Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน ตอนที่ 975
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 975 ข้อตกลงใหม่แปลโดย iPAT การเจรจาดำเนินไปถึงหกชั่วโมง เมื่อมันจบลง ช่วยไม่ได้ที่ฟางหยวนจะรู้สึกอ่อนล้า หลังจากทั้งหมดจิตใจของผีดิบคือจุดอ่อน ความคิดของพวกเขาช้ากว่ามนุษย์ที่ชีวิตมาก อย่างไรก็ตามไห่ลั่วหลันก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขามากนัก การเจรจาครั้งนี้ราวกับการต่อสู้แห่งชีวิตและความตาย นี่ทำให้นางรู้สึกเวียนศีรษะและเหนื่อยล้าเช่นกัน หลังจากนั้นฟางหยวนได้นำไท่เป่ยหยุนเฉิงเข้ามาเพื่อทำข้อตกลงใหม่กับไห่ลั่วหลันและเทพธิดาหลี่ซาน ฟางหยวนส่งมอบวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนกับวิญญาณทาสอมตะของไห่ลั่วหลันและยืมวิญญาณทัศนคติเป็นเวลาหนึ่งปี ฟางหยวนยังต้องหาโอกาสสังหารไห่เจิ้งให้กับพวกนาง สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งดวงดาว ทั้งสองสามารถแข่งขันกันอย่างยุติธรรม นอกจากนี้ฟางหยวนยังได้รับความยินยอมจากไห่ลั่วหลันให้เชื่อมโยงโชค ข้อตกลงใหม่เชื่อมต่อพวกเขาเข้าด้วยกันอย่างแน่นหนา กระทั่งเทพธิดาหลี่ซานก็ยังต้องใช้เวลาหลายปีหากต้องการทำลายข้อตกลงนี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือข้อตกลงนี้คำนวณการปรากฏตัวของนางมารผลาญสวรรค์เอาไว้แล้ว มีเงื่อนไขที่ระบุว่าสามารถเพิ่มจำนวนพันธมิตรแต่คนที่มาใหม่ต้องทำตามข้อตกลงนี้เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองฝ่ายไม่สามารถรับความช่วยเหลือจากภายนอกเพื่อทำร้ายซึ่งกันและกัน แต่ละฝ่ายมีโอกาสขอการสนับสนุนจากอีกฝ่ายเพียงครั้งเดียว หากใช้แล้วต้องตอบแทนก่อนจะใช้อีกครั้ง ข้อตกลงดังกล่าวเข้มงวดมากโดยเฉพาะการแบ่งปันผลประโยชน์ ฟางหยวนใช้ความหวาดกลัวที่ไห่ลั่วหลันมีต่อราชันภูเขาม่วงเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา ท้ายที่สุดการต่อสู้ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่าง หลังจากบรรลุข้อตกลง สถานการณ์ของฟางหยวนเปลี่ยนไปมาก ประการแรก ไห่ลั่วหลันคือเทพธิดาจันทร์ทมิฬ โชคของนางจะไม่ลดลงเป็นเวลานาน เมื่อฟางหยวนเชื่อมโยงโชคกับนาง มันจะช่วยชดเชยข้อบกพร่องเกี่ยวกับความโชคร้ายที่เกิดจากวิญญาณกาลเวลา ประการที่สอง เขาสามารถยืมวิญญาณทัศนคติระดับแปด วิญญาณดวงนี้เคยถูกใช้โดยเทพปีศาจปล้นสวรรค์ มันเป็นแกนกลางของท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยในตำนาน ย้อนกลับไป ขณะที่เทพปีศาจปล้นสวรรค์ยังเป็นผู้อมตะระดับหก เขาใช้ท่าไม้ตายนี้หลอกผู้อมตะระดับแปดถึงสองคนและสามารถปล้นทรัพย์สมบัติมากมาย ฟางหยวนสูญเสียวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์แต่เขากลับได้รับวิญญาณทัศนคติที่ดีกว่า! ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คลุมเครือของเขาจะยกระดับขึ้นหากใช้วิญญาณทัศนคติเป็นแกนกลาง เขามั่นใจว่าด้วยสิ่งนี้ เขาจะสามารถหลอกลวงกระทั่งผู้อมตะระดับแปด ประการสุดท้ายคือนางมารผลาญสวรรค์ ในชีวิตก่อนหน้า นางมารผลาญสวรรค์วางแผนต่อต้านฟางหยวน แต่ในชีวิตนี้เมื่อฟางหยวนสร้างข้อตกลงใหม่กับเทพธิดาทั้งสอง มันสามารถหยุดแผนการในช่วงแรกของนาง ความรู้สึกผิดและความรักที่มีต่อไห่ลั่วหลันคือจุดอ่อนของนางมารผลาญสวรรค์ ฟางหยวนวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากจุดนี้เพื่อยืมมือนาง แม้นางมารผลาญสวรรค์จะไม่ได้เข้าร่วมในข้อตกลงพันธมิตรใหม่ แต่เมื่อไห่ลั่วหลันตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย นางมารผลาญสวรรค์จะนิ่งเฉยได้อย่างไร อาจกล่าวได้ว่าไห่ลั่วหลันเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการควบคุมนางมารผลาญสวรรค์ ‘ฝ่ายของไห่ลั่วหลันไม่ใช่อุปสรรคของข้าอีกต่อไป หลังจากเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร แผนการของข้าจะราบรื่นขึ้นมาก แต่พวกนางฉลาดมาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลอกลวง ตอนนี้พวกนางพอใจกับข้อตกลงนี้แต่พวกนางจะตระหนักถึงข้อได้เปรียบของข้ามากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกนางอาจพยายามต่อต้านข้า’ ด้วยความทรงจำในชีวิตก่อนหน้า ฟางหยวนมีข้อได้เปรียบ อย่างไรก็ตามเขายังไม่ได้ลดความระวังตัวลงแม้แต่น้อย ‘รอจนกว่าข้าจะสามารถครอบครองสนามรบแห่งความโกลาหล เมื่อเวลานั้นมาถึง ความแข็งแกร่งของข้าจะเหนือกว่าพวกนาง แม้ฝ่ายของไห่ลั่วหลันจะไม่พอใจ แต่พวกนางจะไม่สามารถทำสิ่งใด’ ฟางหยวนไม่ลังเลที่จะปล่อยมือจากวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเองเพราะเขามีแผนการยึดครองคฤหาสน์วิญญาณอมตะสนามรบแห่งความโกลาหลและผีดิบอมตะสุดยอดกายาเทพยุทธ์ที่แท้จริงระดับแปด ด้วยวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของตนเอง ฟางหยวนสามารถปลดปล่อยพลังอำนาจระดับเจ็ดเท่านั้น ขณะที่สนามรบแห่งความโกลาหลจะทำให้เขาสามารถต่อต้านผู้อมตะระดับแปดหรืออย่างน้อยก็สามารถหลบหนี หลังจากได้รับวิญญาณทัศนคติ ฟางหยวนเดินทางต่อไปยังแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถาม “เหตุใดจึงกลับมาเร็วนัก? เจ้าได้สิ่งที่ข้าต้องการมาแล้วงั้นหรือ?” “ไม่อย่างแน่นอน” ฟางหยวนส่ายศีรษะ การแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ฟางหยวน เจ้าเด็กบ้า เจ้าไม่ได้ยินคำกล่าวของข้าก่อนหน้านี้งั้นหรือ? ข้าบอกแล้วว่าแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาหรือไปเมื่อใดก็ได้! หากเจ้าไม่มีทรัพยากรอมตะที่ข้าต้องการ ข้าจะไม่คุยกับเจ้า!” “จะเป็นเช่นนั้นจริงๆงั้นหรือ?” ฟางหยวนหัวเราะเบาๆ “หากข้าต้องการใช้โอกาสสุดท้ายเพื่อขอให้ท่านหลอมรวมวิญญาณอมตะ ท่านจะว่าอย่างไร?” “อา…” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลายเป็นพูดไม่ออก ฟางหยวนขโมยโอกาสนี้มาจากหม่าหงหยุนในฐานะผู้สืบทอดของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ เนื่องจากบรรพชนผมยาวได้ทำข้อตกลงกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ดังนั้นจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาจึงต้องหลอมรวมวิญญาณให้ฟางหยวนสามดวง หากเป็นวิญญาณระดับมนุษย์ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาสามารถรับประกันความสำเร็จ แต่สำหรับวิญญาณอมตะ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอาจล้มเหลว ฟางหยวนใช้โอกาสไปแล้วสองครั้ง ครั้งแรกคือการหลอมรวมวิญญาณประตูแห่งดวงดาว ครั้งที่สองคือการหลอมรวมวิญญาณทะเลวิญญาณที่สอง ฟางหยวนยังเหลือโอกาสครั้งสุดท้ายที่จะร้องขอให้จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาหลอมรวมวิญญาณให้เขา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวเสียงเข้ม “เด็กน้อย เจ้าต้องการหลอมรวมสิ่งใด?” ฟางหยวนหัวเราะอย่างเต็มที่และตบไหล่จิตวิญญาณแผ่นดิน “ข้ากล่าวเพียงว่า หาก แต่ตอนนี้ข้ายังไม่ต้องการสูญเสียโอกาสครั้งสุดท้าย” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาปัดมือของฟางหยวนออกไปและไม่กล่าวสิ่งใดอีกเลย ตราบเท่าที่ฟางหยวนไม่ใช้โอกาสสุดท้าย เขาก็ยังสามารถเข้าออกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยาได้เสมอ จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้ว่านี่คือคำเตือนจากฟางหยวน แม้มันจะเป็นเพียงการโจมตีด้วยวาจา แต่จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ไม่สามารถตอบโต้ นี่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ “หากไม่ใช้โอกาสสุดท้ายก็ออกไป!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากล่าวด้วยความไม่พอใจ ฟางหยวนยักไหล่ “แม้ข้าจะไม่มีทรัพยากรอมตะที่ท่านต้องการ แต่ข้ามีสิ่งนี้ ลองดู” มุมปากของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยายกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “เด็กเลว! คิดว่าจะหลอกลวงข้าได้อีกงั้นหรือ? ฮืม…ทรัพยากรของเจ้าจะสามารถทดแทนสิ่งที่ข้าต้องการได้อย่างไร ข้าไม่…” เขาหยุดพูดอย่างกระทันหัน ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะจ้องมองทรัพยากรอมตะในมือของฟางหยวน มันไม่ใช่ทรัพยากรอมตะทั่วไปแต่เป็นทรัพยากรอมตะระดับแปดที่ฟางหยวนนำมาจากโลกใต้บาดาลของภาคเหนือ “นี่…นี่…นี่…ดูเหมือนชิ้นส่วนร่างกายของสัตว์อสูรแรกกำเนิดเมฆวิหคเพลิง!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาถึงกลับพูดติดอ่าง ฟางหยวนยกนิ้วให้ “ดังคาด จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาช่างรอบรู้นัก ท่านกล่าวได้ถูกต้องแล้ว หลังจากข้าได้รับสิ่งนี้ ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับมัน” ฟางหยวนส่งทรัพยากรอมตะชิ้นนี้ให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่สามารถยับยั้งตนเองและยื่นมือออกไปคว้ามันมาตรวจสอบ “ของดี ของดี” “ถูกต้อง มันคือชิ้นส่วนร่างกายของเมฆวิหคเพลิงที่หายาก!” “เจ้าช่างโชคดีนักที่พบมัน!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาพึมพำ เขาถูกล่อลวงอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าอย่างไรจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็มีต้นกำเนิดมาจากบรรพชนผมยาว บรรพชนผมยาวเชี่ยวชาญ้ด้านการหลอมรวม จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ได้รับความสามารถนี้สืบทอดมาเช่นกัน จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยารู้สึกปั่นป่วน เขาค้นหาทรัพยากรอมตะนี้มาอย่างยาวนานแต่กลับไม่พบ หากเขาได้รับมัน มีวิญญาณอมตะมากมายที่เขาสามารถหลอมรวมและจะเริ่มต้นทันที จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเลิกสนใจฟางหยวนและมองทรัพยากรอมตะในมือด้วยความคลั่งไคล้ กระทั่งในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ทรัพยากรอมตะระดับแปดก็มีอยู่น้อยมาก เหตุผล? มันยากที่จะรวบรวม ตัวอย่างเช่น ชิ้นส่วนร่างกายของเมฆวิหคเพลิงชิ้นนี้ ร่างหลักของมันคือสัตว์อสูรแรกกำเนิดเมฆวิหคเพลิงที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับแปด! ในการรวบรวมชิ้นส่วนร่างกายของเมฆวิหคเพลิง พวกเขาต้องสังหารมันเป็นอันดับแรก ผู้อมตะมีอยู่น้อยมากโดยเฉพาะผู้อมตะระดับแปดที่มีอยู่เพียงไม่กี่คน พวกเขายังต้องคำนึกถึงความปลอดภัยของตนเองและจะไม่ต่อสู้โดยง่าย เว้นเพียงพวกเขาจะต้องการทรัพยากรอมตะระดับแปดชนิดพิเศษ เวลานั้นพวกเขาจึงจะเคลื่อนไหว นี่เป็นสาเหตุที่ฟางหยวนสามารถขายทรัพยากรอมตะระดับแปดได้อย่างง่ายดายในสวรรค์สีเหลือง เพราะกระทั่งบรรพชนผมยาวร่างหลักของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาก็ยังไม่มีความสามารถที่จะรวบรวมทรัพยากรอมตะดังกล่าวด้วยตัวของเขาเอง นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขาทำข้อตกลงกับเทพปีศาจปล้นสวรรค์และเทพอมตะตะวันเดือด ฟางหยวนเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นการแสดงออกของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา หลังจากนั้นเขายังหยิบทรัพยากรอมตะระดับแปดอีกชิ้นออกมา “จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา โปรดช่วยข้าตรวจสอบต้นกำเนิดของสิ่งนี้ด้วย” “อา…” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาเงยหน้าขึ้นและกรีดร้องออกมาทันที ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความยินดี “สวรรค์! นี่คือปีกของผึ้งลายเสือมิใช่หรือ? ดู แสงเหล่านี้คือร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งโลหะ! เรากระทั่งสามารถมองเห็นพวกมันได้ด้วยตาเปล่า!” “เด็กบ้า! เจ้าได้ทรัพยากรระดับนี้มาได้อย่างไร? พวกมันทำให้ข้ารู้สึกเจ็บปวด หลังจากทุ่มเทความพยายามมาอย่างยาวนาน ข้ายังมีทรัพยากรอมตะระดับนี้ไม่เกินยี่สิบชิ้น พวกมันมีค่ามากจนข้าไม่เต็มใจที่จะใช้งานพวกมัน!” ฟางหยวนหัวเราะเสียงดัง “หากข้ากล่าวว่าข้าเพียงหยิบพวกมันขึ้นมา ท่านจะเชื่อหรือไม่?” เมื่อเขากล่าวถึงจุดนี้ เขาหยิบเมฆวิหคเพลิงกลับมาจากมือของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาอย่างรวดเร็ว จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยาไม่ทันตั้งตัว หลังจากถูกฉกชิงทรัพยากรอมตะไปจากมือ ช่วยไม่ได้ที่เขาจะส่งเสียงโหยหวนอย่างน่าเวทนาออกมา เขากระทืบเท้าและตะโกน “เจ้ากำลังทำสิ่งใด?” “ทำสิ่งใดงั้นหรือ?” ฟางหยวนเผยใบหน้างุนงง “นี่เป็นสมบัติของข้า ท่านคิดจะขโมยมันไปจากข้าเช่นนั้นหรือ?” ร่างกายของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากลายเป็นแข็งค้าง เขาไม่สามารถตอบโต้และทำได้เพียงมองไปที่ฟางหยวนเท่านั้น
คอมเม้นต์