Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 779 แข็งให้สุด
ผู้คนสัญจรคลาคล่ำ บนท้องถนนเจริญรุ่งเรืองภายในบริเวณไม่ไกลนักมีสิ่งปลูกสร้างโอ่อ่าโอ่โถงแห่งหนึ่ง เบื้องหน้าอาคารแขวนธงห้าสีมากมายหลินสวินถูกอักษรบนธงดึงดูด‘ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงิน! เงินรางวัลเท่าทวี กฎการต่อสู้แตกต่าง สังเวียนนี้มีเพียงผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงจึงยืนหยัดมั่นคง!’‘สหาย มหาสงครามจวนมาเยือน เจ้าอยากเด่นผงาดโดยเร็ว กลายเป็นผู้กล้าชื่อเสียงขจรขจายมหาชนจับจ้องหรือไม่ รีบมาเถอะ ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินมอบเวทีสร้างชื่อประกาศศักดาแก่เจ้า!’‘ข่าวชวนตะหนก เจ้าหนุ่มเฉิงลี่เสวี่ยจากเมืองเล็กชายแดนแคว้นวิญญาณอัคนี สู้ชนะบนลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินสามสิบเก้ายกรวด สะสมแกนวิญญาณขั้นต่ำได้สามพันเก้าร้อยก้อน!’‘ว่ากันว่าผลงานชวนตะลึงของเฉิงลี่เสวี่ยถูกผู้อาวุโสคนหนึ่งแห่งสำนักกระบี่สนขจีหมายตา! ไม่ช้าเฉิงลี่เสวี่ยก็กลายเป็นผู้สืบทอดสำนักกระบี่สนขจีอย่างไม่ผิดจากคาดหมาย! เด็กหนุ่มผู้ก่อนหน้าไม่มีใครรู้จักผงาดกร้าวขึ้นแล้วโดยไม่ต้องสงสัย!’‘สหาย ใจคิดไม่สู้ลงมือทำ ไม่ว่าแสวงชื่อหรือแสวงโชค ขอแค่เจ้ามา พวกเราลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินล้วนสามารถทำให้เจ้าพึงใจ!’…สีสันถ้อยคำแต่ละบรรทัดบนธงเปี่ยมแรงจูงใจและปลุกระดม ดึงดูดหนุ่มสาวรุ่นเยาว์กลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเข้าห้อมล้อมสิ่งปลูกสร้างนาม ‘ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงิน’ นั่น เห็นได้ว่าคึกคักอย่างยิ่งหลินสวินก็ลากแขนซย่าเสี่ยวฉงมาเช่นกันลานประลองยุทธ์คือสถานที่คล้ายสังเวียนประลองประเภทหนึ่ง สามารถขึ้นเวทีท้ารบหรือถูกท้าประลองสำหรับผู้ฝึกปราณ การเข้าร่วมการต่อสู้เช่นนี้ ไม่เพียงแต่สามารถศึกษาแลกเปลี่ยนวิถียุทธ์กับผู้แข็งแกร่งอื่น ขัดเกลาตนเอง ถ้าชนะยังสามารถได้รับรางวัลเป็นแกนวิญญาณด้วยกระทั่งยังสามารถอาศัยสิ่งนี้สร้างชื่อ!และหากมีผลงานน่าตะลึงเพียงพอ ยังมีความเป็นไปได้ยิ่งที่จะถูกขุมอำนาจสำนักใหญ่หมายตา รับเป็นศิษย์สืบทอดนี่สำหรับคนรุ่นเยาว์บางส่วนที่มีฐานะธรรมดาและมุ่งหวังเปลี่ยนแปลงโชคชะตาแล้ว ช่างมีแรงจูงใจอย่างยิ่งโดยไม่ต้องสงสัยถึงอย่างไรบนโลกนี้ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนมีสิทธิ์เข้าไปฝึกปราณในขุมอำนาจสำนักใหญ่เหล่านั้นตามสะดวกทว่าจุดประสงค์ที่หลินสวินมานั้นง่ายมาก โจมตีความหยิ่งทะนงอวดดีของซย่าเสี่ยวฉงเสียหน่อย ให้นางเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าโลกทัศน์คับแคบ น้ำทะเลไม่อาจตวงวัดแต่ที่สำคัญกว่าคือหาเงิน!หลังรับรู้ว่าตนยากไร้จนแทบจะเลี้ยงหนอนกินเทพไม่รอด ลำดับความสำคัญในใจหลินสวินก็ไม่อาจไม่ถ่ายโอนมายังเรื่องหาเงินและการมีอยู่ของลานประลองยุทธ์สร้างความยินดีแก่หลินสวินโดยไม่ต้องสงสัยที่นี่ไม่เพียงสามารถเคี่ยวกรำวิถียุทธ์ ยังสามารถสร้างรายได้หาเงิน เป็นสถานที่ซึ่งเตรียมมาเพื่อเขาโดยแท้!“คุณชาย ขอเรียนถามว่าท่านมาชมการประลองหรือขึ้นเวทีต่อสู้”เพิ่งเข้าใกล้ประตูใหญ่ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงิน เด็กรับใช้คนหนึ่งก็เข้ามาต้อนรับอย่างกระตือรือร้น สันจมูกเขาแหลมราวเหล็กหมาด โหนกแก้มบุ๋มลึก ก้าวย่างเนิบช้า บนก้นยังมีขนหางสีเงินฉูดฉาดโผล่ออกมาเห็นชัดว่าเป็นลูกหลานเผ่าไก่ฟ้าสีเงินไก่ฟ้าสีเงินถือเป็นสายพันธุ์ประหลาดบรรพกาลประเภทหนึ่ง รูปร่างดุจไก่ยักษ์ตัวผู้สีเงินยวง พลังต่อสู้ของเผ่าพันธุ์นี้ธรรมดาสามัญยิ่ง แต่บนวิถีการค้ากลับมีพรสวรรค์ล้ำเลิศติดตัวแต่กำเนิด“ขึ้นเวทีต่อสู้”หลินสวินตอบเรียบง่าย เด็กรับใช้นั่นดวงตาสว่างวาบทันที กระตือรือร้นนำทางพวกหลินสวินเดินเข้าไปในลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินในลานประลองยังมีถ้ำสถิต กว้างใหญ่ไพศาลหาใดเปรียบ ภายในจัดตั้งสังเวียนขนาดใหญ่มากมาย สังเวียนแต่ละแห่งวางกระบวนรอยสลักวิญญาณซึ่งมีพลังป้องกันชั้นยอดรอบทิศสี่ด้านคืออัฒจันทร์ยามหลินสวินและซย่าเสี่ยวฉงเดินเข้ามา คลื่นเสียงอึกทึกดุจฟ้าคำรามพลันปะทะใบหน้า เห็นได้ว่าคึกคักหาใดเปรียบก็เห็นกลางลานประลองยุทธ์ ในสังเวียนมากมายกำลังเปิดฉากต่อสู้ดุเดือด แสงสมบัติพวยพุ่ง วิชาลับดุจกระแสวารีหลายหลากแปลกตาบนอัฒจันทร์เป็นผู้คนมืดฟ้ามัวดิน เต็มไปด้วยหัวคนดำทะมึน สิ่งมีชีวิตและผู้ฝึกปราณแต่ละเผ่าไม่ว่าชายหญิงต่างกำลังตะโกนโห่ร้องตื่นเต้น บ้างกู่ร้องยินดีให้ผู้แข่งขันที่ตนสนับสนุน บ้างเสียดายต่อการพ่ายแพ้ของผู้แข่งขันบางคนไม่ขาดแคลนพวกมีความสุขบนความทุกข์คนอื่น อ้าปากด่าคำโตเมื่อไม่พอใจ มากมายหลากสีสัน“ครึกครื้นมาก” ซย่าเสี่ยวฉงอัศจรรย์ใจ“แน่นอน ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินของเราสามารถจุผู้ชมมากกว่าหมื่นคน กล่าวถึงขนาด ในนครเตโชเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งแน่นอน”เด็กรับใช้ภาคภูมิยิ่ง ขณะพูดก็พาพวกหลินสวินมาถึงจุดลงทะเบียนลานประลองยุทธ์“คุณชาย สังเวียนต่อสู้ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินของเราแบ่งออกเป็นสามประเภท”“หนึ่งคือการต่อสู้ระดับเดียวกัน ผู้ชนะจะได้รางวัลสองเท่า”“สองคือสังเวียนต่อสู้ข้ามระดับ ทั้งสองฝ่ายประมือกัน ผู้ที่ปราณต่ำกว่าแต่ชนะจะได้รางวัลสี่เท่า หากผู้ที่ปราณสูงกว่าชนะรางวัลจะไม่ทวีคูณ”“สามคือสังเวียนต่อสู้ไร้กฎเกณฑ์ ไม่แบ่งอายุ ไม่แบ่งระดับปราณ ไม่แบ่งกลวิธี ไม่แบ่งเป็นตาย… สรุปก็คือไม่มีกฎ”“ทำการต่อสู้ประเภทนี้ ผู้ชนะจะได้รางวัลห้าเท่า แต่ต้องลงนามข้อผูกพันเป็นตายกับลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินของเราล่วงหน้า หากถึงแก่ชีวิต พวกเราลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินจะไม่รับผิดชอบ”พูดถึงตรงนี้เด็กรับใช้จึงถามว่า “ไม่ทราบว่าคุณชายต้องการเลือกรูปแบบการต่อสู้ประเภทไหนขอรับ”“ประเภทแรก” หลินสวินไม่แม้แต่จะคิดก็กล่าวตอบการต่อสู้ข้ามระดับสะดุดตาเกินไป หลินสวินไม่ได้มาอวดศักดา ดังคำกล่าวที่ว่าคนกลัวชื่อเสียงหมูกลัวอ้วนพี ยังคงเก็บงำตนเองหน่อยจะดีกว่าส่วนการต่อสู้ไร้กฎเกณฑ์ต้องมีความเสี่ยงแน่ หากเจอกับสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ไม่ปฏิบัติตัวเหมือนคนอื่นๆ เข้า เช่นนั้นการต่อสู้คงไร้หนทางชนะแต่แรกหลินสวินมาเพื่อเคี่ยวกรำวิถียุทธ์และหาแกนวิญญาณ ย่อมไม่อยากเสี่ยงอันตรายเด็กรับใช้คนนั้นเผยความผิดหวังวูบหนึ่ง นี่เป็นรูปแบบการต่อสู้ที่ปลอดภัยที่สุด และมีความนัยว่ากำไรซึ่งพวกเขาลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินจะได้รับนั้นมีไม่มากทว่าเด็กรับใช้ยังคงช่วยหลินสวินลงทะเบียนอย่างสุดกำลัง จากนั้นจึงมอบป้ายชื่อหนึ่งแก่เขาจากป้ายชื่อนี้ หลังต่อสู้สามารถนำมารับค่าตอบแทนได้“คุณชาย ท่านต้องการขึ้นเวทีต่อสู้ตอนนี้หรือไม่” เด็กรับใช้ถามหลินสวินพยักหน้าเด็กรับใช้กระตือรือร้นเอ่ยปาก “เช่นนั้นก็ดี โปรดชำระหนึ่งร้อยแกนวิญญาณขั้นต่ำหรือหนึ่งแกนวิญญาณขั้นกลางขอรับ”“ยังต้องจ่ายเงินด้วย?” หลินสวินประหลาดใจเด็กรับใช้แทบกลอกตาใส่ พริบตาเดียวเขาก็ตัดสินได้ว่า เด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้เข้าร่วมลานประลองยุทธ์เป็นครั้งแรกแน่นอน ทั้งยังเป็นไก่อ่อนไม่เข้าใจอะไรสักอย่างไม่แน่ว่าเจ้าหมอนี่อาจมานครเตโชเป็นครั้งแรก!อย่างไรเสียธรรมเนียมในการต่อสู้ขึ้นเวทีลานประลองยุทธ์ก็เป็นความรู้ทั่วไปนานแล้ว เด็กเมื่อวานซืนในนครเตโชยังรู้ดี“คุณชาย แกนวิญญาณก้อนนี้ถือเป็นมัดจำ หากท่านสู้แพ้ แกนวิญญาณนี้จะกลายเป็นรางวัลของคู่แข่งท่าน และพวกเราลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินก็จะดึงค่าตอบแทนหนึ่งส่วนจากจุดนี้เช่นกัน หากท่านยังไม่เข้าใจ สามารถลองสังเกตการณ์ในสนามด้วยตนเองดูก่อน ค่อยตัดสินใจว่าจะขึ้นเวทีต่อสู้หรือไม่”เด็กรับใช้ในใจผิดหวังนัก รู้สึกว่าคงไม่อาจหากำไรจากตัวหลินสวินได้เท่าไหร่ ท่าทีก็เปลี่ยนเป็นละเลยอยู่บ้าง“ยังหักกำไรด้วย?” หลินสวินกล่าวเด็กรับใช้ได้ยินดังนั้นท่าทีก็เย็นชายิ่งกว่าเดิม พยักหน้าง่ายๆหลินสวินไหนเลยจะดูจุดนี้ไม่ออก แต่เขาคร้านจะคิดเล็กคิดน้อย นำแกนวิญญาณขั้นกลางก้อนหนึ่งซึ่งแลกเปลี่ยนมาแล้วมอบให้อีกฝ่ายจากนั้นจึงหยิบป้ายชื่อจากไปพร้อมซย่าเสี่ยวฉง เดินไปบริเวณสังเวียนประลองทว่าเพิ่งเดินไปไม่ไกล เบื้องหลังก็ยินเสียงเปี่ยมความปรามาสและบ่นจุกจิกของเด็กรับใช้นั่น “หึ พวกที่ไม่รู้ว่ามาจากชนบทห่างไกลความเจริญที่ไหนวิ่งมาอีกแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่างก็กล้ามาขึ้นเวทีประลอง รอตอนถูกอัดแพ้ต้องมีช่วงที่เขาร้องไห้แน่!”สีหน้าหลินสวินพลันมืดทะมึน ยังไม่เริ่มต่อสู้กลับถูกเด็กรับใช้นั่นดูถูกก่อนซะแล้ว!“ฮ่าๆ พี่หลินสวิน เจ้าหมอนั่นดูถูกท่านน่ะ” ซย่าเสี่ยวฉงหัวเราะออกมาอย่างไม่คิดอะไรมากหลินสวินใบหน้าไร้อารมณ์ “วางใจเถอะ ต้องมีช่วงที่เขาเสียใจภายหลัง!”…สังเวียนประลองระดับเดียวกันหมายเลขสิบเก้าหลินสวินรอคอยเงียบๆ ไม่นานก็จะถึงตาเขาบรรยากาศในสังเวียนประลองระดับเดียวกันเห็นได้ว่าอ้างว้างนัก เทียบกันแล้วบรรยากาศฝั่งสังเวียนประลองข้ามระดับและสังเวียนประลองไร้กฎเกณฑ์กลับคึกคักหาใดเปรียบ ได้รับความนิยมล้นหลามสายตาบนอัฒจันทร์ส่วนใหญ่ต่างจับจ้องไปทางนั้นถึงอย่างไรผู้ชมซึ่งมาจากหลากเผ่าเหล่านี้ก็จ่ายเงินมาดูเรื่องสนุก การต่อสู้ระดับเดียวกันเห็นได้ว่าดาษดื่นธรรมดายิ่ง ไม่มีแรงกระตุ้นมากเหมือนการต่อสู้อีกสองประเภทไม่นานนักถึงตาหลินสวินขึ้นประลองแล้วเด็กรับใช้คนนั้นก็มา เขาเป็นคนต้อนรับหลินสวิน ตามกฎต้องอยู่ด้วยถึงที่สุด ทว่าท่าทีเขากลับมีปัญหายิ่ง ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเบื่อหน่าย ท่าทางใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเขาไม่คาดหวังหากำไรจากตัวหลินสวินแล้ว ในใจถึงขั้นแทบอยากให้หลินสวินรีบพ่ายแพ้ เขาจะได้เอาเวลาไปต้อนรับแขกคนอื่น“เอ๋!”ทันใดนั้นเด็กรับใช้นัยน์ตาหดรัด เห็นรูปร่างลักษณะคู่ต่อสู้ที่จะประลองกับหลินสวินชัดก็จดจำฐานะฝ่ายตรงข้ามได้เขาพลันมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่นทันที ฮ่า จอมฉุนเฉียวเผ่าวัวกระทิงนี่มาอีกแล้ว คราวนี้เด็กนั่นอนาถแน่!“แม่นางน้อย สถานการณ์ท่าไม่ดีอยู่บ้างนะขอรับ คู่ต่อสู้ของคุณชายท่านนั้นมาจากเผ่าวัวกระทิงนามว่าหนิวเปิน นิสัยป่าเถื่อนหยาบคาย รูปแบบการต่อสู้เหี้ยมโหดนองเลือดเหลือประมาณ ผู้แข็งแกร่งที่สู้กับเขาไม่บาดเจ็บหนักก็เจียนตาย แขนขาดขาแหว่งยิ่งเห็นบ่อยจนชินตา”เด็กรับใช้ลูกตากลอกหมุนติ้ว พูดเสียงเบากับซย่าเสี่ยวฉงที่อยู่ด้านข้าง “หากท่านให้ประโยชน์แก่ข้าเล็กน้อย บางทีข้าอาจช่วยพูดกับหนิวเปินสักหน่อย ให้เขาเบามือลงนิด ถึงอย่างไรลักษณะคุณชายท่านนั้นก็ถือว่าหล่อเหลา หากถูกทำเสียโฉมหรือถูกตีจนพิกลพิการ ผลที่ตามมาคงร้ายแรงนัก”นี่แหละคือโอกาสหาประโยชน์น่าเสียดาย ซย่าเสี่ยวฉงแม้ไร้เดียงสาไปบ้างแต่ก็ไม่โง่ กะพริบดวงตาโตใสสะอาดปริบๆ กล่าวเสียงชัด “จริงรึ เช่นนั้นก็ดีมาก พี่หลินสวินอวดดีเกินไป ยังบอกว่าข้าเป็นแมลงหน้าร้อนไม่รู้จักน้ำแข็ง มีตาหามีแววไม่ อาศัยโอกาสนี้ทำให้เขาตาสว่างดูบ้าง”เด็กรับใช้ตะลึงงันทันใด ในใจเกิดเห็นอกเห็นใจหลินสวินขึ้นมาบ้าง ดูท่าเจ้าหมอนี่ไม่เพียงแต่ยากไร้ไม่มีประสบการณ์ ยังไม่เป็นที่นิยมของผู้หญิงอีกด้วย“หนิวเปิน ปล่อยหมัดปล่อยเท้าเล่นกับคุณชายท่านนี้ดีๆ!”เด็กรับใช้ตะโกน เจ้าหมอนี่เห็นชัดว่าไม่มีเจตนาดี ไม่อยากเสียเวลาอีก แทบอยากให้หลินสวินรีบพ่ายแพ้แล้วไสหัวไปซะบนสังเวียน ชายร่างใหญ่ปานหอคอยเหล็กยิ้มเผยฟันขาวดุจหิมะทั้งปาก นัยน์ตาเคร่งขรึมจับจ้องหลินสวิน เปล่งเสียงหัวเราะเหี้ยมเกรียม “วางใจเถอะ ข้าไม่ทำหน้าไอ้ละอ่อนนี่จนเละ วันนี้ก็ไม่ลงสังเวียน!”เขาคือหนิวเปินจากเผ่าวัวกระทิง มีปราณระดับหยั่งสัจจะขั้นสูง ไม่เพียงทรงพลังแต่กำเนิด เสียงยังดังมาก ท่าทางดั่งพวกอันธพาล สังเกตหลินสวินอย่างกำเริบเสิบสานดูรุกรานเต็มที่หลินสวินคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “งั้นพวกเราก็มาเล่นกันหรือ”“ฮ่าๆๆ ข้าล่ะชอบพวกกระดูกแข็งอย่างเจ้า เล่นด้วยแล้วมันสะใจ หวังว่าเจ้าจะแข็งให้สุด อย่าทำให้ข้ายังไม่สาแก่ใจก็เหี่ยวซะก่อน!”หนิวเปินหัวเราะลั่น เสียงดั่งฟ้าคำรามหลินสวินมุมปากกระตุก หน้าผากปรากฏเส้นเลือดดำเต้นตุบๆ อะไรเรียกว่าแข็งให้สุด อะไรเรียกว่าไม่สาแก่ใจก็เหี่ยวซะก่อนมีวิธีพูดเช่นนี้ด้วยรึ!ผู้ฝึกปราณรอบๆ บางส่วนรอบได้ยินดังนั้นพลันหัวเราะเกรียวกราวอย่างอดไม่อยู่ แววตาสัพยอกและพิลึกพิลั่น นี่ทำให้หลินสวินพลันอึดอัดไปทั้งตัวแม่งเอ๊ย ถูกเข้าใจผิดดังคาด!ที่ทำให้หลินสวินแทบพังทลายคือ เวลานี้ซย่าเสี่ยวฉงถึงกับโบกกำปั้นนุ่มนวลน้อยๆ กล่าวเสียงชัดกระจ่าง “พี่หลินสวิน ท่านต้องแข็งให้สุดนะ!”นางเด็กเวรนี่มาคึกอะไรตอนนี้!หลินสวินกลัดกลุ้มยิ่ง สีหน้าที่มองยังหนิวเปินเปลี่ยนเป็นไม่พอใจขึ้นมา ลอบตัดสินใจจะมอบบทเรียนยากลืมเลือนชั่วชีวิตแก่ตัวการ“มาสู้กัน!”เขาหาได้ลังเลอีก เอ่ยปากตรงไปตรงมา“เฮ้ ไอ้ละอ่อนรอถูกย่ำยีไม่ไหวรึไง ก็ดี ข้าเองก็ครั่นเนื้อครั่นตัว อยากเอาให้สาแก่ใจนานแล้ว!”หนิวเปินพลันหัวเราะเสียงดัง ก้าวเท้าขึ้นลานสังเวียน เสียงตูมหนึ่งดังขึ้น ร่างกำยำปานหอคอยเหล็กก็เปลี่ยนเป็นเงาอสนีสายหนึ่ง พุ่งทะยานไปทางหลินสวิน………………
คอมเม้นต์