Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 918 ไม่เกรงกลัวความตาย
ตูม!อวี่หลิงคงบาดเจ็บอีกครั้ง อกซ้ายถูกประทับหมัดของหลินสวินทุบตะบัน หากไม่ใช่ว่าเขาสวมชุดเกราะอัศจรรย์เหนือธรรมดา การโจมตีนี้คงเจาะทะลวงร่างเขาแน่เขากระอักโลหิต รับรู้ว่าไม่เข้าทีแต่เทียบกันแล้วความอัปยศและเดือดดาลในใจเขามากยิ่งกว่า ต่อสู้ถึงบัดนี้เขายังถูกจู่โจมจนบาดเจ็บ นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเจอมาก่อนในทางกลับกัน หลินสวินเรียบเฉยและนิ่งสงบยิ่งกว่าเดิม ตั้งแต่เข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคถึงตอนนี้ ตลอดทางเขาผ่านการต่อสู้มาไม่น้อย ศักยภาพแปรสภาพครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเช่นการบุกทะลวงเขตขีดจำกัด ทะลวงขั้นกลางทะเลปรวนแปร ยกระดับพลังจิตวิญญาณขณะจุดโคมวิญญาณ ได้รับพลังมหามรรคดับดารากลืนกินยามหยั่งรู้ที่ป่าศิลา…ประสบการณ์และประโยชน์ต่อเนื่องแม้เรียกได้ว่าน่าตกตะลึง แต่กลับปนเปกันอยู่บ้าง การหยั่งรู้และใจความมากมายไม่อาจย่อยจำแนกเป็นรูปธรรมแต่ศึกใหญ่อันยากลำบากหาใดเปรียบครั้งนี้ กลับทำให้เขาได้รับการเคี่ยวกรำอย่างแท้จริง ทยอยคลี่คลายและหยั่งถึงสิ่งที่ตนได้รับ พลังต่อสู้ก็เกิดการแปรสภาพตามไปด้วยกระทั่งตอนนี้ พลังขับเคลื่อนทั่วร่างหลินสวินเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม แต่ในใจกลับว่างเปล่าไม่แปดเปื้อนโลกีย์ ความกระจ่างนานัปการอุบัติขึ้นในจิตใจ ทำให้เขาได้เคี่ยวกรำทุกด้านระหว่างการต่อสู้เต็มกำลังครั้งนี้!เขาเริ่มกดดันต่อเนื่อง ผงาดผยองหาใดเปรียบ ราวเทพมารเคลื่อนกวาดฟ้าดินสุดท้ายสีหน้าอวี่หลิงคงเปลี่ยนแปร สัมผัสได้ถึงความไม่เข้าทียิ่งขึ้นด้วยพลังที่เขาใช้ก่อนหน้าแม้แข็งแกร่งหาใดเปรียบ แต่ก็ผลาญปราณมหาศาลเช่นกัน กระทั่งบัดนี้จวนจะแบกรับไม่ไหวแล้วพรูด!เพียงชั่วขณะสีหน้าอวี่หลิงคงพลันซีดเผือด ในที่สุดก็ทนต่อไปไม่ไหว กระอักเลือดออกจากปาก นี่คือสัญญาณบอกว่าใกล้อ่อนแรงเพียงพริบตา ผู้แข็งแกร่งคนอื่นต่างหวาดหวั่นอวี่หลิงคงก่อนหน้านี้ผงาดเหนือโลกระดับใด ประหนึ่งราชันเทพยึดกุมยอดวิชามรรค ทั้งมีพลังพลิกฟ้า ครองไพ่ตายมากมายแต่ตอนนี้เขากลับเหมือนยืนหยัดไม่อยู่!นี่ทำให้ผู้คนไม่อาจจินตนาการ เหลือเชื่อเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า บุคคลแห่งยุคซึ่งประหนึ่งไร้คู่ต่อกรอย่างอวี่หลิงคงจะมีสภาพเช่นนี้!สีหน้าผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะสองคนนั่นยิ่งไม่น่าดูถึงขีดสุด ในใจโยกคลอน ไม่อาจยอมรับทุกอย่างนี้สมบัติอริยะตำหนักอมตะออกจู่โจมแล้ว ทำไมยังถูกสกัดขวางไว้ได้อีกนี่เป็นไปได้อย่างไรตูม!ตรงกันข้าม หลินสวินกลับรู้สึกแข็งแกร่งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน กลิ่นอายทุกส่วนทั่วร่างพลุ่งพล่านเป็นประวัติการณ์ พลังหมัดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน เคลื่อนกวาดทั่วบริเวณ“สมควรตายนัก!” หน้าผากอวี่หลิงคงปรากฏเส้นเลือดทึบ โกรธจนผมตั้ง ฝึกปราณมาจนถึงทุกวันนี้ เขาผงาดขึ้นอย่างไร้คู่ต่อกรมาตลอด ไม่เคยพ่ายเพียงครา บัดนี้การโจมตีที่พบเจอจึงย่อมเป็นความอัปยศซึ่งยากขจัดโดยไม่ต้องสงสัยเขาตัดสินใจทุ่มสุดตัว!แต่เวลานี้หลินสวินทะลวงห้วงอากาศมาถึง พลังหมัดบดบังเวิ้งฟ้าสังหารลงมา อวี่หลิงคงออกแรงต้านเต็มกำลังจึงฝืนสลายการโจมตีนี้ได้เขาเลือดลมตีกลับ สภาพดูไม่ได้ยิ่งกว่าเดิม ตระหนักได้ว่าหากไม่ตอบโต้ ศึกนี้คงยากพลิกสถานการณ์ทว่าเวลานี้หลินสวินก็ไม่คิดปล่อยโอกาสให้เขาต่อลมหายใจเช่นกัน ระหว่างที่พลังหมัดถูกคลี่คลาย ดาบหักซึ่งเจิดจ้าดุจหิมะฟาดฟันมาถึงกระบวนเฉือนนภาสงัด!ฟ้าดินเงียบเชียบ ทุกสุ้มเสียงราวอันตรธาน เหลือเพียงคมดาบดั่งฝันเสมือนมายาวาวระยับบางเบากลางอากาศอวี่หลิงคงขนพองสยองเกล้า อันตรายถึงชีวิตทำให้เขากระโจนถอยโดยไม่ลังเล แต่สุดท้ายยังช้าไปก้าวหนึ่ง ทรวงอกถูกคมดาบหักกวาดโดนเสียงฟึ่บดังสนั่น ชุดเกราะที่เขาสวมถูกกรีดขาดราวทำจากกระดาษ บนร่างยังทิ้งรอยแผลชโลมโลหิต ผิวแตกเลือดอาบ โลหิตแดงสดพรั่งพรูดั่งน้ำพุเกือบจะถูกผ่าท้องแหวกอก!ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ อวี่หลิงคงส่งเสียงร้องเจ็บอย่างอดไม่อยู่ ร่างเหินข้ามห้วงอากาศ ปากพ่นเลือดเป็นสาย น่าอนาถชวนตะลึงหนึ่งโจมตีสะเทือนใต้หล้า!การโจมตีนี้ดุดันเกินไป ไม่มีสิ่งใดไม่อาจทำลาย เกิดขึ้นฉับพลันดุจเทพเนรมิต ทำให้อวี่หลิงคงบาดเจ็บสาหัส โลหิตแดงสดซ่านกระเซ็นทุกคนในที่นั้นตะลึงงันใครต่างไม่คาดคิดว่าหลินสวินจะดุดันและร้ายกาจเช่นนี้ ไม่ปล่อยโอกาสให้อวี่หลิงคงแม้แต่น้อย กล้าแกร่งถึงขีดสุด ทำเอาผู้คนสั่นสะท้านผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะสองคนนั่นร้องเสียงหลงพวกมู่เจี้ยนถิง หลี่ชิงฮวนสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ ใจกระตุกวูบหนักหน่วงพวกจี้ซิงเหยาและลั่วเจียเผยสีหน้าตระหนก ในใจคลื่นถาโถมโหมกระหน่ำ ความสามารถของหลินสวินเหนือการคาดเดาของพวกนางโดยสิ้นเชิงเช่นกัน“ย้าก…”อวี่หลิงคงแผดคำราม ทั่วร่างสว่างเรืองรอง อาการบาดเจ็บบนผิวกายเชื่อมสมานด้วยความเร็วน่าอัศจรรย์ ซ้ำพลังยังคงแข็งแกร่งเมื่อครู่อีกแค่นิดเดียวเขาก็จะถูกสังหาร จะให้เขายอมรับได้อย่างไร?ตูม!แต่ไม่รอให้เขาลุกยืน หลินสวินก็พุ่งทะยานอีกครั้งกรำศึกถึงป่านนี้ ทำให้หลินสวินรู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของอวี่หลิงคงนานแล้ว มั่นใจว่าหากปล่อยให้หมอนี่รอดชีวิต จากนี้ไปคงเป็นภัยแฝงใหญ่หลวง!ดังนั้นหลินสวินจึงไม่ลังเลอีก เด็ดขาดและตรงไปตรงมา หมายสังหารอวี่หลิงคงให้สิ้นซากแต่เวลานี้เอง ที่ห่างออกไปพลันมีเสียงตวาดหนึ่งดังขึ้น “หยุดนะ เทพมารหลินเจ้าดูสิว่านี่ใคร”เสียงตะโกนมาจากผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะคนหนึ่งนามซุนชวนตอนนี้เบื้องหน้าเขายังมีชายหนุ่มอีกคน เพียงแต่ถูกซุนชวนคุมตัวแน่นหนา กระบี่วิญญาณเล่มหนึ่งจ่ออยู่บนลำคอชายคนนั้นและชายหนุ่มนั่นถึงกับเป็นเยวี่ยเจี้ยนหมิง!เพียงชั่วขณะนัยน์ตาหลินสวินพลันหดรัด สีหน้าเปลี่ยนเป็นเยียบเย็นชวนประหวั่นอย่างยิ่ง คาดไม่ถึงสิ้นเชิงว่าเยวี่ยเจี้ยนหมิงที่ละทิ้งการชิงศุภโชค รออยู่ใต้ต้นโคมสำริดมรรคโบราณนานแล้วจะถูกศัตรูจับมาเป็นตัวประกันใช้ข่มขู่!เห็นชัดว่าพวกเขาวางแผนอยู่ก่อนแล้ว!ขณะเดียวกันผู้แข็งแกร่งคนอื่นในที่นั้นล้วนเห็นทุกอย่างกับตา สีหน้าต่างเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่น คาดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่าผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะซึ่งองอาจผ่าเผยจะทำเรื่องลักพาตัวประกัน กลวิธีนี้ไม่ขายหน้าไปหน่อยหรือโดยเฉพาะการกระทำนี้แม้สามารถช่วยชีวิตอวี่หลิงคงได้ แต่หากแพร่งพรายออกไป สถานการณ์นี้คงกลายเป็นรอยด่างติดตัวอวี่หลิงคงชั่วชีวิต ไม่อาจขจัดลบล้างถึงเวลานั้นทั่วโลกคงเห็นว่าอวี่หลิงคงสู้หลินสวินไม่ได้ เพื่อรักษาตัวรอดจึงเอาชีวิตคนอื่นมาข่มขู่หลินสวิน!ตอนนี้แม้แต่จี้ซิงเหยาและลั่วเจียก็มุ่นคิ้วอย่างอดไม่อยู่ไม่ต้องสงสัย เยวี่ยเจี้ยนหมิงถูกจับขึ้นมาก่อนแล้ว บ่งชี้ว่าเรื่องนี้มีการวางแผนล่วงหน้า นี่ทำให้ผู้คนใจสั่นระรัว ใครเล่าจะกล้าเชื่อว่าผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะจะทำเรื่องชั้นต่ำเช่นนี้“พวกเจ้ารนหาที่ตายรึ”หลินสวินนัยน์ตาเยียบเย็นดุจหุบเหว ไอสังหารที่ซัดโหมภายในใจจวนระงับไม่อยู่ แต่ละคำเจือไอสังหาร“ฮึ อยากให้สหายเจ้ารอดชีวิตก็ทำตามที่พวกเราพูด หากเจ้ากล้าตุกติกอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”ซุนชวนสีหน้าทะมึน คุมตัวเยวี่ยเจี้ยนหมิงแน่น ปลายกระบี่จ่อคอฝ่ายหลัง ผิวถูกแทงบาดเจ็บ หลั่งมุกโลหิตแดงก่ำประปรายฉวยโอกาสนี้ ผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะอีกคนพุ่งออกไปประคองอวี่หลิงคง กลับมารวมตัวอยู่กับพวกเขาเหตุการณ์พลันเงียบสงัดผิดปกติ อึดอัดจนหายใจไม่ออกทุกคนต่างดูออกว่าหลินสวินโกรธประหนึ่งภูเขาไฟที่พร้อมปะทุทุกเมื่อ ทั่วร่างไอสังหารมืดฟ้ามัวดินถาโถม น่าหวาดกลัวถึงขีดสุด“ปล่อยเขาไป แล้วข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้า ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าไม่ว่าใครก็อย่าหวังจะรอด!” สุดท้ายหลินสวินสีหน้าเรียบเฉยเอ่ยกล่าว ใช้พลังทั้งหมดข่มไอสังหารและโทสะภายในใจเห็นดังนี้พวกซุนชวนแอบเป่าปากโล่งอก พวกเขาไม่กลัวหลินสวินกลับคำ กลัวแต่เขาจะไม่สนใจชีวิตเยวี่ยเจี้ยนหมิง!ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาเดิมพันถูก ผู้แข็งแกร่งอย่างเทพมารหลินเมื่อเผชิญสถานการณ์เป็นตายของสหายก็ได้แค่ยอมถอย!“พวกข้าจะไม่บีบเจ้าจนเกินไป คิดอยากให้สหายเจ้ารอดชีวิตนั้นง่ายมาก มอบเจดีย์สมบัติในมือเจ้ามา!” ซุนชวนแววตาส่องประกาย เอ่ยข้อเรียกร้องหนึ่งคราวนี้แม้แต่พวกจี้ซิงเหยาล้วนทนดูต่อไม่ไหว นี่ไม่เรียกว่าบีบบังคับเกินไปอีกหรือ ช่างทำให้ผู้คนไม่อาจจินตนาการว่าผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะจะทำตัวน่ารังเกียจเช่นนี้!อวี่หลิงคงเงียบงัน เขากำลังรักษาบาดแผลเต็มที่ ไม่กล่าวอะไรสักประโยคแต่เขาลอบตัดสินใจไว้แล้ว รอครั้งนี้รอดไปได้จะสังหารซุนชวนทันที จากนั้นค่อยบอกคนในใต้หล้าว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน!เช่นนี้จึงจะสามารถรักษาชื่อเสียงและเกียรติภูมิของเขาไม่ให้เสียหาย ส่วนการตายของซุนชวน เขาไม่เก็บมาใส่ใจแต่แรก“ให้ข้าส่งมอบเจดีย์สมบัติหรือ”หลินสวินพึมพำกับตัวเอง สีหน้าเยียบเย็นยิ่งกว่าเดิม วาจาไร้ยางอายเช่นนี้หลุดจากปากผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะคนหนึ่ง นี่ทำให้เขาคาดไม่ถึง โกรธแค้นจวนเกินขอบเขต“เจ้าฟังไม่ผิด ดังนั้นก็ไม่ต้องสงสัย” เวลานี้ซุนชวนได้ใจนัก รู้สึกเหมือนกุมชะตาชีวิตหลินสวิน ไม่เกรงกลัวสิ่งใด“ศิษย์พี่ซุน ทำเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ ข้าเชื่อว่าหากผู้อาวุโสของสำนักเห็นภาพนี้เข้าคงไม่ให้ท่านทำเช่นนี้แน่” ในที่สุดไป๋หลิงซีก็ทนไม่ไหว ส่งเสียงเย็นชาออกมาประโยคเดียวกลับทำให้ซุนชวนสีหน้าทะมึน หลุดปากด่ายกใหญ่ “ไป๋หลิงซี ข้าดูออกนานแล้วว่าความสัมพันธ์เจ้ากับเด็กนั่นไม่ธรรมดา จงจำไว้ เจ้าคือผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะ การช่วยเด็กนั่นคือการทรยศสำนัก สมคบคิดศัตรู โทษไม่อาจละเว้น!”นัยน์ตากระจ่างของไป๋หลิงซีหดรัด ดวงหน้างามปรากฏความคั่งแค้น โกรธจนกัดฟันกรอด ในใจกลับหนาวเยือก คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนศอกกลับและต่อว่าเช่นนี้แต่ยังไม่รอนางเอ่ยปาก ก็เห็นเยวี่ยเจี้ยนหมิงที่ถูกจับมาพลันเงยหน้าขึ้น มองหลินสวินด้วยหน้าตาละอายใจพลางกล่าว “หลินสวิน เป็นข้าที่ทำเจ้าเดือดร้อน ตลอดทางนี้เจ้าช่วยข้าหลายครั้ง แต่ข้ากลับก่อเรื่องให้เจ้าเสมอ…”กล่าวถึงตรงนี้เขาสูดหายใจลึก สีหน้าปรากฏความเด็ดเดี่ยว “เจ้าเห็นข้าเยวี่ยเจี้ยนหมิงเป็นสหาย ข้าย่อมไม่มีทางปล่อยให้เจ้าถูกคนอื่นข่มขู่!”ทันใดนั้นหลินสวินเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีวูบหนึ่ง สีหน้าพลันเปลี่ยนแปร “อย่านะ!”แต่สายไปเสียแล้ว หลังเยวี่ยเจี้ยนหมิงกล่าวจบก็ประหนึ่งหลุดพ้น บนใบหน้าเจือความรู้สึกละอายและอาดูรอย่างสุดซึ้ง ยื่นลำคอพุ่งเข้าหาคมกระบี่ด้วยตัวเองพรูด!โลหิตแดงสดสาดกระจาย ร้อนระอุทว่างดงาม ย้อมห้วงอากาศจนแดงฉานทุกคน ณ ที่นั้นเงียบสนิท เงียบกริบไร้สุ้มเสียงไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าเยวี่ยเจี้ยนหมิงจะไม่เกรงกลัวความตาย เด็ดขาดและนิ่งสงบเช่นนี้และที่เขาทำเช่นนี้ แค่เพียงเพื่อไม่ให้หลินสวินถูกข่มขู่…ความซาบซึ้งเหลือจะเอ่ยผุดขึ้นในใจของแต่ละคนโลหิตแดงสดพรั่งพรูสาดร่างซุนชวน เขาตกตะลึงตาค้าง อึ้งงันอยู่ตรงนั้น ท่าทางยากจะเชื่อข้างๆ เขา อวี่หลิงคงและผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะอีกคนต่างนิ่งอึ้ง อย่างไรเสียก็คิดไม่ถึงว่าเยวี่ยเจี้ยนหมิงจะเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวเช่นนี้……………….
คอมเม้นต์