Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 935
ผลประโยชน์ที่ไม่คาดคิดแปลโดย iPAT “ฟิ้ว…” ฟางหยวนเหมือนลูกศรที่พุ่งผ่านท้องฟ้าไปด้วยความเร็วสูง บนพื้นเต็มไปด้วยทรัพยากรอมตะแต่เขาไม่ได้มองสมบัติที่ไร้คุณค่าเหล่านั้น หลังจากชั่วครู่ฟางหยวนเริ่มมองเห็นสัตว์อสูรเดียวดายตัวหนึ่งนอนอยู่บนพื้น มันมีร่างกายใหญ่โตราวกับเนินเขาและไม่ขยับเขยื้อน ฟางหยวนคุ้นเคยกับสัตว์อสูรชนิดนี้เพราะมันก็คือเต่าแก่นแท้ที่เขาพบในถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาว ฟางหยวนลดความเร็วลงและเคลื่อนที่เข้าไปหาเต่าแก่นแท้ที่ตายไปนานแล้ว จากสภาพศพ ลำคอของมันเหมือนถูกโจมตีจนแตกหัก อย่างไรก็ตามการแสดงออกของมันกลับสงบนิ่งและผ่อนคลายมาก นี่ทำให้ฟางหยวนค่อนข้างงุนงง “ท่ามกลางทรัพยากรอมตะที่ไร้ค่ามีซากศพของสัตว์อสูรอยู่ด้วยงั้นหรือ?” ฟางหยวนพยายามรวบรวมชิ้นส่วนซากศพของเต่าแก่นแท้ แต่หัวใจของเขาก็จมดิ่งลงอีกครั้งเมื่อชิ้นส่วนร่างกายของเต่าแก่นแท้สูญสลายกลายเป็นทรายสีม่วงดังเช่นก่อนหน้า ฟางหยวนหรี่ตามองก่อนจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าและเดินทางต่อไป ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็พบซากศพของสัตว์อสูรเดียวดายตัวที่สอง มันคือสัตว์อสูรจ้าวพิภพ มันมีร่างกายเหมือนมนุษย์ หางเป็นอสรพิษ ใบหน้าเหมือนค้างคาว ผิวหนังสีดำเหมือนชุดเกราะ บนหน้าอกของมันยังมีแส้เนื้อประมาณหกสิบเส้นที่ยาวกว่ายี่สิบเมตร ศพของสัตว์อสูรจ้าวพิภพค่อนข้างสมบูรณ์ แต่เมื่อฟางหยวนพยายามเก็บเกี่ยว มันกลับกลายเป็นทรายสีม่วงอีกหน ฟางหยวนไม่แปลกใจอีกต่อไป เขาพึมพำ “เต่าแก่นแท้เป็นสัตว์อสูรของภาคกลางขณะที่สัตว์อสูรจ้าวพิภพเป็นสัตว์อสูรที่พบในภาคเหนือ…” เขายังสำรวจต่อไป ฟางหยวนพบกองซากศพของสัตว์อสูรเดียวดายตัวใหม่อย่างรวดเร็ว “คชสารไม้จันทร์สามตัว!” ฟางหยวนอ้าปากค้าง คชสารไม้จันทร์มีค่ามากกว่าเต่าแก่นแท้และสัตว์อสูรจ้าวพิภพเพราะคชสารไม้จันทร์เป็นสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีพลังการต่อสู้เทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ด คชสารไม้จันทร์เป็นสัตว์อสูรหายากไม่ว่าจะในภูมิภาคใดก็ตาม แต่ตอนนี้ซากศพของมันกลับนอนอยู่ตรงหน้าฟางหยวนถึงสามตัว ต่อมาฟางหยวนยังพบซากศพสัตว์อสูรเดียวดายและสัตว์อสูรบรรพกาลอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นหมาป่าเทพจันทรา สุนัขดาราเดียวดาย ม้าละอองทราย วานรเทพน้ำแข็ง ม้าลายมังกร กระเรียนเก้ามงกุฎ อินทรีย์มงกุฎเหล็ก ปลามังกรเดียวดาย หมีพุ่มหนาม และอื่นๆ ยิ่งเขาเข้าใกล้จุดศูนย์กลางมากเท่าใด เขาก็พบซากศพมากเท่านั้น ฟางหยวนยังพบราชาแพะเขาเดี่ยวของภาคเหนือ จระเข้ลาวาเดือดของภาคใต้ หมีเพชรของภาคกลาง เต่าปล่องควันของทะเลตะวันออก และสัตว์อสูรจากทั้งห้าภูมิภาค “โอ้ ค้างคาวมรณะ…” ฟางหยวนชะลอความเร็วโดยไม่ได้ตั้งใจ ค้างคาวมรณะเป็นสัตว์อสูรเดียวดายบนเส้นทางแห่งห้วงมิติแต่มันยังด้อยกว่าซากศพของค้างคาวมรณะบรรพกาลที่ฟางหยวนเคยพบในไท่ฉี “กิเลนจันทร์เสี้ยว!” ร่างของฟางหยวนแข็งค้างทันที กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือมีกิเลนจันทร์เสี้ยวที่มีชีวิตอยู่ตัวหนึ่ง มันถือเป็นสมบัติล้ำค่าของพวกเขา “สัตว์อสูรบรรพกาล…ดูเหมือนมันจะเป็นสุนัขเสี้ยวสวรรค์…” ฟางหยวนตรวจสอบอย่างละเอียด หลังจากทั้งหมดเขาไม่เคยเห็นสัตว์อสูรชนิดนี้มาก่อน จากบันทึก สุนัขเสี้ยวสวรรค์อาศัยอยู่ในสวรรค์สีขาวเท่านั้น ดังนั้นมันจึงทำให้ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น ฟางหยวนค่อนข้างมีความรู้รอบตัวแต่เขายังไม่รู้จักสัตว์อสูรและพืชอสูรมากมายที่อยู่ที่นี่ “มิติแห่งนี้ค่อนข้างกว้างใหญ่ ข้าบินมานานแล้วแต่ยังไม่พบขอบของค่ายกลวิญญาณ” แต่เรื่องนี้ไม่เกินความคาดหมายของฟางหยวน เขาพยายามอนุมานค่ายกลวิญญาณนี้และตระหนักว่ามันเป็นค่ายกลวิญญาณบนเส้นทางแห่งห้วงมิติขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตามฟางหยวนยังรู้สึกว่าเขาประเมินมันต่ำเกินไป “ดูเหมือนการอนุมานของข้ายังไม่บรรลุถึงจุดสำคัญของมัน” “ผู้ใดเป็นผู้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมา? ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อน ทรัพยากรทั้งหมดที่อยู่ที่นี่อาจเป็นผลงานของเทพอมตะหรือเทพปีศาจ?” ฟางหยวนพยายามคาดเดา กระทั่งผู้อมตะระดับแปดก็ไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้เพียงลำพัง เนื่องจากกำแพงภูมิภาค ผู้อมตะระดับแปดไม่สามารถเดินทางไปยังภูมิภาคอื่นได้โดยง่าย นี่เป็นเหตุผลที่นิกายโบราณทั้งสิบไม่ส่งผู้อมตะระดับแปดมาตรวจสอบเบื้องหลังการล่มสลายของวังแปดสิบแปดเปลวเพลิงที่แท้จริงแต่ส่งเพียงผู้อมตะระดับเจ็ดและผู้อมตะระดับหกมายังภาคเหนือเท่านั้น แน่นอนว่าเมื่อบรรลุเป็นผู้อมตะระดับเก้า กำแพงภูมิภาคจะไม่สามารถจำกัดการเคลื่อนไหวของพวกเขาได้อีกต่อไป “หากไม่ใช่ผู้อมตะระดับเก้าก็ต้องเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลอยู่ในทั้งห้าภูมิภาค” แม้จะมีการคงอยู่ของสวรรค์สีเหลืองแต่มันก็ไม่สามารถแลกเปลี่ยนสินค้าได้ถึงระดับนี้ หลังจากทั้งหมดธุรกรรมขนาดใหญ่จะถูกบันทึกไว้เสมอ แต่ฟางหยวนไม่เคยได้ยินว่ามีการแลกเปลี่ยนสินค้าระดับนี้มาก่อน ฟางหยวนไม่รู้จักสถานที่แห่งนี้มากนัก ในชีวิตก่อนหน้า เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับมันเท่านั้น กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือสามารถพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและกระทั่งเหนือกว่ากองกำลังพันธมิตรผีดิบสาขาหลัก เหตุผลที่พวกเขาอธิบายกับผู้คนก็คือมรดกที่ซ่อนอยู่ในโลกใต้บาดาลแห่งนี้ พวกเขาพบวิธีลบสถานะผีดิบจากที่นี่และสามารถกู้คืนชีวิตให้กับผีดิบอมตะจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ผีดิบอมตะที่บ่มเพาะอยู่อย่างสันโดษจำนวนนับไม่ถ้วนจึงเข้าร่วมกับพวกเขาและทำให้กองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือเติบโตขึ้นอย่างมหาศาล แต่ไม่นานหลังจากนั้นกองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือกลับถูกทำลายโดยหม่าหงหยุน ฟางหยวนไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมิติแห่งนี้มากนักแต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพบทำให้เขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น “ทิศทางที่ข้ากำลังมุ่งหน้าไปควรจะถูกต้องเนื่องจากทรัพยากรอมตะที่ปรากฏเริ่มหายากมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใดเป็นคนจัดการเรื่องนี้? นี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก บางทีกระทั่งวังสวรรค์ก็ยังไม่สามารถบรรลุความสำเร็จระดับนี้” วังสวรรค์เป็นกองกำลังที่ปกครองภาคกลางทั้งหมดและยังมีเครือข่ายอยู่ในอีกสี่ภูมิภาค ในช่วงห้าร้อยปีหลังจากนี้ สัตว์ประหลาดมากมายจะปรากฏตัวขึ้น นี่ทำให้ฟางหยวนตระหนักถึงเรื่องนี้ ทุกกองกำลังมีวิธีพัฒนาองค์กรของตน วิธีของวังสวรรค์ก็คือปกครองภาคกลางทั้งหมดอย่างเปิดเผย “กองกำลังที่สร้างสถานที่แห่งนี้ต้องเป็นกองกำลังที่มีเครือข่ายอยู่ในห้าภูมิภาค บางทีมันอาจเป็นกองกำลังลับที่ซ่อนอยู่…โอ้ ที่นั่นคือ…” ฟางหยวนมองเห็นเงาสีม่วงอยู่ด้านหน้า มันเป็นพื้นที่ว่างเปล่า บนพื้นทรายสีม่วงไม่มีทรัพยากรอมตะใดวางอยู่ พื้นที่นี้มีลักษณะเป็นวงกลมที่มีรัศมีอย่างน้อยสองกิโลเมตร ปราศจากเสียงและสายลม ฟางหยวนลอบตกใจ “ที่นี่คือจุดศูนย์กลางของค่ายกลวิญญาณ ดูเหมือนจะเคยเกิดการระเบิดที่รุนแรงขึ้นที่นี่!” เมื่อฟางหยวนบินเข้าไปใกล้ แสงที่ส่องประกายขึ้นมาจากพื้นทรายดึงดูดความสนใจของเขา เขาร่อนลงบนพื้นและเห็นปีกเล็กๆจมอยู่ในพื้นทราย มันไม่ใช่ปีกนกแต่เป็นปีกที่โปร่งใสเหมือนปีกแมลงปอ อย่างไรก็ตามกลิ่นอายของมันกลับทำให้ฟางหยวนต้องกลืนน้ำลายลงคอ กลิ่นอายของสัตว์อสูรแรกกำเนิด! แม้จะเป็นเศษชิ้นส่วนของซากศพแต่มันก็ป็นสัตว์อสูรแรกกำเนิดที่แท้จริง แสงระยิบระยับส่องประกายออกมาจากปีกบางๆชิ้นนี้ “มันคือพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งโลหะ ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋านี้ทำให้มันเป็นทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้า!” “เดี๋ยว! บางทีมันอาจเป็นปีกของผึ้งลายเสือ!” ฟางหยวนเกิดแรงบันดาลใจ การคาดเดานี้ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้านขึ้น ผึ้งลายเสือมีขนาดร่างกายเท่ากับเสือ มันถูกบันทึกไว้ในตำนานของมนุษย์คนแรก “พวกมันแข็งแกร่งมาก กระทั่งหยางเมิ้งก็ยังไม่สามารถเอาชนะหนึ่งในพวกมัน สุราที่เกิดจากน้ำผึ้งลายเสือเป็นสุรารสหวานชั้นยอดและมีคุณภาพสูงที่สุดในโลก” “ผึ้งลายเสือมีร่างกายใหญ่โตแต่ปีกชิ้นนี้…” ฟางหยวนรู้สึกขมขื่น เขาไม่แน่ใจ ความรู้ของเขาค่อนข้างจำกัดหากเปรียบเทียบกับทรัพยากรอมตะที่อยู่ในมิติแห่งนี้ ฟางหยวนทดลองนำปีกชิ้นนั้นขึ้นมา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้น ปีกผึ้งลายเสือไม่สูญสลายกลายเป็นทรายสีม่วงเหมือนทรัพยากรก่อนหน้า! ฟางหยวนรู้สึกตกใจและดีใจในเวลาเดียวกัน นี่เป็นชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์อสูรแรกกำเนิด มันถือเป็นทรัพยากรอมตะระดับแปด! ด้วยพลังงานแห่งเต๋าที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กล่าวได้ว่ามันเป็นทรัพยากรอมตะกึ่งระดับเก้า!
คอมเม้นต์