Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 985
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 985 เข้าสู่ผาสวรรค์แปลโดย iPAT เมฆสีขาวลอยอยู่บนท้องฟ้าที่สว่างสดใส ฟางหยวนลอยอยู่กลางอากาศและมองไปที่สุดขอบฟ้า ท้องฟ้าบรรจบกับท้องทะเลขณะที่เกลียวคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของภาคตะวันออกซึ่งแตกต่างจากภาคใต้ที่เป็นภูเขาอย่างสิ้นเชิง มันเป็นทัศนียภาพที่สงบเงียบแต่แฝงไว้ด้วยอันตรายไม่ต่างจากภาคเหนือ นอกเหนือจากการคลื่นทะเล กระแสน้ำใต้สมุทรยังเปลี่ยนทิศทางและรูปแบบตลอดเวลา ฟางหยวนรอคอยอย่างอดทน ทะเลด้านล่างเป็นทะเลในอาณาเขตของกองกำลังพันธมิตรผีดิบและเป็นทะเลส่วนตัวของโป้ตัน แต่โป้ตันถูกขับไล่ออกไปนานแล้ว ผู้ยึดครองสถานที่แห่งนี้ก็คือผู้นำกองกำลังพันธมิตรผีดิบของภาคเหนือ ผีดิบอมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งไฟ นางมารผลาญสวรรค์ ไม่นานมานี้วิญญาณสื่อสารที่ฟางหยวนเตรียมไว้สำหรับนางมารผลาญสวรรค์ถูกส่งลงไปใต้ทะเลแห่งนี้ แต่นี่ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนขึ้น “เจ้าคือผู้ใด? ช่างกล้าหาญนัก เจ้ากล้าขัดจังหวะการหลอมรวมวิญญาณของข้างั้นหรือ?” เสียงสายหนึ่งดังขึ้น หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก เขาใช้วิญญาณสายตรวจสอบมานานแล้วแต่กลับไม่พบการคงอยู่ของนางมารผลาญสวรรค์ นางสามารถเข้าใกล้ฟางหยวนได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว! ภายนอกฟางหยวนยังกล่าวอย่างใจเย็น “ข้าฟางหยวนทักทายท่านหญิง” “ฟางหยวน?” ดวงตาของนางมารผลาญสวรรค์ส่องประกายขึ้น ช่วงนี้นางกำลังอารมณ์ดีเนื่องจากนางเริ่มติดต่อกับเทพธิดาหลี่ซานอีกครั้ง จดหมายจากเทพธิดาหลี่ซานกล่าวว่าพวกนางควรแก้ไขความสัมพันธ์เพื่อประโยชน์ของไห่ลั่วหลัน ก่อนหน้านี้นางไม่ได้หลอมรวมวิญญาณใดๆ แต่เมื่อนางได้รับจดหมายที่ระบุว่ามาจากสหายของไห่ลั่วหลัน นางจึงลอบเข้าใกล้ฟางหยวนเพื่อตรวจสอบเขา ฟางหยวนไม่ตระหนักถึงนางและด้วยการบ่มเพาะระดับหก นางมารผลาญสวรรค์จึงลดคุณค่าของเขาลงอย่างมาก นางมารผลาญสวรรค์แสดงออกอย่างแข็งกร้าวเมื่อนางกล่าวว่าฟางหยวนขัดจังหวะการหลอมรวมวิญญาณของนาง แต่กระทำนี้ไม่สามารถกดดันฟางหยวน ดังนั้นนางจึงรู้สึกพอใจมากขึ้น ฟางหยวนพยักหน้า “ถูกต้อง เป็นข้า” หลังกล่าวจบคำ ฟางหยวนยกเลิกท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยและเผยร่างผีดิบอมตะออกมา รูม่านตาของนางมารผลาญสวรรค์หดเล็กลง นางถอนหายใจเล็กน้อย “วิญญาณทัศนคติระดับแปดช่างยอดเยี่ยมนัก ข้าไม่พบข้อบกพร่องใดๆเลย แต่เจ้ามีความสัมพันธ์อย่างไรกับผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋า?” ฟางหยวนหัวเราะ “ผู้อมตะความคิดดาราเฉินเต๋าก็คือข้าแต่ข้าไม่ใช่เพียงผู้อมตะความคิดดารา” นางมารผลาญสวรรค์รู้สึกประทับใจฟางหยวนมากขึ้น “ในจดหมายของหลี่ซาน นางไม่ได้บอกว่าเจ้ามีความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญา” นางมารผลาญสวรรค์เฝ้ามองการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่ของฉลามปีศาจมานานแล้ว ดังนั้นนางจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้อมตะความคิดดารา “หากข้าไม่มีความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญา ข้าจะเข้าสู่แดนศักดิ์สิทธิ์เมืองหลวงของภาคเหนือได้อย่างไร? ท่านหญิง ข้าสงสัยว่าท่านสนใจแดนศักดิ์สิทธิ์หยูลู่หรือไม่?” ฟางหยวนกล่าวเข้าประเด็นทันที นางมารผลาญสวรรค์เผยรอยยิ้ม “เจ้าคิดอย่างไร?” ฟางหยวนกล่าวอย่างสงบนิ่ง “หากท่านหญิงไม่สนใจ ข้าจะไม่มาที่นี่” นางมารผลาญสวรรค์หัวเราะเสียงดัง “นี่เป็นความต้องการของราชันภูเขาม่วงอาจารย์ของเจ้าด้วยงั้นหรือ?” ฟางหยวนไม่ปฏิเสธ “ท่านหญิง ด้วยความสามารถของข้า ตราบเท่าที่ข้ามีเวลามากพอ ข้าจะสามารถคลี่คลายเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างแน่นอน แต่การกำจัดฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านออกไป คงต้องรบกวนท่านหญิงแล้ว” หากปราศจากวิญญาณอมตะความคิดดารา ฟางหยวนจะไม่มีความมั่นใจ แต่ด้วยวิญญาณอมตะและความสำเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาในปัจจุบันของเขารวมถึงความจริงที่ว่าเขตแดนกองทัพที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไร้ผู้ควบคุม ฟางหยวนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น การแสดงออกของนางมารผลาญสวรรค์จมดิ่งลง ฟางหยวนสามารถควบคุมบทสนทนา นี่ทำให้นางรู้สึกไม่มีความสุข “ไร้สาระ!” นางมารผลาญสวรรค์ตะคอก “เจ้ากล่าวว่าตนเองมีความสามารถ แล้วข้าจำเป็นต้องเชื่องั้นหรือ?” ความโกรธของผู้อมตะระดับแปดทำให้บรรยากาศกลายเป็นหนักหน่วง ฟางหยวนเผยรอยยิ้มอย่างใจเย็น เขารู้ว่านางมารผลาญสวรรค์จะตอบสนองเช่นนี้ นางมารผลาญสวรรค์ยังไม่คุ้นเคยกับฟางหยวนขณะที่ฟางหยวนมีประสบการณ์เกี่ยวกับอารมณ์ของนางมารผลาญสวรรค์จากชีวิตก่อนหน้า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งย่อมชนะทุกครั้ง ด้วยเหตุนี้ฟางหยวนจึงสามารถควบคุมบทสนทนาต่อไป “มันไม่ยากที่จะพิสูจน์ความสามารถของข้า ท่านหญิงโปรดอดทนรอสักครู่” ฟางหยวนกล่าวและเริ่มอนุมาน แสงดาวปะทุขึ้นบนร่างของเขาพร้อมกับกลิ่นอายของวิญญาณอมตะ หลังจากหลายสิบลมหายใจ ฟางหยวนจึงหยุดและแสร้งถอนหายใจ “เป็นเรื่องยากอย่างแท้จริงที่จะอนุมานเกี่ยวกับผู้อมตะระดับแปด” “นี่เป็นเพียงข้ออ้างสำหรับความล้มเหลวใช่หรือไม่?” นางมารผลาญสวรรค์ยกคิ้วขึ้นเย้ยหยัน “ไม่อย่างแน่นอน” ริมฝีปากของฟางหยวนม้วนตัวขึ้น “ข้าอนุมานแล้วว่าท่านหญิงติดต่อสำนักงานใหญ่ของกองกำลังพันธมิตรผีดิบเรียบร้อยแล้วและพร้อมจะผลักฉลามปีศาจกับซูไป่ม่านออกไป โป้ตันก็ถูกควบคุมโดยท่านหญิงถูกต้องหรือไม่? จับเขา ไล่เขา และบังคับให้เขาติดสินบนซูไป่ม่านด้วยทรัพยากรอมตะ หลังจากนั้นท่านหญิงจะใช้ข้ออ้างเรื่องการขโมยทรัพยากรอมตะเพื่อทวงความยุติธรรมจากพวกเขา” ได้ยินเรื่องนี้ การแสดงออกของนางมารผลาญสวรรค์เปลี่ยนไปทันที นางตกใจมาก นางไม่คิดว่าฟางหยวนจะสามารถอนุมานแผนการของนางได้ในระยะเวลาสั้นๆ นางเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งไฟแต่นางก็มีวิธีการบางอย่างที่สามารถป้องกันการอนุมานจากผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญา แต่การป้องกันของนางกลับล้มเหลวต่อหน้าฟางหยวน? ‘ไม่แปลกใจเลยที่คนผู้นี้สามารถทำให้หลี่ซานรู้สึกหวาดกลัวและทำให้หลานสาวของข้าพบกับความสูญเสีย ไม่ บางทีสิ่งนี้อาจเป็นฝีมือของราชันภูเขาม่วง เขาอนุมานไว้ล่วงหน้าแล้วและมอบข้อมูลนี้ให้กับฟางหยวน’ นางมารผลาญสวรรค์สงบจิตใจลง นางไม่ใช่ตัวตนทั่วไปและไม่สามารถถูกหลอกลวงได้โดยง่าย “เอาล่ะ เมื่อเจ้ามีความสามารถบางอย่าง ข้าก็จะให้เจ้าแก้ปัญหาบางอย่างให้ข้า” นางคว้าร่างของฟางหยวนและปลดปล่อยเปลวเพลิงออกไปรอบๆ หัวใจของฟางหยวนสั่นสะท้านขึ้น เขาได้เห็นความเอาแต่ใจของนางมารผลาญสวรรค์อีกครั้งแต่เขาไม่กลัวว่านางจะทำร้าย เหตุผลเป็นเพราะวิญญาณทัศนคติของไห่ลั่วหลันอยู่กับเขา หากนางมารผลาญสวรรค์ทำร้ายเขา เขาสามารถทำลายวิญญาณทัศนคติได้ทันที ฟางหยวนไม่ได้ต่อต้านและปล่อยให้นางมารผลาญสวรรค์ดำเนินการต่อไป หลังจากนั้นคนทั้งสองจึงกลายเป็นสายรุ้งพุ่งข้ามขอบฟ้าไปด้วยความเร็วสูง ฟางหยวนแทบไม่สามารถเปิดเปลือกตาและไม่สามารถขยับเขยื้อน เพียงพริบตาฟางหยวนก็พบว่าพวกเขามาถึงที่ราบแห่งหนึ่ง สถานที่แห่งนี้เป็นที่ราบทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยมวลดอกไม้ สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือวังที่อยู่ไม่ไกลนัก มันเป็นวังสีทองและมรกตที่แกะสลักรูปท้องฟ้า ทะเล และภูเขาเอาไว้ กลิ่นอายของวิญญาณอมตะแผ่พุ่งออกมาจากวังหลังนี้อย่างชัดเจน นี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะ! ตอนนี้มีผู้อมตะจำนวนมากยืนอยู่รอบๆคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ เมื่อนางมารผลาญสวรรค์ปรากฏตัวขึ้น ทุกคนจึงหันหน้ามาที่นาง นางมารผลาญสวรรค์เป็นผู้อมตะระดับแปด ดังนั้นทุกคนจึงต้องให้ความสำคัญ นี่รวมถึงการคงอยู่ของฟางหยวนเช่นกัน “ข้า ซ่งคุน ทักทายท่านหญิง” “ช่ายซ่ง คารวะท่านหญิง” “ข้า หรัวเล่ยกุ้ยอี้ รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบท่านหญิง” ผู้อมตะที่เป็นตัวแทนของคนสามกลุ่มกล่าวทักทายนางมารผลาญสวรรค์ แม้ระดับการบ่มเพาะของพวกเขาจะด้อยกว่านางมารผลาญสวรรค์ แต่พวกเขาก็เป็นตัวแทนของตระกูลซ่ง ตระกูลลั่ว และตระกูลหรัวเหล่ย ทั้งสามต่างเป็นกองกำลังขนาดใหญ่ของทะเลตะวันออก พวกเขากำลังแข่งขันกันเพื่อยึดครองผาสวรรค์แห่งนี้ กระทั่งนางมารผลาญสวรรค์ก็ยังไม่สามารถแสดงความยโสต่อหน้าพวกเขา นางพยักหน้าเบาๆและกล่าว “ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับมรดกของเฒ่าสายฟ้าเทียนหนานมาก่อน ข้ามาที่นี่เพื่อทดสอบมัน พวกเจ้าสามารถจัดการเรื่องของตนเองได้อย่างอิสระ” ทั้งสามตระกูลเงียบ นางมารผลาญสวรรค์กล่าวอย่างไม่เป็นทางการ แต่ทั้งสามตระกูลยังไม่กล้าประมาท นางมารผลาญสวรรค์เป็นผู้อมตะระดับแปด นางยังมีกองกำลังพันธมิตรผีดิบอยู่เบื้องหลัง หากกองกำลังพันธมิตรผีดิบต้องการยึดครองผาสวรรค์ มันจะเกิดความปั่นป่วนขึ้น “ท่านหญิงมาจากภาคเหนือ ท่านเป็นแขกของที่นี่ เราจะหยาบคายต่อท่านได้อย่างไร ข้าไม่คู่ควร แต่โปรดให้ข้าติดตามไปกับท่านด้วย” ซ่งคุณกล่าวและเริ่มออกบิน “พี่ซ่งกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ท่านหญิงพึ่งมาถึง ข้ายินดีเป็นผู้อธิบายสถานการณ์ปัจจุบันให้ท่านหญิงทราบ” ช่ายซ่งกล่าวและติดตามนางมารผลาญสวรรค์ไปพร้อมกับหรัวเล่ยกุ้ยอี้ นางมารผลาญสวรรค์ไม่ได้ขับไล่และอนุญาตให้พวกเขายืนอยู่ข้างๆ พิจารณาถึงตำแหน่งภูมิศาสตร์ กองกำลังพันธมิตรผีดิบและกองกำลังใหญ่อื่นๆไม่สามารถเข้าแทรกแซงการแข่งขันครั้งนี้ มีเพียงสามตระกูลใหญ่ที่สามารถยึดครองผาสวรรค์ ทั้งสามตระกูลต่อสู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลัง แต่เมื่อคนนอกเช่นนางมารผลาญสวรรค์เข้ามา พวกเขาก็สามารถสร้างความร่วมมือและต่อต้านนาง โดยไม่จำเป็นต้องคาดเดา ทั้งสามตระกูลแจ้งข่าวกลับไปที่ตระกูลของตนเองเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นานผู้อมตะระดับแปดของทั้งสามตระกูลจะมาที่นี่ ขณะเดียวกันนางมารผลาญสวรรค์ก็รู้ดีว่านางไม่สามารถยึดครองมรดกนี้ แม้นางจะเป็นผู้อมตะระดับแปด แต่หากนางต้องการยึดครองผาสวรรค์ ไม่เพียงกองกำลังพันธมิตรผีดิบจะไม่ช่วยนาง นางยังต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของสามตระกูลใหญ่ แม้นางจะยโสแต่นางก็ไม่ใช่คนโง่ แรงจูงใจของนางมารผลาญสวรรค์ในการเดินทางครั้งนี้ชัดเจนว่าไม่ใช่เพื่อรับสืบทอดมรดกของเฒ่าสายฟ้าเทียนหนาน นางเพียงต้องการทดสอบความสามารถบนเส้นทางแห่งปัญญาของฟางหยวนเท่านั้น
คอมเม้นต์