Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 868 หยั่งรู้ประทับรบ
ตอนที่ 868 หยั่งรู้ประทับรบ
ภูเขาน้ำแข็งยิ่งใหญ่ ขาวโพลนเปล่งประกายไปทั้งเขา สูงตระหง่านเกรียงไกรหลินสวินนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น สงบใจหยั่งรู้เหนือภูเขานี้ปกคลุมไปด้วยประทับรบอริยเทพที่หลงเหลือมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันรอยหนึ่ง เจตจำนงต่อสู้เก่าแก่ไพศาล เรียกได้ว่าสะท้านโลกาทันทีที่หยั่งรู้หลินสวินก็ตื่นตระหนกยิ่งนัก กลิ่นอายของประทับรบอริยเทพนี้บริสุทธิ์หาใดเทียม เจือไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ ชั่วพริบตาเท่านั้นทำให้เลือดลมทั่วกายของเขาร้องระงม เกิดเจตจำนงต่อสู้ที่กดข่มไว้ไม่อยู่เขาสูดหายใจลึก ฝืนเก็บกลั้นเจตจำนงต่อสู้ในใจแล้วหยั่งรู้ต่อเขาแน่ใจแล้วว่า กลิ่นอายของประทับรบอริยเทพนี้มีประโยชน์เหลือคณาต่อการฝึกยุทธ์!หากใช้ใจหยั่งรู้ รวมกับวิชายุทธ์ที่ตนครอบครองอยู่แล้ว จะสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายสิ่ง สัมผัสเพียงหนึ่งได้ครอบครองทั้งหมดหลินสวินกวาดตามอง แล้วค้นพบดังคาดว่าไม่ว่าจะเป็นพวกซาหลิวฉาน หลี่ชิงฮวน อู่ต้วนหยา หรือบุคคลโดดเด่นแห่งยุคคนอื่นๆ ล้วนไม่ได้พักผ่อน ต่างยึดพื้นที่บริเวณหนึ่งและกำลังจดจ่อกับการสงบจิตบำเพ็ญเห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้คุณประโยชน์ของกลิ่นอายประทับรบอริยเทพอยู่ก่อนแล้วหลินสวินไม่ลังเล เพ่งสมาธิ นั่งขัดสมาธิท่ามกลางลมหิมะบนยอดเขา รวมพลังจิตเป็นหนึ่งแล้วเริ่มหยั่งรู้เขาโคจรวิชาลับดวงใจฉิวหนิว ทำเช่นนี้แล้วจะส่งผลให้เขาสามารถสัมผัสถึงปริศนาแก่นแท้ของประทับรบอริยเทพนั้นอย่างง่ายดายและตรงไปตรงมายิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน หลินสวินไม่ได้ผ่อนปรนความรอบคอบลงโดยสมบูรณ์ เขาควบรวมวิญญาณแห่งพลังจิตได้แล้ว สามารถทำได้หลายอย่างด้วยการตั้งจิตครั้งเดียว ในเวลาเดียวกับที่เขาหยั่งรู้อยู่ เขาก็สำแดงนัยน์ตาเฉาเฟิงกวาดมองห้วงอากาศรอบทิศสาเหตุที่เมื่อครู่เขาได้บัวเพลิงแปดกลีบดอกหนึ่งมาราวสามารถคาดการณ์ล่วงหน้า ก็เพราะอาศัยคุณประโยชน์ของนัยน์ตาเฉาเฟิงวิชาลับนี้สามารถมองทะลุภูผาธารา เส้นสายในนภากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง ล้วนสามารถมองขาดได้ในครั้งเดียวดังนั้นบนเขาน้ำแข็งปทุมเพลิงนี้ หลินสวินสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงน้อยนิดบางอย่างที่ผู้อื่นไม่อาจสังเกตได้ เมื่อดอกบัวเพลิงปรากฏก็สามารถค้นพบได้ล่วงหน้าไปก้าวหนึ่งเวลาเคลื่อนไปทีละน้อยบริเวณยอดเขาเงียบเชียบไร้เสียง ดอกบัวเพลิงยังไม่ปรากฏขึ้นอีกกลับเป็นบริเวณด้านล่างของภูเขาที่มีดอกบัวเพลิงดอกแล้วดอกเล่าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้าอยู่ที่นั่นมาโดยตลอดช่วงชิงแต่คุณสมบัติของดอกบัวเพลิงเหล่านั้นล้วนต่ำกว่าระดับกลาง อย่างมากก็มีกลีบดอกห้ากลีบ ดึงดูดเหล่าบุคคลไร้เทียมทานอย่างพวกหลินสวินได้ไม่มากนักในระหว่างนี้ก็มีผู้กล้าบางคนได้รับภัยคุกคามถึงชีวิต โชคร้ายถูกคัดออกไปยามชิงวาสนาขณะเดียวกันก็มีเหล่าผู้กล้าที่มาใหม่มากมายเริ่มขึ้นเขา หมายจะช่วงชิงวาสนาไม่เพียงแดนลี้ลับหิมะน้ำแข็ง ในบริเวณอื่นของแดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปรแห่งนี้ เหตุการณ์ทำนองนี้ก็ดำเนินอยู่เช่นกันมีคนถูกคัดออก และมีคนได้รับวาสนา กลายเป็นเมื่อมีคนสุขก็มีคนเศร้าจริงๆ……หืม?ทันใดนั้นเองหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิอยู่ก็ผุดลุกขึ้น เงาร่างหายวับ พุ่งลงไปยังที่ที่อู่ต้วนหยาอยู่“เจ้าจะทำอะไร!”อู่ต้วนหยาหน้าเปลี่ยนสีโดยพลัน ชักดาบศึกออกมาเสียงดังชิ้ง ท่าทางตระหนกตกใจสวบ!หลินสวินไม่สนใจเขา เอื้อมมือขึ้นไปยังศิลาหิมะที่อยู่ไม่ไกลนักเดิมทีที่นั่นว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด แต่ยามหลินสวินยื่นมือออกไป กลับมีดอกบัวเปล่งประกายราวเพลิงแผดเผาดอกหนึ่งปรากฏออกมาฟุ่บ!ชั่วพริบตา บัวเพลิงเจ็ดกลีบดอกนี้ก็ถูกหลินสวินเก็บไปอู่ต้วนหยาดวงตาแข็งค้าง หน้าแดงเถือก รับรู้ได้ว่าการตอบโต้ของตนเมื่อกี้รุนแรงเกินไป รู้สึกขายหน้าไปบ้างแต่ที่ทำให้เขาขุ่นเคืองก็คือ หากไม่ใช่หลินสวินลงมือ เดิมทีดอกบัวเพลิงเจ็ดกลีบนี้ควรจะเป็นของเขา!บุคคลโดดเด่นแห่งยุคคนอื่นก็ตื่นตระหนก เมื่อเห็นภาพนี้แล้วสีหน้าล้วนแปลกประหลาดไปบ้าง ดวงตาฉายแวววาวโรจน์ในชั่วครู่เดียวหากกล่าวว่าครั้งแรกหลินสวินจับพลัดจับผลูไม่ได้ตั้งใจ แต่โชคดีชิงดอกบัวเพลิงดอกหนึ่งไปได้ นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่โชคนำพามาแต่ตอนนี้ เขากลับชิงดอกบัวเพลิงได้อีกดอกหนึ่งล่วงหน้าไปก่อน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่เกี่ยวกับโชค!เด็กนี่ต้องครอบครองวิชาลับบางอย่าง สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า ค้นพบร่องรอยการปรากฏของดอกบัวเพลิงได้ก่อน!ในใจของบุคคลแห่งยุคเหล่านี้ล้วนแน่ใจในสิ่งเดียวกัน นี่ทำให้พวกเขาออกจะสีหน้าอึมครึม หากเป็นเช่นนี้ พวกเขาจะเอาอะไรไปช่วงชิงดอกบัวเพลิงกับหลินสวินได้หลินสวินกลับมายังตำแหน่งที่ตนอยู่ นั่งขัดสมาธิอีกครั้งเหมือนไม่มีเรื่องอะไร แล้วเริ่มหยั่งรู้ต่อ ไม่สนใจสายตาต่างๆ ที่ทอดมองมาจากรอบทิศเลยผ่านไปสามชั่วยามหลินสวินชิงเคลื่อนไหวก่อนอีกครั้ง ช่วงชิงดอกบัวเพลิงแปดกลีบดอกหนึ่งไปครองนี่ทำให้ผู้อื่นยิ่งสีหน้าไม่น่าดูเสียแล้ว สายตาที่มองมายังหลินสวินแปรเปลี่ยนเป็นมุ่งร้ายพวกเขารอที่นี่อย่างยากลำบาก แต่ตอนนี้กลับไม่ได้สิ่งใดเลย แม้จะได้มาบ้างก็ต้องช่วงชิงแก่งแย่งอย่างดุเดือดจะเป็นเหมือนหลินสวินได้อย่างไร ที่ไม่เปลืองแรงมากมายก็ได้ดอกบัวเพลิงสามดอกไปครอง!นี่ไม่ได้เป็นดอกบัวเพลิงธรรมดา แต่เป็นสมบัติที่เก็บซ่อนวิชามรรค!ดอกบัวเพลิงดอกหนึ่งก็เป็นตัวแทนวิชามรรคส่วนหนึ่ง ความสูงค่าของมันไม่อาจใช้ทรัพย์สินในความหมายทั่วไปมาเปรียบเทียบได้!และด้วยเหตุนี้เอง บุคคลแห่งยุคเหล่านี้ล้วนนั่งไม่ติดกันแล้ว ในใจรู้สึกแย่เหมือนกินแมลงวันเข้าไป สายตาเจือไปด้วยไอเย็นเยียบเหี้ยมเกรียม“หลินสวิน เจ้าทำเช่นนี้ออกจะเกินไปหน่อยกระมัง” ซาหลิวฉานสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงแฝงความเดือดดาลที่ไม่อาจเก็บกลั้นไว้ได้“พวกเราทุกคนล้วนเฝ้ารออยู่ที่นี่ แต่วาสนากลับถูกเจ้ายึดครองอยู่คนเดียว นี่มันตะกรุมตะกรามนัก!”อู่ต้วนหยาก็เอ่ยปากอย่างเยียบเย็นว่า “ข้าอยากถามทุกท่านในที่นี้เสียหน่อยว่า พวกท่านจะยอมให้เรื่องพรรค์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเรื่อยๆ หรือ”ผู้โดดเด่นแห่งยุคคนอื่นสายตาวูบไหว กล่าวว่า “แน่นอนว่าไม่ยินยอม!”หลินสวินเลิกคิ้ว เอ่ยกลั้วหัวเราะว่า “พวกเจ้าไม่มีน้ำยาช่วงชิงวาสนา กลับโยนความผิดมาที่ข้า เสียทีที่พวกเจ้าได้ชื่อว่าเป็นผู้กล้าแห่งยุคที่ชื่อเสียงระบือแดนฐิติประจิม ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือ”ทุกคนสีหน้ายิ่งเหยเก ในใจหมายจะบีบคอไอ้สารเลวหลินสวินผู้นี้ให้ตาย นี่มันน่าโมโหนัก!“หลินสวิน หรือเจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับพวกเราทุกคนจริงๆ ต่อให้พลังเจ้าแข็งแกร่งกว่านี้ เกรงว่าก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเราได้กระมัง”ซาหลิวฉานผุดลุกขึ้นทันใด รังสีจากดวงตาแผ่พุ่งเห็นได้ชัดว่าที่เขาพูดเช่นนี้เป็นการชักจูงให้คนอื่นๆ เพ่งเล็งหลินสวิน!ดังคาด แม้บุคคลโดดเด่นแห่งยุคคนอื่นไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่ล้วนทอดสายตาไปยังหลินสวิน แสดงการข่มขู่ชัดแจ้งกลับเห็นว่าหลินสวินยิ้มบางๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าไม่กล้ารับรองว่าข้าจะต้านทานพวกเจ้าทุกคนด้วยตัวคนเดียวได้ แต่รับรองได้ว่าหากเริ่มเปิดศึกแล้ว อย่างน้อยข้าก็สามารถลากบางคนตายตกไปกับข้าได้!”ทุกคนล้วนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่า จนป่านนี้แล้วเทพมารหลินกลับยังคงแข็งกร้าว ไม่หลีกทางให้สักนิดดังเดิม“อันที่จริงทุกท่านไม่ต้องทำเช่นนี้”เวลานี้หลี่ชิงฮวนก็ยิ้มพูดขึ้น “จากที่ข้าดู หากพวกเราอยากชิงดอกบัวเพลิง เพียงแค่ดูแววตาของสหายยุทธ์หลินก็พอแล้ว”“นี่หมายความว่าอย่างไร” มีคนประหลาดใจ“ง่ายมาก สหายยุทธ์หลินสามารถค้นพบเค้าลางการปรากฏขึ้นของดอกบัวเพลิงก่อน พวกเราเพียงสังเกตการเคลื่อนไหวของสหายยุทธ์หลิน ก็สามารถเข้าร่วมการช่วงชิงได้”หลี่ชิงฮวนยิ้มพลางแจกแจง ทำให้ผู้อื่นต่างเข้าใจแจ่มแจ้ง ดวงตาเป็นประกาย สายตาที่มองไปยังหลินสวินเหมือนกับจดจ้องเหยื่อตัวหนึ่ง“ดีทีเดียว!” อู่ต้วนหยาหัวเราะร่า“เช่นนี้ก็ดี” ซาหลิวฉานก็พยักหน้ามีเพียงหลินสวินที่นิ่วหน้า รับรู้ได้ว่าออกจะยุ่งยากเสียแล้วเขาสามารถอาศัยนัยน์ตาเฉาเฟิงสืบหาเค้าลางการปรากฏของดอกบัวเพลิงได้ก่อนก็จริง แต่หากถูกผู้อื่นจับจ้อง เช่นนั้นยามเขาเตรียมตัวเคลื่อนไหว มีแนวโน้มสูงว่าจะทำให้คนอื่นๆ ลงมือช่วงชิงกับเขาด้วยที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ หลินสวินสงสัยนักว่าภายใต้การช่วงชิงเช่นนี้ เป้าหมายโจมตีของเจ้าพวกนี้ย่อมเป็นเขาแต่เพียงผู้เดียวหลินสวินชำเลืองมองหลี่ชิงฮวนที่อยู่ไกลออกไปคราหนึ่ง เอ่ยในใจว่าคนผู้นี้ดูเหมือนสุภาพถ่อมตัว แต่ถ้าพูดกันเรื่องฝีมือแล้ว ยิ่งน่ากลัวกว่าพวกซาหลิวฉานเสียอีก“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นพวกเราก็พึ่งพาฝีมือของแต่ละคนก็แล้วกัน”หลินสวินยิ้มให้ ไม่พูดอะไรอีกเวลาเคลื่อนคล้อย ไม่ทันรู้ตัวก็ผ่านไปหลายชั่วยามฉับพลันหลินสวินก็หยัดกายลุกขึ้น แล้วก้าวเท้าเคลื่อนที่ไปยังบริเวณที่หลี่ชิงฮวนอยู่ตูม!และในเวลาเดียวกันนี้เอง ผู้โดดเด่นแห่งยุคคนอื่นๆ ที่จับจ้องหลินสวินอยู่ก็ล้วนลงมืออย่างไม่ลังเลแล้ว
คอมเม้นต์