Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 1105
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1105 การต่อสู้ของเผ่าไห่ (1)แปลโดย iPAT สองวันต่อมา สองผู้อมตะจากเผ่าเหยาลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่ปกปิดตัวตน ผู้อมตะหญิงชื่อเหยาจูเผยรอยยิ้มสดใส “วันนี้อากาศดี อารมณ์ของข้าดีขึ้นเพราะมัน” ด้านข้างเป็นผู้อมตะหญิงอีกคนจากเผ่าเหยาชื่อว่าเหยาจือฮั่นถอนหายใจ “อากาศดี พวกเราอารมณ์ดี แต่มันตรงข้ามกับเผ่าไห่” ดวงตาของนางส่องแสงสีม่วงออกมาขณะที่นางมองลงไปด้านล่าง อีกมุมหนึ่งมีผู้อมตะชายสองคนนั่งอยู่ ทั้งสองเป็นชายวัยกลางคนที่มีเคราหนา พวกเขาสวมชุดเกราะแต่เปิดเผยมัดกล้ามเนื้อที่แขนทั้งสองข้าง พวกเขาไม่ได้สวมรองเท้าขณะที่กางเกงสั้นจนสามารถมองเห็นหัวเข่า ความแตกต่างเดียวของพวกเขาคือผิวสีดำและผิวสีเหลือง สิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของสมาชิกตระกูลฮวงจินเผ่าหนึ่ง มันคือเผ่าเมิ้ง! ผู้อมตะเผ่าเมิ้งที่มีผิวสีเหลืองมองผู้อมตะหญิงสองคนจากเผ่าเหยาและกล่าว “นางคือเหยาจือฮั่น ดวงตาของนางส่องแสงสีม่วงออกมา นั่นเป็นท่าไม้ตายที่เป็นเอกลักษณ์ของเผ่าเหยา ดวงตาหยกม่วง มันสามารถมองทะเลแดนศักดิ์สิทธิ์หรือถ้ำสวรรค์ นี่ทำให้เผ่าเหยาสามารถมองเห็นสถานการณ์ของเผ่าไห่ในแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก” ในทางกลับกัน เมิ้งซื่อเงยหน้าขึ้นและตะโกน “ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เราสามารถต่อสู้ด้วยหมัดของเรา” ทันใดนั้นเขาพลันหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพียงเพื่อที่จะพบกับแสงสีทองพุ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน “เผ่ากงมาถึงแล้ว!” “น่าประทับใจ พวกเขากระทั่งนำคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังตะวันตกออกมา เผ่ากงช่างมีความมุ่งมั่นนัก” “เผ่ากงเป็นเช่นนี้เสมอ พวกเขามักใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย อย่าไปยุ่งกับพวกเขา!” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะต่างสนทนาเกี่ยวกับสถานการณ์ ความสนใจส่วนใหญ่ของพวกเขาอยู่ที่แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กเป็นฐานทัพใหญ่ของเผ่าไห่ หากประตูทางเข้าของแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่เปิดออก คนนอกจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายใน เว้นเพียงพวกเขาจะมีท่าไม้ตายคล้ายกับดวงตาหยกม่วงของเหยาจือฮั่น ผู้อมตะฝ่ายธรรมะกำลังรอคอยอย่างอดทน จากข้อมูลที่พวกเขาได้รับ ฝ่ายปีศาจเริ่มโจมตีเผ่าไห่แล้ว ระหว่างความสับสนวุ่นวายในภาคเหนือ ปีศาจอมตะระดับเจ็ดฮวงตี้ได้เข้าแทรกแซง เขาเป็นบุคคลที่ได้รับมรดกของผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ในตำนานของภาคเหนือที่ชื่อต้าลั่ว นี่ทำให้เขามีวิธีโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นปีศาจอมตะฮวงจี้จึงเปิดฉากโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กเป็นคนแรก หากถึงจุดหนึ่งแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กจะพังทลายและเต็มไปด้วยรูช่องโหว่ ด้วยวิธีนี้แม้ประตูของแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กจะไม่เปิดออก ผู้อมตะทั้งหมดของภาคเหนือก็ยังสามารถเข้าไปได้อย่างอิสระ “ทุกท่าน ข้า กงเอ๋อ ขอเชิญทุกท่านโจมตีเผ่าไห่พร้อมกัน” ด้านนอกคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังตะวันตก ผู้อมตะระดับเจ็ดของเผ่ากงกล่าว ‘สหายกงเอ๋อ ข้อมูลของพวกเราถูกต้อง เจ้ามาจริงๆ’ ‘ฮ่าฮ่า เผ่ากงต้องการเป็นผู้นำ หากพวกเขาอยู่ในคฤหาสน์วิญญาณอมตะ พวกเขาจะเป็นผู้นำกองกำลังพันธมิตรได้อย่างไร’ ‘นี่คือนิสัยของเผ่ากง แต่เผ่ากงกระทั่งนำคฤาสน์วิญญาณอมตะออกมา พวกเขาถือเป็นกองกำลังฝ่ายธรรมะระดับแนวหน้าจริงๆ’ ‘ผู้ใดจะโง่ให้เผ่ากงเป็นผู้นำ’ ผู้อมตะฝ่ายธรรมะลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ เผ่ากงเป็นสมาชิกตระกูลฮวงจินและเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ ผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขามีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้เหยากวงและจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูร่วมมือกันแต่ยังพ่ายแพ้ให้กับปีศาจอมตะเซี่ยหู แต่ภาคเหนือยังมีผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียงอีกคนคือองค์ชายฟงเซี่ยนซึ่งเป็นผู้อมตะของเผ่ากง ด้วยเหตุนี้เผ่ากงจึงกระจายข่าวออกไปว่าองค์ชายฟงเซี่ยนสามารถต่อสู้กับปีศาจอมตะเซี่ยหู นั่นทำให้ชื่อเสียงของเผ่ากงพุ่งสูงขึ้นเป็นอย่างมาก กงเอ๋อยืนอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์วิญญาณอมตะและคิดว่าตนเองได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากผู้อมตะฝ่ายธรรมะ แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีผู้อมตะคนใดตอบสนองต่อคำกล่าวของเขา แม้เขาจะอายุมากแล้วและมีประสบการณ์สูง แต่การแสดงออกของเขายังกลายเป็นน่าเกลียด “ผู้อมตะเผ่าไป่ซูทักทายผู้อาวุโสกงเอ๋อ” เป็นเพียงเวลานี้ที่ผู้อมตะสามคนบินเข้ามาหากงเอ๋อ หนึ่งในสามเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดขณะที่อีกสองคนเป็นผู้อมตะระดับหก คนทั้งสามอ่อนน้อมถ่อมตนและเผยรอยยิ้มทักทายอย่างอบอุ่น การแสดงออกของกงเอ๋อผ่อนคลายลง ตอนนี้เขาสามารถรักษาใบหน้า ดังนั้นเขาจึงเชิญผู้อมตะทั้งสามเข้าไปในคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังตะวันตกอย่างรวดเร็ว ผู้อมตะฝ่ายธรรมะที่เห็นเหตุการณ์นี้มีการแสดงออกที่ซับซ้อน เนื่องจากเผ่าไป่ซูไม่มีสายเลือดของตระกูลฮวงจิน แต่พวกเขาเป็นบุตรหลานของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู ผู้อมตะระดับแปดที่มีชื่อเสียง จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ แต่หลังจากการล่มสลายของแดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวง เขาได้ก่อตั้งกองกำลังของตนเองขึ้น ภาคเหนือในปัจจุบีน กองกำลังฝ่ายธรรมะส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของตระกูลฮวงจิน เพื่อที่จะกลายเป็นกองกำลังใหญ่ฝ่ายธรรมะที่ได้รับการยอมรับ จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงสร้างสายสัมพันธ์กับเหยากวงและร่วมมือกันต่อต้านปีศาจอมตะเซี่ยหู แม้พวกเขาจะพ่ายแพ้ แต่จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูก็บรรลุเป้าหมายแล้ว เขาได้รับการยอมรับจากเหยากวงและเผ่าเหยา ดังนั้นจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจึงสามารถก่อตั้งเผ่าของตนได้อย่างเป็นทางการ ผู้อมตะเผ่าไป่ซูเคยอาศัยอยู่ในถ้ำสวรรค์ของจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู แม้เผ่าไป่ซูจะมีสมาชิกไม่มาก แต่พวกเขายังสามารถส่งผู้อมตะสามคนเข้าร่วมในเหตุการณ์นี้ “เผ่าไป่ซู…” “ฮืม…ผู้อมตะเผ่าไป่ซูมีความโดดเด่นไม่แพ้จักรพรรดิสวรรค์ไป่ซูจริงๆ” “เรามีมุมมองที่แตกต่างจากเผ่ากง นี่ทำให้เผ่าไป่ซูได้รับประโยชน์แทนพวกเรา!” ฝ่ายธรรมะของภาคเหนือคือตระกูลฮวงจิน แม้พวกเขาจะมีความขัดแย้งภายใน แต่พวกเขาก็ไม่ต้องการเห็นคนนอกเช่นเผ่าไป่ซูเติบโตขึ้น “น่าเสียดายที่เผ่าไป่ซูได้รับการคุ้มครองจากจักรพรรดิสวรรค์ไป่ซู่ พวกเราไม่สามารถแตะต้องพวกเขา” “ถึงกระนั้นเราก็มีหลายวิธีที่สามารถจัดการพวกเขา คิดจะก่อตั้งกองกำลังในภาคเหนือ ฮืม…มันจะไม่ง่าย!” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะวิพากษ์วิจารณ์ “บึม!” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะพึ่งเริ่มพูดคุยแต่เสียงระเบิดกลับดังขึ้นอย่างกะทันหัน สายตาของทุกคนมองลงไปด้านล่างและพบกับห้วงมิติที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ฉากในแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กปรากฏต่อหน้าทุกคน ตอนนี้ท่าไม้ตายเช่นดวงตาหยกม่วงไม่จำเป็นอีกต่อไป พวกเขาสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กตกลงสู่ความโกลาหล ผู้อมตะฝ่ายปีศาจจำนวนมากแข่งขันกันปล้นสะดมทรัพยากรของเผ่าไห่อย่างอุกอาจ “เปรี้ยง!” สายฟ้าพุ่งลงไปด้านล่างและสร้างหลุมลึกเอาไว้พร้อมควันสีดำ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เทียนตู๋ตะโกนเสียงดัง “ทุ่งหญ้าคบเพลิงเป็นของข้า ผู้ใดกล้าแย่งเข้ามา!” เฒ่าลู่และคนอื่นๆมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว “จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เทียนตู๋มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งสายฟ้าสองดวง พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นมาก พวกเราควรล่าถอย” “ถูกต้อง ที่นี่เต็มไปด้วยสมบัติล้ำค่า เหตุใดพวกเราต้องต่อสู้กับเขา?” ผู้อมตะเหล่านี้เป็นผู้อมตะระดับล่าง หลังจากพูดคุย พวกเขาเร่งจากไปทันที อีกด้านหนึ่ง สัตว์อสูรเดียวดายอินทรีย์มงกุฎเหล็กกรีดร้องออกมาหลังจากถูกกระทืบโดยหมูป่าตัวหนึ่ง ปีศาจอมตะผู้หนึ่งถือค้อนทองสัมฤทธิ์ยืนอยู่บนแผ่นหลังหมูป่ากล่าว “สัตว์ชั้นต่ำ กล้าลอบโจมตีข้างั้นหรือ?” หลังกล่าวจบคำ เขาเร่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออก นกยูงตัวหนึ่งกำลังบินเข้ามาและกล่าวด้วยภาษามนุษย์ “จ้าวซาน” “โอ้ มันคือเทพธิดาอี้เหรา!” จ้าวซานเผยรอยยิ้มและพยายามสร้างความประทับใจที่ดีต่อนาง เทพธิดานกยูงเหินอี้เหราเป็นผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง “แลกเปลี่ยนสัตว์อสูรเดียวดายใต้เท้าของเจ้ากับม้าไร้เงาของข้า” อี้เหราเสนอ ดวงตาของจ้าวซานส่องประกายขึ้น เขาเร่งพยักหน้า “ได้เลย มาแลกเปลี่ยนกัน! ข้ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำตามคำขอของเทพธิดา ฮ่าฮ่าฮ่า” อีกมุมหนึ่ง สายลมพัดมาอย่างต่อเนื่อง ร่างที่บินลงจากท้องฟ้ากล่าวด้วยความกระวนกระวาย “ผู้ใดจะคิดว่าทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดวายุหยกเขียวจะอยู่ที่นี่” เขาก็คือผู้อมตะระดับเจ็ดไป่ซุ้ยฮัน “พี่ไป่ ทรัพยากรอมตะชิ้นนี้เป็นของข้า” ร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เขาคือบัณฑิตสันโดษ บัณฑิตสันโดษเป็นผู้อมตะระดับเจ็ดที่มีชื่อเสียงไม่ด้อยไปกว่าไป่ซุ้ยฮัน “ครั้งก่อนที่ไท่ชิวพวกเราไม่ได้ตัดสินแพ้ชนะ เช่นนั้นมาสู้กันให้รู้ผลเดี๋ยวนี้!” ไป่ซุ้ยฮันเสนอ บัณฑิตสันโดษเผยรอยยิ้มบาง “ข้าได้ยินว่าพี่ไป่สร้างท่าไม้ตายใหม่สำเร็จแล้ว โปรดให้ข้าได้เปิดหูเปิดตา” ….. สถานการณ์ทุกรูปแบบเกิดขึ้นขณะที่ผู้อมตะฝ่ายธรรมะเพียงเฝ้ามอง “เพราะปีศาจอมตะฮวงตี้ ฝ่ายปีศาจจึงสามารถลงมือก่อน” “อย่าได้กังวล แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กเป็นสถานที่พิเศษ พวกเขามีชื่อเสียงในการเลี้ยงดูอินทรีย์มงกุฎเหล็ก พื้นที่ส่วนใหญ่ของมันเป็นท้องฟ้า มีพื้นดินเพียงเล็กน้อย สิ่งล้ำค่าที่แท้จริงคือรังของอินทรีย์เหล่านั้น” “ฮืม ทรัพยากรหลักของเผ่าไห่ยังไม่ถูกเปิดเผย แต่พวกเขากลับต่อสู้กันแล้ว” ฝ่ายธรรมะเตรียมพร้อมที่จะโจมตี แต่ในเวลานี้เงาร่างสายหนึ่งกลับพุ่งเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็กด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า “เขาคือผู้ใด? เขาบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งดาบ!” “เขามาจากเผ่าเหนียงเอ๋อ ข้าคิดว่าเขาคือเหนียงเอ๋อปิงซื่อ!” ผู้อมตะฝ่ายธรรมะตกใจ คนผู้นี้ปกปิดตัวตนและไม่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ใดทั้งสิ้น “ผู้ใด?” ในแดนศักดิ์สิทธิ์อินทรีย์เหล็ก ชิงฉวนซื่ออุทานเมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง แสงดาบพุ่งผ่านร่างของชิงฉวนซื่อไปด้วยความเร็วสูง ศีรษะของเขาถูกตัดออกอย่างกะทันหัน! “คนที่สังหารเจ้า เหนียงเอ๋อปิงซื่อ!” ———————พรุ่งนี้หยุด
คอมเม้นต์