Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1350 ค่ำคืนสีเทาทำลายค่ายกล
ทันใดนั้นกลิ่นอายที่ทรงพลังก็ปะทุขึ้นด้านนอกค่ายกลวิญญาณ ในไม่ช้ากลุ่มผู้อมตะก็สังเกตเห็น “มีกลิ่นอายที่ทรงพลังอยู่ด้านหน้า!” “กลิ่นอายนี้ ผู้อมตะระดับแปด?” กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะอ้าปากค้าง “ใช่ราชันภูเขาม่วงหรือไม่?” ฟางหยวนเฝ้ามองอย่างตั้งใจ “ไม่ มันไม่ใช่ผู้อมตะแต่เป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิด…อา..” ก่อนที่เขาจะกล่าวจบประโยค “บึม!” ค่ายกลวิญญาณพบกับการโจมตีที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ค่ายกลวิญญาณทั้งหมดสั่นสะท้านขึ้นอย่างรุนแรง ห้องโถงภายในถูกทำลายลงทั้งหมด เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นแต่กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ นี่คือความแตกต่างระหว่างค่ายกลวิญญาณอมตะกับท่าไม้ตายอมตะ เมื่อค่ายกลวิญญาณอมตะถูกทำลาย ผู้อมตะจะได้รับผลกระทบย้อนกลับไม่มาก แน่นอนว่าค่ายกลวิญญาณรูปแบบการต่อสู้โบราณแตกต่างออกไป มันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงโดยเฉพาะกับผู้ควบคุมหลัก “แค่ก แค่ก” ฝุ่นควันลอยคละคลุ้งไปทั่ว ห้องโถงของฟางหยวนพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมหาศาลตกตายลง รูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นและเผยให้เห็นอาณาจักรแห่งความฝันที่ซ่อนอยู่ภายใน กลุ่มผู้อมตะยืนอยู่ด้านหน้ารูช่องโหว่และมองไปข้างนอกด้วยสายตาว่างเปล่า ที่นั่นร่างใหญ่โตกำลังอาละวาดอยู่ มันเป็นสัตว์อสูรในร่างมนุษย์สีดำ “ผู้อมตะมากมายนัก ข้าอยากกิน ข้าจะกินพวกเจ้าทั้งหมด! หลังจากกินพวกเจ้า ข้าจะเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์มากขึ้น” สัตว์อสูรร่างมนุษย์คำรามเสียงต่ำด้วยความตื่นเต้น “นี่คือ…” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะชี้นิ้วไปที่สัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวนี้และกล่าวตะกุกตะกักด้วยความตกใจ “จ้าวเย่ฮุ้ย!” ฟาหงยวนรู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล ทันทีที่สัตว์อสูรแรกกำเนิดตัวนี้ปรากฏตัว เขารู้สึกราวกับตนเองอยู่ในอาณาจักรแห่งความฝัน แต่เสียงตะโกนของกลุ่มผู้อมตะรอบๆทำให้เขาตระหนักว่ามันไม่ใช่ความฝัน ฟางหยวนไม่คาดคิดว่าจ้าวเย่ฮุ้ยจะมาที่นี่! ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของภาตใต้รู้จักสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานที่สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่คนใต้มาอย่างยาวนานตัวนี้เป็นอย่างดี เมื่อเห็นการปรากฏตัวของจ้าวเย่ฮุ้ย ขวัญกำลังใจของพวกเขาก็จมลงสู่จุดต่ำสุด นี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังอำนาจเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่ายกลวิญญาณถูกทำลายไปแล้ว ผู้อมตะระดับหกและระดับเจ็ดเหล่านี้จะป้อกันตัวได้อย่างไร? ดัวยร่างกายของพวกเขางั้นหรือ? ในโลกอันกว้างใหญ่ใบนี้มีผู้อมตะระดับเจ็ดเพียงสองคนเท่านั้นที่สามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด พวกเขาคือฟงจิวเก้อและหลิวกวนซื่อ “เราต้องป้องกัน อย่าตกใจ ค่ายกลวิญญาณของเรามีแนวป้องกันสี่ชั้น นั่นเป็นเพียงชั้นนอกสุด กระตุ้นใช้งานชั้นต่อไป” จื่อกุ้ยกล่าว เขาเป็นผู้นำของตระกูลจื่อในค่ายกลวิญญาณแห่งนี้ขณะที่ค่ายกลวิญญาณแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อ จื่อชิวหยู ดังนั้นจื่อกุ้ยจึงรู้ข้อมูลบางอย่างที่ผู้อื่นไม่รู้ ดังคาด หลังจากกระตุ้นการทำงานของค่ายกลวิญญาณ โครงสร้างเดิมที่พังทลายลงถูกละทิ้งขณะที่แนวป้องกันใหม่ปรากฏขึ้น มันไม่ได้ครอบคลุมอาณาจักรแห่งความฝันทั้งหมด แต่อาณาจักรแห่งความฝันส่วนใหญ่ยังอยู่ในแนวป้องกันนี้ กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะเร่งเข้าไปข้างใน ฟางหยวนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น นิกายเงายังไม่รู้ว่าวูอี้ไห่คือฟางหยวน ศัตรูอยู่ในที่โล่งขณะที่เขายังอยู่ในที่มืด นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจน ในเวลาเดียวกันฟางหยวนก็ยังมีข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะ คฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลวูกำลังเดินทางมา ค่ายกลวิญญาณไม่สามารถเคลื่อนไหวแต่คฤหาสน์วิญญาณอมตะสามารถทำได้ และพลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะก็จะเพิ่มขึ้นตามปริมาณพลังงานอมตะ ด้วยสิ่งนี้พวกเขาจะสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปด ด้วยการปกป้องจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ฟางหยวนมีโอกาสที่จะหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้ ‘แต่ก่อนหน้านี้คฤหาสน์วิญญาณอมตะของตระกูลวูเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด นั่นเป็นฝีมือของนิกายเงาหรือไม่?’ ฟางหยวนคิดขณะที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นมืดมน “ฮืม นี่ค่อนข้างลำบาก” ไป่หนิงปิงมองแนวป้องกันที่สองของค่ายกลวิญญาณและขมวดคิ้ว “มันยากที่จะทำลาย” ไห่ลั่วหลันถอนหายใจ เป็นเพียงเวลานี้ที่อิงอู๋เซี่ยเผยรอยยิ้มเย้ยหยันและส่งสัญญาณให้พวกนาง “อย่ากังวล เพียงหลบไป” ร่างของเทพธิดาเมี่ยวหยิน ไป่หนิงปิง และไห่ลั่วหลันสั่นสะท้านขึ้นก่อนที่พวกนางจะบินออกไปอย่างรวดเร็ว “ครืน…” ในเวลาต่อมา จ้าวเย่ฮุ้ยคำรามและปลดปล่อยคลื่นเสียงออกมา คลื่นเสียงราวกับพายุที่ทำลายทุกสิ่งกีดขวาง ต่อมา จ้าวเย่ฮุ้ยก็สูดหายใจอย่างรุนแรง ร่างกายของมันขยายใหญ่ขึ้นสองเท่า จากนั้น มันเปิดปากที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวอันแหลมคมก่อนที่ลำแสดงขนาดใหญ่จะถูกยิงออกมา ลำแสงสีเทาพุ่งเข้าปะทะแนวป้องกันของค่ายกลวิญญาณและย้อมมันให้เป็นสีเทา ท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทา! ราวกับสวรรค์พิภพหยุดนิ่ง เวลาหยุดเดิน เพียงหนึ่งลมหายใจ “บึม!” เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรง โลกทั้งใบเกิดการสั่นสะเทือน แนวป้องกันที่สองของค่ายกลวิญญาณถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ใบหน้าของกลุ่มผู้อมตะกลายเป็นซีดเผือด แนวป้องกันที่สองของค่ายกลวิญญาณถูกทำลายไปเพียงครึ่งหนึ่ง ต้องไม่ลืมว่ามันเป็นค่ายกลวิญญาณที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อมตะระดับแปด มันสามารถต่อต้านการโจมตีของสัตว์อสูรแรกกำเนิดในตำนานเช่นจ้าวเย่ฮุ้ย ไม่มีผู้เสียชีวิต “ข้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ!” บางคนอุทานและแทบร้องไห้ด้วยความยินดี “นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่เป็นเอกลักษณ์ของจ้าวเย่ฮุ้ย ค่ำคืนสีเทา! แต่เราสามารถป้องกันมันได้จริงๆ” บางคนตะโกนเสียงดัง หน้าผากของจื่อกุ้ยเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขากล่าว “นี่คือค่ายกลวิญญาณที่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หนึ่งของตระกูลจื่อสร้างขึ้น แล้วมันจะถูกทำลายง่ายๆได้อย่างไร? หากไม่ใช่เพราะการโจมตีจากภายนอกและภายในพร้อมกันก่อนหน้านี้ แนวป้องกันแรกจะยังอยู่” ‘ท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทา มันแตกต่างจากในอาณาจักรแห่งความฝันที่ข้าพบ รูปแบบของมันเปลี่ยนไปหลังจากผ่านมาหลายปีงั้นหรือ? ค่ำคืนสีเทาได้รับการพัฒนา จ้าวเย่ฮุ้ยสามารถดัดแปลงหรือมันได้รับความช่วยเหลือจากนิกายเงา? แปลก! หากพวกเขามีจ้าวเย่ฮุ้ย เหตุใดพวกเขาไม่ใช้มันในช่วงเวลาที่พวกเขาหลอมรวมวิญญาณทารกอมตะ? หรือเป็นเพราะพวกเขาไม่สามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์?’ ฟางหยวนไตร่ตรอง เทพธิดาเมี่ยวหยิน ไป่หนิงปิง ไห่ลั่วหลัน กลับมาที่ค่ายกลวิญญาณและมองแนวป้องกันที่ได้รับความเสียหายโดยไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะพวกนางไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ยังมีอิงอู๋เซี่ยตลอดไปถึงปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษอีกมากมาย นิกายเงาขาดกำลังคนแต่พวกเขาไม่ขาดแคลนทรัพยากร สำหรับปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษ พวกเขาขาดแคลนทรัพยากรและต้องไล่ล่าทรัพยากรไปตลอดชีวิต ราชันภูเขาม่วงใช้ทรัพยากรมหาศาลเพื่อระดมกำลังคนเหล่านี้ วิหคตายเพื่ออาหาร มนุษย์ตายเพื่อความมั่งคั่ง เงินยังสามารถขับเคลื่อนโลกใบนี้ แน่นอนว่าผู้อมตะเหล่านี้ไม่ได้โง่ แต่หลังจากจ้าวเย่ฮุ้ยปรากฏตัวและใช้ท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทา พวกเขาก็ตัดสินใจติดตามอิงอู๋เซี่ยโดยไม่รู้ตัว นี่แสดงให้เห็นว่านิกายเงาเข้าใจอารมณ์ของมนุษย์เป็นอย่างดี ในมุมมองของปีศาจอมตะและผู้บ่มเพาะสันโดษเหล่านี้ นอกจากราชันภูเขาม่วงยังมีจ้าวเย่ฮุ้ย พวกเขาคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้ถูกตัดสินแล้ว พวกเขาจะชนะ “ทั้งหมดเป็นไปตามคำกล่าวของนายท่านราชันภูเขาม่วง เราจะบุกเข้าไปในค่ายกลวิญญาณ ผู้ใดก็ตามที่สามารถสังหารศัตรูและขยายรูช่องโหว่จะได้รับรางวัลหลายเท่า!” อิงอู๋เซี่ยตะโกนขณะที่กองกำลังนิกายเงาโห่ร้องและพุ่งเข้าโจมตีค่ายกลวิญญาณ ด้านผู้อมตะฝ่ายธรรมะเร่งตอบสนอง “รีบปิดรูช่องโหว่” “เราไม่สามารถให้พวกเขาเข้ามา” “ข้าต้องการเวลาเพื่อกระตุ้นใช้แนวป้องกันที่สาม ทุกคนซื้อเวลาให้ข้า” “จ้าวเย่ฮุ้ยใช้ท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทาสองครั้งแล้ว ตอนนี้มันต้องพักอีกระยะหนึ่ง เราจะมอบบทเรียนให้ฝ่ายปีศาจ!” ปาเต๋อตะโกน ฟางหยวนหรี่ตาประเมินจ้าวเย่ฮุ้ย เขาสังเกตเห็นเช่นกันว่าหลังจากมันใช้ท่าไม้ตายอมตะค่ำคืนสีเทา มันเริ่มอ่อนแรงและไม่เคลื่อนไหวอีก สิ่งนี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย มีผู้อมตะจำนวนมากอยู่ที่นี่ หลายคนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับจ้าวเย่ฮุ้ยเป็นอย่างดี ท้ายที่สุดทุกครั้งที่จ้าวเย่ฮุ้ยปรากฏตัว มันจะสร้างหายนะครั้งใหญ่ นั่นทำให้ผู้อมตะภาคใต้เรียนรู้และสร้างความร่วมมือเพื่อต่อต้านมัน
คอมเม้นต์