Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 774 ประทับลับควบคุมหนอน
เวลาเดียวกันบนยานขนส่งอวกาศ หลินสวินไม่ดีใจสักนิด กลับค่อนข้างเสียดายและไม่พอใจเดิมเขาวางแผนล่อเสือออกจากถ้ำ ชักนำอสูรเฒ่าเครือเถาไปยังสถานที่ลับตาคน จากนั้นค่อยอาศัยธนูวิญญาณไร้แก่นสารจู่โจมสังหารมันแต่เขากลับคาดไม่ถึง อสูรเฒ่าเครือเถาซึ่งอยู่ภายใต้ความเดือดดาลถึงกับวางวาสนาบนยอดเขาดาราโรยไม่ลง ไม่ได้ไล่ตามมาสังหาร“คุณชายเก่งกล้าสามารถฝีมือเทียมฟ้า วันนี้ข้าเหล่าจูเปิดโลกทัศน์จริงๆ นับถืออย่างยิ่ง โปรดรับการคารวะจากข้าเหล่าจู!”ด้านข้าง หมูอสูรมารท่าทางเคร่งขรึมจริงจังโค้งคำนับ สีหน้าเปี่ยมด้วยความเลื่อมใสเพี๊ยะ!หลินสวินฟาดฝ่ามือหนึ่งลงบนท้ายทอยเขา ก่อนกล่าวเย็นชา “ประจบสอพลอให้น้อยหน่อย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ คราวนี้หากข้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เกรงว่าเจ้าคงดีใจกว่าใครเพื่อน”หมูอสูรมารแยกเขี้ยวยิงฟันลูบท้ายทอยบวมเป่ง กล่าวหน้าตาน้อยใจ “คุณชาย ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเหล่าจูจะเป็นพวกอกตัญญูได้อย่างไร”“หน้าไม่อาย!”แม้แต่ซย่าเสี่ยวฉงยังทนดูไม่ไหว กลอกตาใส่หมูอสูรมารคราหนึ่ง เจ้าหมอนี่ไร้ศีลธรรมเกินไปแล้ว ก่อนหน้ามัวแต่คิดว่าจะเผ่นอย่างไรมาตลอดแท้ๆหมูอสูรมารไม่กระดากละอายแม้แต่น้อย ยังคงมีท่าทางโศกเศร้ากล่าวทอดถอนใจ “เฮ้อ ดูท่าแม่นางน้อยก็เข้าใจผิด ไม่สู้พวกเราไปพูดคุยตามลำพังเล่า”พูดพลางมองซย่าเสี่ยวฉงด้วยหน้าตาคาดหวังซย่าเสี่ยวฉงตกใจสะดุ้งโหยง “ข้าไม่อยากพูดคุยกับหมูตัวหนึ่งเพียงลำพัง น่ากลัวเกินไปแล้ว”หมูอสูรมารตัวนี้พิกลซะจริง ไม่มีศีลธรรมซ้ำยังหน้าด้าน ทำให้หลินสวินยังอดเลื่อมใสไม่ได้“เสี่ยวฉง เหลือเวลาทดสอบแค่สามวัน เจ้าต้องเร่งมือหน่อย”หลินสวินพลันกล่าวซย่าเสี่ยวฉงชะงักกึก ใบหน้าเล็กไร้เดียงสาย่นยู่ขึ้นทันที กล่าวโอดครวญ “โอ๊ย ข้าน่ะไม่อยากเข่นฆ่าล่าสัตว์อีกแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน ข้าเองก็ไม่ชอบกลิ่นคาวเลือด…”หมูอสูรมารที่อยู่ด้านข้างพลันเอาอกเอาใจทันที ตบหน้าอกกล่าว “แม่นางน้อย ข้าเหล่าจูไปเป็นเพื่อนเจ้า ยกชารินน้ำนวดบ่าทุบขา ข้าเชี่ยวชาญทุกอย่าง รับรองว่าเจ้าต้องพอใจ!”นี่ยังเป็นพญาอสูรมารระดับกระบวนแปรจุติอยู่ไหมเนี่ยหลินสวินแทบหมดคำพูดแต่ซย่าเสี่ยวฉงยิ่งกล่าวดูถูก “เสียแรงที่เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของอสูรมารบำเพ็ญ รู้ว่าข้าจะล่าสังหารพวกเจ้าสัตว์ปีศาจอสูรมาร เจ้าไม่เพียงไม่ขัดขวาง กลับยังเสนอตัวมาช่วย ช่างไร้ยางอายซะจริง!”หมูอสูรมารท่าทางครัดเคร่งคุณธรรม คิดจะพูดอะไรก็ถูกเท้าข้างหนึ่งของหลินสวินถีบเข้าจังๆ ด้วยเขาออกจะรับเจ้าหมอนี่ไม่ได้อยู่บ้าง ช่าง… หน้าด้านเกินไปแล้ว!…รัตติกาลลาลับ รุ่งอรุณทอแสงเบิกฟ้า วันใหม่มาเยือนภูเขาโคม่วงกว้างขวาง หมู่เขาซ้อนสลับยอดทิวร่วมแนว ย้อมแสงทองอร่ามแห่งอาทิตย์ยามเช้า สาดประกายพลังชีวิตอันแตกต่างในลำธารกลางหุบเขา ซย่าเสี่ยวฉงกำลังถือทวนเงินเล่มหนึ่งเข่นฆ่าปลาอสูรมารเกศเขียวสิบกว่าตัวซึ่งครองอาณาเขตในลำธารบริเวณที่ไม่ห่างเท่าไหร่หมูอสูรมารกำลังง่วนอยู่กับการก่อไฟต้มน้ำ คิดว่าอีกประเดี๋ยวจะนำปลาอสูรมารซึ่งถูกฆ่าบางตัวลงหม้อ ต้มสุกแล้วเติมเต็มท้องยอดเขาเตี้ยต่ำลูกหนึ่งริมลำธารกลางหุบเขา หลินสวินนั่งหันหน้าเผชิญดวงตะวัน เงาร่างสูงสง่าอาบไล้ท่ามหมอกแสงรุ่งอรุณ ดูโดดเด่นละโลกีย์ไม่นานนักเขาตื่นจากสมาธิ หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างอดไม่อยู่พลังปราณของเขาบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุดของระดับหยั่งสัจจะนานแล้ว ระยะนี้แทบสะกดข่มแรงกระตุ้นของการเลื่อนสู่ระดับกระบวนแปรจุติไม่อยู่นี่คือสิ่งที่หลินสวินไม่หวังจะเห็นเพราะที่เขาดำเนินคือมรรคาแห่งมกุฎราชัน แม้พลังปราณปัจจุบันบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ แต่ด้านการฝึกยุทธ์และลำดับขั้นแจ้งมรรคยังมีข้อบกพร่องบางส่วนอย่างเช่น ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’ ‘เคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์’ มรดกวิชาลับสองส่วนนี้ก็ไม่เคยบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ไร้บกพร่องหรืออย่างท่วงทำนองแห่งมรรคธาตุน้ำที่เขาควบคุม แม้สมบูรณ์แบบแล้ว แต่กลับยังไม่อาจทลายปราการก้าวสู่ระดับ ‘เจตจำนงแห่งมรรค’ ที่สูงขั้นกว่าได้‘จำเป็นต้องทำเวลาหลอมชำระวิชายุทธ์และพลังท่วงทำนองแห่งมรรคธาตุน้ำ…’หลินสวินเข้าใจกระจ่างนานมากแล้ว พลังแห่งมหามรรค มีเพียงถึงระดับกระบวนแปรจุติจึงจะสามารถสะท้อนอานุภาพของมันออกมาอย่างแท้จริงถึงเวลานั้นในการต่อสู้ของผู้ฝึกปราณ พลังมหามรรคที่ควบคุมได้ยิ่งแกร่ง ยิ่งสามารถเผยศักยภาพของตนอย่างทรงพลัง!หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งค่อยนำม้วนคัมภีร์สีขาวเงินเรียบง่ายม้วนหนึ่งออกมา นี่คือ ‘เคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอน’ ที่ได้มาจากเซ่าเฮ่า เป็นวิชาลับซึ่งใช้เลี้ยงและควบคุมหนอนกินเทพโดยเฉพาะพอนึกถึงเซ่าเฮ่า หลินสวินก็อดนึกถึงยอดเขาดาราโรยปริศนาลูกนั้นไม่ได้ค่ายกลใหญ่ซึ่งอบอวลด้วยไอศักดิ์สิทธิ์อันเก่าแก่ ไข่แห่งกลุ่มดาว รวมถึงนายน้อยเผ่าราชันเร้นดาราผู้หนึ่งซึ่งจำศีลอยู่ภายใน…ทุกอย่างนี้ล้วนเห็นได้ว่าวิเศษอัศจรรย์เหลือเกิน ทำให้ผู้คนยากจะเข้าใจหลินสวินสูดหายใจลึก ไม่คิดมากความอีก เริ่มศึกษาเคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอนสองสามชั่วยามผ่านไปโดยไม่รู้ตัวเมื่อถึงยามเที่ยง หลินสวินปิดม้วนคัมภีร์ในมือ นัยน์ตาดำยังเต็มไปด้วยความรู้สึกตระหนกและอัศจรรย์จากที่บันทึกไว้ ที่มาของหนอนกินเทพน่าอัศจรรย์ยิ่งยวด ถูกจัดอยู่ในอันดับเจ็ดแห่ง ‘กระดานหนอนประหลาดบรรพกาล’!ทันทีที่มันเปลี่ยนแปลงถึงระดับราชัน ถึงขั้นสามารถดูดซึมไอใต้พิภพ เขมือบกลืนจิตวิญญาณแห่งราชัน เหี้ยมโหดป่าเถื่อนหาใดเปรียบอย่างแท้จริง!สมัยบรรพกาล เคยมีราชันหนอนกินเทพตัวหนึ่งเย้ยคำรามทั่วฟ้าดิน ท่องทะยานทั่วทุกทิศ กลืนกินจิตวิญญาณของสิ่งมีชีวิตอันน่าหวาดกลัวไปไม่รู้เท่าไหร่ ทำเอาผู้แข็งแกร่งทั้งปวงหน้าเปลี่ยนสีเมื่อกล่าวถึง ตื่นตระหนกแม้เสียงลมทว่าหนอนกินเทพหายากยิ่ง เดิมเป็นหนอนเทพพิทักษ์เผ่าของเผ่าราชันเร้นดารา แต่กลับประสบมหาเคราะห์ แทบสาบสูญไปหมดสิ้น ทำให้ข่าวลือเกี่ยวกับมันค่อยๆ สูญหายไปในกาลเวลาอันไร้สิ้นสุดหนอนกินเทพเก้าตัวในมือหลินสวิน ก็ถูกพบตอนที่เขาอยู่ในพื้นที่น่ากลัวเร้นลับอย่าง ‘แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่น’ ในแดนวิญญาณโบราณเพียงแต่ความเป็นมาของหนอนกินเทพ เขากลับไม่ค่อยรู้นัก ถึงขั้นไม่รู้ว่าควรหล่อเลี้ยงและควบคุมอย่างไรทว่าหนอนกินเทพน่ากลัวเหลือประมาณอย่างไม่ต้องสงสัย!หลายปีนี้ช่วยหลินสวินสังหารศัตรูแข็งแกร่งมาไม่น้อย อย่างเช่นยามอยู่ใน ‘แดนลับอสูรมารอริยะ’ อวี่เซียวเซิงและพวกบุตรเทพส่วนหนึ่งก็ถูกหนอนกินเทพกลืนกินจิตวิญญาณ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและสิ้นชีพไปเพียงแต่นี่ไม่ใช่การสั่งการของหลินสวิน ทั้งหมดล้วนเป็นหนอนกินเทพสำแดงอานุภาพยิ่งใหญ่ด้วยตัวเอง เขาถึงขั้นไม่รู้ว่าควรควบคุมหนอนกินเทพอย่างไร จึงได้แต่ผนึกพวกมันไว้ในห้วงนิมิตตลอดมาแต่ตอนนี้มีเคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอนแล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป‘หนอนกินเทพอาศัยจิตวิญญาณเป็นอาหาร ต้องผ่านการแปรสภาพโดยสมบูรณ์ห้าครั้งจึงจะสามารถก้าวสู่ขั้นราชันหนอน และการแปรสภาพแต่ละครั้ง พลังของหนอนกินเทพจะเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด…’หลินสวินขบคิดและทบทวนความเร้นลับของเคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอนเงียบๆ ‘ที่แท้การผนึกพวกมันมาตลอดนั้นไม่ถูก จำเป็นต้องใช้จิตวิญญาณหล่อเลี้ยงพวกมัน เช่นนี้จึงจะกระตุ้นการแปรสภาพและเติบโต’หลังผ่านไปครู่ใหญ่ หลินสวินใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งแล้วนำหนอนกินเทพเก้าตัวซึ่งผนึกไว้ออกมา จากนั้นสองมือทำมุทรา ควบรวมเป็นประทับเลือดพิสุทธิ์แปลกประหลาดปกคลุมพวกมันเอาไว้นี่คือ ‘ประทับลับควบคุมหนอน’ มีเพียงวิธีนี้จึงจะสามารถควบคุมหนอนกินเทพได้ตามประสงค์!วู้มๆๆ…ประทับลับซึ่งแฝงเลือดพิสุทธิ์ของหลินสวิน ถูกหนอนกินเทพเก้าตัวดูดซึมอย่างโลภโมโทสันขณะเดียวกันระลอกคลื่นเร้นลับก็เกิดขึ้นระหว่างหลินสวินและหนอนกินเทพ กลายเป็นสายสัมพันธ์อัศจรรย์หนึ่งเวลานี้หลินสวินพลันมีความรู้สึกประหลาดทันที เสมือนหนอนกินเทพกลายเป็นบุตรแห่งตน ความรักโศกโกรธสุขของพวกมัน รวมถึงทุกคลื่นความผันผวนในอารมณ์แม้เพียงเสี้ยว ล้วนสามารถสะท้อนอยู่ภายในใจนี่ก็คือความเร้นลับที่แฝงอยู่ในประทับลับควบคุมหนอน ระหว่างหนอนกินเทพและเจ้าของจะเกิดสายสัมพันธ์อย่างหนึ่ง มีเพียงเป็นเช่นนี้จึงจะเรียกใช้หนอนกินเทพได้อย่างคล่องมือ ทำให้พวกมันสร้างประโยชน์แก่ตน‘พวกมันหิวมาก…’ไม่ทันไรหลินสวินก็จับคลื่นความรู้สึกเยียบเย็นหนึ่งได้ ทำให้คิ้วเขาพลันเลิกขึ้น นำหยกควบรวมจิตระดับกลางก้อนหนึ่งออกมาหยกควบรวมจิตก้อนนี้เดิมเป็นของซย่าเสี่ยวฉง แต่ถูกหลินสวินนำมาใช้ก่อน ภายในเต็มไปด้วยจิตวิญญาณของสัตว์ปีศาจนำมาเป็นอาหารแก่หนอนกินเทพ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไม่มีอะไรเหมาะไปกว่านี้แล้วครึ่กๆ!ไม่นานนักหยกควบรวมจิตระดับกลางก็ถูกหนอนควบรวมจิตเก้าตัวเขมือบกลืนจนเกลี้ยง สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าบนร่างกายสีดำขนาดเท่าเม็ดข้าวของพวกมันเพิ่มแสงแวววาวเป็นประกาย ราวสาดส่องพลังชีวิตสายหนึ่งก็ไม่ปาน‘หลับ…’เมื่อคว้าจับคลื่นจิตคลื่นหนึ่งได้ หลินสวินชะงักงันอย่างอดไม่อยู่ จากนั้นก็แย้มยิ้มเล็กน้อย กินอิ่มก็นอนหลับ ความต้องการของหนอนกินเทพนี่ดูไปแล้วก็ง่ายดายยิ่งนักทว่าหลินสวินเองก็รู้ว่าการแปรสภาพของหนอนกินเทพแปลกพิกลยิ่ง การนอนก็ถือเป็นขั้นตอนหนึ่งในการทำให้ตนแข็งแกร่งขึ้นด้วย‘พวกมันยังเป็นแค่ตัวอ่อน อยู่ในขั้นแรกของการแปรสภาพ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกลายเป็นราชันหนอนที่แท้จริง…’หลินสวินเก็บหนอนกินเทพเก้าตัวขึ้นมา ในใจเฝ้ารอยิ่ง หากมีสักวันที่ตนสามารถบ่มเพาะราชันหนอนกินเทพที่แท้จริงออกมาได้ นั่นต้องเป็นมหาอาวุธสังหารชิ้นหนึ่งที่สามารถสยบสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันได้อย่างแน่นอน!‘ทว่าภารกิจหนักหน่วงหนทางยาวไกล’ไม่นานหลินสวินก็ส่ายศีรษะ หนอนกินเทพต้องการจิตวิญญาณต่างอาหารและทำการแปรสภาพ นึกภาพออกเลยว่าการแปรสภาพแต่ละครั้งของพวกมัน ปริมาณจิตวิญญาณที่ต้องกลืนกินจะต้องยิ่งใหญ่มหาศาลถึงขีดสุดนี่ทำให้หลินสวินคลางแคลงอยู่บ้าง วันหน้าอาศัยเพียงความสามารถของตน จะสามารถเติมเต็มความต้องการของหนอนกินเทพได้หรือไม่ยังดีที่ในตอนนี้หลินสวินยังไม่ต้องกังวลจุดนี้…หลังจากนั้นสองวันหลังผ่านการล่าสัตว์อย่างต่อเนื่อง ซย่าเสี่ยวฉงก็สะสมมุกควบรวมจิตระดับกลางเม็ดหนึ่งจนเต็ม แปรสภาพเป็นหยกควบรวมจิตระดับกลางสองวันนี้หลินสวินเองก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ พาซย่าเสี่ยวฉงลัดเลาะละแวกภูเขาโคม่วง เสาะหาร่องรอยสัตว์ปีศาจอสูรมาร จากนั้นจึงทำการล่าอาศัยโอกาสนี้หลินสวินเองก็สะสมมุกควบรวมจิตระดับกลางได้สองเม็ดเต็ม นำมาเป็นอาหารของหนอนกินเทพได้พอดีอีกทั้งหลินสวินไปสอบถามมา และรู้ว่าทุกพื้นที่ในแดนฐิติประจิมสามารถหาซื้อหยกควบรวมจิตได้ เพียงแต่ราคาแพงอย่างยิ่ง ทั้งยังมีจำนวนน้อย ไม่อาจซื้อกักตุนในปริมาณมากก็เท่านั้นระยะเวลาก่อนการทดสอบสิ้นสุดเหลือแค่หนึ่งวัน ซย่าเสี่ยวฉงดีใจมาก ร่ำร้องอยากกลับไปพบอาจารย์ล่วงหน้าแน่นอนว่าหลินสวินตกปากรับคำอย่างยินดี เขาต้องการสืบข้อมูลการเดินทางไปแดนชัยบูรพา และอยากลองดูว่าแคว้นวิญญาณอัคนีเป็นสถานที่เช่นไรกันแน่อย่างไรเสียแม้เขามาถึงดินแดนรกร้างโบราณแล้ว แต่หลายวันนี้ล้วนอยู่ในป่าลึกกลางหุบเขามาตลอด ยังไม่เคยเห็นกำแพงเมืองซึ่งเป็นของผู้ฝึกปราณเลยนานมาแล้วเขาเคยได้ยินว่าดินแดนรกร้างโบราณต่างจากโลกชั้นล่าง สำนักเรียงราย หมื่นเผ่าพันธุ์ดำรงอยู่ เจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟูยิ่งยวด มีขนบธรรมเนียมและบรรยากาศแบบสมัยบรรพกาลนี่ทำให้หลินสวินใจลอยไปล่วงหน้าอย่างอดไม่อยู่ยามนี้พวกเขาหาได้ล่าช้าอีก ออกเดินทางจากภูเขาโคม่วง มุ่งหน้าสู่แคว้นวิญญาณอัคนี!…………………….
คอมเม้นต์