Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1344 บ้านไม้ไผ่สายลม

อ่านนิยายจีนเรื่อง Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1344 บ้านไม้ไผ่สายลม 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” เฉียวซื่อหลิวไม่เข้าใจ
 
ฟางหยวนไม่ตอบ เขาเดินไปรอบๆและใช้วิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญาคิด
 
สถานการณ์ซับซ้อนมาก ผู้บงการอยู่เบื้องหลังยังซ่อนตัวอยู่ในขณะที่วูหยงหายสาบสูญ ทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆหมอก แต่ฟางหยวนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องตัดสินใจดำเนินการบางอย่าง
 
เขาไม่มีทางเลือก
 
ผู้อมตะตระกูลวู ผู้อมตะตระกูลเฉียว รวมถึงสถานการณ์ของภาคใต้ ทั้งหมดราวกับถูกบังคับให้ออกจากค่ายกลวิญญาณ
 
นี่คือความไร้หนทางของฝ่ายธรรมะ
 
ฟางหยวนต้องเผชิญหน้ากับการทดสอบที่ยากลำบาก
 
เขาไม่อยากเป็นตัวหมากของตระกูลวูและตระกูลเฉียว เขาต้องการรักษาผลประโยชน์ของเขาเอาไว้ท่ามกลางสถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้
 
แต่เขาจะทำอย่างไร?
 
ฟางหยวนคาดเดาความตั้งใจและความปรารถนาของวูป๋าชงไว้แล้ว
 
‘บางทีข้าอาจใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้’ ฟางหยวนตัดสินใจ
 
เขาหยุดเดินไปรอบๆและเผชิญหน้ากับเฉียวซื่อหลิว “เมื่อพวกเขาต้องการให้ข้าเป็นผู้นำ ข้าก็จะออกคำสั่ง”
 
“อี้ไห่ นี่คือสิ่งที่วีรบุรุษจะกระทำ!” ดวงตาของเฉียวซื่อหลิวส่องประกายขึ้น
 
ฟางหยวนกล่าวต่อ “คนร้ายยังซ่อนตัวอยู่ เราต้องเดินหมากโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ข้าจะสั่งให้ผู้อมตะของตระกูลวูสละแหล่งทรัพยากรที่อยู่ห่างไหลและกลับมาที่ภูเขาวูอี้ เราจะกระตุ้นใช้งานคฤหาสน์วิญญาณอมตะเพื่อป้องกันภัยมืด”
 
เฉียวซื่อหลิวพอใจกับการกระทำของฟางหยวน
 
ฟางหยวนบอกให้นางทราบถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องภายในของตระกูลวูและไม่ปฏิบัติต่อนางในฐานะคนนอก
 
เฉียวซื่อหลิวมีความสุขมาก นางกล่าว “นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัย แต่มันก็เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ กองกำลังที่อยู่รอบๆจะบุกเข้ายึดครองแหล่งทรัพยากรเหล่านั้น”
 
“เราไม่มีทางเลือก ความแข็งแกร่งของตระกูลวูกระจัดกระจายเกินไป ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เราทำได้เพียงจัดขบวนทัพใหม่เพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต” ฟางหยวนถอนหายใจ
 
“นั่นสมเหตุสมผลแล้ว ไปกันเถอะ เราควรกลับภูเขาวูอี้” เฉียวซื่อหลิวเห็นด้วยกับความคิดของฟางหยวน
 
แต่ฟางหยวนกลับส่ายศีรษะ “ไม่ เราจะไม่ไป”
 
“มันอันตรายเกินไป”
 
“กระทั่งพี่ชายของข้ายังถูกซุ่มโจมตี เราเป็นเพียงผู้อมตะระดับเจ็ด คนร้ายสามารถจัดการพวกเราได้อย่างง่ายดาย”
 
“หากผู้บงการคนนี้ต้องการทำลายตระกูลวู เป้าหมายต่อไปของพวกเขาก็คือข้า ข้าจะออกไปตอนนี้ได้อย่างไร? เส้นทางกลับตระกูลวูอันตรายเกินไป!”
 
ข้อแก้ตัวของฟางหยวนสมบูรณ์แบบมาก
 
การแสดงออกของเฉียวซื่อหลิวกลายเป็นเคร่งขรึม นางพยักหน้า “ถูกต้อง! เราต้องปลอดภัย จะดีกว่าหากพวกเขานำคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมารับพวกเรา”
 
หลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก ในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวเฉียวซื่อหลิว นี่ทำให้ฟางหยวนสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก
 
แต่เขายังขมวดคิ้ว
 
แม้เขาจะสามารถอยู่ในค่ายกลวิญญาณต่อไป แต่เขาจะอยู่ได้นานเพียงใด?
 
ความตายของวูหยงยังไม่แน่ชัด สถานการณ์นี้ทำให้แม้แต่ฟางหยวนที่รู้อนาคตบางอย่างยังรู้สึกหมดหนทาง
 
…..
 
ในค่ายกลแม่น้ำโลหิตสีม่วง
 
ตอนนี้มีแม่น้ำเลือดมากกว่าสิบสาย
 
ความคิดสีม่วงปะทุออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง
 
ไท่เมี่ยนเฉินตะโกนเสียงดังและส่งม่านทรายออกมาปกป้องตนเอง
 
แต่ความคิดสีม่วงเปลี่ยนจากของแข็งเป็นภาพหลอนและทะลวงผ่านการป้องกันของไท่เมี่ยนเฉินเข้าไปโดยปราศจากสิ่งกีดขวาง
 
“บัดซบ!” ไท่เมี่ยนเฉินกัดฟันแน่น เขาไม่สามารถต่อต้านการโจมตีชนิดนี้
 
แต่ในช่วงเวลาวิกฤต สายลมกลับพัดมาและทำให้ภาพหลอนเหล่านั้นแตกเหมือนฟองสบู่
 
“เกือบแล้ว…” ไท่เมี่ยนเฉินหันหน้าไปขอบคุณวูหยง
 
ความคิดสีม่วงก่อตัวเป็นพายุหมุนอยู่รอบๆวูหยงพร้อมกับอสูรโลหิตที่ปะปนอยู่ภายใน
 
แต่กระทั่งการต่อสู้จะดุเดือด วูหยงก็ยังไม่ได้รับบาดเจ็บ เขายังมีพลังงานเหลือพอที่จะดูแลไท่เมี่ยนเฉินและเฉียวจื่อไคที่อยู่ห่างออกไป
 
“ค่ายกลนี้เป็นค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งภูตผี หากเราไม่กำจัดซากศพค้างคาวมรณะ มันจะไม่จบสิ้น” เฉียวจื่อไคตะโกน
 
เขาต้องตะโกนเพราะวิธีการบนเส้นทางแห่งปัญญาเช่นการถ่ายทอดความคิดใช้งานไม่ได้
 
ไท่เมี่ยนเฉินมองไปรอบๆและพบซากศพค้างคาวมรณะสามสิบถึงสี่สิบศพ ส่วนใหญ่เป็นค้างคาวมรณะระดับสัตว์อสูรเดียวดายแต่ยังมีค้างคาวมรณะระดับสัตว์อสูรบรรพกาลหลายตัวและกระทั่งค้างคาวมรณะระดับสัตว์อสูรแรกำเนิดหนึ่งตัว
 
ไท่เมี่ยนเฉินตระหนักถึงบางสิ่ง
 
ซากค้างคาวเหล่านี้ค่อยๆหลอมละลายไปกับแม่น้ำเลือด บางส่วนเปลี่ยนเป็นความคิดสีม่วง
 
แต่กระทั่งเขาจะรู้เรื่องนี้ แล้วอย่างไร?
 
ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเริ่มต่อสู้ ราชันภูเขาม่วงก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
 
วูหยงถูกขังอยู่ที่นี่และพยายามป้องกันการโจมตีทั้งหมด
 
‘ไม่ใช่เรื่องฉลาดที่จะให้ท่านวูหยงทำลายซากค้างคาวมรณะที่ผู้อมตะผมม่วงพยายามใช้มันสร้างความได้เปรียบ’
 
‘ในสถานการณ์นี้ เฉียวจื่อไค่และข้าต้องร่วมมือกันกำจัดซากศพค้างคาวมรณะ’
 
‘หากผู้อมตะผมม่วงโจมตี ท่านวูหยงจะสามารถหยุดเขาและปกป้องพวกเรา…’
 
แต่หากวูหยงทำไม่ได้หรือการช่วยพวกเขาอาจทำให้สูญเสียโอกาสที่จะทำลายค่ายกลวิญญาณนี้ วูหยงจะทำอย่างไร?
 
ไท่เมี่ยนเฉินลังเลเพราะพวกเขาขาดความไว้วางใจซึ้งกันและกัน
 
อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้กลิ่นอายที่แปลกประหลาดกลับปะทุออกมาจากใจกลางสนามรบ
 
แขนเสื้อของวูหยงกระพือขึ้นและทำให้เขาดูราวกับราชาแห่งสายลม
 
“เมื่อเจ้าต้องการเห็นวิญญาณอมตะระดับแปดที่แม่ข้าทิ้งไว้ ข้าก็จะแสดงให้เจ้าดู!” วูหยงคำรามเสียงเย็น
 
ความคิดสีม่วงถูกพัดออกไป แม่น้ำเลือดเกิดความปั่นป่วน
 
เฉียวจื่อไคตะลึงแต่ยังรู้สึกสนุนสนานอยู่ภายใน
 
ไท่เมี่ยนเฉินกรีดร้องด้วยความประหลาดใจ “นี่คือ…คฤหาสน์วิญญาณอมตะงั้นหรือ!?”
 
วูหยงโจมตีโดยปราศจากการแจ้งเตือน
 
เขาไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายอมตะแต่เขานำคฤหาสน์วิญญาณอมตะออกมาจากมิติช่องว่างของเขาโดยตรง
 
คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่ มันมีลักษณะเหมือนบ้านไม้ไผ่ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในภาคใต้และมักถูกสร้างขึ้นบนภูเขา
 
บ้านสองชั้นสร้างจากไม้ไผ่ทั้งหมด มันมีกระทั่งใบไผ่ที่แตกใบอยู่บนต้นไผ่และน้ำค้างที่หยดลงมา
 
วูหยงบินเข้าไปในบ้านไม้ไผ่หลังนี้
 
เขานั่งอยู่ริมหน้าต่างและส่งน้ำค้างสิบหยดพุ่งออกจากหลังคา
 
ทุกที่ที่พวกมันเคลื่อนผ่าน ไม่ว่าจะเป็นความคิดสีม่วงหรือแม่น้ำเลือด ทุกสิ่งจะสลายไปตามสายลม
 
“น่าประทับใจมาก!” เฉียวจื่อไคชมเชย การเคลื่อนไหวนี้ช่วยคลี่คลายวิกฤตของเขา
 
‘เดิมทีตระกูลวูมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลัง แต่ตอนนี้ดูเหมือนพวกเขาจะมีสี่! และคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้มีกลิ่นอายของวิญญาณอมตะระดับแปดสองดวง…วูหยงซ่อนมันไว้ลึกจริงๆ’ ไท่เมี่ยนเฉินคิดด้วยร่างกายที่สั่นสะท้านขึ้น
 
ผู้อมตะทั้งสองได้รับการช่วยชีวิตและสามารถเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะของวูหยง
 
“นี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่แม่ของข้าสร้างขึ้น บ้านไม้ไผ่สายลม” วูหยงอธิบาย
 
“ยอดเยี่ยมมาก! ด้วยคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ เราจะไม่เสียเปรียบและจะสามารถหลบหนี” เฉียวจื่อไครู้สึกยินดี
 
หากวูหยงใช้วิญญาณอมตะระดับแปดสองดวงของวูตู๋ซิ่วเพื่อปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะ เฉียวจื่อไคจะกังวลมากเพราะมันมีโอกาสล้มเหลว ยิ่งท่าไม้ตายทรงพลังเท่าใด มันก็ยิ่งมีโอกาสล้มเหลวและได้รับผลกระทบย้อนกลับเท่านั้น
 
วูหยงได้รับวิญญาณอมตะระดับแปดสองดวงนี้มาในระยะเวลาสั้น
 
โดยเฉพาะเมื่อเขาต้องจัดการปัญหามากมายของตระกูลวู แล้วเขาจะมีเวลาฝึกฝนท่าไม้ตายอมตะมากน้อยเพียงใด นี่เป็นปัญหาใหญ่
 
แต่ตอนนี้วิญญาณอมตะระดับแปดทั้งสองกลับถูกใช้สร้างคฤหาสน์วิญญาณอมตะ ทุกคนรู้ดีว่าคฤหาสน์วิญญาณอมตะใช้งานง่ายและไม่มีผลกระทบย้อนกลับ
 
อารมณ์ของไท่เมี่ยนเฉินซับซ้อนมากกว่า เขาคิด ‘ตระกูลวูมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะสี่หลังและนี่เป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่เหนือกว่าวิญญาณอมตะอีกสามหลัง ตราบเท่าที่พวกเขามีพลังงานอมตะเพียงพอ มันก็เหมือนกับตระกูลวูมีผู้อมตะระดับแปดสามคน วูหยงเก็บเรื่องนี้ไว้ลึกจริงๆ!’
 
ด้วยวิธี้นี้ เขาจึงต้องประเมินวูหยงใหม่อีกครั้ง
 
ตระกูลวูเผชิญหน้ากับภัยคุกคามรอบตัว พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ แต่ตราบเท่าที่เขาใช้คฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดหลังนี้ ปัญหาทั้งหมดจะได้รับการแก้ไข ชื่อเสียงของตระกูลวูจะพุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งและกองกำลังอื่นจะหยุดความโลภของพวกเขา
 
แต่วูหยงกลับไม่ทำ
 
เขาใช้กำลังของตนเองเพื่อจัดการปัญหาต่างๆและซ่อนคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้เอาไว้ กระทั่งผู้อมตะตระกูลวูก็ยังไม่รู้เรื่องนี้
 
หากพวกเขาไม่ติดอยู่ในค่ายกลนี้ ผู้ใดจะรู้ว่าวูหยงมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดซ่อนอยู่
 
‘ด้วยสิ่งนี้ วูหยงก็ไม่ด้อยกว่าวูตู๋ซิ่ว โชคดีที่ตระกูลไท่ของข้าอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของภาคใต้ ขณะที่ตระกูลวูอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียวใต้ เราอยู่ห่างกันและก่อนหน้านี้ตระกูลไท่ก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้กับตระกูลวู’ ไท่เมี่ยนเฉินลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
 
กองกำลังใหญ่ของภาคใต้ปกครองอาณาเขตของตนมาอย่างยาวนาน พวกเขาเข้าใจกันอย่างชัดเจน แต่เมื่อวูตู๋ซิ่วเสียชีวิต ความสมดุลนี้จึงพังทลายลง ดังนั้นกองกำลังอื่นจึงพยายามฉกฉวยผลประโยชน์จากตระกูลวู
 
แต่ทันทีที่คฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ถูกเปิดเผยออกไป มันจะเข้าแทนที่วูตู๋ซิ่วและสามารถปราบปรามภาคใต้อีกครั้ง
 
วูหยงวางแผนอย่างลึกซึ้ง เมื่อเขานำคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ออกมา ตระกูลอื่นจะพบกับความทุกข์ทรมานและการสูญเสียครั้งใหญ่!

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด