Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 830 ดุจอริยะจรจรัล
ตอนที่ 830 ดุจอริยะจรจรัล
จบความแค้นหรือนี่หมายความว่าอย่างไรโก่วหยางป๋อและโก่วหยางทงไม่ได้โง่เขลา ก่อนหน้านี้เป็นเพราะถูกสั่นคลอนจึงควบคุมความรู้สึกไม่ได้ แต่เวลานี้เมื่อใคร่ครวญเล็กน้อยก็ได้สติกลับมาในใจพวกเขาตื่นกลัว กลิ่นอายเจ้าเด็กนั่นก็หายลับไปภายในถ้ำนั้น ส่วนสตรีทรงอำนาจหาใดเทียบผู้นี้ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่เดินออกมาจากถ้ำนั้นหรอกหรือนี่เป็นการออกหน้าแทนเด็กนั่นหรือเมื่อคิดถึงตรงนี้ทั้งสองคนก็รู้สึกอัดอั้นแทบพังทลาย จะคิดได้อย่างไรว่าเพียงแค่ตามสังหารเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะผู้หนึ่งเท่านั้น กลับไปล่วงเกินผู้ทรงฤทธิ์เช่นนี้ได้“ผู้อาวุโส นี่เป็นการเข้าใจผิดขอรับ!”โก่วหยางป๋อเหงื่อออกไปทั้งหัว ร้องขอชีวิตอย่างกริ่งเกรงสวบ!แต่โก่วหยางทงกลับหนีไปแล้ว เขาดูออกว่าต่อให้ร้องขอชีวิตไปก็ไม่มีประโยชน์ อย่างไรเสียพวกเขาก็ตามฆ่าเจ้าเด็กนั่นมาตลอดทางในสถานการณ์เช่นนี้จะยังมีทางให้หันหลังกลับได้เสียที่ไหนดังนั้นโก่วหยางทงจึงหนีทันทีโดยไม่ลังเล อีกทั้งยังใช้พลังทั้งหมดที่มี เงาร่างหายวับ ทั้งร่างมีแสงกาฬพลุ่งพล่าน แปรสภาพเป็นสุนัขสวรรค์มายาทมิฬยาวถึงร้อยจั้งเสียงดังโครมคราม สั่นสะเทือนห้วงอากาศให้แหลกสลาย ท่าทางหนีเอาชีวิตรอด“เจ้า…” โก่วหยางป๋อเดือดดาล เขาตกตะลึง ไม่อาจคาดคิดได้ว่าอีกฝ่ายกลับทิ้งตนไปได้ทั้งร่างของหญิงสาวโอบล้อมไปด้วยรัศมีเทพงดงามสะดุดตาสายแล้วสายเล่า ราวกับสายโซ่มีระเบียบ นางสีหน้าเรียบเฉย แม้จะเห็นโก่วหยางทงหนีไป สีหน้าก็ไม่หวั่นไหวตื่นตระหนก“หนีไปสุดขอบฟ้าแล้วอย่างไรเล่า หนีความตายไม่พ้นอยู่ดี…”หญิงสาวยื่นมือเรียวงามเปล่งปลั่งข้างหนึ่งบีบเบาๆ ไปในอากาศการเคลื่อนไหวตามใจนึกและเป็นธรรมชาติแต่ห่างออกไปหลายพันลี้ โก่วหยางทงที่กำลังหนีอย่างบ้าคลั่งกลับค้นพบอย่างตื่นตะลึงว่าร่างของตนกลับกำลังถอยหลัง!เขายิ่งหนีไวขึ้นเท่าไรก็ถอยหลังเร็วขึ้นเท่านั้น!“ไม่…!”โก่วหยางทงตื่นตระหนกจนวิญญาณแทบหลุดออกมา หวาดกลัวสุดขีด ส่งเสียงร้องคำรามลั่นฟ้าถึงกระนั้นที่ทำให้เขาสิ้นหวังก็คือ เขาเป็นถึงบุคคลระดับราชัน เวลานี้กลับประหนึ่งมดตัวจ้อย ไร้พลังดิ้นรนหรือต้านทาน!ทำได้เพียงเบิกตามองตัวเองถอยหลังไป… ถอยหลังไป…แต่ในสายตาของโก่วหยางป๋อแล้ว กลับเห็นเป็นอีกภาพหนึ่งร่างมหึมายาวร้อยจั้งของโก่วหยางทงนั้นกลับหดเล็กลงไม่หยุด กระทั่งภายหลังถึงกับแปรเปลี่ยนเป็นเล็กเท่ามด ถูกหนีบเข้าไประหว่างสองนิ้วของสตรีลึกลับนางนั้น!เฮือก!โก่วหยางป๋อสูดหายใจเย็น สับสนงงงวยไปหมดแล้ว นี่เป็นวิชาไร้เทียมทานชั้นไหนกัน เหตุใดถึงมีพลานุภาพน่ากลัวเหลือเชื่อเช่นนี้บุคคลระดับระชันดุจดังมด!ภาพนี้ไม่ใช่การเปรียบเปรย แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว!“อ๊าก!”ไม่ทันที่โก่วหยางป๋อจะมีปฏิกิริยา ร่างของเขาก็ถูกจับไปอย่างเสียการควบคุมเช่นกัน จนอดส่งเสียงคำรามพรั่นพรึงไร้ทางสู้ไม่ได้เวลานี้ หากมีโอกาสเลือกใหม่อีกครั้ง ต่อให้ให้เขามีจิตใจกล้าหาญร้อยดวงก็จะไม่ไปตามฆ่าหลินสวินอีกเด็ดขาดน่าเสียดาย มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้วเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น สัตว์ประหลาดระดับราชันสองคนก็หายไปจากที่นั้นส่วนในฝ่ามือของหญิงสาวผู้นั้น กลับมีสุนัขสีดำขนาดเท่ามดสองตัวกำลังดิ้นรนเห่าหอนอย่างคลุ้มคลั่ง แต่เสียงกลับเบานัก ไม่ได้ยินเลยภาพนี้ช่างสั่นสะท้านใจคนเกินไปแล้ว!ราชันที่ผงาดผยองเหนือพลังปราณห้าระดับสองคน กลับถูกหยิบขึ้นเหมือนต้นหญ้า ราวกับมดที่ไม่อาจสลัดพ้นนิ้วมือของหญิงสาวผู้นั้น!ประหนึ่งวิชาลับไร้เทียมทานยุคบรรพกาลในตำนาน… จักรวาลปลายหัตถ์!หากภาพนี้กระจายออกไปต้องก่อให้เกิดความวุ่นวายใหญ่โตแน่!“ผ่านไปหลายปีขนาดนี้ ระดับราชันในตอนนี้อ่อนแอขนาดนี้เลยหรือ ขนาดเมล็ดพันธุ์แห่งมรรคยังไม่รวมตัวกันเลย มีดีเพียงเปลือกนอกจอมปลอม…”หญิงสาวอึ้งไป ในความทรงจำของนาง อานุภาพของระดับราชันสามารถกลับภูเขาพลิกสมุทร คำรามก้องจักรวาล ทรงพลังและโอหัง เดิมไม่ควรอ่อนแอเช่นนี้“ดินแดนรกร้างโบราณเปลี่ยนไปดังคาด กาลเวลาผันผ่าน ที่ถูกฝังกลบไปไม่ใช่เพียงมรดกวิชา ยังมีการหายไปของพลังปราณด้วย…”หญิงสาวทอดถอนใจเบาๆ ครั้งหนึ่ง ปลายนิ้วมีแสงมรรคไหลออกมา ทำลายสุนัขทมิฬตัวเท่ามดสองตัวนั้นให้สิ้นซากบุคคลระดับราชันสองคนสิ้นชีพลงเช่นนี้!ช่างง่ายดายและธรรมดาเกินไปแล้ว เหมือนขยี้มดสองตัวให้ตายโดยไม่รู้ตัว นี่น่าตื่นตะลึงสะท้านโลกายิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย“เกิดดับเป็นวัฏจักร หมื่นวิชาล้วนว่างเปล่า ดินแดนเดิมยังคงอยู่ ทว่าสหายเก่ากลับไม่อาจพบเจอได้แล้ว…”ระหว่างที่รำพัน หญิงสาวก็ก้าวเท้าออกมาครั้งหนึ่ง ภูผาธาราและผืนปฐพีสั่นสะเทือน สภาพอากาศแปรผัน แสงมงคลแผ่กระจาย เกิดเป็นปรากฏการณ์ประหลาดงดงามและยิ่งใหญ่“สวรรค์ นี่ยังเป็นคนอยู่หรือ”ที่ไกลออกไป ชายชราผอมแห้งราวไม้ไผ่ก็ทรุดยวบลงไปกับพื้น ดวงตาทั้งสองเลื่อนลอยคนผู้นี้คือไป่เฟิงหลิวที่หมายจะกลายเป็นราชันแห่งข่าวสารของดินแดนรกร้างโบราณ!เพียงแต่ในตอนนี้จิตวิญญาณของเขากลับสูญเสียการควบคุมราวต้องมนต์ในสายตาเขา ก็เห็นว่าห้วงอากาศนั้นมีมังกรใหญ่ทะยานฟ้า หงส์เซียนม้วนตัวเกี่ยวกระหวัด เต่าดำแผ้วทาง… แสงมงคลสายแล้วสายเล่าแปรสภาพเป็นรุ้งเทพ กลายเป็นมหามรรคเจิดจรัสไม่อาจจับจ้องใกล้ๆ ได้สายหนึ่ง พุ่งทะลุเหนือห้วงนภาส่วนเงาร่างของหญิงสาวผู้นั้นก็ก้าวเข้าไปภายในนั้นราวจักรพรรดินีจรจรัล!เพียงชั่วพริบตาเงาร่างของหญิงสาวก็หายไป มีเพียงแสงเทพไหววูบแผ่ไปทั่วเวิ้งนภาราวนิมิตมายานี่เป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่พบเห็นได้ยากในชั่วกาล ในตำนานตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันล้วนบันทึกปรากฏการณ์ประหลาดเช่นนี้ไว้น้อยยิ่งนัก!เหงื่อกาฬชโลมทั่วกาย เปียกชื้นจนรู้สึกแย่ แต่ไป่เฟิงหลิวไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ เขาคลำใบไม้สีทองใบหนึ่งจากในอ้อมแขนออกมาอย่างเร่งร้อนก่อนหน้านี้เขาเคยลอบสลักไว้ หมายจะนำทุกสิ่งที่ได้เห็นตรงหน้าบันทึกลงไปเพียงแต่เมื่อเห็นใบไม้สีทองใบนั้นเขากลับงงงวยถึงที่สุด ด้านบนว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดเลย สะอาดเกลี้ยงเกลาไม่มีร่องรอยสลักแม้แต่นิดเดียว!“หรือว่า… หรือว่าท่านผู้นั้นเป็นอริยะสตรีผู้หนึ่ง”ไป่เฟิงหลิวร้องเสียงหลงออกมา ในบันทึกบรรพชนเผ่าวาทวาโยของพวกเขา อริยเทพราวสวรรค์ ไม่อาจดูหมิ่นได้!แม้เป็นใบไม้ต้นข่าวสารสีทอง ต่อหน้าพลังของอริยเทพก็ไม่อาจใช้ได้!“ใต้หล้านี้จะเกิดเรื่องใหญ่ทะลุฟ้าเสียแล้ว…”ไป่เฟิงหลิวเกิดสัญชาตญาณแรงกล้าขึ้นในใจแม้ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่เขากลับรู้สึกได้ว่าบุคคลไร้เทียมทานดั่งอริยะสตรีผู้นี้เป็นไปได้สูงมากที่จะเกี่ยวข้องกับเทพมารหลิน!คราวนี้เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬเตะโดนแผ่นเหล็กยิ่งใหญ่เสียแล้ว จะโชคร้ายหรือไม่ไป่เฟิงหลิวผุดลุกขึ้น สูดลมหายใจลึก กลับมามีสภาพจิตใจไร้ความกริ่งเกรงไม่กลัวความตาย กัดฟันครั้งหนึ่งแล้วรีบจากไปเขาจะไปสืบเสาะการเคลื่อนไหวของผู้ที่ดูเหมือน ‘อริยะสตรี’ ผู้นี้!……ในวันนี้แดนฐิติประจิมสั่นสะเทือนรุนแรง ผู้ฝึกปราณแต่ละล้วนหวาดผวา กดดันจนรู้สึกหายใจไม่ออก พวกเขาสังหรณ์ว่าใต้หล้านี้จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นส่วนสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันบางตนกลับออกจากการปิดด่าน ใช้พลังทั้งหมดสืบหาข่าวคราว ก่อนหน้านี้พวกเขาก็สะท้านสะเทือน ในใจตื่นกลัวหญิงสาวเยื้องย่างในอากาศ เงาร่างอรชร เพียงแค่หนึ่งเค่อก็ตัดผ่านร้อยเขตแคว้นกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวัง เหมือนว่าตลอดทางมานี้ทำให้นางนึกถึงเรื่องราวในอดีตมากมายขึ้นมาได้“นั่นคือ…”“เป็นอริยเทพเดินทางอยู่ใช่ไหม”“สวรรค์!”ส่วนตลอดทางนี้ผู้แข็งแกร่งระดับราชันจากที่ต่างๆ ล้วนได้เห็นรอยเท้าของหญิงสาวผู้นั้น เสียดายที่กลับเลือนรางและไร้เทียมทาน ภาพนั้นปราดเดียวก็เลือนหายไปแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ยังทำให้สัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันเหล่านั้นล้วนอกสั่นขวัญแขวน มีความกริ่งเกรงแทบจะก้มหัวกราบกรานครู่ใหญ่หญิงสาวหยุดอยู่หน้าภูเขาวิญญาณเก่าแก่สูงใหญ่ลูกหนึ่ง ยืนอยู่เหนือห้วงอากาศแล้วมองลงมาภูเขานี้เกรียงไกร ด้านบนนั้นมีหมอกเซียนตลบอบอวล ไอสีม่วงพลุ่งพล่าน ท่ามกลางแสงสายัณห์ยามเย็น อาบไล้ไปด้วยรังสีศักดิ์สิทธิ์สีทองระเรื่ออาคารเก่าแก่เป็นทิวแถวกระจัดกระจายอยู่ภายในนั้น ดูงดงามและเงียบสงบราวเป็นสถานที่มงคลซึ่งเป็นที่พำนักของเซียน อยู่เหนือมรรตยะ แปลกแยกจากโลกาภูเขานี้มีนามว่าคุนอู๋!เรือนกระบี่เร้นปุจฉา สำนักอันดับหนึ่งของแดนฐิติประจิมก็ตั้งตระหง่านอยู่บนนี้!——
คอมเม้นต์