Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 878 ทะเลแห่งความปรวนแปร
ตอนที่ 878 ทะเลแห่งความปรวนแปร
ขวดหยกเล็กกระจ้อยร่อยอย่างที่สุดใบนี้ ถึงกับกล้าตั้งชื่อที่ทำให้ผู้ฝึกปราณคนใดก็ตามสั่นสะท้าน?หลินสวินสงสัยมหามรรคสุดหยั่ง นี่ไม่ใช่ชื่อที่สมบัติทั่วไปสามารถรองรับได้ มหามรรคเดิมคือพลังกฎเกณฑ์ที่สูงสุดอย่างหนึ่งกลางฟ้าดิน เสมือนสิ่งต้องห้าม นำมันมาเป็นชื่อเท่ากับละเมิดข้อห้ามโดยไม่ต้องสงสัย เป็นเรื่องร้ายไม่ใช่ดี!ส่วนสุดหยั่งสองคำนี้ก็ยิ่งเน้นหนักอะไรเรียกว่าสุดหยั่งหลักแห่งอนันต์ไร้สิ้นสุด เร้นลับไม่อาจหยั่งถึง!ขวดใบน้อยแค่นี้กลับมีชื่อที่เกือบฝ่าฝืนสิ่งต้องห้าม นี่ทำให้ไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนใดพบเข้าล้วนตื่นตระหนกไม่ช้าจิตรับรู้หลินสวินก็ตรวจพบความอัศจรรย์บางส่วนของขวดใบนี้ และเข้าใจว่าเหตุใดมันจึงได้ชื่อนี้สมบัติชิ้นนี้ดูเหมือนขวดกระจิ๋วหลิว แต่ภายในประหนึ่งโลกอันไร้สิ้นสุดแห่งหนึ่ง ไม่อาจตรวจจับก้นบึ้งของมันโดยสิ้นเชิงความอัศจรรย์อันยิ่งใหญ่ที่สุดคือมันไม่ใช่สมบัติเก็บของ แต่เป็นสมบัติเก็บสะสมพลังยุทธ์!ตัวอย่างเช่น อานุภาพทั้งหมดซึ่งรวบรวมจากการปล่อยหมัดหนึ่งของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ สามารถเก็บสะสมไว้ในขวดนี้และเมื่อต้องการใช้ แค่เคลื่อนจิตรับรู้ก็สามารถปล่อยพลังและอานุภาพของกระบวนท่านี้ออกมา อีกทั้งพลานุภาพยังแกร่งกว่าที่สำแดงเองถึงเท่าตัว!เมื่อเข้าใจสิ่งเหล่านี้ หลินสวินสูดหายใจสะท้านอย่างกลั้นไม่อยู่ ‘นี่เทียบกับวิชายักย้ายถ่ายพลัง ยืมแรงสะท้อนแรง เคลื่อนคล้อยดาราแล้วอัศจรรย์กว่ามาก…’ฉัวะ!หลินสวินลองดูอย่างอดไม่อยู่ เรียกดาบหักออกมา และสำแดง ‘กระบวนเฉือนนภาสงัด’ พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตนวู้ม…ขณะเดียวกันเขาใช้จิตรับรู้ควบคุมขวด ปากขวดพลันร้อนระอุ รัศมีแสงเจิดจรัสดั่งฝันเสมือนมายาเอ่อท้น กลายสภาพเป็นคลื่นน้ำวนภาพน่าตกตะลึงพลันปรากฏ ทันทีที่กระบวนเฉือนนภาสงัดสำแดงออกมา ก็ถูกคลื่นวังวนเจิดจรัสนั่นกลืนกินจนหมดอย่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง!กลืนกินจริงๆพลัง อานุภาพ กระทั่งความอัศจรรย์ทุกอย่างซึ่งซ่อนอยู่ในกระบวนเฉือนนภาสงัดล้วนไม่เหลือแม้แต่น้อย ทั้งหมดถูกขวดมหามรรคสุดหยั่งนั่นดูดกลืนจนเกลี้ยง!ตูม!หลินสวินเคลื่อนจิต ขวดมหามรรคสุดหยั่งพลันปล่อยกระบวนเฉือนนภาสงัดออกมา พริบตานั้นราวแสงอัศจรรย์ไร้เทียมทานอุบัติบนโลก ผ่าแหวกเป็นรอยแยกกลางอากาศประมาณหมื่นจั้งผืนดินถูกทะลวงเป็นช่องมหึมาชวนตะลึง ฝุ่นควันตลบอบอวล ลึกไม่เห็นจุดสิ้นสุดหลินสวินในใจสะท้านไหวหนักหน่วง อานุภาพกระบวนเฉือนนภาสงัดนี้ทรงพลังกว่าที่ตนใช้อย่างมากดังคาด!สมบัติชั้นดี!หลินสวินดวงตาเป็นประกาย ขวดมหามรรคสุดหยั่ง นี่ต้องเป็นสมบัติหายากแห่งยุคซึ่งมีความอัศจรรย์เฉพาะตัวชิ้นหนึ่งแน่ น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่ง‘ก่อนต่อสู้สามารถสะสมพลังยุทธ์ ทำการจู่โจมสังหารศัตรูอย่างฉับพลัน นำมาใช้เป็นไพ่ไม้ตายได้’‘เช่นเดียวกัน ขณะต่อสู้ยังสามารถเรียกขวดนี้มาดูดกลืนกระบวนสังหารของศัตรู จากนั้นจึงใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง อีกทั้งหลังผ่านการดูดกลืนของขวดนี้อานุภาพยังเพิ่มขึ้นเท่าทวี…’แค่ชั่วพริบตาหลินสวินก็เข้าใจความอัศจรรย์สองอย่างของขวดนี้ระหว่างต่อสู้ ก่อนต่อสู้สามารถสะสมพลังเป็นไพ่ไม้ตายระหว่างต่อสู้ยังสามารถดูดกลืนกระบวนสังหารของศัตรู ใช้วิธีสะท้อนพลังคืนสู่เจ้าตัว ซ้ำอานุภาพยังแกร่งกว่า!‘ไม่รู้ว่าขวดนี้จะสามารถดูดกลืนกระบวนสังหารของสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันได้หรือไม่ หากทำได้ เช่นนั้นประโยชน์คงยิ่งน่าอัศจรรย์แล้ว…’หลินสวินนึกถึงตรงนี้พลันใจสั่นเล็กน้อยอย่างอดไม่อยู่เขาตระหนักได้ในทันที ว่าหากต่อไปถูกสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันไล่ล่าอีก สามารถอาศัยขวดนี้มาดูดกลืนวิชาสังหารของอีกฝ่ายเพื่อคลี่คลายวิกฤติแก่ตนได้โดยสมบูรณ์อีกทั้งขวดนี้ไม่ใช่แค่ดูดกลืนพลังเท่านั้น ยังสามารถสำแดงออกมาอีกครั้งด้วยอานุภาพเท่าทวี!คิดไปคิดมา เมื่อการโจมตีเต็มกำลังของสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันถูกขวดนี้ปลดปล่อยออกมาด้วยอานุภาพเป็นเท่าตัว จะสังหารสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันได้ในคราเดียวหรือไม่หลินสวินยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าสมบัตินี้วิเศษอัศจรรย์ไม่ธรรมดายิ่งแล้วเขารู้สึกได้อย่างรุนแรงว่า นี่เป็นแค่ความอัศจรรย์บางส่วนที่ตนสำรวจพบเท่านั้น ความอัศจรรย์ทั้งมวลของขวดน้อยใบนี้ต้องไม่ได้มีเพียงแค่นี้แน่!แต่ทุกอย่างล้วนเป็นการคาดเดาของหลินสวิน เจ้าขวดน้อยจะสามารถกลืนกระบวนสังหารของสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันได้หรือไม่ ต้องทดสอบด้วยตนเองแต่ไม่ว่าอย่างไร การทดสอบถกมรรคด่านที่สองนี้ สามารถได้รางวัลพิเศษเช่นนี้ ทำให้หลินสวินรู้สึกประหลาดใจพอควรวู้ม…ทันใดนั้น ยันต์มรรคในมือเกิดระลอกคลื่นคลุมเครือ ต่อมาหลินสวินก็ถูกเคลื่อนย้ายจากไป เลือนหายไปในเขตขีดจำกัดอันขมุกขมัว…พรึ่บ!เมื่อหลินสวินปรากฏตัวอีกครั้งก็มาอยู่หน้าผืนน้ำกว้างใหญ่ไพศาลหาใดเปรียบแห่งหนึ่ง น้ำทะเลซัดสาดเหมือนปราศพรมแดนไร้ขอบเขต ทอดมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดทะเลปรวนแปร!การทดสอบด่านที่สามจะเปิดฉากขึ้นที่นี่ทะเลนี้วิเศษอัศจรรย์นัก เมื่อการทดสอบเริ่มต้นบนผืนทะเลจะควบรวมดอกบัวออกมามากมาย ผู้ฝึกปราณต้องก้าวขึ้นไปในดอกบัว ทำการแข่งล่องในทะเลปรวนแปร มุ่งสู่อีกฟากฝั่งของทะเลจึงถือว่าผ่านการทดสอบบนชายฝั่งหน้าทะเลปรวนแปรเงาร่างมากมายรวมตัวอยู่ก่อนแล้ว กลุ่มคนเล็กๆ เกาะกลุ่มรวมกัน กำลังวิพากษ์วิจารณ์“เทพมารหลิน!”“ไม่รู้ว่าในการทดสอบถกมรรคด่านที่สองเขาได้ลำดับที่เท่าไหร่”“น่าเสียดาย คนที่เทพมารหลินล่วงเกินมีมากเหลือเกิน ไม่เช่นนั้นข้าคงยินดีเคลื่อนไหวพร้อมเขาบนทะเลปรวนแปรในการทดสอบด่านที่สามนี้”เมื่อเงาร่างหลินสวินปรากฏ ก็นำมาซึ่งการชำเลืองมองและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทันทีสำหรับเรื่องนี้หลินสวินไม่สะทกสะท้าน สายตากวาดมองทั่วบริเวณ พริบตาตัดสินได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งประมาณสองพันกว่าคนกระจายอยู่รอบๆ ชายฝั่งแห่งนี้‘จำได้ว่าตอนเข้าร่วมถกมรรคมีคนนับหมื่น แต่นี่เพิ่งทำการทดสอบถกมรรคด่านที่สามก็เหลือผู้แข็งแกร่งไม่ถึงสามส่วน จำนวนที่ถูกคัดออกน่าตกใจเกินไปแล้ว’ขณะหลินสวินใคร่ครวญก็เดินมาถึงจุดที่ห่างกับผู้คนแห่งหนึ่ง ทอดมองทะเลปรวนแปรอันห่างไกลเห็นชื่อแล้วก็พอมองออก ว่าเมื่อเข้าสู่ทะเลนี้จะต้องจมกระเพื่อมไหวอยู่ภายใน ผู้ฝึกปราณทำได้แค่อาศัยดอกบัวแทนลำเรือ ล่องแข่งขันอยู่ในนั้น ด้านบนไม่อาจเหินนภา ด้านล่างไม่อาจลงสู่ทะเลอีกทั้งทันทีที่พลัดตกทะเลจะถูกคัดออกในทันที!เทศกาลโคมกถามรรคในอดีต การทดสอบ ‘แข่งล่องทะเลปรวนแปร’ นี้แม้ไม่ถึงขั้นอันตราย แต่อัตราคัดออกกลับสูงยิ่งผู้แข็งแกร่งที่มีความแค้นต่อกันบางส่วน มักอาศัยโอกาสนี้ทำการล้างแค้นและโจมตีคู่ต่อสู้ การล่องลอยบนทะเลไร้ขอบเขตได้แต่อาศัยเรือดอกบัวมุ่งหน้าไป ทันทีที่เปิดศึก ความเป็นไปได้ในการพลัดตกทะเลก็มีมากยิ่งขอเพียงคลื่นลมหนึ่งล้วนสามารถทำคู่แข่งพินาศโดยง่ายถึงอย่างไร น้ำทะเลในทะเลปรวนแปรนั่นหาใช่น้ำธรรมดา อุดมพลังมหามรรคชวนประหวั่น แต่ละหยดล้วนหนักเกินพันชั่ง หากเกิดคลื่นทะเลสายหนึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับคีรีเทพลูกหนึ่งกดทับลงมาไม่ช้าหลินสวินก็เก็บสายตากลับมาเขาสังเกตเห็นว่าเหล่าบุคคลแห่งยุคอย่างจี้ซิงเหยา อวี่หลิงคงต่างมาถึงนานแล้ว ขณะนี้รวมตัวอยู่ด้วยกัน กำลังพูดคุยบางอย่างเสียงเบานอกจากนี้ข้างกายพวกมู่เจี้ยนถิง เหลยเชียนจวิน จงหลีอู๋จี้ ชิงเหลียนเอ๋อร์ ซาหลิวฉาน หลี่ชิงฮวน อู่ต้วนหยา ต่างล้อมรอบด้วยคนเป็นกลุ่มๆหลินสวินเห็นไป๋หลิงซี นางสวมชุดขาว รูปร่างหน้าตาดั่งภาพวาด ผมดำดุจน้ำตก ใบหน้างามประณีตสันโดษ กำลังยืนอยู่ข้างอวี่หลิงคงเมื่อเห็นสายตาของหลินสวิน นางยิ้มเล็กน้อยพลางผงกศีรษะหลินสวินยิ้มรับ เพียงแต่ไม่นานสีหน้าเขาพลันชะงัก สังเกตเห็นแววตาเย็นชาคู่หนึ่งกวาดมองมายังตนคนผู้นั้นสวมชุดกระโปรงสีพื้น รูปร่างทรงสง่าแบบบางสมส่วน ผิวพรรณแวววาวผุดผ่อง หน้ารูปเมล็ดแตงขาวกระจ่างงามสง่าหาใครเทียม ยืนอยู่ตรงนั้นตามอารมณ์ มีกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เหนือห้วงมายา ประดุจเซียนซึ่งเดินออกมาจากภาพวาดเป็นจี้ซิงเหยาผู้สืบทอดเรือนกระบี่เร้นปุจฉานั่นเองทว่าหลินสวินกลับร้อนตัวอยู่บ้าง ตอนนั้นเขาไม่ทันระวังกระแทกก้นเด็กสาวหยิ่งทะนงนี่ครั้งหนึ่ง ทำให้เกิดความเข้าใจผิดอึดอัดบางประการหากไม่จำเป็นหลินสวินไม่อยากเจอจี้ซิงเหยาจริงๆ เด็กสาวคนนี้ไม่เพียงเย่อหยิ่งเหลือประมาณ ซ้ำยังอารมณ์ยัง…เวลานี้หลินสวินสัมผัสได้อย่างเฉียบคมว่าสายตาที่จี้ซิงเหยามองมาแม้นิ่งสงบ แต่มีไอสังหารไร้รูปเสี้ยวหนึ่งราวมีดดาบพาให้หนาวสะท้านขณะเดียวกัน ข้างหูหลินสวินพลันมีเสียงสื่อจิตเยียบเย็นหนึ่งว่า ‘หากเจ้ากล้าพูดเรื่องวันนั้นออกมา ข้ารับรองว่าเจ้าต้องไม่ตายดี!’เต็มไปด้วยความข่มขู่หลินสวินหรี่ตาลง เด็กสาวนี่เจ้าอารมณ์ซะจริง ผ่านไปนานตั้งเท่าไหร่แล้ว ทำไมนางยังจำไม่ลืมมุมปากเขาปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ พลันโบกมือไปทางจี้ซิงเหยาซึ่งอยู่ห่างไกล ก่อนกล่าวรับปาก “วางใจเถอะ นี่คือความลับระหว่างเราสองคน ข้าไม่ปริปากบอกใครแน่”“เจ้า…” สีหน้าจี้ซิงเหยาแข็งทื่อ นัยน์ตากระจ่างดุจดาราคู่นั้นปรากฏโทสะอย่างไม่อาจระงับ นางไหนเลยจะคาดคิดว่าเจ้าหมอนี่จะหน้าด้านและไร้ยางอายเช่นนี้ ถึงกับเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมาต่อหน้าผู้คนมากมายนี่มันรับปากซะที่ไหน เห็นชัดว่าเป็นการแกล้งหยอกอย่างหนึ่ง!ดังคาด เมื่อได้ยินวาจานี้ของหลินสวิน ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในละแวกใกล้เคียงต่างตกตะลึงทันที อึ้งงันอ้าปากค้างนี่มันเรื่องอะไรกันเทพมารหลินแอบเกี้ยวพาเทพธิดาจี้หรือทุกคนตรงนั้นกระสับกระส่ายยากจะเชื่อจี้ซิงเหยาเป็นถึงบุคคลผู้นำซึ่งถูกจับตามองที่สุดในหมู่คนรุ่นเยาว์แห่งแดนฐิติประจิม เสมือนเซียนบนสวรรค์ ถูกผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนยกย่องและเลื่อมใสที่ผ่านมาไม่เคยได้ยินว่านางข้องแวะกับชายหนุ่มมากความสามารถคนไหนมาก่อนแต่ตอนนี้เทพมารหลินกลับเอ่ยวาจาเช่นนี้ออกมา นี่จึงทำให้ผู้คนผุดความคิดบางอย่างขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่ได้เพียงชั่วขณะในใจผู้แข็งแกร่งมากมายต่างลอบอิจฉาและริษยา มีผู้ฝึกปราณจำนวนมากเคียดแค้นชิงชัง คิดว่าเทพมารหลินลบหลู่ดูหมิ่นเทพธิดาจี้ส่วนจี้ซิงเหยาเมื่อได้เห็นดังนี้ ความแค้นใหม่เก่าพลันท่วมท้นในใจ นางขบฟันแน่น นัยน์ตากระจ่างฉายประกายอสนี แทบอยากพุ่งไปฉีกร่างเจ้าสารเลวหลินสวินนี่เสียตอนนี้น่าโมโหเกินไปแล้ว!นางไม่เคยเจอคนหน้าด้านไร้ยางอายเช่นหลินสวินมาก่อน!‘เจ้ารอข้าก่อนเถอะ!’จี้ซิงเหยาสื่อจิตเปี่ยมความคั่งแค้น นางพลันพบว่าแค่เจอหลินสวิน ตนก็ควบคุมอารมณ์ในใจไม่อยู่ ทั้งไม่อาจสงบใจได้หลินสวินยิ้มบางๆ แต่เจิดจ้าหาใดเปรียบ ในใจลอบกล่าวว่า เจ้าข่มขู่ข้าได้แต่ไม่ยอมให้ข้าโต้กลับหรือ ไร้สาระสิ้นดี!แต่ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดในบริเวณใกล้เคียงเห็นภาพนี้เข้าในใจพลันอลหม่าน เทพมารหลินและจี้ซิงเหยากำลัง ‘ถ่ายทอดความรู้สึก’ กันอยู่หรือแต่ทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคนมากมายจะดีจริงหรือจี้ซิงเหยารู้สึกว่าหากทำเช่นนี้ต่อไป คงถูกคนต่ำช้าหน้าไม่อายอย่างหลินสวินทำให้โกรธจนคลั่งแน่ นางสูดหายใจลึกหันไปทางอื่น ราวกับว่าหากมองหลินสวินมากกว่านี้คงทำนางสติแตกสิ้นเชิงทว่าอวี่หลิงคงซึ่งยืนอยู่ด้านข้างและเห็นทุกอย่างนี้ นัยน์ตากลับฉายแววเยียบเย็นสายหนึ่งก่อนลับหายไปในชั่วพริบตาอย่างยากสังเกตเห็น
คอมเม้นต์