Taming Master ตอนที่ 107
เขาไม่รู้แม้แต่น้อยเลยว่ามันคืออะไรเมื่อมองเพียงแค่ชื่อของมัน เพราะว่ามันไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากมายตอนที่เขาตรวจสอบไอเทมอย่างไรก็ตามเขาเลิกสงสัยไปก่อนและกลับมาตั้งสมาธิกับการกวาดล้างหมาป่าพวกนี้ให้หมดเสียก่อนและเขาก็สามารถฆ่าหมาป่า7ตัวโดยไม่ได้ยากเย็นอะไร“เยี่ยม! ค่าประสบการณ์นี่มันดีจริงๆถึงกระนั้นเขาก็รู้สึกว่าต้องตื่นตัวมากกว่าเดิมเพราะว่าเมื่อเทียบกับมอนสเตอร์ระดับCommonที่เขาสู้มาโดยตลอดนั้น เขารู้สึกได้เลยว่าพลังโจมตีและความว่องไวของหมาป่าเคราสีเลือดนั้นสุดยอดกว่ากันเยอะพลังชีวิตของสัตว์เลี้ยงของเขาที่ลดจนอยู่ในระดับอันตรายแล้วถือว่าเป็นเครื่องพิสูจน์ที่ดี“ฮาริน ช่วยฮีลสัตว์เลี้ยงของฉันหน่อย”“แน่นอน!”เอียนตบปากของตัวเอง‘ฉันน่าจะพาผู้ติดตามของฉันมาด้วย ถ้าหากว่าฉันมีซีเรียละก็เธอก็คงจะช่วยฮีลสัตว์เลี้ยงของฉันได้มากทีเดียว’สกิลฟื้นฟูสัตว์เลี้ยงและสกิลโคลนนิ่งของซีเรียจะมีประโยชน์อย่างมากในการล่าแต่มันก็มีสาเหตุเบื้องหลังอยู่เช่นกันเพราะว่าพวกเขาต้องพาตำรวจของเมืองไปล่ามอนสเตอร์ใกล้ๆเมืองเพื่อที่จะเพิ่มประสบการณ์การล่าให้แก่ตำรวจเหล่านั้น‘ครั้งหน้าฉันควรจะชวนซีเรียมาด้วย ในเมื่อมีผู้ติดตามเหลืออีกหลายคนอยู่แล้วพวกเขาก็น่าจะนำพวกตำรวจได้อยู่แล้ว’ขณะที่เอียนกำลังคิดไปเรื่อย เขาก็ไม่ลืมที่จะใช้สกิลปฐมพยาบาลเรื่อยๆเพราะเมื่อเทียบกับสกิลฟื้นฟูของฮารินแล้ว มันก็ต่างกันราวฟ้ากับเหวแต่เมื่อไหร่ที่เขาล่าคนเดียวเขาก็ต้องการเพิ่มความเชี่ยวชาญสกิลเช่นกันเมื่อฟื้นฟูเรียบร้อยแล้ว เอียนก็ยืนขึ้น“เอาละ พวกเราไปด้านในกันเลยดีมั้ย?”“เอาสิ ไปกันเถอะ!”เมื่อฮารินตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นซึ่งต่างจากท่าทางก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง เอียนถามเธอด้วยน้ำเสียงสงสัย“หืม? ฮารินเธอได้อะไรดีๆมางั้นหรอ?”ฮารินส่ายหน้าพร้อมกับตอบ“ไม่หรอก แต่ฉันเลเวลเพิ่มขึ้น2เลเวลแล้วตั้งแต่ที่เข้าดันเจี้ยนมา แน่นอนว่าฉันมีค่าประสบการณ์มากกว่า90%อยู่แล้วก่อนเข้าดันเจี้ยนมา”เอียนรู้สึกปวดท้องขึ้นมาเล็กน้อยเพราะว่าตอนนี้เอียนได้รับค่าประสบการณ์มาเพียง15%เท่านั้นอย่างไรก็ตามแน่นอนว่าความเร็วในการเพิ่มเลเวลของฮารินนั้นที่มีเลเวล93ต่างกับเอียนที่เลเวล116แน่นอน‘มันก็เป็นเรื่องดีสำหรับกิลด์ถ้าฮารินเลเวลเพิ่มขึ้น…’เขาค่อนข้างผิดหวังที่เขาแบ่งค่าประสบการณ์ให้แก่ฮาริน แต่เพราะว่าเขาล่าได้เร็วขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากการฮีลและบัฟของเธอ เขาไม่สามารถพูดได้ว่าเสียประโยชน์คนทั้งสองเริ่มเดินเข้าไปในส่วนลูกของดันเจี้ยนต่อ * * * “ห้ะ? นี่มันอะไร?”เมื่อเอียนหยุดเดินและยกมือขึ้นให้คนอื่นอยู่ด้านหลังตน ฮารินที่ตามหลังมาก็ถามด้วยความสงสัย“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกแต่ทางมันตันเมื่อเอียนพูด เธอก็เดินขึ้นมาดูและหลังจากเห็นทางตรงมันกลายเป็นส่วนโค้งขวางเอาไว้ ดวงตาทั้งสองของฮารินก็เบิกโพลงและเธอก็ว่าเอียน“ทางตันมันคือปัญหาต่างหาก ไอบ้า”“งั้นหรอ?”เอียนเกาหลังหัวของตนพร้อมกับเดินไปยืนด้านหน้าทางตัน“แต่ฉันคิดว่ามันไม่ได้โดนขวางไปตลอดหรอก”“จริงหรอ?”“ใช่แล้ว ถ้ามันเป็นทางตันงั้นกำแพงก็ต้องแคบลงเรื่อยๆ แต่นี่ถ้าดูที่กำแพงและเพดานแล้ว พวกมันดูไม่เหมือนทางตันทั่วๆไป”“นายก็พูดถูก”เอียนอธิบายออกมา ฮารินก็เดินไปที่กำแพงและดูทางที่ตันเช่นกันนอกจากความมืดแล้ว กำแพงมันก็เป็นสีดำที่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด แต่เมื่อมองใกล้ๆแล้วกำแพงมันไม่เรียบมันถูกสร้างขึ้นในรูปแบบที่สมมาตรด้วยพื้นผิวที่ดูขรุขระที่ให้ความรู้สึกว่ามันถูกสร้างขึ้น“โอ้ นี่มันโดนฝุ่นกลบเอาไว้หมดเลยนี่”เมื่อฮารินวางมือบนกำแพงของทางตัน เมื่อเธอดึงมือกลับมามือของเธอก็เต็มไปด้วยฝุ่นสีดำและจุดที่ถูกปัดฝุ่นออกไปก็ทำให้เห็นชัดเจน ก็เห็นหินที่ถูกสร้างขึ้นจากหินอ่อนและดูผุพังมันเป็นเรื่องที่แปลกนิดหน่อย แต่เอียนที่อยู่ตรงหน้าประตูหินขนาดใหญ่ก็ส่ายหน้าและบ่นออกมา“อย่างที่คิดเอาไว้เลย…มันไม่มีที่ดันเจี้ยนจะมาตันแบบนี้ได้เพราะมันยังไม่มีบอสออกมาสักตัวเลย”เมื่อเอียนพูด ฮารินก็พยักหน้า“ใช่แล้ว แต่ฉันรู้สึกว่าเราจะต้องปัดฝุ่นออกก่อนเผื่อเราจะได้เห็นอะไรด้านในเมื่อเป็นเช่นนั้น เอียนก็หันหน้าไปหาบุ๊กค์ที่อยู่บนหลังของเขา“บุ๊กค์ แกมีอะไรที่ไม่ใช่ปืนแรงดันมั้ย?”เมื่อมันได้ยินคำพูดของเอียน บุ๊กค์ที่อยู่ด้านในกระดองก็โผล่หัวออกมาและทำท่าสงสัยBbook?ขณะที่มองไปยังบุ๊กค์ที่ทำท่าไร้เดียงสา เอียนก็ส่ายหน้า“มันน่าจะเร็วกว่าถ้าฉันถามพิน”และเอียนก็ให้สัตว์เลี้ยงของพวกเขาถอยมาด้านหลังและให้ฮารินไปยืนไกลๆ“พิน ลองใช้สกิลบดขยี้ของแกใส่ตรงนั้นหน่อย”Kku-ruk- Kku-ruk-!เมื่อเอียนสั่ง พินก็บินขึ้นไปบนอากาศเล็กน้อย เริ่มที่จะกระพือปีกใส่กำแพงหินตรงหน้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นKwaaah-!และก็เกิดคลื่นลมขนาดใหญ่ขึ้นตรงหน้าของพินมันพัดผ่านกำแพงหินไปฮารินถอยหลังมาอีกหลายก้าวเมื่อเธอหยีตาของเธอ“ฟิ้ว ดูฝุ่นพวกนี้สิ”มันก็เป็นเหมือนที่เธอพูด เพราะว่าเกิดหมอกฝุ่นหนาขึ้นมาด้านในทางแบบนี้ทั้งปาร์ตี้หันหลังให้กับคลื่นฝุ่นและหลบไปจากทางโล่งเพราะว่าถ้าหากพวกเขาไม่หลบแล้วโดนฝุ่นเข้าไปเต็มๆ ตัวพวกเขาจะต้องเต็มไปด้วยฝุ่นอย่างกับถ่านแน่ๆและไม่นานเมื่อฝุ่นเริ่มจางหายไปแล้ว เอียนและฮารินก็เดินเข้าหากำแพงหินอีกครั้ง“ว้าว นี่มันสุดยอดจริงๆ”ฮารินอุทานออกมาเนื่องสายลมอันรุนแรงของพินได้ปัดเป่าฝุ่นที่ติดอยู่กับกำแพงไปได้อย่างหมดจด และรูปร่างของกำแพงหินที่พวกเขาไม่อาจมองเห็นได้ก็ปรากฏและสิ่งที่เตะตาทั้งสองก่อนเป็นอันดับแรกก็คือสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ที่แต่ละด้านยาว4เมตร รูขนาดใหญ่ตรงกลางมันเป็นหินอ่อนที่ใสราวกับกระจกที่มีหมาป่าอ้าปากกว้างแกะสลักอยู่ตรงกลางตรงกำแพงหิน“นี่มันคืออะไร?”ฮารินถาม แต่เอียนก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน“ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน ดูเหมือนมันจะเป็นทางเข้าแท่นบูชาอะไรสักอย่าง..”ขฯะที่พูดอยู่เอียนก็วางบุ๊กค์ที่ร้องบนหลังและก็ปวดเอวของตน“โอ๊ย เอวฉัน อย่างแรกเราควรจะพักกันสักหน่อย”ฮารินเมื่อเห็นเขาเป็นเช่นนั้นก็ยิ้ม“มันหนักขนาดนั้นเลยหรอ?”“ก็ไม่ได้ขนาดนั้น…”ทันทีที่บุ๊กค์ลงมาถึงพื้น มันก็โผล่หัวออกมาและเริ่มวิ่งไปรอบๆฮารินหัวเราะและเรียกเอียน“จินซุง”“ว่าไง?”“ไม่แน่นะ เหตุผลที่มันน้ำหนักขึ้น…”บุ๊กค์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หยุดเดินและหันหน้ามาจ้องที่ฮารินGlare-!ถึงจะเป็นฮารินเทพธิดาแห่งมีตบอลก็เถอะ มันก็ไม่อาจยกโทษให้เธอได้ถ้าหากเธอพยายามจะให้มันควบคุมอาหารฮารินพูดต่อ“มันอาจจะไม่ใช่เพราะว่ามันกินเยอะ แต่อาจจะเป็นเพราะมันไม่ค่อยได้ออกกำลังกายก็ได้?”“หืม? ขาดการออกกำลังกาย?”ฮารินพยักหน้าและพูดต่อ“ใช่แล้ว ในเมื่อมันอยู่บนหลังของนายตลอด มันก็ไม่เคยมีโอกาสที่จะได้เดินไปรอบๆบ้างเลย ถึงมันจะกินเยอะแต่ถ้านายให้มันออกกำลังกาย ฉันคิดว่าน้ำหนักของมันก็ไม่น่าจะเพิ่มขึ้น…”“อืมม นั่นก็อาจจะจริง”เอียนหันไปหาบุ๊กค์“บุ๊กค์ แกคิดว่ายังไง? แกอยากจะกินเท่าไหร่ก็ได้แล้วออกกำลังสักหน่อยมั้ย?”บุ๊กค์เมื่อมองไปที่เอียนก็หลับตาและทำท่าครุ่นคิดBboo-ook…จริงๆแล้วบุ๊กค์ไม่ใช่เพียงแค่เต่าที่แสนโลภอย่างเดียว แต่มันก็ขี้เกียจแบบสุดๆเช่นกันมันก็รู้สึกสบายเหมือนกันเมื่อมันอยู่เพียงบนหลังของเอียนมันมีความสุขเมื่อมันลงมาจากหลังของเอียนก็จริง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างถ้าหากเป็นเจ้านายปีศาจอย่างเอียนละก็ บุ๊กค์รู้สึกว่าเอียนจะให้ออกกำลังกายอย่างหนักแน่ๆบุ๊กค์คิดไม่ออกว่าจะทำยังไงดี จึงเลี่ยงที่จะตอบคำถามนี้ไปBbook-!เอียนส่ายหัวขณะที่บุ๊กค์คลานไปที่ไหนสักแห่ง“เห็นมั้ย มันไม่คิดอยากจะออกกำลังด้วยซ้ำ ฉันมั่นใจเลย”เมื่อเอียนที่รู้นิสัยของมันดีพูดตัดบท มันก็สะดุ้งไปชั่วขณะอย่างไรก็ตามมันทำเป็นไม่ได้ยินและเริ่มคลานต่อฮารินทำท่าเซ็งเล็กน้อยและบ่นออกมา“เอาจริงงั้นหรอเนี่ย…”ทั้งสองพักกันสักพักเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ของตนถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เอียนก็ยังคงจ้องไปที่หินอ่อนสีใสอย่างเอื่อยๆ‘มันคืออะไรกันแน่นะ? ถ้าหากฉันรู้ความลับอะไรสักอย่างของแก้วหินอ่อนนี่ได้ ฉันรู้สึกว่ากำแพงหินมันจะเปิดออก..’เอียนค่อยๆยืนขึ้นและจับไปที่กำแพงและก่อนที่เขาจะรู้ตัวเขาก็วางมือของตนไว้บนหินอ่อนใสทันใดนั้นเองข้อความระบบที่อยู่เหนือความคาดหมายก็เด้งขึ้นมาตรงหน้าเอียนRing- ท่านสามารถใช้ไอเทม ‘โลหิต’ ได้ ท่าจะใช้หรือไม่? สถานการณ์อันเหนือความคาดหมายนี้ เอียนก็ตกใจเล็กน้อยแต่เขาก็ใช้โลหิคไปโดยไม่ลังเลเพราะว่าเขาได้โลหิตมาค่อนข้างเยอะจากการฆ่าหมาป่าเคราสีเลือดไป“ฉันจะใช้มัน”ทันทีที่เอียนพูดโลหิตหนึ่งชิ้นจากหน้าอกของเอียนก็ถูกดูดเข้าไปในหินอ่อนสีใส ท่านได้ใช้ไอเทม ‘โลหิต’ ‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 2% ปัจจุบันอัตราการฟื้นฟูของ ‘หยกสีโลหิต’: 2/100 เอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้‘ที่แห่งนี้จะต้องเปิดขึ้นแน่ๆถ้ามันถูกเติมจนเต็ม’อย่างแรกเอียนได้ใช้โลหิตทั้งหมดของตนโดยไม่มีข้อยกเว้น ‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 2% ‘หยกสีโลหิต’ ถูกฟื้นฟู 3% อัตราการฟื้นฟูมันแตกต่างกันขึ้นอยู่กับขนาดของโลหิตเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจจากการที่เขาใช้โลหิตไปมากกว่า20อัน มันก็สามารถฟื้นฟูมาได้เพียง30%เท่านั้นฮารินเมื่อเห็นแสงสีแดงจากมือของเอียนถูกดูดเข้าไปไม่หยุดก็ดูเหมือนจะเริ่มสงสัยก็เลยเดินไปหาเขา“จินซุง นายกำลังทำอะไรน่ะ?”“อ่อ ฉันคิดว่าฉันเจอคำตอบแล้ว ฮารินมันมีโลหิตที่เธอได้มาระหว่างล่าใช่มั้ย?”จินซุงเดาว่าฮารินก็น่าจะมีโลหิตในปริมาณที่เท่าๆกัน และเขาคิดว่าถ้าเขาใช้มันทั้งหมดมันก็จะสามารถเติมเต็มอัตราการฟื้นฟูได้ทั้งหมดถึงกระนั้น ฮารินก็ลังเลที่จะจอบ“เอ่อ..นั่นมัน…จินซุง”“อะไร?”“ฉันมีพื้นที่ไม่พอสำหรับวัตถุดิบทำอะไรของฉัน ฉันก็เลยทิ้งโลหิตพวกนั้นไปหมดเลย…”“…”จินซุงสับสนเล็กน้อย แต่เขาตัดสินใจที่จะคิดไปในทางที่ดี‘ไม่เป็นไรหรอกในเมื่อเราก็ได้บัฟผู้คันพบคนแรกอยู่แล้ว…มันก็คงจะโอเคถ้าเราล่าเยอะๆ คิดว่านะ’ถ้าพวกเขากลับไปสักหน่อยจากที่ที่เขาผ่านมา หมาป่าเคราสีเลือดที่พวกเขาล่าไปก่อนหน้านี้ก็น่าจะเกิดใหม่หมดแล้วเอียนเรียกบุ๊กค์ที่คลานไปอยู่ตรงมุมหนึ่งของทางเดินและบิดตัวไปมา“บุ๊กค์ ไปล่ากัน”ถึงกระนั้นบุ๊กค์ก็ทำหูทวนลมเอียนเมื่อเห็นเช่นนั้นก็บ่นพร้อมกับเดินไปหามัน“เฮ้ แกหยิบอะไรขึ้นมากินกัน?”มันไม่ใช่ทุกวันที่บุ๊กค์จะกินสิ่งที่เหมือนมอสที่โตในพื้นที่ล่าแบบนี้ เอียนก็เดินเข้าหามันโดยไม่คิดอะไรอย่างไรก็ตามฮารินเดินไปหาบุ๊กค์ก่อนเอียน ก็ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจ“จินซุง นี่มันหญ้าคาลล่าโลหิต!(หญ้าคาลล่าเป็นหญ้าที่ขึ้นในพื้นที่ที่มีดินเค็มจัด)”“ห้ะ? มันคืออะไร?”“It’s a cooking ingredient, but, how do I explain this…”“มันเป็นวัตถุดิบทำอาหารแต่จะอธิบายยังไงดี…”ฮารินคิดไปครู่หนึ่งและดูเหมือนจะคิดอะไรออกแล้วก็พูดต่อ“อ่า นายรู้จักแคปไซซินใช่มั้ย? นายน่าจะเข้าใจว่ามันเป็นวัตถุดิบทำอาหารที่มีคุณสมบัติเหมือนกับแคพไซซินใช่มั้ย?”[แคปไซซิน(Capsaicin) เป็นสารที่ทำให้พริกมีรสเผ็ดร้อน]และเอียนก็ทำหน้าเหวอ“อะไรนะ? แคปไซซินงั้นหรอ?”จินซุงรู้ดีถึงความโหดร้ายของแคปไซซินเมื่อครั้งแรกที่เขาอยู่คนเดียว ขณะที่เขาทำต๊อกบ๊อกกิอยู่ เขาก็ได้ใส่แคปไซซินไปในปริมาณมากโดยไม่คิดอะไรเขายังคงไม่ลืมความโหดร้ายของความเผ็ดที่เขาได้กินเลยมันเป็นบางสิ่งที่ทำให้เขาไม่อาจลืมได้เพราะทำให้เขาแสบตูดไปถึงเกือบสองวัน“ฮาริน งั้นมันจะไม่เป็นไรงั้นหรอถ้ามันกินไปแบบนั้น?”เอียนไม่ได้พูดสิ่งที่เขาจะพูดต่อเพราะว่าบุ๊กค์ที่กินแคปไซซินไปก็เริ่มที่จะกระโดดไปมาขณะที่ดูมัน ฮารินก็ถอนหายใจออกมา“ฟู่ว ท้องของมันก็จะปั่นป่วนทันทีเมื่อกินไปเพียงใบเดียว….”เอียนมองบุ๊กค์ด้วยความสงสารและเห็นใจ“พี่คนนี้ก็บอกแล้วไงว่าอย่ากินอะไรมั่วๆ บุ๊กค์”เสียงร้องอันน่าสงสารที่เขาไม่เคยได้ยินจากบุ๊กค์มาก่อนก็ได้ออกมาจากปากของมันBboo-roo-roo-rook-!
คอมเม้นต์