Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 722 อับอายเสียเอง
ก่อนจากกัน ผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิเหล่านี้บอกหลินสวินว่าหลายวันมานี้มีข่าวลือไม่สู้ดีเกี่ยวกับเขามากมาย ส่งผลให้ทางผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิต่างเป็นกังวลแทนเขาแทบทั้งสิ้นส่วนฝั่งเผ่าพ่อมดเถื่อนกลับยืนกรานว่าเขาถูกราชันกึ่งระดับสามคนตามฆ่า ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนี้จริงตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ความเป็นความตายของหลินสวินมีผลกระทบต่อจิตใจของผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิทุกคน และเพราะเด็กหนุ่มยังไม่มีข่าวคราวออกมา ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิยิ่งเป็นกังวลและหนักใจในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนดูกระชุ่มกระชวยผิดธรรมดา‘หลินสือเอ้อร์อะไรกัน รอหัวมันหล่นถึงพื้นก็สูญเสียทุกอย่างอยู่ดี!’ นี่เป็นถ้อยคำที่ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนมากมายเอ่ยออกมาที่ทำให้ทุกคนโกรธจนเลือดขึ้นหน้าก็คืออิ๋งเชวี่ย นายน้อยราชนิกุลสายคนเถื่อนมืดยังเรียกรวมผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนหลายคน และคุยโวว่าช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นอย่างลับๆ ป่าวประกาศไปทั่วว่าหลินสือเอ้อร์ถูกปลิดชีพไปแล้ว ใช้วิธีต่ำช้าเช่นนี้ทำให้ผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิเสียขวัญกำลังใจต้องกล่าวว่า แม้วิธีการนี้จะไร้ยางอายไปบ้าง แต่กลับได้ผลนัก ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิล้วนเดือดดาลและเศร้าโศก กำลังใจถดถอยเพราะสิ่งนี้“หรือพูดได้ว่า ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเผ่าพ่อมดเถื่อน หรือฝั่งจักรวรรดิก็เข้าใจว่าข้าตายไปแล้วใช่ไหม” ดวงตาสีดำของหลินสวินบังเกิดรังสีประหลาดผู้ฝึกปราณเหล่านั้นพยักหน้า‘อิ๋งเชวี่ย…’เมื่อหลินสวินนึกถึงคนคนนี้ ก็นึกถึงหลิ่วเหวินที่ตอนนี้ทรยศจักรวรรดิ ไอสังหารในใจไหววูบ กล่าวว่า “ทุกท่านช่วยข้าเรื่องหนึ่งได้หรือไม่”“คุณชายหลินพูดมาเถิด” ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นพากันเอ่ยปาก“ช่วยข้ากระจายข่าวออกไปประโยคเดียวว่า ให้ราชันกึ่งระดับสวะพ่อมดเถื่อนพวกนั้นล้างคอรอข้าไว้ได้เลย!”เฮือก!ทุกคนต่างสูดลมหายใจเย็นเยียบ ใจเต้นระรัว……บริเวณหนึ่งในป่าต้นหม่อน“นี่ก็ตั้งวันหนึ่งแล้วที่ไม่ได้ข่าวคราวของหลินสือเอ้อร์ผู้นั้น มันต้องตายไปแล้วแน่ ทำให้ข้าเสียดายนัก ข้ายังอยากจะหยั่งรู้ปริศนาแห่งมกุฎมรรคาอยู่เลย แต่ตอนนี้… กลับทำได้เพียงถอดใจ”อิ๋งเชวี่ยถอนหายใจแต่จากนั้นเขาก็หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “แต่ไม่เป็นไร ในป่าต้นหม่อนแห่งนี้ยังมีวาสนาที่ไม่อาจประเมินได้อยู่ทั่ว ขอแค่ค่อยๆ เสาะหา ไม่ช้าก็เร็วต้องพบเจอโอกาสแน่”พูดถึงตรงนี้เขาก็ผุดลุกขึ้น ดวงตาเปล่งประกายมีชีวิตชีวา พูดเสียงขรึมว่า “ทุกท่าน การตายของหลินสือเอ้อร์ต้องส่งผลกระทบเกินกว่าที่พวกเราคาดคิดไว้แน่ เขาไม่เพียงเป็นเด็กหนุ่มผู้กล้าที่ก้าวสู่มกุฎมรรคา ยังเป็นปฐมาจารย์สลักวิญญาณแห่งจักรวรรดิมนุษย์ การสิ้นชีพของเขาต้องกระทบกระเทือนจิตใจผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิเหล่านั้นอย่างหนักหน่วงยิ่งแน่นอน!”ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่อยู่ใกล้กันนั้นล้วนพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดนี้หลังจากที่หลินสือเอ้อร์ผู้นั้นมีชื่อเสียงขึ้นในสมรภูมิกระหายเลือด สังหารราชันกึ่งระดับผู้หนึ่งรวมถึงบุคคลชั้นยอดระดับมหาเวทมากมายอย่างต่อเนื่อง สร้างแรงสั่นสะเทือน ถึงกับก่อให้เกิดเงามืดปกคลุมเหนือทั้งค่ายเผ่าพ่อมดเถื่อนขึ้นชั้นหนึ่ง ส่งผลให้พวกเขาทั้งตระหนกทั้งหวาดกลัวคนผู้นี้ เหมือนกลายเป็นดาวดวงใหม่ที่สะดุดตาหาใดเทียบดวงหนึ่งในค่ายจักรวรรดิ ดุจปีศาจเย้ยฟ้า มีชื่อลือทั่วสมรภูมิกระหายเลือดแต่หากเด็กหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นเช่นนี้ตายไปเสียแล้ว เช่นนั้นสำหรับฝ่ายจักรวรรดิก็ต้องเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจยอมรับได้ครั้งหนึ่ง!“นายน้อยน้อยคิดจะทำเช่นไรขอรับ” หลิ่วเหวินรีบร้อนเอ่ยถาม ดูกระตือรือร้นนักท่าทางประจบประแจงเช่นนี้ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่อยู่ใกล้ๆ รังเกียจ รู้สึกว่าเจ้าหมอนี่ไร้ยางอายเกินไปแล้วแต่หลิ่วเหวินไม่สนใจ เขาแค่รู้ว่าต่อไปหากตนต้องการยืนหยัดอย่างมั่งคงในค่ายพ่อมดเถื่อน ก็ต้องเลียแข้งเลียขาอิ๋งเชวี่ย นายน้อยราชนิกุลคนเถื่อนมืดผู้นี้“สร้างแรงกระเพื่อมต่อไป! ใช้ทุกวิถีทางกระจายข่าวการตายของหลินสือเอ้อร์ให้ทั่วป่าต้นหม่อน ยิ่งใส่สีตีไข่ใหญ่โตเท่าใด ก็ยิ่งสะเทือนจักรวรรดิมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น!”อิ๋งเชวี่ยลำพองใจ ไม่ปิดบังความคิดของตน แม้วิธีนี้จะดูไม่โสภาไปบ้าง แต่นี่ก็เป็นศึกระหว่างสองดินแดนใหญ่ ขอเพียงทำให้เผ่ามนุษย์เสียขวัญกำลังใจได้ เช่นนั้นจะโสภาหรือไม่ก็ไม่สำคัญ“เช่นนั้นก็ทำเช่นนี้!”ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่อยู่ใกล้เคียงล้วนตอบรับการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็เด็ดขาดและรวดเร็วนัก ไม่นานก็แยกย้ายออกไปติดต่อกับผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่กระจายอยู่ในป่าต้นหม่อนให้ประกาศข่าวไปด้วยกันสาเหตุที่พวกเขากระตือรือร้นเช่นนี้ได้ หลักๆ แล้วเป็นเพราะก่อนหน้านี้การมีอยู่ของหลินสือเอ้อร์สร้างเงามืดและแรงโจมตีต่อพวกเขาเผ่าพ่อมดเถื่อนอย่างมาก ทำให้พวกเขาล้วนเดือดดาล เก็บกลั้นไฟโทสะไว้ในใจอยู่ก่อนแล้วเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งเท่านั้น เพียงอาศัยคันธนูใหญ่ลี้ลับคันหนึ่ง ถึงกับทำให้ราชันกึ่งระดับฝ่ายพวกเขาต้องหวั่นใจ ความรู้สึกเช่นนี้น่าทุกข์ใจเกินไปแล้วและตอนนี้ หลินสือเอ้อร์คนนี้ถูกราชันกึ่งระดับตามฆ่า และไม่มีข่าวคราวอะไรออกมา ทำให้พวกมั่นใจว่าเด็กหนุ่มถูกสังหารแล้ว ดังนั้นจึงป่าวประกาศอย่างเหิมเกริมเช่นนี้ได้“หลินสือเอ้อร์ตายแล้ว จักรวรรดิพวกเจ้ามีดีเท่านี้หรือ ขนาดเด็กหนุ่มผู้กล้าคนหนึ่งยังปกป้องไว้ไม่ได้ ช่างน่าสลดใจเสียจริง!”“ฮ่าๆ! ผู้กล้าบ้าบออะไรกัน ในสายตาของผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนของข้า ก็เป็นแค่ตุ๊กตาดินเผาบอบบางไม่มีค่าอะไรด้วยซ้ำ และตอนนี้หลินสือเอ้อร์ตายไปแล้ว พวกเจ้าจะทำอะไรได้”ข่าวทำนองนี้เริ่มแพร่ไปทั่วป่าต้นหม่อนราวพายุ ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นล้วนหยิ่งผยองลำพองใจ สำหรับพวกเขาแล้ว ข่าวนี้ก็เหมือนข่าวดีที่ใหญ่โตเท่าฟ้าข่าวหนึ่ง สามารถทำให้พวกเขาปรบไม้ปรบมือด้วยความดีใจ“เหอะๆ นี่หรือผู้กล้าแห่งจักรวรรดิของพวกเจ้า ก็ไม่เท่าไหร่นี่”“รีบไสหัวไปเถอะ! ไม่อย่างนั้น ไม่เพียงแต่หลินสือเอ้อร์ สวะจักรวรรดิอย่างพวกเจ้าก็จะโดนฆ่าหมด!”วาจาเหลือทนเช่นนี้ยังพ่นออกมาจากปากของผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนเหล่านี้ ดูเหิมเกริมไม่กลัวเกรง ได้ใจหาใดเทียบพวกเขาทนมานานแล้ว ในที่สุดก็เอ่ยวาจาชั่วร้ายออกมา รู้สึกสาแก่ใจเป็นพิเศษส่วนผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิล้วนตกอยู่ในความโกลาหล ถูกไฟโทสะแผดเผา หดหู่และจนใจ ข่าวการเสียชีวิตเช่นนี้กระทบกระเทือนจิตใจของพวกเขาอย่างยิ่ง“รังแกกันเกินไปแล้ว!”ยามได้ข่าวเหล่านี้ แม่ทัพใหญ่ซย่าโหวเจี๋ยตะโกนเสียงดัง หนวดเคราเผ้าผมชี้ขึ้นด้วยความโกรธ เสียงนั้นสะเทือนไปเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดินอย่างน่าหวาดหวั่นแต่นี่กลับทำให้เผ่าพ่อมดเถื่อนยิ่งสะใจ ดังเช่นราชันนภาเพลิงก็เอ่ยปากอย่างดูถูกว่า “เอาแต่เอะอะโวยวาย ดูไร้ความสามารถนัก!”และในช่วงที่พายุโหมคลั่ง วุ่นวายไม่หยุดหย่อนนี้เอง ข่าวสะเทือนโลกข่าวหนึ่งก็แพร่ออกมา…“คุณชายหลินยังไม่ตาย! วันนี้ได้เห็นเขาปรากฏตัวกับตา ศรดอกเดียวสังหารเถิงไห่ ราชันกึ่งระดับสายคนเถื่อนพสุธาได้!”ทันใดนั้น เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เซ็งแซ่อยู่เดิมก็เงียบลงทันควันเช่นนี้ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่คุยโวอย่างลำพองและสาปแช่งอย่างสะใจเหล่านั้นล้วนตกตะลึง ตกอยู่ในความเงียบงัน อ้ำอึ้งพูดไม่ออกถูกตบหน้าอย่างรวดเร็วเหมือนพายุโหม ไม่ทันได้ตั้งตัว!แม้แต่เหล่าผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิก็งงงวยไปบ้าง หลินสือเอ้อร์ยังไม่ตายหรือ หนำซ้ำยังสังหารราชันกึ่งระดับเถิงไห่ด้วยหรือ“เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ครั้งนี้พวกเราส่งราชันกึ่งระดับสามคนออกไป จะปล่อยให้เด็กนั่นมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร”ในกลุ่มผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อน คนใหญ่คนโตบางคนคำรามเดือดดาล พวกเขากำลังตรวจสอบว่าข่าวนี้จริงหรือเท็จอย่างเต็มที่ขนาดอิ๋งเชวี่ยที่ช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นอย่างลับๆ สีหน้ายังปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร เจ้าเด็กนั่นดวงแข็งขนาดนี้เลยหรือไม่นานนักข่าวก็ได้รับารยืนยัน เถิงไห่ถูกฆ่าแล้วจริงๆ ร่างของเขาถูกศรเดียวแทงทะลุ ระเบิดออกเหมือนดอกไม้ไฟ สิ้นชีพอย่างน่าหดหู่หาใดเปรียบฉับพลันในป่าต้นหม่อนก็เหมือนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนทุกคนที่ไม่อยากเชื่อข่าวนี้ล้วนแข็งทื่อเป็นก้อนหิน แทบจะแหลกสลายพังพาบเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ได้ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่ได้ข่าวนี้ทุกคนต่างโกรธจนหน้าเขียวคล้ำ สีหน้าแทบกระอักเลือดราวบิดามารดาของตัวเสียชีวิตนี่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!ก่อนหน้านี้พวกเขายังป่าวประกาศข่าวการตายของหลินสือเอ้อร์ เยาะเย้ยถากถางผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิอย่างยิ่ง หมายจะใช้โอกาสนี้ทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิเสียกำลังใจอย่างรุนแรงอยู่เลยจะคิดได้อย่างไรว่าการโต้ตอบจะกลับมาเร็วเช่นนี้ นี่ช่างเหมือนถูกฝ่ามือไร้รูปตบเข้าอย่างจังจนปวดแสบปวดร้อนส่วนฝ่ายผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิกลับล้วนตกตะลึงและยินดีปรีดา ยังไม่ตาย! หลินสือเอ้อร์ยังไม่ตายจริงๆ ด้วย!ก่อนหน้านี้ไม่นาน จิตใจของพวกเขาถูกกระทบกระเทือนจนหดหู่ซึมเซา โกรธแค้นและอับจนหนทาง จะไปคาดคิดได้อย่างไรว่าสุดท้ายเหตุการณ์จะพลิกผัน!“ฮ่าๆๆ คุณชายหลินยอดเยี่ยมเกินไปแล้ว ฆ่าได้ดี!”“สวะพ่อมดเถื่อนพวกนั้นตาถั่วเสียแล้ว ถึงได้กล้าเพ้อว่าปฐมาจารย์หลินประสบเคราะห์ ช่างน่าขันยิ่ง!”“เหอะๆ ข้าสงสัยนัก ก่อนหน้านี้ไอ้สวะพ่อมดเถื่อนพวกนั้นยังหยิ่งผยองลำพองใจอยู่เลย ตอนนี้จะทำสีหน้าอย่างไรนะ”ฝ่ายผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดิก็พลุ่งพล่านเต็มที่ ร้องร่าตื่นเต้น กำลังใจฮึกเหิม“พวกเจ้าสังเกตหรือไม่ คุณชายหลินปรากฏตัวแล้ว หนำซ้ำยังปลิดชีพราชันกึ่งระดับไปคนหนึ่งด้วย แต่ราชันกึ่งระดับสามคนนั้นที่ตามฆ่าคุณชายหลินก่อนหน้านี้กลับไม่มีข่าวคราว นี่จะหมายความว่าพวกเขาถูกคุณชายหลินฆ่าแล้วหรือไม่”เมื่อเกิดข้อสันนิษฐานนี้ขึ้น ก็สร้างความอึกทึกครึกโครมขึ้นอีกรอบ ทำให้เหล่าบุคคลชั้นยอดจากจักรวรรดิต่างเปลี่ยนสีหน้า ตกตะลึงเสียแล้วส่วนฝ่ายเผ่าพ่อมดเถื่อนนั้น กลับล้วนขนหัวลุกเกรียว มือเท้าเย็นเฉียบจริงด้วย หลินสือเอ้อร์คนนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือว่ามู่หลิงเฟิง จินตู้เจิน และชางหลันเสวี่ย ราชันกึ่งระดับสามคนที่ตามฆ่าเขาจะ…พวกเขาต่างไม่กล้าคิดต่อใครจะไปคิดได้ว่าสุดท้ายหลินสือเอ้อร์ยังไม่ตาย แต่กลับสำแดงอานุภาพมารปีศาจใหญ่โตอีกครั้งหนึ่ง สังหารราชันกึ่งระดับเถิงไห่ กระทั่งพวกมู่หลิงเฟิงยังอาจจะตายด้วยน้ำมือเขาหากตรองโดยละเอียด ตอนนี้ราชันกึ่งระดับเผ่าพ่อมดเถื่อนของพวกเขาที่ตายด้วยน้ำมือหลินสือเอ้อร์ มีมากถึงห้าคนแล้ว!นี่เป็นจำนวนที่น่าหวาดดผวา อย่างไรเสียราชันกึ่งระดับก็ไม่ใช่คนที่จะต่อกรด้วยง่ายๆ แม้แต่ในค่ายพ่อมดเถื่อน ยังเป็นกำลังพลน่าหวั่นเกรงชั้นยอด มีน้อยนิดเพียงหยิบมือ เป็นรองเพียงราชันที่แท้จริงแต่ตอนนี้กลับมีราชันกึ่งระดับห้าคนประสบเคราะห์อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังตายด้วยน้ำมือของเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่ง นี่ย่อมกระทบกระเทือนจิตใจเผ่าพ่อมดเถื่อนจนไม่อาจรับไหวได้อีกแล้ว!ชั่วครู่เดียว เสียงวิพากษ์วิจารณ์กับเสียงเซ็งแซ่ก็ดังราวบรรพตถล่มมหาสมุทรหวีดร้อง ฝั่งผู้ฝึกปราณจากจักรวรรดินั้น ขนาดแม่ทัพใหญ่ซย่าโหวเจี๋ยยังชื่นชม หัวเราะร่าไม่หยุดหย่อนโดยไม่สงวนท่าทีด้านราชันนภาเพลิงที่ก่อนหน้านี้เย่อหยิ่งโอหังถึงที่สุด กลับนิ่งเงียบอย่างพบเห็นได้ยาก ผลลัพธ์เช่นนี้ก็ทำให้เขาตั้งรับไม่ทันเช่นกันส่วนพวกผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนอย่างอิ๋งเชวี่ยก็งงงวยอยู่เช่นนั้น เวลาผ่านไปนานยังพูดไม่ออกเดิมทีทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขาลอบโหมกระพือ ป่าวประกาศอย่างกำเริบเสิบสาน สร้างแรงกระเพื่อมไม่ว่างเว้น จะไปคิดได้อย่างไรว่ายามที่พวกเขาผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนมีกำลังใจฮึกเหิมที่สุด สถานการณ์กลับพลิกผันจนทำให้พวกเขาหดหู่แทบกระอักเลือด แรงกระเพื่อมที่พวกตนสร้างกลับทำให้ฝ่ายตัวเองกระอักกระอ่วนและอัดอั้น จิตใจถูกกระทบกระเทือน ใครจะรับเรื่องนี้ได้กันพูดว่าย้ายหินกระแทกเท้าตัวเองยังออกจะเบาไป นี่เรียกได้ว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน รนหาความอับอายเสียเองโดยแท้!“อ๊าก!”ในที่สุดอิ๋งเชวี่ยก็ทนไม่ไหวแล้ว ร้องคำรามเดือดดาล โกรธจนสั่นไปทั้งตัว ดวงตาถลนออกมา “หลินสือเอ้อร์ ข้าจะฆ่าเจ้า!”__
คอมเม้นต์