Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย ตอนที่ 435
“ไปหาแม่มึงเถอะ!” เฉินช่าวเย่สบถลั่นออกมาอย่างโกรธจัด และท่ามกลางสายตาช็อคของทุกคน “ปัง!” เฉินช่าวเย่ยิงเข้าที่กลางหัวหลิวยี้ทันทีตามมาด้วยเลือดที่พุ่งกระจายออกมากระเด็นโดนหน้าเฉินช่าวเย่ที่ไม่สนใจเลือดที่เปื้อนหน้าตัวเองเลยสักนิด “ปัง! ปัง!” เฉินช่าวเย่ยิงปืนใส่หัวของหลิวยี้ต่ออีกส่งผลให้ของเหลวในสมองผสมกับเลือดกระเด็นพวยพุ่งออกมาเต็มไปหมด “ไปตายซะ ไอ้เวร!” เฉินช่าวเย่คลั่งไปแล้วเรียบร้อย หลังจากได้ฆ่าหลิวยี้ เขาก็ยกปืนยิงขึ้นฟ้าอย่างรุนแรง จากนั้นก็กราดยิงปืนใส่ทหารรอบๆ เสียงที่ดังลั่นระรัวจนทุกคนแทบจะหูหนวก เฉินช่าวเย่ยิงจนกระสุนหมดแม็ก เขาถอดแม็กกระสุนออกมา วางแผนจะก็เสียบอันใหม่เข้าไป… กลุ่มทหารรอบๆต่างมึนงงอย่างทำอะไรไม่ถูก หูแทบจะพัง มันเกิดอะไรขึ้นกับพลโท เขาเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? “เฉินช่าวเย่ หยุด!” ติงเซวที่ยืนอยู่ข้างเฉินช่าวเย่ทนต่อไปไม่ไหว เธออ่อนแอกว่าใครและหลังจากได้ยินปืนยิงรัวที่น่าหวาดกลัว เธอก็รู้สึกเหมือนเยื่อหุ้มสมองถูกทำลาย เมื่อได้ยินเสียงของติงเซว เฉินช่าวเย่ก็หยุดการระบายอารมณ์ของตัวเองทันที จากนั้นก็หันหน้าไปมองติงเซวด้วยสีหน้ากระหายเลือด เขาไม่สามารถพูดอะไรได้ไปพักหนึ่ง ในที่สุดเฉินช่าวเย่ก็สงบลง หลายคนที่หูอื้อจากการกระหน่ำยิงปืนของเฉินช่าวเย่ก่อนหน้านี้เริ่มฟื้นตัวขึ้น สายตาหวาดกลัวจำนวนมากมองไปที่เฉินช่าวเย่ที่แสดงอาการคลั่งออกมา ถึงแม้จะมีเพียงแค่ไม่กี่คนที่เคยเห็นเฉินช่าวเย่ยิงปืน แต่ชื่อเสียงของเฉินช่าวเย่นั้นเป็นที่ลือชาไปทั่ว เขาจะอยู่แต่ในเมืองชั้นใน ควบคุมโดยกองทัพอย่างเคร่งครัด กล่าวกันว่าเพราะเฉินช่าวเย่ทรงพลังมากเกินกว่าจะให้อยู่ท่ามกลางผู้คนได้ คนมากมายเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวเฉินช่าวเย่ แต่วันนี้เมื่อพวกเขาได้เห็นเฉินช่าวเย่ยิงปืน พวกเขาก็พึ่งจะเข้าใจคำว่ามือปืนพระเจ้า ฉายาที่เฉินช่าวเย่ได้รับอย่างแท้จริง มันมีศพของทหารอย่างน้อยยี่สิบศพนอนกองอยู่รอบๆติงเซว แต่ก่อนที่เฉินช่าวเย่จะออกอาการคลั่งใส่หลิวยี้และยิงปืนรัว เหล่าทหารที่นับเสียงลูกปืนที่ถูกยิงออกมา รู้ดีว่าความจริงแล้วปืนของเฉินช่าวเย่นั้นเหลือกระสุนแค่ 15 นัดเท่านั้น! พูดอีกทางหนึ่ง เฉินช่าวเย่ฆ่าคนอย่างน้อยสองคนต่อหนึ่งกระสุน! กระสุนนัดเดียวฆ่าคนสองคน? มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ? มันเป็นความจริงที่พวกเขาไม่อยากจะยอมรับ นี่คือสาเหตุที่เฉินช่าวเย่ได้รับฉายาว่ามือปืนพระเจ้า คนรอบๆต่างเงียบสนิทและตกอยู่ในอาการช็อค เย้!หลิวยู่ติงที่แอบดูสถานการณ์อยู่ในรถจี๊ปตื่นเต้นมากจนเผลอแสดงอาการออกมาและปรบมือให้เฉินช่าวเย่ “จบอย่างสวยงาม! สวยงามมาก!” อารมณ์ของชูฮันก็ไม่ต่างกันหากเขาไม่ได้แสดงมันออกมาเหมือนกับหลิวยู่ติง นอกเหนือจากหวังไคแล้ว ก็ไม่มีใครสัมผัสได้ถึงจังหวะหัวใจที่เต้นรัวอย่างตื่นเต้นของเขา แตกต่างจากสีหน้าที่แสดงออกอย่างนิ่งเฉยของเขาอย่างสิ้นเชิง ในที่สุดเจ้าอ้วนนี้ก็ถูกปลุกให้ตื่น! ท่ามกลางความเงียบสนิท ในที่สุดก็มีคนตระหนักบางอย่างได้ ทหารชายวัยกลางคนที่ยังดูหนุ่มแน่นอยู่เดินฝ่าออกมาท่ามกลางฝูงชน หันหน้าไปหาเฉินช่าวเย่และกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ท่านเฉินช่าวเย่ ผมคือฟานเหวินเฉิง วิวัฒนาการระยะ 3” ถึงแม้เฉินช่าวเย่จะจ้องไปที่ติงเซวอย่างปกติ แต่ความจริงแล้วเขากำลังกังวลอย่างมากอยู่ในอก ในตอนนั้นเมื่อเขาได้ยินบางคนพูดและเรียกชื่อเขา เขาจึงหันกลับไปมอง “มีปัญหาอะไร?” เนื่องจากสถานการณ์ที่ตึงเครียดก่อนหน้านี้ เฉินช่าวเย่จึงตระหนักได้ถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของฟานเหวินเฉิงหลังจากหันกลับไปเผชิญหน้า วิวัฒนาการระยะ 3 ไม่ใช่ต่ำๆ เขาต้องปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง สายตาของฟานเหวินเฉิงกระพือไปด้วยเปลวไฟ และการออกตัวของฟานเหวินเฉิงก็บ่งบอกว่าเขาพูดแทนกลุ่มทหารเกือบสองร้อยนาย “พลโทเฉินช่าวเย่สามารถฆ่าทีมทหารของตัวเองแบบนี้ได้ด้วยเหรอครับ?” “แล้วไอ้เ*ยที่ไหนบอกพวกมึงว่าติงเซวเป็นคนของทั้งทีม?” เฉินช่าวเย่ตะคอกตอบกลับพร้อมฟาดมือใส่ เย้!หลิวยู่ติงปรบมืออย่างชื่นชมอีกครั้ง “สวยงาม!” ชูฮันยังคงนิ่งจากนั้นก็เปิดหน้าต่างออกดูสถานการณ์อย่างเงียบๆ “ท่าน!” หลังจากที่โดนเฉินช่าวเย่ตบเข้าที่หัว ฟานเหวินเฉิงวิวัฒนาการระยะ 3 พยายามระงับความโกรธของเขาเอาไว้และเปิดปากพูดต่อ “ไม่ใช่เหรอไง งั้นบอกผมมาสิว่าเธอเป็นอะไรกันแน่? นอกเหนือจากวิวัฒนาการและพรสวรรค์ มันก็เหลือแต่ผู้หญิงธรรมดา แล้วพวกเราทำผิดอะไรท่านเฉินช่าวเย่? พวกเราทุกคนมีสิทธิเล่นสนุกกับเธอได้และเธอก็ควรตอบแทนพวกเราที่คอยปกป้องคนธรรมดาแบบเธอ!” “ปัง!”อย่างไม่ลังเลเฉินช่าวเย่ยิงปืนออกมา เกิดเป็นควันสีขาวลอยขึ้นมาจากปากกระบอกปืน เกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง ทุกคนช็อคขณะจ้องไปที่เฉินช่าวเย่ที่ยิงวิวัฒนาการระยะ 3 อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หลายคนแสดงความกลัวและความไม่เข้าใจออกมาผ่านสายตา…ฆ่ากันง่ายๆแบบนี้? และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือครั้งนี้พวกเขาเห็นว่าเฉินช่าวเย่ยิงปืนอย่างไร เขาไม่แม้แต่จะตั้งท่าเล็งด้วยซ้ำ! เฉินเสี้ยนกาว เยวจึและคนอื่นๆต่างพูดอะไรไม่ออก พวกเขาก็เต็มไปด้วยความกลัวในหัวใจเช่นกัน พวกเขาถูกทหารที่มีจำนวนมากกว่ารุมทำร้าย ถึงแม้พวกเขาจะพยายามต่อสู้แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินช่าวเย่ยื่นมือเข้ามาช่วยก่อนละก็ คาดว่าติงเซวคงถูกข่มเหงไปแล้ว ในตอนนั้น เมื่อพวกเขาเห็นเฉินช่าวเย่เดินเข้ามาและไม่ลังเลที่จะฆ่าวิวัฒนาการระยะ 3 เพื่อติงเซวเลยสักนิด เฉินเสี้ยนกาวและคนอื่นๆก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาทันที ติงเซวเองก็จ้องไปที่ร่างอ้วนตรงหน้าเธอ เฉินช่าวเย่ที่มักเต็มไปด้วยความปิติอยู่เสมอกับการกิน ในตอนนี้หน้าของเขากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด หากไม่รู้ด้วยหนทางใด…ในใจของเธอกลับมองว่าเจ้าอ้วนนี้ดูดีขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินช่าวเย่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขาปรากฏตัวขึ้นมาได้ทันเวลาละก็… น้ำเสียงของเฉินช่าวเย่ฟังดูน่าเกรงขามและมีแรงดึงดูดอย่างมาก “ฉันบอกว่าเธอไม่ได้เป็นของทีม เธอเป็นของฉัน—-““ติงเซวเป็นของฉัน—-“ เมื่อมาถึงประโยคที่เกี่ยวกับติงเซว เฉินช่าวเย่ไม่สามารถทำเป็นเคร่งขรึมได้อีก หน้าของเฉินช่าวเย่เริ่มแดงก่ำ หากมันซ่อนไว้ภายใต้สีหน้ากระหายเลือดจึงทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น และในขณะที่กลุ่มทหารกำลังมองหาชโอกาสที่จะเอาคืนจากช่องโหว่—— กึก! กึก!ทันใดนั้นมันก็มีเสียงเคาะนิ้วกระทบกับตัวรถดังขึ้น สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปทางที่มาของเสียงกันหมด ในตอนนั้นเอง ชูฮันเหยียดมือออกจากตัวรถและเคาะนิ้วเป็นจังหวะ สายตาจับจ้องไปที่ติงเซวพลางยิ้มออกมา “น้องสาว เธอโอเคมั้ย?” “เฮือก!” ทันใดนั้นกว่าครึ่งของคนในที่นี้รู้สึกได้ถึงเงามืดที่มาเยือน ความวิตกกังวลและความกลัวต่างพุ่งเข้าไปในหัวใจของพวกเขา ด้วยการปรากฏตัวที่สร้างแรงกดดันของชูฮัน เฉินช่าวเย่เริ่มมีความกล้ามากขึ้น สายตาของเขาดุดันราวกับหมาป่าและกระตือรือร้นที่จะประกาศออกมาต่อหน้าทุกคน “ติงเซวเป็นภรรยาของฉัน!” “คือฉัน—เฉินช่าวเย่! พรสวรรค์ระยะ 4 ตำแหน่งพลโท มือปืนพระเจ้า!” “ใครก็ตามที่กล้ารังแกภรรยาของกู กูจะฆ่าล้างครอบครัวพวกมึงให้หมด!”
คอมเม้นต์