Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1130
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1130 วิธีใช้วิญญาณของไห่ฟานแปลโดย iPAT ท่าไม้ตายอมตะจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏต่อหน้าฟางหยวน ฟางหยวนควบคุมความตื่นเต้นและตรวจสอบพวกมันอย่างรอบคอบ มีท่าไม้ตายอมตะในทุกแง่มุมไม่ว่าจะเป็นสายโจมตี ป้องกัน เคลื่อนไหว รักษา และอื่นๆ ทั้งหมดเป็นท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ส่วนใหญ่ใช้วิญญาณปีอมตะและวิญญาณอมตะราชินีมดเป็นแกนกลาง มีท่าไม้ตายไม่กี่ท่าที่ใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเป็นแกนกลาง ด้วยการใช้วิญญาณอมตะระดับแปดเป็นแกนกลาง พลังอำนาจของท่าไม้ตายเหล่านั้นจะพุ่งสูงขึ้นถึงจุดที่น่าสะพรึงกลัว ฟางหยวนมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง เขามีท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยซึ่งใช้วิญญาณทัศนคติระดับแปดเป็นแกนกลาง แน่นอนว่าองุ่นเขียวอมตะระดับหกของฟางหยวนไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นใช้งานวิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำ มันแตกต่างจากวิญญาณทัศนคติที่ใช้เพียงพลังจิต ‘วิญญาณทัศนคติเป็นวิญญาณอมตะในตำนาน ในแง่ของการใช้งาน วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำไม่สามารถเปรียบเทียบกับมัน อย่างไรก็ตามคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าวิญญาณทัศนคติก็เคยเป็นของไห่ฟานงั้นหรือ?’ ท่าไม้ตายเหล่านี้ทำให้ฟางหยวนรู้สึกได้เปิดหูเปิดตา มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับการประสานงานของวิญญาณระบุไว้อย่างชัดเจน เพียงอ่านข้อมูลเหล่านี้ มันก็ทำให้เขาได้รับประโยชน์มากแล้ว มีท่าไม้ตายอมตะมากกว่าสามสิบท่า พวกมันแบ่งเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับหก ระดับเจ็ด และระดับแปด ไห่ฟานยังทิ้งความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์มากมายของเขาเอาไว้เบื้องหลัง ‘ปีที่อุดมสมบูรณ์?’ ฟางหยวนพบท่าไม้ตายอมตะที่น่าสนใจ ปีที่อุดมสมบูรณ์ นี่คือชื่อของท่าไม้ตายอมตะที่ใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลาง จากคำอธิบาย กระทั่งไห่ฟานก็ยังต้องใช้เวลาสองหรือสามวันในการกระตุ้นใช้งานท่าไม้ตายนี้ ค่าใช้จ่ายของมันมหาศาลแต่ผลลัพธ์ของมันจะปรากฎขึ้นในปีถัดไป มันจะช่วยเพิ่มผลผลิตให้กับแหล่งทรัพยากรที่อยู่ในมิติช่องว่างของผู้อมตะ นี่เป็นท่าไม้ตายที่ใช้พัฒนามิติช่องว่าง ท่าไม้ตายประเภทนี้หาได้ยากและมีประโยชน์มาก มันคู่ควรกับเป็นท่าไม้ตายของไห่ฟานอย่างแท้จริง ตามข้อมูลที่ระบุไว้ ไห่ฟานไม่ได้คิดค้นท่าไม้ตายนี้ขึ้นมาด้วยตนเองแต่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับผู้อมตะนักปรุงยา ฟางหยวนจำเป็นต้องใช้วิญญาณระดับมนุษย์จำนวนมากเพื่อกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้ หากเขาต้องการใช้มัน เขาต้องซื้อวิญญาณเหล่านั้นจากสวรรค์สีเหลือง แน่นอนว่าเขาต้องใช้ท่าไม้ตายนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่เพียงเขาต้องจ่ายด้วยพลังงานอมตะจำนวนมาก เขายังต้องจ่ายด้วยวิญญาณปีอีกจำนวนไม่น้อย ‘วิญญาณปีในการครอบครองของข้ามีอายุเพียงไม่กี่ร้อยปี ข้าต้องยกระดับมันก่อนจะใช้ท่าไม้ตายอมตะปีที่อุดมสมบูรณ์ มิฉะนั้นวิญญาณปีอมตะอาจกลายเป็นวิญญาณปีระดับมนุษย์ หากเป็นเช่นนั้นมันจะถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่’ ฟางหยวนยังอ่านต่อไป ท่ามกลางท่าไม้ตายเหล่านี้ บางท่ามีพลังอำนาจที่น่าอัศจรรย์ แต่สำหรับฟางหยวน พวกมันไม่ได้สำคัญมากนัก ฟางหยวนไม่เคยลืมเป้าหมายที่แท้จริงของเขา นั่นคือค้นหาวิธีชะลอเวลาในมิติช่องว่างจักรพรรดิ ‘หนึ่งวันเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งปี!’ ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้นเมื่อพบเป้าหมาย ท่าไม้ตายอมตะนี้ใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณวันระดับมนุษย์เป็นส่วนสนับสนุน ด้วยการกระตุ้นใช้งานเพียงครั้งเดียว มันสามารถลดความเร็วของวันเวลาในมิติช่องว่าง ดังชื่อของมัน ผลลัพธ์คือหนึ่งวันในมิติช่องว่างจะขยายไปถึงหนึ่งปี อย่างไรก็ตามไห่ฟานได้ตั้งข้อสังเกตบางอย่าง การขยายเวลาหนึ่งวันให้เท่ากับหนึ่งปีเป็นเรื่องของทฤษฎีเท่านั้น ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ของแต่ละบุคคล ตัวอย่างเช่นผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่มีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางความแข็งแกร่งเป็นหลักจะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าเมื่อใช้ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ผู้อมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเช่นไห่ฟานมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นหลัก ผลกระทบที่เขาได้รับย่อมดีกว่า นอกจากนี้การใช้ท่าไม้ตายกับแดนศักดิ์สิทธิ์ระดับต่ำและสูงก็จะได้รับผลกระทบที่แตกต่างเช่นกัน ‘หนึ่งเดือนเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งปี’ ฟางหยวนอ่านต่อไปและพบท่าไม้ตายอมตะที่คล้ายกับท่าไม้ตายอมตะหนึ่งวันเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งปี มันสามารถขยายเวลาหนึ่งเดือนในมิติช่องว่างให้กลายเป็นหนึ่งปี มันใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลางและใช้วิญญาณเดือนระดับมนุษย์เป็นส่วนสนับสนุน วิญญาณวัน วิญญาณเดือน วิญญาณปี พวกมันเป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด นอกจากท่าไม้ตายหนึ่งวันเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งปีและหนึ่งเดือนเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งปียังมีท่าไม้ตายที่คล้ายกันอีกสองท่า นั่นคือหนึ่งปีเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งเดือนและหนึ่งปีเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งวัน พวกมันใช้ชะลอเวลาและเร่งเวลาในมิติช่องว่าง การชะลอเวลาในมิติช่องว่างจะทำให้ผู้อมตะพบกับภัยพิบัติช้าลง ตัวอย่างเช่นกรณีของฟางหยวน เขาต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสองเดือน หลังจากใช้ท่าไม้ตายอมตะหนึ่งวันเคลื่อนผ่านราวกับหนึ่งปี เขาจะพบภัยพิบัติครั้งต่อไปในอีกหลายสิบปีหรืออาจกระทั่งหลายร้อยปี เมื่อพบสิ่งนี้ฟางหยวนจึงสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขารู้สึกมีความสุขมาก ในภัยพิบัติพิภพสามครั้งแรก เขาแทบไม่สามารถรักษาชีวิต แต่ด้วยท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเหล่านี้ สถานการณ์ของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว! นับจากนี้ไปฟางหยวนสามารถตัดสินใจได้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเมื่อใด เขาสามารถชะลอเวลาหรือเร่งเวลาได้ตามใจปรารถนา ‘แต่ตอนนี้ข้าไม่จำเป็นต้องทำให้เวลาในมิติช่องว่างของข้าช้าลง ข้าควรเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพเพื่อเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าอีกระยะหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือจากชูตู๋ มีโอกาสสูงที่ข้าจะสามารถก้าวข้ามภัยพิบัติเหล่านั้น’ ฟางหยวนคิด การชะลอเวลาในมิติช่องว่างมีข้อเสียเช่นกัน ทรัพยากรของเขาจะเติบโตได้ช้าเช่นเดียวกับระดับการบ่มเพาะที่จะก้าวหน้าช้าลง ‘ตอนนี้ข้าควรเตรียมวิญญาณระดับมนุษย์เหล่านี้เอาไว้ แต่ข้าต้องการวิญญาณวันและวิญญาณเดือนจำนวนมาก แม้จะสามารถหาซื้อได้ในสวรรค์สีเหลือง ข้าก็ยังต้องใช้เวลานานในการรวบรวมพวกมัน’ มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานไม่ได้ทิ้งวิญญาณวัน วิญญาณเดือน และวิญญาณปีระดับมนุษย์เอาไว้ ฟางหยวนต้องหามันมาด้วยตนเอง แม้จะยากลำบากแต่ตราบเท่าที่พยายาม ฟางหยวนจะประสบความสำเร็จในที่สุด ‘ท่าไม้ตายอมตะทั้งสี่มาเป็นชุด พวกมันสามารถแก้ไขเวลาของมิติช่องว่างได้อย่างสมบูรณ์ ไห่ฟานผู้นี้ช่างน่าทึ่งนัก’ ในตอนท้ายไห่ฟานยังกล่าวว่า หากผู้สืบทอดได้รับวิญญาณวันอมตะหรือวิญญาณเดือนอมตะ ท่าไม้ตายอมตะทั้งสี่ไม่จำเป็นต้องใช้วิญญาณวันและวิญญาณเดือนระดับมนุษย์เป็นส่วนสนับสนุนอีก นอกจากนั้นผลลัพธ์ของมันจะยิ่งดีขึ้น ‘ข้าโชคดีมากแล้วที่ได้รับวิญญาณปีอมตะ สำหรับวิญญาณวันอมตะและวิญญาณเดือนอมตะ ข้าสามารถลืมพวกมันไปก่อน’ ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ของเขาประสบความสำเร็จแล้ว ฟางหยวนพอใจกับมันมาก เขาอ่านต่อไป ท่าไม้ตายอมตะ ปีแห่งความแข็งแกร่ง! ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลาง มันสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพให้กับผู้ใช้งาน ความแข็งแกร่งที่ได้รับขึ้นอยู่กับจำนวนปีที่ใช้ นี่เป็นสิ่งที่ไห่ฟานคิดค้นขึ้นมาด้วยตนเอง เขาใช้วิญญาณบนเส้นทางแห่งกาลเวลาทดแทนวิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ท่าไม้ตายอมตะ ความร่วมมือหนึ่งร้อยปี! ด้วยการใช้วิญญาณปีอมตะเป็นแกนกลาง เขาสามารถเลียนแบบทักษะบนเส้นทางแห่งข้อมูลเพื่อสร้างข้อตกลงพันธมิตรที่สามารถคงอยู่ได้ถึงหนึ่งร้อยปี ‘ข้าสามารถใช้สิ่งนี้กับชูตู๋ หลังจากทั้งหมดข้อตกลงก่อนหน้าถูกจัดการโดยเขา ข้อตกลงจากฝ่ายเดียวไม่สามารถเชื่อถือ’ ฟางหยวนคิด ท่าไม้ตายอมตะ ปีแห่งโชคร้าย! นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่ใช้วิญญาณอมตะปีไหลผ่านราวกับสายน้ำเป็นแกนกลาง ฟางหยวนไม่สามารถใช้มันได้ในเวลานี้ เขาทำได้เพียงมองมันด้วยความหลงใหลเท่านั้น ท่าไม้ตายนี้เกี่ยวกับเส้นทางแห่งโชค มันเป็นท่าไม้ตายสายป้องกัน เมื่อศัตรูโจมตีเข้ามา พวกเขาจะพบกับโชคร้ายเป็นเวลาหนึ่งปี ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาจะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ‘ไห่ฟานสมกับเป็นผู้อมตะระดับแปดอย่างแท้จริง!’ ‘หากเขาเกิดที่ภาคกลาง เขาจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมกับวังสวรรค์อย่างแน่นอน นอกจากนั้นเขายังสามารถเป็นตัวตนระดับสูงของวังสวรรค์’ การใช้เส้นทางของตนเองเพื่อบรรลุผลลัพธ์บนเส้นทางสายอื่น นี่คือสัญลักษณ์ของผู้อมตะระดับแปด ผู้อมตะทั่วไปไม่สามารถทำสิ่งนี้ ความสามารถของไห่ฟานคล้ายคลึงกับเจ้าวังสวรรค์คนก่อน เจ้าวังสวรรค์คนก่อนเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญา เมื่อโป้ชิงตื่นขึ้นและส่งดาบแสงออกไปทำลายหอคอยดวงตาสวรรค์ เจ้าวังคนก่อนยังสามารถใช้ทักษะของตนเลียนแบบทักษะบนเส้นทางแห่งการหลอมรวมเพื่อซ่อมแซมหอคอยดวงตาสวรรค์ ‘โอ้ ภัยพิบัติไม่รู้จบสิ้น? นี่คือสิ่งใด?’ ในส่วนท้ายฟางหยวนยังพบท่าไม้ตายอมตะลึกลับ แกนกลางของมันคือวิญญาณอมตะราชินีมด เมื่อผู้อมตะกระตุ้นใช้งานมัน พวกเขาสามารถเลื่อนภัยพิบัติสวรรค์พิภพออกไปได้หนึ่งครั้ง นั่นหมายความว่าในภัยพิบัติครั้งต่อไป พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสองภัยพิบัติพร้อมกัน หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก มีคำแนะนำของไห่ฟานเกี่ยวกับท่าไม้ตายนี้บันทึกไว้ ท่าไม้ตายนี้ไม่สามารถใช้งานมากเกินไป แม้พวกเขาจะสามารถเลื่อนเวลาเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ แต่มันจะทำให้สวรรค์โกรธแค้น ภัยพิบัติในอนาคตจะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกมาก นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่คิดค้นขึ้นโดยไห่ฟานแต่เขาเคยใช้มันเพียงครั้งเดียวตลอดช่วงชีวิตของเขา เพื่อเตือนบุตรหลาน ไห่ฟานจึงตั้งชื่อมันว่าภัยพิบัติไม่รู้จบสิ้น ‘ข้าสามารถใช้มันในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น มันไม่ใช่วิธีที่ดีแต่มันก็มีประโยชน์มาก’ ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจและดีใจที่ได้รับสิ่งนี้ ความโกรธของสรรค์ เขาไม่สามารถดูแคลน หลังจากใช้เวลาพอสมควร ฟางหยวนก็อ่านเนื้อหาทั้งหมดเกี่ยวกับท่าไม้ตายอมตะจนครบถ้วน มันครอบคลุมในทุกแง่มุมรวมถึงวิธีการพัฒนามิติช่องว่าง แม้มรดกที่แท้จริงของไห่ฟานจะมีวิญญาณอมตะเพียงไม่กี่ดวง แต่ด้วยการผสานงานกับวิญญาณระดับมนุษย์ ผู้อมตะสามารถสร้างท่าไม้ตายอมตะเพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นี่เป็นบรรทัดฐานของโลกแห่งการบ่มเพาะ แม้ไห่ฟานจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่มีหนึ่งในสิบสุดยอดกายา ดังนั้นเขาจึงต้องใช้วิธียกระดับวิญญาณเพียงไม่กี่ดวงและใช้พวกมันในแง่มุมต่างๆ จำนวนวิญญาณไม่ใช่สิ่งสำคัญ มีเพียงผู้อมตะที่ใช้งานพวกมันที่สิ่งสำคัญที่สุด ไห่ฟานเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องนี้ เขามีวิญญาณอมตะเพียงสามดวงแต่เขาสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจในทุกแง่มุมและทุกเส้นทางที่เขาต้องการ ไม่มีวิญญาณอมตะที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงผู้อมตะที่แข็งแกร่งที่สุด ประโยคนี้ยังใช้ได้เสมอ
คอมเม้นต์