Otherworldly evil monarch จอมโฉดแห่งโลกหน้า มือสังหารมือพระกาฬ ตอนที่ 242
” คนผู้นี้มองหาความมั่งคั่งอย่างแท้จริง แต่กระนั้น จำนวนที่เขามองหานั้นมากมายยิ่ง ! แต่เรามิควรถือว่าเรื่องนี้เป็นธรรมดา เนื่องจากจำนวนมหาศาลนี้สามารถสั่นสะเทือนถึงเสาหลักได้ ! เป็นไปได้ว่าจักมีปัญหามากมายอุบัติขึ้น เนื่องจากสมาชิกของสกุลใหญ่มากมายไปรวมตัวกันที่นั่น แท้จริงแล้ว ข้าเกรงว่าคนผู้นี้อาจจงใจสร้างสถานการณ์ เขาอาจพยายามหาประโยชน์จากความสับสนที่ตามมาหลังจากนี้ … เขาอาจหาสิ่งประโยชน์ใส่ตัวโดยใช้สิ่งที่เกิดวันนี้เป็นประกัน ! “ องค์จักรพรรดิยืนขึ้นและเดินไปมาชั่วครู่ จากนั้นพระองค์สูดหายใจลึกและพึมพำ ” หากคนมากฝีมือผู้นี้ทำงานให้ข้า .. น่าเสียดาย … “ ” แม้นว่าชายผู้นี้จักปราดเปรื่อง แต่เขายังต้องการให้สามสกุลเหล่านั้นหนุนหลัง แท้จริงแล้ว มันเป็นการยากสำหรับเขาหากจะก่อความวุ่นวายขึ้นโดยไม่มได้รับการสนับสนุนจากสกุล จวิน สกุลถัง และ องค์รัชทายาท “ชายในชุดขาวดั่งหิมะเอ่ยปลอบประโลม ” ข้าเป็นกังวลถึงจุดที่เจ้าเน้นย้ำ มันเป็นเรื่องสำคัญ ชายผู้นี้ชักชวนสามสกุลให้ร่วมมือกัน เห็นได้ชัดว่าทั้งสามสกุลมีสัมพันธ์อันดี ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นแข็งแกร่ง มีข่าวลือว่า แรกเริ่มการขายสุรานี้ก่อเกิดจากการท้าประลอง นายน้อยแห่งสกุลจวิน จวินโม่เซี่ย และ ขุนพลตู่กู้วูตี้ เดิมพันกันถึงคุณภาพของสุรา และราคาที่มันควรจะขายได้ … จึงบอกได้ว่า กลยุทธ์นี้ก่อกำเนิดมากจากจวินโม่เซี่ย แม้นว่าข้าจักไม่มั่นใจเรื่องนั้น อย่างไรก็ตาม หากเป็นจริงดังนั้น … ข้าควรพิจารณาเขาในแง่มุมใหม่อย่างแท้จริง “ องค์จักรพรรดิหัวเราะเบาครู่หนึ่ง แต่กระนั้น พระองค์มิอาจปิดบังความกังวนที่คิ้วได้” แผนการนี้ต้องถูกสร้างโดยผู้อื่น ! “ ” ไม่ว่าเขาจะเป็นผู้ใด ผู้นั้นอันตรายและมากฝีมือ ! การกระทำของเขาจะสร้างความสับสนโดยไม่แสดงถึงประสงค์ที่อยู่เบื้องหลัง! “องค์จักรพรรดิ หน้าหนิ่วชั่วหนึ่ง จากนั้น สีหน้าพระองค์เปลี่ยนไป และยิ้มขึ้นทันใด” ไม่ว่าอย่างไร นี่จะเป็นการประมูลที่น่ารื่นรมย์ เจ้าสนใจจะไปกับข้าด้วยไหม ขุนนางเหวิน ? “ ” องค์จักรพรรดิทรงประสงค์จะดำเนิน ? “ชายชุดขาวนามเหวินเงยหน้ามอง จักรพรรดิ สีหน้าของเขาชัดเจน ราวกับทะเลสาปที่มองเห็นลงไปถึงก้นได้อย่างง่ายดาย เนื่องด้วยปราศจากสิ่งสกปรก ผิวของเขาดู … นุ่มนวลราวผิวพรรณเด็กแรกเกิด ” เป็นเรื่องน่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้น ที่นั่นมีผู้มากฝีมือและน่าหวั่นเกรง เหตุใดข้าจึงไม่สนใจ ? “องค์จักรพรรดิหรี่ตา” ข้าจักไม่ไปยังงานรื่นเริงนี้ได้อย่างไรกัน ในเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความมั่นคงของเมืองหลวง ? และมันจะนำพาซึ่งประสบการณ์ใหม่ ข้าประสงค์ลิ้มรสสุรา เหยือกละกว่าหมื่นตำลึงเงิน ! “ ขุนนางเหวินยืนขึ้นท่วงท่าอิสระและง่ายดายขณะเขารอยยิ้มจริงใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าดั่งทารกของเขา เขาหัวเราะสุภาพ” เช่นนั้น โปรดพระองค์ทรงอนุญาติให้อาวุโสผู้นี้ติดตามท่านไปด้วย “ ” ด้วยท่านอยู่ข้างๆ ข้ามั่นใจว่าจักสำเร็จ ! “องค์จักรพรรดิแย้มและยืนขึ้น พระองค์พูดขึ้นขณะพวกเขาเดินออกไป” กระนั้น สิ่งแรกพวกเราจักต้องไปพบใครบางคนที่ได้รับเชิญเนื่องจากพวกเรามิได้ … “ ” องค์ชายทั้งสาม และองค์หญิง หลิงเมิ่ง ได้รับบัตรเชิญ หากเป็นดั่งรายงาน เช่นนั้น พระองค์จะตามองค์หญิงไป ? “ขุนนางเหวินขยับตา ทังสองยิ้มอย่างมีนัยยะ ” ข้าตรวจสอบลูกชายทั้งสามได้ไม่ยากขณะพวกเขาต่อสู้และวางแผนต่อต้านกัน มันควรจะน่าขัน สิ่งใดจักดีไปกว่านี้ ? “องค์จักรพรรดิแย้มพระสรวลอย่างลึกซึ้ง แต่กระนั้นยังคงมีความกังวลปะปนอยู่ในรอยยิ้มของพระองค์” พี่จูได้กินสิ่งใดในช่วงสองสามวันผ่าน ? ข้ามิได้ยินเรื่องของเขาเลย “ ขุนนางเหวินเดินเคียงข้างองค์จักรพรรดิ เขายิ้มขณะพูด” ปัญหานี้ของเขาควรจะรับมือได้ แต่กระนั้น หลานชายของถังหว่างลี่ก็เป็นหนุ่มสาว … เช่นกัน จึงไม่มีหวังสำหรับอนาคตของพวกเขา เขาหวาดกลัวชายผู้รักสะอาดจนขับของเสียใส่ร่างของเขา สำหรับโอกาศนั้น จูน้อยยังคงมุ่งต่อไป … และแม้นว่าเขาจะรักษาความสะอาดมาหลายปี แต่รางน้ำของเหล่าคนจนก็เต็มไปด้วย … “ เขาอ้างถึง จู้จูจู ด้วย จูน้อย คนผู้นั้นดูเหมือนว่าจะสูงศักดิ์กว่าผู้อื่นในรุ่นราวคราวเดียวกับ จู้จูจู แม้นจะดูว่าเขาอายุน้อยกว่าตู่กู้วูตี้ แท้จริงแล้ว หากดูจากหน้าตาแล้ว เขาคล้ายจะรุ่นราวคราวเดียวกับจวินวูอี้ แปลกประหลาดยิ่ง ” ฮ่า ฮ่า … “องค์จักรพรรดิทรงพระสรวลเสียงดัง พระองค์หันหน้าไปด้านข้าง และเอ่ยกับขันทีเฒ่า ” หากครัวหลวงค้นพบวิธีการรักษาขันทีจูได้เป็นอย่างดี ขอให้เขาปรับปรุงส่วนผสมบางอย่างเพื่อทำให้เขาอยากอาหาร และจากนั้นให้เขาดื่มกิน เขามิได้กินสิ่งใดเลยจนถึงวันนี้ มันจะเป็นการดี ?! “ ขันทีเฒ่ารับคำสั่งอย่างสุภาพและจริงจัง เขาใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดิอย่างมาก และรับใช้พระองค์มายาวนานสามสิบปี เหวินเชียนยีน ตระหนักถึงความคิดที่อยู่เบื้องหลังคำสั่งนี้อย่างชัดเจน อีกมุมหนึ่ง คือเรื่องที่ จู้จูจู ร้องขอการปรากฏตัวส่วนตัวของเขา แต่ องค์จักรพรรดิมิสามารถลดฐานะลงเพื่อจัดการเรื่องเล็กน้อยนั้นได้ รอยยิ้มขึ้นปรากฏบนพระพักตร์ขององค์จักรพรรดิขณะพระองค์ทอดพระเนตรขุนนางราวกับพระองค์กำลังส่องสะท้อนบางสิ่งจากอดีต” กระนั้น ไม่ง่ายนักที่ข้าจักได้ออกนอกราชวัง วันเหล่านั้น .. ข้ารักพวกเขามากจริงๆ “ ” เจ้าคนฉลาดผู้นั้นมิอาจหลบซ่อนตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว เพราะเจ้าเหนือหัวจักออกไปเปิดเผยแผนการของเจ้าด้วยพระองค์เอง ! “นายเหวินยิ้มสวยงาม” หรือบางทีพระองค์อาจจะได้ผู้มากฝีมือมาเพราะการประมูลนี้ เหวินประสงค์จะยินดีกับพระองค์อย่างหาที่สุดมิได้ …. “ ” ข้าหวังเช่นนั้น ! “องค์จักรพรรดิ แย้มสรวลรำไร ขณะสีพระพักตร์แปรเปลี่ยน คลับคล้ายพระองค์ทรงปกปิดความคลางแคลง เขาอ้างชื้ออยู่บ่อยครั้ง แต่มิได้พูดเสียงดัง หากมองไปใกล้ๆ พวกเขาจะตระหนักได้อย่างแน่ชัดว่า เขาพยายามพูดคำสามคำ จวิน วู อี้ ประกายเยือกเย็นส่องสะท้อนในดวงตา ในที่สุด พระอาทิตย์ ปรากฏขึ้นสู่นภาเป็นการบ่งบอกถึงการมาของรุ่งสาง สกุลใหญ่สุดท้ายเดินทางมาถึง ผู้แรกมาถึงคือ สกุลตู่กู้ สกุลนี้มีชื่อเป็นหนึ่งในสกุลผู้ที่ใหญ่ยุคปฐมในเมืองหลวง พวกเขาแสดงตัวด้วยสมาชิกแปดคนในสกุล พวกเขาขี่ม้าตัวใหญ่ ซึ่งทั้งหมดเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งความกล้าหาญ ตู่กู้วูตี้มาถึงพร้อมด้วยหลานชายร่างกำยำอีกเจ็ด วีรบุรุษและตำนานผู้มุ่งต่อไป ซึ่งเกาะกลุ่มอยู่รอบๆเกี้ยวสีเขียว พวกเขาปรากฏตัวขึ้นดั่งหมี ที่ระเริงด้วยกลิ่นอันหอมหวนของน้ำผึ้งชั้นดี กองกลุ่มคนและม้าเหล่านี้ มาหยุดตรงหน้าประตูหลักทีสุดท้าย เมื่อคำสั่งดั่งขึ้น และพวกเขาเรียงแถวเพียงหนึ่ง ประตูของเกี้ยวสีเขียวเปิดออก และร่างที่สง่างาม ผิวพรรณดี และน่าชังเคลื่อนออกมา คิ้วของนางคล้ายดั่งภูผาอันห่างไกล ดวงตากลมโตของนางร่างเริง ขณะที่คางดูราวลูกพีช และใบหน้าประหนึ่งภาพวาด สเน่หา … ความน่ารัก และ อ่อนหวานทั้งหมด หลั่งไหลออกมาจากเด็กสาวผู้นี้ นางดูสดใส บริสุทธิ์ และ บอบบาง ตู่กู้เซี่ยวอี้ หนึ่งในหญิงงามผู้มิอาจหาใดเปรียบแห่งนครเทียนเชียง มาถึงแล้ว ดวงตาของจวินโม่เซี่ยคงจะหลุดออกมา หากเขาอยู่ที่นี่ ตรงหน้าของเขา นี่คือหญิงสาวผู้งดงามและอ่อนโยน ผู้ที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าอัศจรรย์ นางมิได้เป็นเด็กสาวหัวรุนแรงที่จะโกนใส่เขา ต่อสู้และทำรายเขาทุกวัน ! สมาชิกคนสำคัญแห่งสกุลจวิน คำนับต้อนรับแก่สกุลตู่กู้ขณะพวกเขามาถึง จวินวูอี้ ลูกชายที่สามแห่งสกุลจวิน รอคอยพวกเขาอยู่ที่สุดของเส้นทางที่มีดอกไม้ขนาบข้าง เขากำลังนั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้เลื่อน ชุดของเขาเป็นสีดำขลับ ใบหน้าของเขาแหลมคม ดั่งใช้มีดตัด แต่กระนั้น ยังมีรอยยิ้มอันเรื่องรางปรากฏอยู่ ซึ่งเพิ่มความสง่าให้แก่เขา เด็กหนุ่มชุดขาวผลักเก้าอี้เลื่อนของเขาไม่รีบร้อน ” พี่ตู่กู้ “จวินวูอี้ประกบมือ ปรากฏร่องรอยดีใจบนใบหน้า” ท่านมาถึงแล้ว “ ” น้องจวิน “ตู่กู้วูตี้ กระโดดลงจากหลังม้า และก้าวยาวตรงมา” สกุลจวินเปิดกิจการสำคัญ เหตุใดไม่ให้พี่มาเยี่ยมเยียนและช่วยเหลือ เหตุใดเจ้ากระเสือกระสนมารับพวกเราด้วยตัวเอง ? ข้า พี่ของเจ้า สามารถเดินได้ด้วยตัวเอง มิใช่คนแปลกหน้าสำหรับเจ้า “ ” ไม่เสียหายที่จักมาพบปะผู้คน แต่ท่านพี่ เป็นเพียงผู้เดียวในนครที่เหมาะควรได้รับความสำคัญ เช่นนั้น ข้าจักละเลยหน้าที่ เมื่อท่านมาถึงได้กระไร ? “จวินวูอี้ยิ้ม จากนั้น เขาใช้มือชี้พร้อมดวงตาคาดหวัง” พี่ตู่กู้ เชิญด้านใน ! “ ตู่กู้วูตี้ มองขึ้นทันที และดวงตาของเขาปรากฏความสุขขึ้นมาในทันที” น้องสามจวิน ได้โปรด ! “เขาเดินไปยืนอยู่หลังจวินวูอี้ จากนั้น สะกิดเด็กหนุ่มชุดขาวผู้ที่ยืนอยู่หลังเก้าอี้เลื่อนให้ขยับได้ด้านข้าง ขณะเขาหัวเราะเสียงดัง” เจ้าไปพักก่อน ข้าจะพาน้องสามเข้าด้านใน “ ร่างของจวินวูอี้เอนหลังผ่อนคลาย ขณะให้ ตู่กู้วูตี้ ผลักเก้าอี้เลื่อน พวกเขาพูดคุณกันขณะจวินวูอี้บอกเส้นทางข้างหน้า บรรยากาศแปรเปลี่ยนปรองดองในทันที และเหมือนทั้งสองมีอารมณ์ร่วมเล็กน้อย หรือวันเก่าจะหวนคืนอีกครั้ง ? ตู่กู้วูตี้ หัวเราะลั่น เขาร่าเริงจากก้นบึ้งหัวใจ เขาปาดน้ำตาซึ่งปรากฏขึ้นในดวงตาดั่งพยัคฆ์ อดถอนหายใจอย่างเป็นสุดไม่ได้ น้องผู้นี้อภัยให้ข้าในวันนี้ … เขาเรียกข้าว่าพี่อีกครั้ง … ช่างมีความสุขยิ่ง ข้ามิต้องโศกเศร้าอีแล้ว สิบปีที่ต้องทนทุกข์และเงียบงัน และมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนั่น แต่มันกลับละลายหายไปเพียงหนึ่งคำนี้ ! ชายทั้งสองดูมีความสุขอย่างมาก และพูดคุยกันอย่างร่าเริง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนจะยังมีชั้นแห่งความเชื่อบางๆเนื่องจากเหตุนองเลือดในอดีตที่ยังห่อหุ้มพวกเขาอยู่ ! เป็นการติดต่อที่แปลกประหลาดของ สองบุรุษเลือดเหล็ก จวินวูอี้ได้กำจัดกระบี่แห่งความขุ่นเคืองด้วยร้อยยิ้มของเขา ! สิบปีแห่งความขัดแย่งและเกลียดชัง หายลับไปเพียงแค่รอยยิ้ม ! ช่วงเวลาที่เหมาะสมนี้ ประกาศถึงจุดจบแห่งความขุ่นเคืองของสองยอดขุนพล ผู้ที่เคยฝังมันไว้ในใจนานนับทศวรรษ ! สิงมีชีวิตร่างกำยำดั่งกระบือแห่งสกุลตู่กู้ยังคงเงียบสนท ซึ่งตรงข้ามกับกริยาปกติ พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของช่วงเวลานี้ และ ผ่อนลมหายใจแผ่วเชาเนื่องเกรงจะรบกวนพี่น้องทั้งสอง ที่สายใยได้รับการหล่อหลอมด้วยสมรภูมิมากมาย พวกเขาแบกเอาเกียรติของเหล่าทหารหาญและอาณาจักรเทียนเชียงไว้บนบ่า ! ดวงตาของตู่กู้เซี่ยวอี้กลายเป็นสีแดงขณะนางสะอื้นอย่างเงียบๆ นางนั้นยังเด็กเกินกว่าจะรับรู้ถึงความสนิทสนมเกินธรรมดาระหว่างชายทั้งสอง อย่างไรก็ตาม ในฐานะลูกสาว นางได้รับรู้เรื่องราวซึ่งเป็นปัญหาในหัวใจของพ่อตั้งแต่เริ่ม ! ตู่กู้วูตี้ เป็นชายผู้ซื่อตรงมาตลอดชีวิต และไม่เคยจักต้องรู้สึกเสียใจ อย่างไรก็ตาม ยังมีหนึ่งเรื่องที่ทำให้เขาต้องโศกเศร้าอยู่รางๆ จวินวูเห่ย ! ตู่กู้วูตี้ จะเมามายในทุกปีเมื่อถึงครบรอบวันตายของจวินวูเห่ย เขาจะร่ำร้องออกมาแม้นว่าเขาจะเป็นผู้ที่บึกบึนและนักรบที่แข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่พยายามจะปกปิดเสียงร้องอันดังก้องของเขาเลยแม้แต่น้อย … แม้นเขาจะร้องไห้ออกมา ตลอดชั่วชีวิตของ ตู่กู้วูตี้ ไม่เคยเลยที่เขาจะเสียน้ำตามากมาย และทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเพราะ ผู้ที่จบชีวิตลงไปคือพี่น้องร่วมสาบาน บ่อยครั้งที่ ตู่กู้เซี่ยวอี้ เห็นพ่อของนางเข้าห้องหนังสือกลางดึก เขาถอนหายใจไม่หยุดหย่อนขณะลูบกระบี่ซึ่งจวินวูเห่ยให้ไว้เป็นของขวัญ แต่กระนั้นในวันนี้ จวินวูอี้ได้ปัดเป่าสิ่งที่ยากจะลบล้างออกจากใจของ ตู่กู้วูตี้ด้วยรอยยิ้ม ! ตู่กู้เซี่ยวอี้ จักไม่รู้สึกพึงพอใจได้อย่างไรกัน ? นางจะไม่ร่ำไห้ออกมาได้อย่างไร ? นางจะไม่หลั่งน้ำตาได้อย่างไร ? ตามหลังสกุลตู่กู้มาคือ อีกสกุลนึ่งที่สำคัญ สกุลซ้ง สกุลถังและสกุลเมิง มาถึงอย่างต่อเนื่อง ตามเวลาที่กำหนด หอมณีวิจิตร ซึ่งอยู่ถนนฝั่งตรงข้ามก็ยังได้รับบัตรเชิญ เซี่ยวฮั่น และ มูซื้อทง อยู่ในชุดเกราะสีขาวเช่นปกติ พวกเขามาถึงพร้อม ฮั่นหยานเมิง ผู้งดงามราวบุปผา และในเวลานั้น ….
คอมเม้นต์