดหนึ่งร้อยคน ภายในเวลายี่สิบสี่ชั่วโมง เราฆ่าซอมบี้ไปได้ทั้งหมด 2,500 ตัว โดยไม่มีผู้บาดเจ็บ! ในสงครามนี้ ตัวผมฆ่าซอมบี้ระยะ 2 ไปทั้งหมดสี่สิบตัว และซอมบี้ระยะ 1 อีกนับไม่ถ้วน!”
 
“ครั้งที่สี่…!”
หลี่ชวนรายงานไปเรื่อยๆตั้งแต่สงครามครั้งแรกของสงครามเมืองแห่งความตาย ซอมบี้หลายพันตัวที่ถูกฆ่าในวันนั้น ข้อมูลทุกอย่างถูกรายงานไปทีละอันเรื่อยๆ ชูฮันพอใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้ยินและตั้งใจฟัง มันคือความสำเร็จของพวกเรา เหล่าทหารที่เหลือหนึ่งร้อยคนเองก็ภาคภูมิใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้ยินและยิ่งตกใจมากกว่าเมื่อได้เห็นสีหน้าตกใจของผู้ลี้ภัยสองร้อยคน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด