Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1034

อ่านนิยายจีนเรื่อง Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1034 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1034 ภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น
แปลโดย iPAT 
 
ภาคใต้ ภูเขาโคลนเน่าเปื่อย
 
มันเป็นเวลาเที่ยงวันที่อากาศแจ่มใส
 
กลางป่าบนภูเขาโคลนเน่าเปื่อย เด็กหนุ่มกำลังต่อสู้กับหมีตัวโต
 
บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
 
มันเป็นหมีสีน้ำตาลสูงสามเมตร ปากของมันเผยให้เห็นคมเขี้ยวอันแหลมคมขณะที่ดวงตาสีแดงจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความโหดเหี้ยม
 
เด็กหนุ่มที่กำลังเผชิญหน้ากับหมีสีน้ำตาลตัวนี้มีอายุเพียงสิบห้าหรือสิบหกปี
 
เขาดูตัวเล็กและอ่อนแอมากเมื่อเปรียบเทียบกับหมี
 
อย่างไรก็ตามดวงตาของเขากลับไม่ปรากฏความหวาดกลัวใดๆ
 
“โฮก…”
 
หมีสีน้ำตาลอ้าปากคำรามและพุ่งเข้าโจมตีเด็กหนุ่ม
 
แม้ร่างกายของมันจะใหญ่โตและหนักหน่วง แต่มันเป็นนักล่าที่รู้วิธีระเบิดพลัง
 
ความเร็วของมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน
 
การแสดงออกของเด็กหนุ่มเปลี่ยนแปลงไป เขากระตุ้นใช้วิญญาณในช่วงเวลาสำคัญ
 
ด้วยความช่วยเหลือจากวิญญาณ เขาสามารถสร้างระยะห่างออกไปเล็กน้อย
 
หมีสีน้ำตาลพลาดเป้าและพุ่งชนต้นไม้อย่างรุนแรง
 
ต้นไม้ถูกโค่นลงทันทีด้วยพลังทำลายล้างของหมีสีน้ำตาล
 
ฝูงนกบินแตกรังและหลบหนีกระจัดกระจายออกไปด้วยความตื่นตระหนก
 
เด็กหนุ่มสูดหายใจลึก ‘โชคดีที่ข้าหลบได้ทันเวลา หากข้าถูกโจมตี แม้ข้าจะมีวิญญาณสายป้องกัน แต่ข้าอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสในครั้งเดียว’
 
หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตาย เด็กหนุ่มยิ่งมุ่งมั่นมากขึ้น
 
เขาตะโกนด้วยดวงตาที่ส่องประกาย “หมีโง่! รับปราณดาบของข้า!”
 
ก่อนที่เขาจะกล่าวจบประโยค นิ้วชี้กับนิ้วกลางของเขาก็สะบัดตัวออกไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว
 
ในเสี้ยวพริบตาต่อมา
 
“ฟิ้ว…”
 
ปราณดาบสีขาวพุ่งออกจากนิ้วของเด็กหนุ่ม
 
มันบินผ่านอากาศก่อนจะปะทะแผ่นหลังของหมีสีน้ำตาล
 
แต่วิญญาณป่าในร่างของหมีสีน้ำตาลยังปกป้องมันเอาไว้
 
ปราณดาบปะทะแผ่นหลังที่แข็งราวกับเหล็กกล้าทำให้มันแตกสลายไป
 
ร่างกายใหญ่โตของหมีสีน้ำตาลไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย
 
มันหันหน้ากลับมาทางเด็กหนุ่ม
 
เด็กหนุ่มตกตะลึง
 
“หมีตัวนี้มีวิญญาณสายป้องกัน! เช่นนี้ปราณดาบของข้าจะทำร้ายมันได้อย่างไร? ท่านปู่จงใจวางวิญญาณป่าไว้ในร่างของหมีตัวนี้ใช่หรือไม่?” เด็กหนุ่มตะโกน
 
“ฮ่าฮ่าฮ่า หลานชายของข้า ข้าเดินทางมากว่าสิบลี้เพื่อตามหาหมีสีน้ำตาลตัวนี้ มันเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีของเจ้า” เสียงดังลงมาจากต้นไม้
 
ปรากฏว่าปู่ของเด็กหนุ่มนั่งมองการต่อสู้อยู่บนยอดไม้
 
การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเด็กหนุ่มคือวิญญาณปราณดาบ
 
แต่มันมีผลกับหมีสีน้ำตาลน้อยมาก ปราณดาบแต่ละเล่มของเด็กหนุ่มสามารถตัดขนของหมีตัวนี้ออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงไม่มีทางเลือกนอกจากหลบไปรอบๆ
 
หมีสีน้ำตาลโจมตีอย่างดุเดือด แต่สติปัญญาของมันไม่สูงนัก
 
แม้เด็กหนุ่มจะไม่สามารถเอาชนะ แต่เขาก็สามารถหลบเลี่ยงและทำให้หมีสีน้ำตาลพุ่งชนต้นไม้อย่างต่อเนื่อง
 
เห็นสภาพที่น่าอนาถของเด็กหนุ่ม ชายชราหัวเราะ “เด็กโง่ ตอนนี้เจ้ารู้จุดอ่อนของวิญญาณปราณดาบแล้วหรือยัง? มันโจมตีด้วยการเจาะทะลวง หากฝ่ายตรงข้ามสามารถป้องกัน เจ้าจะสูญเสียพลังวิญญาณไปโดยเปล่าประโยชน์ เอาล่ะ รับวิญญาณดวงนี้ไป”
 
หลังกล่าวจบคำ ชายชราโยนวิญญาณดวงหนึ่งให้กับเด็กหนุ่ม
 
เด็กหนุ่มพยายามรับวิญญาณดวงนั้นกระทั่งเกือบล้มลงและถูกโจมตีโดยหมีสีน้ำตาล
 
หลังจากสร้างระยะห่างออกมา เขาจึงสามารถยืนอย่างมั่นคงอีกครั้ง
 
“นี่คือวิญญาณบ่อโคลน!”
 
เด็กหนุ่มจำวิญญาณดวงนี้ได้
 
มันไม่ใช่วิญญาณของเขาแต่ปู่ของเขาให้เขายืม
 
หลังจากส่งพลังวิญญาณให้กับวิญญาณบ่อโคลน มันจึงส่องประกายขึ้น
 
เด็กหนุ่มสะบัดมือส่งลำแสงพุ่งออกไปใต้เท้าหมีสีน้ำตาล
 
“ปุด ปุด ปุด…”
 
ฟองอากาศจำนวนมากผุดขึ้นมาและทำให้พื้นกลายเป็นบ่อโคลนเล็กๆ
 
สองเท้าของหมีสีน้ำตาลจมลงไปทันที
 
มันพยายามหลบหนีออกจากบ่อโคลน นั่นทำให้เศษโคลนกระเด็นเข้าปะทะใบหน้าและร่างกายของเด็กหนุ่มแต่เขาไม่สนและกระตุ้นใช้วิญญาณบ่อโคลนอีกครั้ง
 
บ่อโคลนขยายวงกว้างและลึกขึ้น
 
หมีสีน้ำตาลที่กำลังจะหลุดจากบ่อโคลนกลับถูกกักขังเอาไว้อีกหน
 
ยิ่งมันดิ้นรนเท่าใด มันก็ยิ่งจมลึกลงไปเท่านั้น
 
สุดท้ายจึงเหลือเพียงศีรษะของหมีสีน้ำตาลที่โผล่ขึ้นมาจากบ่อโคลน มันคำรามด้วยความโกรธและไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้
 
“ในที่สุดข้าก็ชนะ” เด็กหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นด้วยความเหนื่อยล้า
 
ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดขาว พลังวิญญาณของเขาถูกใช้ไปจนเกือบหมด
 
ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ปู่ของเด็กหนุ่มกระโดดลงมาจากต้นไม้และลอยลงบนพื้นด้านหน้าเด็กหนุ่มอย่างช้าๆ
 
“เด็กโง่ ตอนนี้เข้ารู้ข้อดีของวิญญาณบ่อโคลนแล้วหรือยัง? ปราศจากวิญญาณดวงนี้ เจ้าจะเอาชนะหมีตัวนี้ได้อย่างไร?” ชายชรากล่าว
 
เด็กหนุ่มถอนหายใจก่อนจะหัวเราะเบาๆ “ท่านปู่ ท่านจงใจทำเรื่องนี้เพราะต้องการให้ข้ายอมแพ้ต่อเส้นทางแห่งดาบและฝึกฝนเส้นทางแห่งปฐพีของตระกูลหนี่ถูกต้องหรือไม่?”
 
ปู่ยกนิ้วโป้งขึ้นและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรัก “เด็กบ้า เจ้าเป็นคนฉลาด หากเจ้าใช้สติปัญญาในการบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งปฐพี มันจะยอดเยี่ยมมาก”
 
เด็กหนุ่มกล่าวต่อ “แต่ข้าชอบปราณดาบ มันดูดีมากเมื่อข้าปลดปล่อยปราณดาบออกไป เส้นทางแห่งปฐพีน่าขยะแขยง ดูสภาพข้าตอนนี้ ร่างกายของข้าเปรอะเปื้อนไปด้วยดินโคลน มันดูแย่มาก”
 
ได้ยินเช่นนี้ช่วยไม่ได้ที่ปู่จะต้องการเปิดปากอบรมต่อไป
 
แต่ในจังหวะนี้เสียงระฆังสัญญาณกลับดังขึ้น
 
ทั้งสองสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงนี้
 
เด็กหนุ่มกระโดดลุกขึ้นจากพื้นและมองลงที่ตีนเขา “เสียงสัญญาเตือนภัยของตระกูลงั้นหรือ?”
 
“ไป!” ปู่คว้าร่างเด็กหนุ่มและวิ่งลงจากภูเขาไปอย่างรวดเร็ว
 
เด็กหนุ่มตกใจมาก ‘นี่คือพลังอำนาจของผู้ใช้วิญญาณระดับห้างั้นหรือ? ช่างรวดเร็วนัก!’
 
หลังจากไม่กี่สิบลมหายใจ ชายชราก็วางร่างเด็กหนุ่มลง
 
เด็กหนุ่มรู้สึกเวียนศีรษะและเกือบอาเจียนออกมา
 
“ท่านผู้นำ”
 
“คารวะท่านผู้นำ”
 
เสียงทักทายจากกลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลดังขึ้น
 
เด็กหนุ่มลุกขึ้นอย่างยากลำบากก่อนจะตระหนักว่าเขาอยู่ที่กำแพงหมู่บ้านตระกูลหนี่
 
ปู่ของเขาคือหนี่คุน ผู้นำคนปัจจุบันของตระกูลหนี่และเป็นผู้ใช้วิญญาณระดับห้า
 
หนี่คุนขมวดคิ้วถาม “เกิดสิ่งใดขึ้น?”
 
“ท่านผู้นำ มีเหตุด่วน เชิญดู”
 
ผู้อาวุโสของตระกูลกระตุ้นการทำงานของค่ายกลวิญญาณสายตรวจสอบและส่งข้อมูลให้กับหนี่คุน
 
หนี่คุนมองเห็นภาพเหตุการณ์ที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งร้อยลี่อย่างชัดเจน
 
ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความสับสน “ฝูงสัตว์อสูร! แปลกมาก เราพึ่งกวาดล้างฝูงสัตว์อสูรไปเมื่อหนึ่งปีที่ผ่านมา พวกมันไม่ควรรวมตัวกันได้รวดเร็วเช่นนี้”
 
“ถูกต้อง เราก็คิดว่ามันแปลก”
 
“ความผิดปกตินี้ต้องมีเบื้องหลัง”
 
“อย่างไรก็ตามเราต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเป็นอันดับแรก แต่คำถามก็คือพวกเราสามารถปกป้องหมู่บ้านจากคลื่นสัตว์อสูรครั้งนี้ได้หรือไม่?”
 
การแสดงออกของหนี่คุนกลายเป็นมืดครึ้ม
 
อันตรายพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหันขณะที่พวกเขาไม่มีเวลาเตรียมตัว
 
หลานชายของหนี่คุนจ้องมองด้วยความงุนงง ก่อนหน้านี้มันยังเป็นวันเวลาที่สงบสุข แต่ตอนนี้หมู่บ้านกลับกำลังจะถูกทำลาย
 
“คลื่นสัตว์อสูรครั้งนี้รุนแรงเกินไป เราไม่พบการโจมตีระดับนี้มานับสิบปีแล้ว ตระกูลหนี่กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์แห่งชีวิตและความตาย ใช้การป้องกันทั้งสามชั้นของเรา ผู้อาวุโสรอง ผู้อาวุโสสามเร่งนำกลุ่มผู้อาวุโสไปกระตุ้นการทำงานของค่ายกลวิญญาณเพลิงสวรรค์! ผู้อาวุโสหก ดูแลห้องโถงพยาบาล ผู้อาวุโสเจ็ด ตรวจสอบค่ายกลวิญญาณเคลื่อนย้ายสถานที่ หากไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ส่งเด็กๆของเราออกไป!” หนี่คุนออกคำสั่ง
 
ผู้อาวุโสทุกคนตระหนักถึงสถานการณ์และเร่งเคลื่อนไหวทันที
 
ฝูงสัตว์อสูรพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
 
เด็กหนุ่มหนี่เจี้ยนที่อยู่บนกำแพงหมู่บ้านเห็นสิ่งนี้และรู้สึกหวาดกลัวกระทั่งใบหน้าเปลี่ยนเป็นซีดขาว
 
เขาไม่เคยเห็นฝูงสัตว์อสูรที่ดุร้ายเช่นนี้มาก่อน
 
โดยปกติคลื่นสัตว์อสูรมักจะเป็นสัตว์อสูรสายพันธุ์เดียวแต่ครั้งนี้มันกลับเป็นฝูงสัตว์อสูรหลากหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็นหมาป่า เสือ วัว จิ้งจอก อสรพิษ และอื่นๆ ปะปนกันอยู่
 
“แปลก เหตุใดสัตว์อสูรเหล่านี้ไม่ต่อสู้กันเองแต่สามารถรวมกลุ่มและโจมตีหมู่บ้านของเรา?” หนี่คุนพึมพำ
 
ในเวลาต่อมาร่างกายของหนี่คุนก็สั่นสะท้านขึ้นขณะที่ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่จ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
 
ฝูงสัตว์อสูรหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน
 
พวกมันอยู่ห่างจากกำแพงหมู่บ้านประมาณหนึ่งหมื่นก้าว
 
นี่ทำให้ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่มองหน้ากันด้วยความงุนงงและหวาดกลัว
 
เสือภูเขาที่มีร่างกายใหญ่โตตัวหนึ่งเดินออกมาด้านหน้า
 
ฟางหยวนเอนกายอยู่บนแผ่นหลังของมันด้วยดวงตาครึ่งเปิดครึ่งปิดขณะจ้องมองไปยังหมู่บ้านตระกูลหนี่
 
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของฟางหยวน ผู้ใช้วิญญาณตระกูลหนี่ยิ่งตกใจมากขึ้น
 
ดวงตาของหนี่เจี้ยนเบิกกว้าง ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าคลื่นสัตว์อสูรครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่เป็นภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้น!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด