Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 701 เรื่องยินดีที่คาดไม่ถึง
เสียงหวีดร้องอย่างบ้าคลั่งและหวาดผวา ณ ที่นั้นทำให้พ่อมดเถื่อนมือฉมังคนอื่นที่มาใหม่ต่างงุนงง แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้พวกเขาตื่นตระหนก หนีอย่างบ้าคลั่งกระเจิดกระเจิงไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น อาศัยแค่ภาพที่เท้าข้างหนึ่งของหลินสวินเหยียบย่ำค่ายกล เดินนวยนาดสู่หุบเขาพยัคฆ์ก็ทำให้พวกเขาขวัญหนีดีฝ่อแล้วหลินสวินเดินหน้ามาตามทางพลังจิตวิญญาณเขาแผ่กระจายขยายออกครอบคลุมทั่วอาณาบริเวณ ดาบหักราวมีลูกตา จู่โจมสังหารพ่อมดเถื่อนมือฉมังสิบกว่าคนอีกคราภายในนั้นไม่ขาดแคลนผู้แข็งแกร่งระดับจอมเวท ในสมรภูมิกระหายเลือดก็ถือว่าเป็นพวกทรงพลัง แต่ต่อหน้าหลินสวินกลับเสมือนไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา ไม่อาจต้านทานสักกระผีก“อะไรนะ?! เจ้าเด็กสวะนั่นกลับมา?” ส่วนลึกหุบเขาก้องเสียงคำรามของเสอเจิ้น เขาตระหนกและโกรธเกี้ยว ดวงตาปูดโปนแทบถลนกลางหุบเขาสับสนอลหม่าน หลินสวินกระชับดาบมุ่งหน้า ทิ้งรอยเลือดตลอดทาง แต่เสื้อผ้าเขากลับไม่แปดเปื้อน บุคลิกท่วงท่าสง่างาม เมื่อรวมกับภาพฉากยุ่งเหยิงและกระหายเลือดทั่วจตุรทิศนั้น ยิ่งขับเน้นให้เขาเป็นดั่งเซียนสวรรค์มาเยือนโลกคนหนึ่ง“ถึงกับเป็นเขาจริงๆ…” เหยียนชื่อสิงและอินเป่ยกู้ร้องลั่นเช่นกัน แทบไม่กล้าเชื่อตาตนเองเจ้าเด็กนี่วกกลับมาจู่โจมฉับพลันอย่างไม่คาดฝัน!ต่อให้พวกเขาผ่าสมองออกมาก็คิดไม่ถึงว่าเหตุใดเจ้าเด็กนี่ถึงใจกล้าคับฟ้าเช่นนี้ หนีไปได้แล้วทำไมยังต้องกลับมาอีก ใครมันให้ความมั่นใจกับเขากัน“เจ้ายังกล้ากลับมาอีกรึ ช่างเป็นสุนัขกล้าคับฟ้าซะจริง ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสินะ!” เสอเจิ้นตะเบ็งลั่น แต่แท้จริงแล้วกลับใช้ความดุดันมาปกปิดความอ่อนแออยู่บ้างช่วยไม่ได้ ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกศรดอกหนึ่งของหลินสวินทำบาดเจ็บสาหัสเกือบวายชนม์ ร่างกายเสียหายอย่างหนัก เวลานี้ไหนเลยจะมีความกล้าต่อต้านหลินสวิน“พวกเจ้าไม่ใช่ว่าอยากไล่สังหารข้าหรอกรึ ตอนนี้ข้าหวนกลับมาเอง ทำไมพวกเจ้ายังไม่ยินดี”ขณะหลินสวินพูดก็เงื้อดาบฟาดฟันจนได้ยินเสียงฟุ่บๆๆ ระลอกหนึ่ง พ่อมดเถื่อนมือฉมังซึ่งอยู่ใกล้เคียงเจ็ดแปดคนไม่ทันได้หลบก็ถูกฆ่า ณ ตรงนั้นในบัดดลท่าทางฆ่าฟันอันเลือดเย็นอำมหิตไม่มีลังเลนั้น ทำเอาพวกเสอเจิ้น เหยียนชื่อสิง อินเป่ยกู้ตระหนกจนใจสั่นสะท้าน ขนพองสยองเกล้าไม่ใช่ว่าพวกเขาประมาทเลินเล่อ ไม่มีการป้องกัน แต่เป็นเพราะพวกเขาคาดไม่ถึงแต่แรก ว่าเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นี่ถึงกับมีความกล้าหวนกลับมา ก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อนน่าเสียดาย ขณะนี้มาเสียใจภายหลังก็สายไปแล้วตูม!ในลานหลินสวินไม่แม้แต่จะหยุดมือ เท้าใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง ดาบหักฟาดฟัน พุ่งสังหารเข่นฆ่า“ลุยพร้อมกัน ฆ่าไอ้เศษสวะนี่!”เสอเจิ้นคำรามดุดันกึกก้องฟ้าดิน เขาคิดอาศัยเสียงตวาดนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนระดับมหาเวทในบริเวณใกล้เคียงตื่นตกใจ และมาช่วยเหลือพวกเขาแต่เหยียนชื่อสิงและอินเป่ยกู้ตรงไปตรงมายิ่งกว่า ส่งสัญญาณซึ่งหลอมจากกระดูกสัตว์ไปขอความช่วยเหลือจากผู้แข็งแกร่งภายนอกหลินสวินยิ้มแล้ว ที่เขาต้องการก็คือผลลัพธ์เช่นนี้ มีเพียงเป็นเช่นนี้จึงจะสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนระดับมหาเวทซึ่งไล่สังหารพวกเขาหูทงพวกนั้น ไม่อาจไม่หวนกลับหุบเขาพยัคฆ์!ตูม ครืน!การเข่นฆ่าสังหารยังดำเนินต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นจนจบหลินสวินล้วนฆ่าฟันหมดจด ท่าทางเลือดเย็นและไร้ปรานี นับตั้งแต่เข้าสู่หุบเขาพยัคฆ์ก็ไม่เคยออมมือวิธีทำลายล้างประดุจเทพมารเช่นนั้น ทำพ่อมดเถื่อนมือฉมังที่อยู่ใกล้ๆ สะดุ้งตระหนกอย่างสิ้นเชิง ต่างลนลานหนีออกนอกหุบเขาพยัคฆ์หลินสวินไม่ได้ไล่ตามไป ที่เขามาครานี้เดิมทีก็ไม่ใช่เพื่อสังหารศัตรูแต่ภาพเหตุการณ์เช่นนี้กลับทำให้พวกเสอเจิ้น เหยียนชื่อสิง อินเป่ยกู้สีหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม สั่นเทิ้มทั่วสรรพางค์กาย มือเท้าเย็นเยียบหากให้เจ้าเด็กนี่สังหารเช่นนี้ต่อไป ถึงแม้กองหนุนหวนกลับมา แต่เวลานั้นเกรงว่าพวกเขาคงสิ้นชีพนานแล้ว!“หนี!”พวกเสอเจิ้นตัดสินใจอย่างอัดอั้นและอัปยศ ช่วยไม่ได้ เพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาไหนเลยจะมัวใส่ใจหน้าตาที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาล้วนได้รับบาดเจ็บ สูญเสียคุณสมบัติต่อต้านหลินสวินเพียงแต่พอนึกถึงว่าครั้งนี้ถูกเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นั่นทำเอาหวาดหวั่นอีกครา ทำให้พวกเขาต่างรู้สึกประหนึ่งอยากกระอักเลือดขึ้นมารังแกกันเกินไปแล้ว!ไกลออกไป หลินสวินซึ่งกำลังสังหารศัตรูกลุ่มหนึ่งรับรู้ได้อย่างฉับไวว่าพวกเสอเจิ้นหนีไปแล้ว เพียงแต่ที่ต่างจากพ่อมดเถื่อนมือฉมังคนอื่นคือ พวกเขาสามคนหนีเข้าไปในถ้ำเหมืองของส่วนลึกหุบเขาพยัคฆ์‘หรือส่วนลึกในถ้ำเหมืองนั่นยังซ่อนสถานที่ปลอดภัยอะไรไว้ ทำให้พวกเขาเลือกถอยเข้าไปในนั้นอย่างเด็ดขาดเช่นนี้’ในใจหลินสวินพลันกระตุกเขาไม่ได้ไล่ตามไป พวกเสอเจิ้นไม่ต่างอะไรจากพยัคฆ์เฒ่าถอดเขี้ยว ไม่ช้าก็เร็วสามารถฆ่าพวกเขาได้หลังจากนั้นไม่นานหุบเขาพยัคฆ์เกลื่อนกลาดระเนระนาด ซากศพนอนอยู่ทั่ว แอ่งโลหิตย้อมพื้นดินเป็นสีแดง อย่างน้อยก็มีซากศพพ่อมดเถื่อนมือฉมังกว่าร้อยศพนอนอยู่ ณ ที่นั้นภาพนี้ชวนให้ประหวั่นพรั่นพรึง น่าตกใจเกินไป ในสมรภูมิกระหายเลือดล้วนเรียกได้ว่าเป็นศึกขนาดย่อม!และทั้งหมดนี้กลับเกิดขึ้นจากหลินสวินคนเดียวแน่นอนว่าพ่อมดเถื่อนมือฉมังซึ่งหนีไปมีมากกว่าที่ตาย แต่หลินสวินล้วนไม่ขัดขวาง เขาต้องการให้ศัตรูช่วยแพร่ข่าวสารไปดึงดูดผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนที่กำลังไล่ล่าพวกหูทงหลินสวินเริ่มเก็บทรัพย์หลังศึกวิธีการคล่องแคล่วคุ้นเคย ไม่นาน ณ ที่นั้นก็มีห่อสัมภาระขนาดใหญ่สามใบซึ่งแน่นขนัด ภายในนั้นล้วนเป็นทรัพย์หลังศึก สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเหรียญกล้าหาญของกองทัพได้อย่างมากมายเพียงแต่ไม่ทันไรหลินสวินก็ปวดหัวแล้ว ห่อสัมภาระใหญ่เกินไป ทั้งยังมีมากถึงสามใบ ในสมรภูมิกระหายเลือดซึ่งไม่อาจใช้สมบัติเก็บของ คิดอยากนำทรัพย์หลังศึกเหล่านี้กลับค่ายโดยราบรื่น เป็นบททดสอบที่ไม่เล็กเลยคิดไปคิดมา หลินสวินก็หาเชือกเส้นหนึ่งออกมา แล้วนำห่อสัมภาระสามใบร้อยรวมกัน จากนั้นจึงหิ้วไว้ในมือก่อนเดินไปทางถ้ำเหมืองส่วนลึกของหุบเขาพยัคฆ์เสอเจิ้น เหยียนชื่อสิง อินเป่ยกู้ตอนนี้ยังหลบอยู่ในนั้น อีกทั้งหลินสวินไม่มีทางลืมจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการหวนคืนหุบเขาพยัคฆ์ครานี้…สมบัติปริศนาซึ่งใกล้จะปรากฏชิ้นนั้น!…ถ้ำเหมืองลึกอย่างมาก ภายในมืดสนิทชื้นแฉะ เส้นทางถี่ยิบแน่นขนัดประดุจใยแมงมุม ยืดขยายไปยังส่วนลึกของพื้นดิน คล้ายเขาวงกตใต้ดินทันทีที่เข้ามา หลินสวินก็สัมผัสได้ถึงไอสังหารเสียดกระดูกที่บอกไม่ถูกสายหนึ่ง เลือนราง ทว่ากลับมีอยู่ทุกอณู!รูขุมขนทั่วร่างหลินสวินตั้งชัน แม้ว่าจะเป็นเขา ในใจก็ยังสะท้านอย่างอดไม่อยู่ ลอบตะลึงงันไปวูบหนึ่งไอสังหารน่ากลัวยิ่งนัก!เขาลากห่อสัมภาระเดินหน้าอย่างระแวดระวัง พลังจิตวิญญาณยิ่งใหญ่แผ่กว้างขยายออก ชั่วพริบตาก็สัมผัสกลิ่นอายพวกเสอเจิ้นสามคนที่หลงเหลือไว้ได้เสี้ยวหนึ่งสีหน้าเขาไม่เปลี่ยนแปลง เดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเส้นทางวกวนซับซ้อนตัดสลับ คนทั่วไปเดินในนี้ต้องหลงทางเป็นแน่อีกทั้งยิ่งหลินสวินเข้ามาลึกเท่าไหร่ ไอสังหารเสียดกระดูกที่รู้สึกได้ก็ยิ่งน่าสะพรึงขึ้นเรื่อยๆ เสียดแทงจนผิวหนังหลินสวินเจ็บแปลบรางๆนัยน์ตาหลินสวินหรี่ลงเล็กน้อย ที่แห่งนี้ไม่ธรรมดาดังคาดฟุ่บ!ไม่ทันไรหลินสวินพลันลงมือดุจอสนีบาต ดาบหักแทงใส่ผนังหินฟากหนึ่งของทางเดิน ร่างหนึ่งเปล่งเสียงร้องทุรนทุราย ตามมาด้วยน้ำเลือดสายหนึ่ง เงามืดหนึ่งร่วงหล่นกับพื้น ถูกฆ่าตายลงตรงนั้นนี่คือผู้แข็งแกร็งสายคนเถื่อนมืดคนหนึ่ง แทบทำให้คนเสาะหากลิ่นอายไม่พบ แต่กลับหลบซ่อนจากการตรวจจับของพลังจิตวิญญาณอันทรงพลังของหลินสวินไม่พ้นนี่คือความอัศจรรย์ของ ‘เคล็ดเวทบริกรรม’ อย่างหนึ่ง ทำให้พลังจิตวิญญาณของหลินสวินสามารถมองทะลุแม้สิ่งที่มองไม่เห็น และคว้าจับตัวตนที่แท้จริงตูม!เพิ่งเดินหน้าไปไม่นาน กลางทางพลันมีทวนกระดูกขาวเล่มหนึ่งพุ่งเข้าใส่ แทงมายังลำคอหลินสวินอย่างหนักหน่วง น่าตะลึงหาใดเปรียบ พลังดุดันรุนแรงน่าหวาดกลัวหลินสวินไม่แม้แต่จะมอง เงาร่างวาบกะพริบแล้วหายไปจากจุดเดิมฟุ่บ!ทวนกระดูกขาวแทงใส่อากาศ แต่บริเวณที่ไม่ไกลออกไปกลับมีศีรษะเลือดหลั่งรินหนึ่งถูกฟันร่วง ศพไร้หัวศพหนึ่งหล่นลงพื้นโดยพลันส่วนเงาร่างของหลินสวินหายไปในส่วนลึกของอุโมงค์นานแล้วเขาวงกตใต้ดินที่มืดมนและเปียกชื้นนี้ซ่อนไอสังหารเสียดกระดูกเร้นลับ และยังซ่อนพ่อมดเถื่อนมือฉมังซึ่งหลบอยู่ภายในมากมายแต่ทว่าหลินสวินกลับประหนึ่งเดินเล่นบนทางราบ มุ่งไปเบื้องหน้าตลอดทาง เมื่อใดที่พบการลอบสังหาร ซุ่มโจมตี ล้วนถูกเขาจับได้ก่อนก้าวหนึ่ง จากนั้นก็ปลิดชีพฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เกรงใจหืม?ไม่รู้ว่าสังหารศัตรูไปเท่าไหร่ หลินสวินพลันชะงักเท้ากะทันหัน นัยน์ตาดำฉายแสงวับวาวในอุโมงค์เบื้องหน้าจู่ๆ ปรากฏแสงดาราดวงแล้วดวงเล่า เจิดจรัสจ้าตา ส่องอาณาเขตอันมืดมนเปียกชื้นนั้น ประกายใสเอ่อล้น ถึงกับมีความงามไพศาลอันลึกลับอย่างหนึ่งเมื่อเดินใกล้เข้าไปถึงได้พบว่า แสงดาวเจิดจรัสเล็กๆ นั่น กลับเป็นหินสีดำบนผนังที่นูนออกมาแครก!หลินสวินใช้ดาบหักเฉือนออกมา หินแร่สีดำขนาดเท่าไข่ห่านก้อนหนึ่งลื่นไถลลงในมือ ก็เห็นว่าพื้นผิวของมันมีแสงดาราจ้าตาไหลวน ยิ่งมีเนื้อสัมผัสประหนึ่งโลหะ หนักมือ แต่ไม่ถึงกับเกินพันชั่งเหล็กดาราจรัสสลาย!นี่ก็คือหินแร่เฉพาะถิ่นในส่วนลึกของหุบเขาพยัคฆ์ วัตถุดิบวิญญาณที่ล้ำค่ายากพบเห็นชนิดหนึ่ง เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ใช้หลอมสมบัติระดับสวรรค์ชั้นยอดขณะเดียวกันยังสามารถใช้มันเป็นสื่อนำในการหลอมชุดศึกสลักวิญญาณ ความอัศจรรย์ไร้ขีดจำกัด มูลค่าก็น่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่งยวดก้อนเล็กเช่นนี้ก้อนหนึ่ง ในจักรวรรดิก็สามารถแลกเป็นเงินมากกว่าหมื่นเหรียญทอง!แต่บัดนี้บนผนังหินใกล้เคียง ล้วนเต็มไปด้วยหินแร่เหล็กดาราจรัสสลายแน่นขนัด! พวกมันประดุจดวงดาวที่ฝังประดับ เปล่งแสงประกายดั่งภาพลวงตา‘มิน่าพวกเผ่าพ่อมดเถื่อนถึงได้ส่งกองกำลังมือฉมังมาประจำการที่นี่ แค่แร่เหล็กดาราจรัสสลายพวกนี้ก็คุ้มค่าให้พวกเขาจะทำเช่นนี้แล้ว’ขณะหลินสวินกำลังไตร่ตรอง ทันใดนั้นนัยน์ตาพลันหดตัว สังเกตเห็นว่าดาบหักในยามนี้ถึงกับปรากฏระลอกคลื่นลึกลับยากพบเห็นวูบหนึ่งเสมือนได้กลิ่นอาหารโอชะ และสูบพลังที่แฝงอยู่ในเหล็กดาราจรัสสลายก้อนนั้นในมือเขาแกร๊ก!แค่เพียงชั่วพริบตา เหล็กดาราจรัสสลายขนาดเท่าไข่ห่านก็ถูกสูบพลังจนหมด กลายเป็นฝุ่นผงแหลกละเอียดลอยละล่องพร้อมกันนั้นพื้นผิวของดาบหักปรากฏแสงเหลือบวูบไหวราวกับกำลังหายใจ ส่องประกายแสงดาราสายหนึ่ง จากนั้นค่อยจมสู่ความเงียบสงัดในใจหลินสวินรู้สึกประหลาดขึ้นมา ดาบหักเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นครั้งแรก ถึงกับดูดกลืนพลังด้วยตัวเองหรือภายในเหล็กดาราจรัสสลายจะมีพลังที่สามารถทำให้มันพัฒนาตัวได้แฝงอยู่?ชิ้ง!หลินสวินเพียงสะบัดข้อมือเบาๆ ดาบหักก็เสียบทะลุผนังหินฝั่งหนึ่งราวหั่นเต้าหู้ก็ไม่ปานทันใดนั้นสามารถสังเกตเห็นอย่างชัดเจน ว่าเกิดเสียงครวญต่ำเบาจากดาบหัก คล้ายเป็นการโห่ร้องยินดี แผ่คลื่นพลังคลุมเครือออกมาแต่หินแร่เหล็กดาราจรัสสลายซึ่งแน่นขนัดบนผนังหินทั่วทิศกลับเริ่มสั่นขึ้นมา แสงที่อบอวลออกมาเริ่มเปลี่ยนเป็นทึบหม่นอย่างรวดเร็ว เห็นชัดว่าพลังกำลังไหลหายไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปรวมอยู่ในดาบหัก‘เป็นจริงดังคาด!’หลินสวินนัยน์ตาฉายแวววาบ การค้นพบนี้กล่าวได้ว่าอยู่นอกเหนือความคาดหมาย ทำให้เขาไม่คาดฝัน‘ไม่รู้ว่าหลังดาบหักสูบพลังของเหล็กดาราจรัสสลายพวกนี้แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร…’หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งก็ตัดสินใจทิ้งดาบหักไว้ที่นี่ ส่วนตัวเขากลับถือธนูวิญญาณไร้แก่นสารรุดหน้าต่อไปมาถึงตรงนี้ ไอสังหารเสียดกระดูกที่เดิมคล้ายมีคล้ายไม่มีสายนั้นยามนี้ปรากฏชัด นี่ทำให้หลินสวินรับรู้ได้ว่า ใกล้จะถึงสถานที่ที่เขาเสาะหาแล้ว!………….
คอมเม้นต์