Taming Master ตอนที่ 137

อ่านนิยายจีนเรื่อง The Taming Master ตอนที่ 137 3Novel | อ่านนิยายออนไลน์ นิยายแปลไทย อ่านนิยายฟรี.

การมีอยู่ของไคซาร์และพอลลีนนั้นเป็นข้อดีที่อยู่ใกล้กับ ‘สูตรโกง’ ในแพ็คเกจเกมที่มอบให้กับเอียน
อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา
“เราต้องไปต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดน… นายไม่ช่วยพวกเราหรอ?”
“ข้าไม่ต้องการ มันน่ารำคาญเกินไป”
ไคซาร์พิงบนศาลาในสวนหลังบ้านของคฤหาสน์เมืองและงีบหลับ
เพื่อเกลี้ยกล่อมเขา เอียนจึงใช้เหตุผลอย่างขยันขันแข็ง
“ไม่สิ ถ้าเขาเอาดินแดนของเราไป นายจะไม่สามารถนอนที่นั่นได้นะ เราไม่ต้องปกป้องมันหรอ?”
อย่างไรก็ตาม มันไม่เพียงพอในการเคลื่อนย้ายไคซาร์
“ไปสิ เจ้าหนูลอร์ด ไปเร็วๆและปกป้องจุดนอนของข้า”
“…”
เช่นเดียวกับพลาสเตอร์ที่แสดงในพิพิธภัณฑ์ เขาไม่ได้ขยับเขยื่อนจากท่าเดิมแม้แต่นิ้วเดียวเพราะเขายังคงนอนอยู่
ในท้ายที่สุด ช่วยไม่ได้ที่เอียนจะยอมแพ้และไปต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดน
“เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วครับลอร์ด”
ถึงอย่างนั้นในขณะที่มองดูพอลลีนที่ทำตามคำสั่งของเขาอย่างซื่อสัตย์เอียนก็รู้สึกสบายใจ
‘ถูกต้อง อย่างน้อยฉันก็มีพอลลีน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่พอลลีนที่ช่วยก็อาจจะไม่มีกรณีที่เราแพ้ในสงครามดินแดนแล้ว’
เอียนผู้เบิกบานในความฝันว่าเขาจะกวาดล้างสงครามดินแดนด้วยฐานของทวีปกลางพร้อมกับไคซาร์ พยักหน้าด้วยสีหน้าผิดหวัง
“เอาล่ะ พอลลีนไปกันเถอะ”
 
* * *
 
มันเป็นสงครามการป้องกันดินแดนครั้งแรกในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
กิลด์โลตัสประสบความสำเร็จในการปกป้องดินแดนของพวกเขาภายในเวลาเพียงสามนัดโดยไม่ทำให้มันนานนัก
กิลด์คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือกิลด์ที่อ่อนแอกว่ากิลด์โพลาริสเมื่อไม่นานมานี้และกิลด์โลตัสที่รวบรวมควมแข็งแกร่งมากมายในระหว่างนี้ ประสบความสำเร็จในการปกป้องโดยไม่ต้องใช้กำลังการต่อสู้ทั้งหมดของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้นในวันที่สงครามดินแดนป้องกันสิ้นสุดลง ข้อกำหนดสำหรับหมู่บ้านโอลิบัสก็เกิดขึ้นและการรวมกันก็เกิดขึ้นเช่นกัน
 
 
เอียนคิดว่าจะตั้งชื่ออะไรสักครู่หนึ่ง
เฮิร์ซที่เห็นอย่างนั้นได้พูด
“เฮ้ไม่ต้องหรอก ชื่อโอลิบัสดีอยู่แล้ว ดังนั้นทำไมนายต้องพยายามหาชื่อให้ให้มันล่ะ? นายพยายามจะให้ชื่อมันเหมือนบุ๊กค์หรอ?”
เมื่อเฮิร์ซพูด บุ๊กค์ที่นอนราบเหมือนท่อนไม้ หันมาจ้องเขา
จ้อง-
อย่างไรก็ตามเฮิร์ซไม่กลัวและเอียนก็เห็นด้วยอย่างตรงไปตรงมาขณะที่พยักหน้า
“เอาล่ะ ถ้างั้นเราจะทิ้งชื่อมันไว้แบบนี้แหละ”
เมื่อเขายืนยันชื่อเป็นโอลิบัส ข้อความของระบบก็โผล่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
 
 
เอียนหันหน้าไปหาเฮิร์ซ
“นายต้องการทำมันไหม?”
เมื่อคำเหล่านั้น เฮิร์ซส่ายหน้าขณะที่เขาตอบ
“ไม่อ่ะ งั้นเอาไปให้พี่โครบาน อีกนิดหน่อยฉันถึงจะได้ฉายา เนื่องจากพี่โครบานเป็นคนเดียวที่มีฉายาในตอนนี้ ถ้าเราแต่งตั้งพี่คนนั้นให้เป็นหัวหน้าแล้ว เราจะสามารถเพิ่มโอลิบัสให้อยู่ในระดับเมืองได้ในไม่ช้าเช่นกัน”
“โอ้ นายยังไม่ได้รับฉายาหรอ?”
“ใช่ ฉันคิดว่าคงจะได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแหละ”
หลังจากเสร็จสิ้นการตั้งค่าที่มีขนาดเล็กลงอีกสองสามอย่างนอกเหนือจากนั้น พร้อมกับการแต่งตั้งโครบานในฐานะหัวหน้าหมู่บ้านของโอลิบัส ข้อความรางวัลก็โผล่ขึ้น
 
 
ในขณะที่มองไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตต่างๆที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เอียนก็พึงพอใจ
‘เราลองตรวจสอบข้อกำหนดที่จำเป็นเพื่อเลื่อนขั้นเมืองขนาดใหญ่ดีไหม?’
และในขณะที่เขาเปิดแท็บข้อมูล ข้อกำหนดการเลื่อนขั้นเพื่อกลายเป็นเมืองขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นมา
 
[กล่อง] ข้อกำหนดสำหรับสถานะการเลื่อนขั้นเป็น ‘เมืองขนาดใหญ่’
เลเวลของผู้เล่นหัวหน้าของฐานหลักจะต้องเป็น 130 หรือสูงกว่า
ฉายาของผู้เล่นหัวหน้าของฐานหลักจะต้องเป็น ‘ไวส์เคาท์’ หรือสูงกว่า
ต้องมีฐานอย่างน้อย 3 แห่งที่เกี่ยวข้องกับกิลด์
ฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกิลด์ต้องเป็นระดับ ‘เมือง’ หรือสูงกว่า
ชื่อเสียงของกิลด์ต้อง 500,000 หน่วยหรือสูงกว่า
 
เฮิร์ซที่ตรวจสอบข้อกำหนดการเลื่อนขั้นกับเอียน ตรวจสอบพวกมันทีละอัน
“ขี้จุกจิกจัง อย่างแรกข้อกำหนดแรกคือ…”
เฮิร์ซหันไปมองที่เอียน
“นายต้องเลเวล 130 หรือสูงกว่านั้น ดันนั้นตอนนี้นายเลเวลเท่าไหร่ละ”
“127 ฉันคิดว่าใกล้จะ 128 เร็วๆนี้แหละ”
“…?”
เฮิร์ซซึ่งกำลังจะเรียกร้องว่าพวกเขายังไม่ได้ใกล้เคียงกับข้อกำหนดแรกของพวกเขาเลย แต่เขาก็แสดงออกอย่างงุนงง
“เฮ้ย มันไม่ได้นานเลยที่นายถึงเลเวล 120 ดังนั้นนายจะถึงเลเวล 127 ได้ยังไง? นายเพิ่มเลเวลยังไงกันแน่?”
และเอียนตอบด้วยอาการราวกับว่าไม่ได้เรื่องใหญ่อะไรนิ
“ฉันก็ทำเควสต์อาณาจักรวนๆไป… อย่างไรก็ตาม ฉันแค่ต้องถึงเลเวล 130 เร็วๆนี้ ดังนั้นมาคิดเกี่ยวกับข้อกำหนดอื่นแทนเถอะ”
เฮิร์ซแสดงท่าทางสับสนสักครู่หนึ่ง
“โอเค มันไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งที่สองที่ฉันงุนงงก็เพราะนาย…”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ยอมรับสถานการณ์และพูดต่อ
“เนื่องจากนายเป็นไวส์เคาท์อยู่แล้ว พวกเราพึงพอใจกับข้อกำหนดที่สอง”
“โอเค”
“อืมม… ถ้าเรารวมข้อกำหนดที่สามกับสี่เข้าด้วยกัน เราต้องมีฐานสามแห่งที่ทั้งหมดเป็นระดับเมืองหรือสูงกว่า ดังนั้นถ้าเราแค่ขยายอีกหนึ่งแห่ง จากนั้นทั้งหมดก็จะเข้ารูป เนื่องจากโอลิบัสจะกลายเป็นระดับเมืองเร็วๆนี้”
เอียนพยักหน้าขณะที่ตอบกลับ
“ถูกต้องแล้ว สิ่งที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้คือการเพิ่มฐานของเราอีกครั้งและสิ่งที่สองที่เราต้องทำคือเพิ่มชื่อเสียงของกิลด์ของเรา ชื่อเสียงของกิลด์ของเราตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่แล้ว?”
“มันอยู่ที่ 420,000 หน่วย”
“อีก 80,000 หน่วย ทำสงครามกิลด์อีก 20 ครั้งพอมั้ย…?”
ในขณะที่ดูเอียนผู้พูดราวกับว่ามันไม่มีความสำคัญ เฮิร์ซแสดงอาการงุนงง
“เฮ้ ถ้ามันไม่ใช่ 20 ครั้งล่ะ แต่นายสามารถชนะติดต่อกันได้ 20 ครั้งมั้ยล่ะ?”
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเอียน
“นั่น… เราแค่ต้องชนะ”
“…”
“และฉันยังมีอีกวิธีที่จะเพิ่มชื่อเสียงให้กิลด์ของเรา”
“วิธีอะไรน่ะ…?”
เอียนยิ้มเมื่อเขาพูด
“ก้าวหน้าไปสู่ทวีปกลาง”
“อะไรนะ…? นายต้องผ่านเวสต์แลนด์และทะเลทรายชิคาร์เพื่อไปที่นั่นนะ”
เมื่อเฮิร์ซถามกลับ เอียนค้นคลังของเขาขณะที่เขาดึงอะไรออกมา
และสิ่งที่อยู่ในมือของเขาคือม้วนกระดาษอันหรูหราที่ทำด้วยผ้าสีแดง
เมื่อเขาเปิดมันขึ้น เอียนพูดเสริม
“ถ้าอยู่กับทหารองครักษ์ของอาณาจักรก็เป็นไปได้”
 
* * *
 
“ท่านลอร์ด หัวหน้ากิลด์เรียกกำลังเรียกท่าน”
กิลด์โอ๊คลันที่แข่งขันอย่างดุเดือดกับกิลด์สเปนดอร์อันดับ 3 และ 4 ในการจัดอันดับกิลด์เซิร์ฟเวอร์ของเกาหลี
เพราะกิลด์ดาร์ครูน่าและกิลด์ไททั่นซึ่งครองอันดับ 1 และ 2 ได้เข้าร่วมกับอาณาจักรไคม่อน ในความเป็นจริงกิลด์โอ๊คลันไม่แตกต่างจากกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดากิลด์ที่เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรลัสเปล
และ ‘ลิ่มหลง’ หนึ่งในอันดับ 1 ในการจัดอันดับผู้เล่นอาชีพแอสซาซินก็ร่วมทีมกับกิลด์โอ๊คลัน
ในขณะที่เขาอยู่ในช่วงเลเวล 120 ต้นๆเขาจึงต่ำกว่า 10 เลเวลเมื่อเปรียบเทียบกับผู้เล่นอันดับต้นๆในกิลด์โอ๊คลัน แต่ต้องขอบคุณความจริงที่ว่าเขาอยู่อันดับ 1 ในการจัดอันดับสำหรับทั้งอาชีพและเขาเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณการต่อสู้ ลิ่มหล่งจึงเข้ารับตำแหน่งในฐานะผู้เล่นที่ค่อนข้างมีอิทธิพลแม้ในกิลด์โอ๊คลัน
“เข้าใจแล้ว ฉันจะไปในทันที”
‘ซามูเอลจิน’ หัวหน้ากิลด์แห่งกิลด์โอ๊คลันเป็นผู้เล่นระดับสูงที่ปรากฏเป็นอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับอาชีพนักธนู
ถ้าสไตล์ของชยาคราน หัวหน้าของกิลด์ไททั่นและอันดับที่ 1 ในการจัดอันดับของอาชีพวอริเออร์นั้นนำพากิลด์ด้วยการต่อสู้ที่เกิดจากธรรมชาติและความสามารถพิเศษ ถ้างั้นซามูเอลจินเป็นคนที่ตรงกันข้าม
ไม่ได้หมายความว่าเขามีสัญชาตญาณในการต่อสู้ที่ต่ำกว่า แต่ความสามารถในการเล่นเกมภายในความสามารถของซามูเอลจินทำให้เขาเป็นผู้นำที่นำกิลด์ของเขาโดยใช้ความเข้าใจและสติปัญญารวมทั้งกลยุทธ์ของเขา
และลิ่มหล่งได้รับเกียรติอย่างสูงจากซามูเอลจินซึ่งเป็นเช่นนี้และได้เข้าร่วม
นี่เป็นส่วนที่สามารถตระหนักได้เพียงแค่เห็นความจริงที่ว่าเขาให้ตำแหน่งหัวหน้าสำหรับหนึ่งในห้าฐานที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิลด์โอ๊คลันกับลิ่มหล่ง
“จิน ฉันได้ยินว่านายกำลังหาฉันอยู่”
หลังจากค้นพบลิ่มหล่งผู้เข้ามาในคฤหาสน์ ซามูเอลจินก็ทักทายเขาด้วยท่าทีต้อนรับ
“โอ้ ลิ่มหล่งนายมาแล้วหรอ”
“นายคงไม่บอกว่าจะให้ออกไปสำรวจเป็นเวลาสองชั่วโมงต่อจากนี้หรอกนะ? มีอะไรเกิดขึ้นหรอ…”
เมื่อลิ่มหล่งพูด ซามูเอลจินส่ายหน้าขณะที่เขาพูด
“มันไม่ใช่อะไรแบบนั้น ฉันแค่ได้รับข้อมูลบางอย่างมา”
“อะไรล่ะ…?”
“มันเป็นข้อมูลที่การสำรวจของกิลด์ดาร์ครูน่าและกิลด์ไททั่นที่เข้าใกล้ทวีปกลางแล้ว”
“…!”
เพื่อจะเข้าสู่ทวีปกลาง พวกเขาจำเป็นต้องผ่านทะเลทรายชิคาร์และสกายไฮแลนด์
นั่นไม่ต่างไปจากกิลด์ที่เข้าร่วมกับอาณาจักรไคม่อนเข้ามาจากทางตะวันออกหรือกิลด์ที่เข้าร่วมกับอาณาจักรลัสเปลที่เข้ามาจากทางตะวันตก
เนื่องจากทะเลทรายแผ่กระจายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดทั้งสองฝั่งของทวีปกลาง
“พวกเขาสามารถผ่านไปในช่วงเวลาอันสั้นได้ยังไง?”
“ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าไปโดยกองกำลังแม้ว่าพวกเขาจะต้องรับมือกับความเสียหายบ้าง ไม่ว่าพลังการต่อสู้ของพวกเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับความเสียหายเล็กน้อย”
กิลด์โอ๊คลันได้ดำเนินการเตรียมการก่อนหน้าอย่างละเอียดเพื่อเข้าสู่ทวีปกลาง
พวกเขาเตรียมอาหารให้สมาชิกกิลด์ทุกคนให้ทนได้นานกว่าหนึ่งเดือนและในขณะเดียวกันพวกเขาก็ให้สิ่งของทั้งหมดที่พวกเขาเก็บไว้และตั้งค่าอุปกรณ์สวมใส่ทั้งหมดของสมาชิกกิลด์ให้อยู่ในเลเวลสูงสุด
ในทางกลับกัน กิลด์ไททั่นหรือกิลด์ดาร์ครูน่าน่าจะเข้าไปทันทีหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่เสร็จสิ้น
“อืมม… ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรับมือกับความเสี่ยง “
ซามูเอลจินพยักหน้า
“ถูกต้อง ตัวเลือกของพวกเขาค่อนข้างดีเช่นกัน แต่หากมองในระยะยาวพวกเขาจะต้องเสียใจ”
ลิ่มหล่งถามด้วยอาการงุนงง
“ทำไมล่ะ? อย่างแรกถ้าอย่างน้อยพวกเขาเข้าไปในทวีปกลาง พวกเขาจะไม่สามารถเข้าไปยึดฐานในทวีปกลางได้ก่อนและจัดสรรทรัพยากรรวมถึงอาหารในที่นั่นหรอ?”
ซามูเอลจินยิ้มขณะที่เขาส่ายหน้า
“ไม่หรอก พวกเขาอาจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้”
“…?”
“พื้นดินในทวีปกลางนั้นแห้งแล้งอย่างมาก ในการจัดสรรทรัพยากรที่นั่นอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสองสามเดือน”
อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำอธิบายนั้น ลิ่มหล่งก็ยังมีคำถาม
“ตอนเหนือของทวีปนั้นเย็นและแห้งแล้งในตอนแรก อย่างไรก็ตามฉันจำได้ว่ามันสามารถจัดหาและจัดสรรทรัพยากรได้เล็กน้อยในแบบของตัวมันเอง…”
ซามูเอลจินส่ายหน้า
“ทวีปทางตอนเหนือและตอนกลางนั้นต่างกัน”
“…?”
“มันคล้ายกับภาวะมีบุตรยาก แต่ในทวีปทางตอนเหนือมี NPC ที่อาศัยอยู่ที่นั่น ในขณะที่ในทางกลับกันในทวีปกลางไม่มีอะไรแน่นอน”
ลิ่มหล่งซึ่งในที่สุดก็เชื่อมั่นในคำพูดของเขาอย่างสมบูรณ์ก็ได้พยักหน้า
“อ่ะฮ่า… ในกรณีนั้นจะเป็นปัญหาแน่นอน”
“เป็นไปได้มากที่สุด ทั้งพวกกิลด์ไททั่นและพวกดาร์ครูน่า พวกมันจะต้องทนทุกข์ทรมานนิดหน่อย ฮ่าฮ่า”
“งั้นคุณวางแผนจะเคลื่อนไหวยังไงในตอนนี้?”
ซามูเอลจินพูดต่อ
“เราจะเดินช้ากว่าแผนของเรา หากพูดตามจริงฉันเรียกหานายเพื่อพูดสิ่งนี้”
ลิ่มหล่งแสดงอาการงุนงงอีกครั้งหนึ่ง
ซามูเอลจินพูดต่อ
“อะไรน่ะ?”
“นี่เป็นเพราะกิลด์อื่นๆในค่ายลัสเปลเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ยินข้อมูลที่ค่ายอาณาจักรไคม่อนมาถึงก่อน”
หลังจากพักหายใจ เขาก็ได้พูดต่อ
“เราจะตามหลังเส้นทางที่กิลด์อื่นสร้างขึ้นและลดความเสียหายที่ได้รับให้มากที่สุด ในขณะที่เข้าสู่ทวีปตอนกลาง นี่เป็นเพราะไม่ว่าเราจะเคลื่อนที่มาถึงจุดนี้เร็วแค่ไหน เราก็ไม่สามารถที่จะมาถึงเร็วกว่าพวกดาร์ครูน่าหรือไททั่น”
พูดง่ายๆว่าเขากำลังพูดว่าในสถานการณ์ที่กำไรแรกมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาไม่ควรหักโหมและใช้วิธีการที่พวกเขาสามารถผ่อนคลายได้มากขึ้นและลดความเสียหายให้น้อยที่สุด
อย่างไรก็ตามมีสองตัวแปรที่ซามูเอลจินไม่ได้คิดถึง
อย่างแรกคือการมีอยู่ของสินค้าใหม่ที่เรียกว่า ‘คะแนนพิเศษ’
อย่างที่สองก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าอาจมีผู้เล่นที่มาถึงทวีปกลางก่อนที่กิลด์ไททั่นและกิลด์ดาร์ครูน่า

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด