Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1341 วางกับดักวูหยง
“ข้าสามารถระบุตำแหน่งของปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ด” ไท่เมี่ยนเฉินกล่าว ตั้งแต่ตระกูลไท่สามารถจับกุมปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดได้ครั้งหนึ่ง พวกเขาก็พยายามรับสืบทอดมรดกนี้ ท่ามกลางกองกำลังใหญ่ของภาคใต้ ตระกูลไท่เป็นกองกำลังที่มุ่งเน้นเรื่องการกำจัดสมาชิกฝ่ายปีศาจ หอปราบมารของพวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นเสาหลักในการกวาดล้างปีศาจของฝ่ายธรรมะ ตอนนี้ไท่เมี่ยนเฉินกำลังใช้ท่าไม้ตายอมตะของเขาเพื่อค้นหาเบาะแส “ทางนี้” ไท่เมี่ยนเฉินบินไปทางทิศตะวันออก เบาะแสถูกค้นพบตลอดทาง หลังจากหนึ่งชั่วโมงพวกเขาก็กลับมาที่บ่อเลือด เฉียวจื่อไคตกใจมาก “เหตุใดเราถึงกลับมาที่นี่?” ไท่เมี่ยนเฉินเผยรอยยิ้มเย็นชา “สถานที่ที่อันตรายที่สุดก็คือสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด” เฉียวจื่อไคยกย่อง “ช่างกล้าหาญนัก!” วูหยงมองไปรอบๆก่อนจะหยุดสายตาที่บ่อเลือด “บึม!” บ่อเลือดที่เงียบสงบปะทุขึ้นอย่างกะทันหัน อสูรโลหิตระดับสัตว์อสูรเดียวดายจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นและยังมีอสูรโลหิตระดับสัตว์อสูรบรรพกาลอีกจำนวนหนึ่ง กองทัพอสูรโลหิตพุ่งเข้าโจมตีกลุ่มของวูหยงอย่างดุเดือด อสูรโลหิตเป็นสัตว์อสูรชนิดหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นตามธรรมชาติด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งเลือด อสูรโลหิตเป็นสัตว์อสูรประเภทเดียวกับอสูรหิมะ อสูรโคลน อสูรวิญญาณ และอสูรปี “บ่อเลือดมีสิ่งเหล่านี้อยู่ด้วยงั้นหรือ?” ไท่เมี่ยนเฉินกล่าวเบาๆและมองไปที่วูหยง วูหยงแสดงออกด้วยความประหลาดใจ บ่อเลือดแห่งนี้เป็นมรดกที่แท้จริงของบรรพชนบ่อเลือด หลังจากเฉิงเยี่ยนเฟยรับมรดก ตระกูลวูจึงเข้ายึดครองบ่อเลือดและทำให้มันเป็นแหล่งทรัพยากรของตน “อสูรโลหิตจำนวนมากซุ่มโจมตี ไม่แปลกใจเลยที่ปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดซ่อนตัวอยู่ที่นี่” เฉียวจื่อไคกล่าว อสูรโลหิตอยู่ในรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน บางตัวมีศีรษะเป็นเสือมีร่างกายเป็นม้า บางตัวมีศีรษะเป็นอสรพิษมีร่างกายเป็นกระต่าย บางตัวร่างกายเป็นเต่าแต่มีหางเป็นมังกร บางตัวเหมือนต้นไม้ ขณะที่บางตัวเหมือนผลไม้ยักษ์ กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่ว กองทัพอสูรโลหิตซุ่มโจมตีอย่างกะทันหัน กระทั่งกองกำลังใหญ่ยังต้องระวังตัว แต่การแสดงออกของเฉียวจื่อไคและไท่เมี่ยนเฉินยังไม่เปลี่ยน พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะถอยเพราะในขณะนี้มีวูหยงยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา “ขยะ” วูหยงสบถ เขาโกรธมาก เพราะในช่วงเวลานี้เขาต้องจัดการกับปัญหาจากทุกทิศทาง เมื่อปีศาจอมตะภาพลวงตาทั้งเจ็ดกระทำการเลวทรามและทำให้ผู้อมตะสองคนของตระกูลวูเสียชีวิต วูหยงจึงไม่สามารถอดทน สายลมสีเขียวพัดมาอย่างแผ่วเบา อสูรโลหิตไม่ตระหนักถึงสิ่งนี้ เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ผู้อมตะทั้งสาม พวกมันก็เริ่มระเบิดราวกับฟองสบู่ อสูรโลหิตระเบิดตัวเองทีละตัวและไม่สามารถสร้างความเสียหายใดๆให้แก่ผู้อมตะทั้งสาม เสียงคำรามและการโจมตีของพวกมันเหมือนเรื่องตลก กองทัพสัตว์อสูระดับหกและระดับเจ็ดกลายเป็นเปราะบางราวกับของเล่นกระดาษต่อหน้าวูหยง นี่คือพลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปด! ‘ท่าไม้ตายอมตะชนิดใด…กลิ่นอายของมันถูกปกปิดไว้อย่างสมบูรณ์ ข้าตรวจไม่พบสิ่งใดเลย’ เฉียวจื่อไคตกใจ ไท่เมี่ยนเฉินแสดงออกด้วยความเคร่งขรึมขณะจ้องมองแผ่นหลังของวูหยง อสูรโลหิตไม่ได้กำเนิดขึ้นจากความว่างเปล่า เมื่อพวกมันปรากฏตัวขึ้น บ่อเลือดก็ค่อยๆเหือดแห้งลง เฉียวจื่อไคถอนหายใจกับการสูญเสียนี้ แต่วูหยงไม่สนใจ เขาค้นพบการคงอยู่ของร่างสีรุ้งในช่วงเวลานี้ “เจ้าคือผู้กล้าที่พยายามท้าทายอำนาจของตระกูลวูงั้นหรือ?” วูหยงกล่าวเสียงเรียบแต่ทุกคนตระหนักถึงเจตนาสังหารจากน้ำเสียงของเขา ผู้อมตะลึกลับเผยรอยยิ้มขมขื่น “ท่านวูหยง ข้าไม่มีทางเลือก ข้าถูกบังคับ โปรดเข้าใจข้าด้วย” “หือ?” การแสดงออกของวูหยงเปลี่ยนไป วินาทีต่อมาสภาพแวดล้อมของเขาก็เปลี่ยนแปลงไป ท้องฟ้าและภูเขาเลือนหายไป มันถูกแทนที่ด้วยมิติสีม่วง ผู้อมตะทั้งสามไม่สามารถรับรู้ทิศทางและระยะทาง “ครืน…” อสูรโลหิตที่ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้รวมตัวเป็นแม่น้ำเลือดไหลอยู่ด้านล่าง คลื่นโลหิตและความคิดสีม่วงพุ่งเข้าโจมตีผู้อมตะทั้งสาม “บัดซบ! อสูรโลหิตเป็นเพียงการจุดเริ่มต้น มันเป็นกับดัก ไม่ดีแล้ว!” เฉียวจื่อไคสาปแช่ง ไท่เมี่ยนเฉินมองไปรอบๆด้วยความประหม่า “นี่เป็นท่าไม้ตายเขตแดนอมตะหรือค่ายกลวิญญาณ?” เขาไม่สามารถทำความเข้าใจสถานที่แห่งนี้ วูหยงรู้สึกไม่มีความสุข เขาพ่นลมหายใจออกมาและโบกแขนเสื้อ “ครืน!” พายุหมุนขนาดใหญ่โอมล้อมผู้อมตะทั้งสามเอาไว้ ความคิดสีม่วงร่วงหล่นลงมาแต่ไม่สามารถทำลายการป้องกันนี้ วูหยงไม่ขยับแต่สะบัดแขนขวาขึ้น หนอนตัวน้อยบินออกจากปลายนิ้วของเขาและตกลงไปในแม่น้ำเลือดก่อนจะกลายเป็นมังกรวายุที่มีร่างกายยาวหนึ่งร้อยเมตร แม่น้ำเลือดก่อตัวเป็นวังน้ำวนและพยายามกลืนกินมังกรวายุเข้าไป ดวงตาของวูหยงส่องประกายแสงสีเขียว มังกรวายุคำรามและระเบิดดาบวายุออกไปทุกหนทุกแห่ง ดวงตาของเฉียวจื่อไคและไท่เมี่ยนเฉินเบิกกว้างด้วยความตกใจ ทุกการโจมตีของวูหยงล้วนเป็นท่าไม้ตายอมตะที่โดดเด่นทั้งสิ้น หากพวกเขาต้องต่อสู้กับคนผู้นี้ พวกเขาจะไม่สามารถขยับเขยื้อนก่อนจะถูกสังหาร วูหยงสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังได้อย่างง่ายดายราวกับการหายใจ ‘ทุกกระบวนท่าของเขาซ่อนความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้’ หัวใจของเฉียวจื่อไคยังคงว้าวุ่น ‘ท่าไม้ตายอมตะมังกรวายุที่กลายเป็นดาบวายุจำนวนนับไม่ถ้วน…วูหยงไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนในข่าวลือ เขามีพลังการต่อสู้ที่น่าเหลือเชื่อ…คนผู้นี้ซ่อนความแข็งแกร่งได้ลึกนัก’ ดวงตาของไท่เมี่ยนเฉินส่องประกายแวววาว เขามองแผ่นหลังของวูหยงและรู้สึกดีใจที่ตระกูลไท่เป็นพันธมิตรกับตระกูลวู ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้สร้างปัญหาให้กับตระกูลวู วูตู๋ซิ่วและวูหยงเป็นแม่ลูก อดีตเหมือนสายลมกรรโชกแรงที่พัดผ่านยอดเขา ในขณะที่คลื่นลูกหลังเป็นพายุหมุนที่พัดอยู่ใต้หุบเขา พวกเขามีบุคลิกที่แตกต่างกัน แต่พวกเขาก็ครอบครองพลังอำนาจอันเป็นที่สุดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามแม้การโจมตีของวูหยงจะรุนแรงแต่สภาพแวดล้อมยังไม่เปลี่ยนแปลง แม่น้ำเลือดแยกออกเป็นสองสายและขยายใหญ่ขึ้นยิ่งกว่าก่อนหน้า การแสดงออกของเฉียวจื่อไคเปลี่ยนไป ท่าไม้ตายชนิดใดที่สามารถกักขังผู้อมตะระดับแปด? ความสงสัยของเขาอยู่ได้ไม่นานเพราะในไม่ช้าร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นจากแม่น้ำเลือดและให้คำตอบแก่พวกเขา “นี่คือค่ายกลแม่น้ำโลหิตสีม่วงของข้า วูหยง หากเจ้าไม่ใช้วิญญาณอมตะระดับแปดสองดวงที่เจ้าได้รับจากแม่ของเจ้า ด้วยวิญญาณอมตะสายลมอ่อนระดับแปดเพียงดวงเดียว เจ้าจะไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้” ราชันภูเขาม่วงกล่าว เขาไม่ได้อยู่ในร่างมนุษย์จิ๋วแต่อยู่ในร่างมนุษย์ธรรมดา การแสดงออกของเฉียวจื่อไคและไท่เมี่ยนเฉินเปลี่ยนไป วูหยงก็เคลื่อนไหวเช่นกัน นี่เป็นเพราะราชันภูเขาม่วงไม่ได้ปกปิดกลิ่นอายของผู้อมตะระดับแปด “เจ้าคือผู้ใด? เจ้าต้องการสิ่งใด?” วูหยงถาม ราชันภูเขาม่วงยิ้มและมองวูหยงด้วยดวงตาสีม่วงสดใส “แน่นอนว่ามันคือการฆ่าเจ้า เมื่อเจ้าตาย ตระกูลวูจะตกสู่ความโกลาหล ตระกูลอื่นจะโจมตีมันและมันจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ” วูหยงตะลึงก่อนจะเงยหน้าหัวเราะขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาหัวเราะด้วยความโกรธ หลังจากหัวเราะ เขาก็เปิดปากกล่าว “ช่างกล้าหาญนัก ในกรณีนี้ข้าจะฆ่าเจ้าและสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง” กลิ่นอายที่ทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างของวูหยง วิญญาณจำนวนนับไม่ถ้วนถูกกระตุ้นใช้งาน เฉียวจื่อไคและไท่เมี่ยนเฉิงเร่งล่าถอย พวกเขาตระหนักถึงภัยคุกคามร้ายแรง รอยยิ้มของราชันภูเขาม่วงหายไป ท่าไม้ตายอมตะของวูหยงก่อนหน้านี้ไม่สามารถตรวจจับได้ กลิ่นอายของมันถูกปกปิดเอาไว้ แต่ท่าไม้ตายนี้กลับตรงข้าม มันเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่น่าเหลือเชื่อ พิจารณาจากมุมมองนี้ กล่าวได้ว่าวูหยงกำลังต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมด ท่าไม้ตายชนิดใดที่วูหยงไม่สามารถปกปิดกลิ่นอาย? ไม่ว่ามันจะเป็นท่าไม้ตายชนิดใด มันก็มีพลังอันเป็นที่สุดและไม่อาจหยุดยั้ง ด้วยเจตจำนงของราชันภูเขาม่วง ความคิดสีม่วงจำนวนนับไม่ถ้วนระเบิดออกมาจากความว่างเปล่า ….. ตระกูลวู ห้องโถงบรรพชน “นี่…นี่…นี่…นี่…” ใบหน้าของผู้อมตะของตระกูลวูที่ดูแลห้องโถงแห่งนี้กลายเป็นซีดเผือด เขาตะโกนด้วยความตกใจ “ป้ายวิญญาณและโคมไฟวิญญาณของท่านวูหยงถูกทำลาย! ท่านวูหยง…ตายแล้ว!?”
คอมเม้นต์