Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 807 ช่วงชิงวาสนา
อสูรเนตรทองนอเดียวทะยานขึ้นเวหาท่ามกลางเสียงคำรามสะท้านฟ้า ทั่วร่างเจิดจรัสราวหล่อจากทองคำ ทั่วกายเอ่อท้นแสงสมบัติมหามรรค สาดส่องภูผาธาราครืน!หลังจากอสูรตัวนี้ปรากฏกาย อสนีบาตสีทองหลากสายพลันมาเยือน ม้วนแผ่สนั่นหวั่นไหวทั่วสารทิศทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬส่วนหนึ่งในละแวกใกล้เคียงซึ่งกำลังแตกตื่นหนีตาย พลันชักกระตุกไปทั้งตัวราวถูกสายฟ้าฟาด กลายเป็นร่างไร้วิญญาณไหม้เกรียมร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าเห็นชัดว่ามันถูกยั่วโทสะโดยสมบูรณ์ ทรงอานุภาพร้ายกาจ แสงทองทั่วร่างโชติช่วงชัชวาล มีแสงอสนีบาตไหลหลั่งเลือนรางในนัยน์ตาน่ากลัวยิ่งกว่าก่อนหน้านี้!ณ เชิงเขา หลินสวินใจสะท้านสัมผัสถึงพลังกดดันที่ราวกับทำให้หายใจไม่ออก นี่คือการปรากฏตัวครั้งที่สองของอสูรเนตรทองนอเดียว ขณะนี้จิตสังหารของมันทะลวงเมฆแตกต่างจากก่อนหน้า เห็นได้ว่าเหี้ยมโหดบ้าคลั่งหาใดเปรียบ“โฮก!”เสียงคำรามของมันทำลายชั้นเวหา ทำให้ห้วงอากาศบีบกดทรุดลง ทันทีที่ทะยานฟ้าก็กลายเป็นแสงสว่างสีทองพุ่งตามโก่วขุ่ยซึ่งอยู่ห่างออกไปครืน!สี่เท้าเหยียบขยี้ภูผาธารา อ้าปากพ่นสายฟ้าสีทองเจิดจ้า ประดุจผู้ควบคุมทัณฑ์อสนีจากสรวงสวรรค์ ชวนประหวั่นไร้ขอบเขตโก่วขุ่ยแค่นเสียง เขาหัวเสียนักที่เมื่อครู่ถูกหวดกระเด็นในคราเดียว ทำเอาเขาหน้าหม่นแสง มาบัดนี้เห็นอสูรร้ายยังพุ่งทะยานตามมา ทำให้เขาบันดาลโทสะทันควันชิ้ง!เขาเรียกดาบโค้งสีโลหิตเล่มหนึ่งออกมา แสงมรรคพลันโอบล้อมลานตา โฉบพุ่งออกไปอย่างรุนแรงเข้าโรมรันกับอสูรเนตรทองนอเดียวเพียงชั่วขณะนภากาศราวถูกระเบิด ฟ้าถล่มดินทลาย พลังมรรคราชันชวนประหวั่นแผ่กระจาย หมู่เขาใกล้เคียงต่างถูกลูกหลงดับสลายทรุดทลายดังครืนๆนี่คือการประลองแห่งพลังมรรคราชัน ศักดานุภาพระดับนั้นย่อมน่าหวาดกลัวหาใดเปรียบเป็นธรรมดาที่น่าชื่นชมคือภูเขาวิญญาณไร้นามนั่นพิเศษโดดเด่นยิ่งยวด พลานุภาพดั่งพญามังกร ความอัศจรรย์งามวิจิตรแฝงซ่อนอยู่ภายใน หมอกม่วงห้อมล้อมเกาะกุม ไม่โดนผลกระทบจากการต่อสู้แม้แต่น้อยโอกาส!หลินสวินซึ่งหลบซ่อนอยู่ออกเคลื่อนไหว ที่เขารอคอยอย่างยากลำบาก ไม่ใช่แค่เพื่อขุดหลุมดักพวกผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ แต่เพื่ออมฤตแกนสุวรรณ!สวบ!ทั่วร่างเขาอบอวลไอซวนหนี โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็งเต็มกำลัง ทะยานขึ้นเขาแล้วเข้าไปในถ้ำสถิตนั่นโดยพลันหลินสวินใจเต้นโครมคราม นั่นเป็นอมฤตแกนสุวรรณทั้งสระ หากสามารถนำไปได้ การฝึกปราณต่อจากนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลแล้วไม่นานนักหลินสวินก็มาถึงเบื้องหน้าสระน้ำนั่น มันดูเร้นลับเป็นปริศนา ดุจดวงตะวันหลอมละลายอยู่ภายใน แผ่หมอกแสงสีทองแสบตาหาใดเปรียบออกมา พลังชีวิตยิ่งใหญ่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นปะทะใบหน้าไม่หยุดยั้งพริบตานั้นหลินสวินถูกพลังชีวิตอันอบอุ่นแผ่คลุมจนสั่นไปทั้งตัว สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั่วร่างต่างราวกำลังรื่นเริงยินดี มีความรู้สึกดั่งลอยล่องท่องเหินเหนือหมอกเมฆา‘สมเป็นอมฤตแกนสุวรรณหนึ่งในแปดเซียนฟ้าดิน!’ หลินสวินในใจร้อนเร่า เขาไม่อาจสงบสติอารมณ์ นัยน์ตาที่มองสระน้ำเจือความเร่าร้อนวูบหนึ่งภายในสระของเหลวหนืดสีทองแน่นขนัด เสมือนน้ำสีทองที่หลอมละลายจากสุริยัน ส่องประกายสว่างไสวเปล่งอร่ามเรืองรอง‘ไม่แปลกที่ศักยภาพของอสูรเนตรทองนอเดียวนั่นจะน่าหวาดกลัวเช่นนี้ แช่อยู่ในมหาโอสถไร้เทียมทานเช่นนี้ทุกวัน ต่อให้ไม่อยากแกร่งขึ้นก็คงยาก…’หลินสวินทอดถอนใจ เขาหาได้ลังเลอีก หยิบขวดหยกมันแพะซึ่งตระเตรียมไว้ออกมาจากเจดีย์สมบัติไร้อักษรอย่างแคล่วคล่องว่องไวก่อนเริ่มทำการเก็บรวบรวมซ่า…ของเหลวสีทองกลายเป็นสายเล็กละเอียดไหลลงขวดหยก พลังชีวิตหอมกรุ่นแผ่กระจาย ทำเอาจิตใจหลินสวินแทบลุ่มหลงมัวเมาอยู่กับมันตูม!ทว่าเพียงชั่วขณะ แสงทองสายหนึ่งพุ่งออกมาจากสระน้ำ ราวกระบี่คมกริบเฉือนแหวกอากาศฉับพลัน หากไม่ใช่หลินสวินหลบทันก็คงโดนโจมตีเข้าหน้าแล้วหลินสวินเหงื่อแตกพลั่ก ไหนเลยจะคิดว่าภายในสระยังซ่อนไอสังหารไว้อีก!เขาเงยหน้ามองออกไปก็พลันตกตะลึง ทำไมยังมีเจ้าตัวน้อยอีกตัวก็เห็นอสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยที่สูงราวฉื่อกว่า หัวมังกรแต่กำเนิด ร่างกายดั่งกวางหนอก สี่เท้าแข็งแกร่งทรงพลังยื่นหัวออกมา ดวงตาทองเจิดจรัสกำลังจ้องมองตนอย่างเหี้ยมเกรียมมันแยกเขี้ยวยิงฟันแผดเสียงคำราม แต่น้ำเสียงกลับอ้อแอ้หน่อมแน้มไม่มีพลังข่มขวัญโดยสิ้นเชิง ออกจะน่ารักน่าหลงใหลเสียมากกว่าหลินสวินพลันผ่อนคลายลงไม่น้อย สุดท้ายก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดอสูรเนตรทองนอเดียวนั่นถึงโกรธจัดเช่นนั้น ที่แท้เพราะ ‘หวงลูก’ ถึงได้ออกไปฆ่าสังหารเช่นนั้น“เจ้าตัวน้อย ไปเล่นตรงนั้น”หลินสวินขยับมือก็พัดเจ้าตัวน้อยก้นโด่งร่วงลงบ่อดังตู้มจากนั้นเขาจึงใช้ขวดหยกเก็บอมฤตแกนสุวรรณต่อสวบๆๆ!กลางสระน้ำ แสงสีทองมากมายโหมปล่อยมาทางหลินสวินอย่างหนักหน่วงเห็นชัดว่าอสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยโกรธจัด กำลังต่อต้านและขัดขวางหลินสวินที่มาขโมยน้ำสมบัติของมันหลินสวินเริ่มรำคาญ ยามนี้เวลามีค่ายิ่งกว่าอะไร สิ้นเปลืองแม้เพียงเสี้ยวล้วนน่าเสียดาย!เขาพุ่งไปเบื้องหน้า จับหางเจ้าตัวน้อยแล้วรัวฝ่ามือตีก้นมันดังเพี๊ยะๆๆ ก่อนกล่าวเสียงเหี้ยม “ถ้าไม่เชื่อฟังอีกจะตุ๋นเจ้ากินซะ!”เจ้าตัวน้อยน้ำตาคลอเบ้า โกรธจนแยกเขี้ยวยิงฟันถลึงตามองหลินสวิน ท่าทางราวอยากกัดหลินสวินให้ตายไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายมันคล้ายหวาดเกรงหลินสวินอยู่บ้าง ไม่รู้เพราะกลัวหลินสวินหรือกลัวถูกหลินสวินจับตุ๋นกินเข้าจริงๆ กันแน่ ถึงไม่กล้าอึกทึกตึงตังอีกหลินสวินแอบเป่าปากโล่งอก ดีที่อสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยยังแบเบาะไร้ซึ่งแรงโจมตี มิฉะนั้นคิดนำอมฤตแกนสุวรรณจากไปคงไม่ง่ายดายนักแต่ที่ทำให้หลินสวินอึ้งงันคือ ยามนี้อสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยนั่นอ้าปากกว้างดูดกลืนน้ำในสระอึกใหญ่ อมฤตแกนสุวรรณโหมซัดครืนๆ ไหลลงสู่ท้องน้อยๆ ของมัน ราวกับถ้ำหลุมไร้ก้นที่ยัดอย่างไรก็ก็ยัดไม่หมดเห็นชัดว่าเจ้าตัวน้อยกำลังแก้แค้น ใช้วิธีการเช่นนี้ขัดขวางการเก็บน้ำอมฤตของหลินสวินซ้ำมันยังโบกสะบัดหางน้อยๆ เหล่มองหลินสวินอย่างโอหังและภาคภูมิราวยั่วยุเห็นอมฤตแกนสุวรรณไหลเข้าปากอสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยดังฮูมๆ กับตา ทำให้หลินสวินค่อนข้างโมโห แอบขบฟันไม่หยุด ไอ้ตัวเล็กนี่ช่างดื้อรั้นซะจริง!เขาเอื้อมมือจับหาง หิ้วเจ้าตัวน้อยให้กลับหัว ก่อนออกแรงเขย่า “คาย รีบคายออกมาให้หมด!”อสูรเนตรทองนอเดียวถูกเขย่าจนตาลายร้องเสียงดัง เสียงอ่อนเยาว์เปี่ยมความคับแค้นมันคงคาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิงว่าเจ้ามนุษย์ตรงหน้าจะไร้ยางอายเช่นนี้ ขโมยอมฤตแกนสุวรรณของมันยังไม่พอ ยังหวังให้มันคายอมฤตแกนสุวรรณที่กลืนลงท้องออกมาอีก…ขุนนางทุจริตยังไม่โลภมากเช่นนี้!หลินสวินกลับเห็นต่าง นั่นน่ะเป็นถึงอมฤตแกนสุวรรณ! หนึ่งในแปดเซียนฟ้าดิน แต่ถูกไอ้ตัวเล็กนี่ก่อกวน แน่นอนว่าย่อมไม่อาจอดกลั้น!หืม?ทันใดนั้นเสียงแหวกอากาศดังขึ้นตรงทางเดินแต่ไกล ทำให้หลินสวินใจสะท้านสีหน้าเขาปรวนแปร ทำไมยังมีคนวิ่งมาก่อกวนในเวลานี้สุดท้ายหลินสวินยกมือทิ้งอสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยลงในสระ จากนั้นเงาร่างวาบไหว โคจรไอซวนหนีหลบซ่อนอย่างเงียบเชียบไม่นานนักเงาร่างกำยำสูงโปร่งหนึ่งปรากฏกาย ใบหน้าเขาหล่อเหลา องอาจผ่าเผย นัยน์ตาเขียวมรกตสยบผู้คนฉายแววยะเยือกที่แท้เป็นโก่วซวีสิงยอดบุคคลรุ่นเยาว์เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬสมญา ‘บั่นพันเศียร’!‘เป็นเจ้าหมอนี่!’ หลินสวินแอบโมโหอยู่ในใจ เตรียมตัวว่าอีกประเดี๋ยวจะซัดเจ้าหมอนี่หนักๆ สักตั้ง“อมฤตแกนสุวรรณ!”ทันทีที่โก่วซวีสิงมาถึงก็สั่นไปทั้งตัว ลูกตาเขียวมรกตจับจ้องของเหลวทองอร่ามในสระเขม็ง หวั่นไหวจนออกจะเหม่อลอยอยู่บ้าง “เหมือนที่ใต้เท้าขุ่ยพูดไม่ผิด ที่แห่งนี้ไม่เพียงมีเคราะห์สังหาร ยังแอบซ่อนวาสนาสะเทือนใต้หล้าอยู่ด้วย!”เขารีบร้อนกระวีกระวาดสะบัดชายเสื้อคราหนึ่งโดยไม่ลังเล เรียกน้ำเต้าหยกสีครามใบหนึ่งออกมาทำการสูบของเหลวในสระน้ำอย่างบ้าคลั่งขณะเดียวกันอสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยปรากฏตัวเหนือผิวน้ำอีกครา เมื่อเห็นว่ามีคนวิ่งมาขโมยสมบัติมันอีกครั้งก็โกรธจนหน้าเขียว แยกเขี้ยวยิงฟันตะโกนลั่นแต่นี่ไม่ทำให้โก่วซวีสิงตื่นตระหนก กลับทำให้เขาลิงโลดดีใจจนแทบเต้น กล่าวว่า “สวรรค์! ลูกอสูรเนตรทองนอเดียว! หากนำมาไว้ข้างตัว หลังจากนี้ต้องกลายเป็นอสูรรบสะเทือนใต้หล้าตัวหนึ่งแน่!”แววตาเขาลุกโชนเปี่ยมความโลภโมโทสันเจ้าตัวน้อยสังเกตเห็นท่าไม่ดี รีบผลุบดิ่งลงสระ“เจ้าตัวเล็ก นี่ก็คือวาสนา สวรรค์ลิขิตให้เจ้ามาเป็นของข้า ทำไมถึงหนีไปซะเล่า”โก่วซวีสิงกระหยิ่มยิ้มย่องเต็มประดา เอื้อมมือหมายจับอสูรเนตรทองนอเดียวตัวน้อยในที่ลับ หลินสวินแอบโคจรดาบหักเตรียมบุกจู่โจมเขาโมโหแล้วจริงๆ เจ้าหมอนี่มาตอนไหนไม่มา ดันมาขัดแผนเขาเวลานี้ มองดูเวลาที่ไหลผ่านตรงหน้า หากอสูรเนตรทองนอเดียวเต็มวัยนั่นหวนกลับมา ผลลัพธ์คงไม่อาจจะคิด!ทว่าเมื่อหลินสวินเตรียมลงมือทั่วร่างพลันแข็งทื่อ สัมผัสถึงความเยียบเย็นชวนประหวั่นหาใดเปรียบ ดั่งลมกาฬวาตม้วนซัดมาเยือนแย่แน่!หลินสวินตระหนกจนใจสั่นสะท้าน ขนพองสยองเกล้า คิดอะไรได้อย่างนั้นจริงๆ ไม่จำเป็นต้องคาดเดาก็รู้ได้ทันที ว่าอสูรเนตรทองนอเดียวตัวเต็มวัยนั่นรู้ตัวแล้ว!ด้วยตระหนักได้ถึงอันตราย หลินสวินหันหลังหนีโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยสวบ!เขาไม่ปกปิดกลิ่นอาย โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็งถึงขีดสุด ซ้ำยังไม่ทันพุ่งออกจากถ้ำสถิตก็เรียกยานขนส่งอวกาศออกมาแล้ว พุ่งออกไปราวแสงสาดโก่วซวีสิงตกใจสะดุ้งโหยง เมื่อครู่เขากำลังเตรียมจับอสูรน้อยนอเดียว ไหนเลยจะคิดว่าพื้นที่อีกฝั่งจะมีเงาร่างหนึ่งพุ่งออกมากะทันหัน ก่อนหายจากไปในพริบตานี่ทำให้เขาตะลึงงันอ้าปากค้าง เจ้าหมอนั่นเป็นใคร คงไม่ใช่บุคคลปริศนาที่คล้ายราชันกึ่งระดับซึ่งพาตัวซย่าเสี่ยวฉงไปกระมังหากเมื่อครู่เขาจู่โจมตนอย่างไม่ทันตั้งตัวก็คง…นึกถึงตรงนี้โก่วซวีสิงตระหนกจนเหงื่อแตกไปทั้งตัว ลอบร้องว่าอันตรายนัก เมื่อครู่มัวแต่สนใจช่วงชิงวาสนาและสมบัติจนเกือบเสียท่าเข้าซะแล้วเดี๋ยวนะ!ทำไมเขาต้องหนี?โก่วซวีสิงพลันตระหนักถึงความไม่ชอบมาพากล เวลานี้เองเขาก็สัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงเยียบเย็นประหนึ่งลมกาฬวาตม้วนพัดมาเยือน…ยามนี้ปลายนิ้วเขาห่างจากอสูรน้อยนอเดียวนั่นแค่คืบ ยังคงมีท่าทางจะจับตะครุบมันบางทีอาจเพราะการเคลื่อนไหวนี้ของเขาสะดุดตาเกินไป ความรู้สึกเยียบเย็นน่าหวาดกลัวนั่นพลันส่งเสียงโกรธแค้นถึงขีดสุด“รนหาที่ตาย!”น้ำเสียงนั่นเยียบเย็นเสียดลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ เปี่ยมความน่าเกรงขามยิ่งใหญ่จนโก่วซวีสิงสั่นไปทั้งตัว จิตวิญญาณแทบแหลกสลายหากไม่ใช่พลังปราณของเขาค่อนข้างแกร่ง แค่พลังจิตรับรู้นี่ล้วนสามารถทำจิตวิญญาณเขาพังทลายตายลงตรงนั้น!สีหน้าเขาแปรเปลี่ยนยกใหญ่ ตระหนักได้ว่าสถานการณ์ร้ายแรงจนเกือบร้องไห้ออกมา เขาไหนเลยจะคาดคิด ว่าราชันอสูรเนตรทองนอเดียวนั่นจะดันมารู้ตัวเอาเวลานี้!………………
คอมเม้นต์