Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1053
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1053 เผชิญหน้าภัยพิบัติ (1) (อ่านฟรี)แปลโดย iPAT “ผู้ใดจะคิดว่าข้าต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง” ฟางหยวนถอนหายใจและบินลงมาจากท้องฟ้า มันเป็นพื้นที่สีขาว แดนน้ำแข็งที่ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นหิมะ สายลมอันหนาวเย็นพัดมาพร้อมกับเกล็ดหิมะและก้อนน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วน พายุหิมะทำให้ขอบเขตการมองเห็นของฟางหยวนลดลงอย่างมาก มวลอากาศเย็นทำให้ฟางหยวนต้องใช้วิญญาณหลายดวงเพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ที่นี่อยู่ในอาณาเขตของภาคเหนือ แต่มันเป็นพื้นที่ทางเหนือสุดของภูมิภาคที่รู้จักกันในนามของแดนน้ำแข็ง เดิมทีมันเคยเป็นที่ราบทุ่งหญ้า แต่หลังจากการต่อสู้ของผู้อมตะ ภูมิประเทศดั่งเดิมจึงถูกทำลาย เมื่อการต่อสู้จบลง เทพปีศาจคลั่งได้รับชัยชนะ เขาเปลี่ยนร่างเป็นวิหคน้ำแข็งบรรพกาลและแช่แข็งสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ไห่ลั่วหลันเคยเลือกสถานที่แห่งนี้เพื่อก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ เหตุผลเป็นเพราะแดนน้ำแข็งแห่งนี้มีความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของเทพปีศาจคลั่งซ่อนอยู่ เมื่อผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่งหรือเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงมาที่นี่เพื่อก้าวข้ามเข้าสู่ขอบเขตอมตะ มันจะกระตุ้นให้ความหมายที่แท้จริงบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้น การได้รับความหมายที่แท้จริงเหล่านี้ไม่ต่างจากการได้รับคำสั่งสอนโดยตรงจากเทพปีศาจคลั่ง ความทรงจำปรากฏขึ้นในใจของฟางหยวน มันยังกระจ่างชัดเหมือนพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ตอนนี้ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนแปลงไป เทพธิดาหลี่ซานตายไปแล้ว ไห่ลั่วหลันกับไท่เป่ยหยุนเฉิงถูกบังคับให้ทรยศ ตอนนี้เหลือตัวเขาเพียงผู้เดียว สถานการณ์ของเขาแตกต่างจากก่อนหน้าอย่างมาก ‘ผู้ใช้วิญญาณบนเส้นทางความแข็งแกร่งและเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงจะได้รับความหมายที่แท้จริงจากเทพปีศาจคลั่งเพียงครั้งเดียวเมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ แต่ด้วยท่าไม้ตายอมตะมิติภัยพิบัติ มันอาจทำให้ข้าได้รับความหมายที่แท้จริงซ้ำๆ’ ฟางหยวนคิด ‘ไห่ลั่วหลันมีสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริง การก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะของนางอันตรายมาก นางแทบจะไม่สามารถผ่านมันไปได้ ด้วยมิติช่องว่างจักรพรรดิของข้า สถานการณ์ของข้าย่อมอันตรายกว่านางมาก’ ฟางหยวนรู้สึกกดดัน ผู้อมตะส่วนใหญ่มักใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาการเกิดภัยพิบัติ แต่ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะไม่มีความก้าวหน้าขณะที่ทรัพยากรที่ผลิตได้ก็จะลดน้อยลง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องคำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ บรรพชนผมยาวเคยใช้วิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลากับแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เวลาในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาเดินค่อนข้างช้า ‘เวลาในมิติช่องว่างของข้าเดินค่อนข้างเร็ว ข้าต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติพิภพทุกสองเดือนของโลกภายนอก แม้การบ่มเพาะของข้าจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับทรัพยากรที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่หากข้าไม่สามารถก้าวข้าม ข้าอาจตายและไม่เหลือสิ่งใด หลังภัยพิบัติครั้งนี้ ข้าต้องหาวิธีบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเพื่อชะลอเวลาในมิติช่องว่างของข้า’ นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับอนาคต แต่ในเวลานี้สิ่งสำคัญที่สุดคือภัยพิบัติที่กำลังจะมาถึง “ฮืม!” ฟางหยวนตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในมิติช่องว่างของเขาในที่สุด ‘วางมิติช่องว่างลงที่นี่!’ ฟางหยวนกัดฟันแน่นก่อนที่เขาจะเข้าไปในมิติช่องว่างจักรพรรดิ เก้าชั้นฟ้า ห้าภูมิภาค มันทั้งกว้างใหญ่และว่างเปล่า ไม่มีทรัพยากรใดๆเพราะฟางหยวนยังไม่ได้เริ่มจัดการกับมัน มีเพียงวิญญาณที่อาศัยอยู่ที่นี่เท่านั้น โดยปกติแล้วมิติช่องว่างจะอยู่ในร่างกายของผู้อมตะ แต่เมื่อมันถูกวางลง ผู้อมตะจะถูกดึงเข้าสู่มิติช่องว่างของตน ตอนนี้มิติช่องว่างของเขากำลังเชื่อมต่อและดูดซับปราณสวรรค์พิภพของโลกภายนอกเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตัวมันเอง เมื่อผู้อมตะเผชิญหน้ากับภัยพิบัติ พวกเขามักจะวางมิติช่องวางลงบนพื้น มีอีกสถานการณ์หนึ่งที่พวกเขาจะวางมิติช่องว่างลง มันคือกรณีที่ผู้อมตะมีทรัพยากรมากเกินไปแต่ปราณสวรรค์พิภพที่อยู่ในมิติช่องว่างมีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นพวกเขาจึงต้องวางมิติช่องว่างลงเพื่อดูดซับปราณสวรรค์พิภพจากโลกภายนอก ตอนนี้ร่างของฟางหยวนหายไปจากแดนน้ำแข็งเรียบร้อยแล้ว มิติช่องว่างของเขาไม่ต่างจากแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกและไม่สามารถมองเห็น พายุหิมะยังโหมกระหน่ำ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆราวกับฟางหยวนไม่เคยมาที่นี่ ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ แต่ในเวลาต่อมาปราณสวรรค์พิภพปริมาณมหาศาลก็ถูกดึงดูดเข้าสู่มิติช่องว่างของเขา หลังจากชั่วครู่ปราณสวรรค์พิภพที่ไหลเข้าสู่มิติช่องว่างก็เริ่มชะลอตัวลงจากจุดเริ่มต้น กล่าวได้ว่าความอยากอาหารของมิติช่องว่างมีอยู่อย่างจำกัด ฟางหยวนสงบนิ่งมาก เขามีประสบการณ์มากมาย หลังจากเห็นปราณสวรรค์พิภพหลั่งไหลเข้ามา เขาก็เริ่มจัดการวิญญาณของเขา เขาส่งวิญญาณออกไปยังโลกภายนอกและติดตั้งค่ายกลวิญญาณเอาไว้รอบๆ เพียงไม่กี่นาทีการจัดเตรียมทั้งหมดก็เสร็จสิ้น ฟางหยวนไม่ลังเลที่จะใช้พลังงานอมตะเพื่อกระตุ้นการทำงานของวิญญาณเหล่านี้ วิญญาณอมตะส่องประกายขึ้นในมิติช่องว่างของฟางหยวนทีละดวง ในที่สุดพวกมันก็เชื่อมต่อกับวิญญาณระดับมนุษย์ที่อยู่ด้านนอก แสงสีฟ้าขยายตัวออกไปปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของแดนน้ำแข็งเอาไว้ ท่าไม้ตายอมตะ มิติภัยพิบัติ! วิญญาณอมตะที่เป็นแกนกลางของท่าไม้ตายนี้เป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ดเกือบทั้งหมด ดังนั้นฟางหยวนจึงต้องใช้องุ่นเขียวอมตะจำนวนมหาศาล โชคดีที่เขาได้รับหินวิญญาณอมตะจำนวนมากมาจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา เขากระทั่งยืมวิญญาณบัวสวรรค์อมตะมาด้วย สิบห้านาทีต่อมาท่าไม้ตายของเขาก็เสร็จสมบูรณ์ ฟางหยวนใช้พลังงานอมตะที่มีอยู่ไปมากถึงหกสิบส่วน ‘ค่าใช้จ่ายนี้เกินกว่าจำนวนที่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวไว้ไปไกลมาก! แต่เขายังกล่าวอีกว่าค่าใช้จ่ายจะผันแปรตามมิติช่องว่างของแต่ละคน’ ก่อนที่ภัยพิบัติจะมาถึง ฟางหยวนก็ใช้พลังงานอมตะไปแล้วมากกว่าครึ่ง อย่างไรก็ตามเขาเจรจากับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไว้แล้ว หากจำเป็น เขาสามารถยืมหินวิญญาณอมตะจากจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาได้ทันที แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ส่วนภัยพิบัติจะเป็นอย่างไรยังไม่มีผู้ใดสามารถบอกได้ ฟางหยวนรู้สึกถึงภัยพิบัติที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ในช่วงเวลานี้เขาตรวจสอบวิญญาณในการครอบครองอีกครั้ง หลังจากหนึ่งชั่วโมงภัยพิบัติก็มาถึงในที่สุด มิติช่องว่างจักรพรรดิเกิดการสั่นสะเทือนพร้อมกับปราณสวรรค์พิภพที่ปรากฏขึ้นจากทุกทิศทาง ปราณสวรรค์และปราณพิภพปะทะกันทำให้พายุหิมะก่อตัวขึ้น ในไม่ช้ามิติช่องว่างจักรพรรดิก็กลายเป็นโลกเยือกแข็ง ฟางหยวนเห็นสิ่งนี้และรู้สึกมีความสุข ‘มิติภัยพิบัติได้ผลจริงๆ!” “โฮก…” อสูรหิมะค่อยๆปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหน่ำ “ภัยพิบัติอสูรหิมะ?” ฟางหยวนพึมพำขณะที่วิญญาณที่บินอยู่รอบๆสร้างเกาะป้องกันให้เขาก่อนที่เขาจะส่งวิญญาณอมตะดาบบินพุ่งออกไป “ปุ” วิญญาณอมตะดาบบินแทงทะลุศีรษะของอสูรหิมะและพุ่งออกด้านหลังก่อนที่มันจะบินกลับมาหาฟางหยวน อสูรหิมะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแต่มันยังพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างบ้าคลั่ง อสูรหิมะเหมือนอสูรโคลนและสัตว์อสูรเมฆาบรรพกาล พวกมันสามารถฟื้นฟูร่างกายหากไม่สามารถทำลายมันได้ในครั้งเดียว นี่ถือเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยาก วิญญาณอมตะดาบบินเพียงดวงเดียวยังไม่สามารถสังหารพวกมัน “แต่สิ่งที่ข้าใช้ตอนนี้คือท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดาบ” ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเย็น อสูรหิมะวิ่งมาสองสามก้าวก่อนที่มันจะกรีดร้อง ปรากฏว่าแก่นพลังงานของมันถูกทำลายไปแล้ว ร่างกายที่สร้างขึ้นจากหิมะของมันจึงหลอมละลายกลายเป็นกองหิมะอยู่บนพื้น ท่าไม้ตายอมตะ ดาบประหารชีวิต!
คอมเม้นต์