Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 684 อัดอั้นตันใจ
ฟ้าดินมืดสลัว ฝุ่นทรายปกคลุมพื้นดินที่แห้งแล้งรกร้าง สามารถมองเห็นซากศพเน่าเปื่อยได้ทุกหนแห่งที่นี่ไม่มีแม้แต่หญ้าขึ้น โลกสะท้อนสีเทามืดครึ้ม กลิ่นคาวเลือดในอากาศที่ไม่รู้มาจากไหนรุนแรงจนฉุนจมูกหลินสวินเคลื่อนไหวอย่างสบายๆ ผ่อนคลายและเงียบสงบ ดุจดั่งเมฆเคลื่อนน้ำไหล ร่างกายราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับโลกใบนี้เหมือนแมงมุมที่ลาดตระเวนอาณาเขตของตน ระหว่างที่ฝีเท้าเคลื่อนไหว มีความรู้สึกเหมือนเป็นผู้คุมที่แม่นยำและเชี่ยวชาญนี่คือท่าทางของการต่อสู้อย่างหนึ่ง ภายนอกที่ดูเหมือนผ่อนคลายและสงบนิ่ง คือความระแวงและระมัดระวัง สัมผัสเพียงนิดก็ระเบิดได้‘นอกที่ตั้งของค่ายก็คือสนามรบ ระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการอยู่รอด!’นี่คือประโยคที่สามในตำราคู่มือหนังสัตว์‘ที่นี่ภูเขาเนินเหยียดสูง ภูมิประเทศซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงบ่อย หากไม่เคลื่อนไหวบนเวหา สิ่งที่ต้องระวังที่สุดคือการซุ่มโจมตีและจู่โจม’‘ฟ้าดินไม่มีพลังวิญญาณ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางกายภาพในระดับสูงสุด ต้องใช้เวลาว่างเติมเต็มพลังวิญญาณที่จำเป็น’‘กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าที่ไม่เสื่อมคลาย เป็นการยืนยันว่าไม่นานมานี้ พื้นที่ที่ข้าผ่านนี้มีการต่อสู้นองเลือดไม่เพียงแค่ครั้งเดียว’หลินสวินคลื่อนไหวไปข้างหน้าพลางสังเกตสิ่งที่เห็นระหว่างทาง ใช้วิธีของตนสัมผัสถึงสมรภูมิกระหายเลือดที่เต็มไปด้วยความสยดสยองแห่งนี้ในมือของเขายังคงถือผลึกวิญญาณระดับสูง คอยเติมพลังวิญญาณที่ตนเสียไประหว่างเดินทาง แม้ว่าการสูญเสียเช่นนี้จะไม่เด่นชัด แต่หลินสวินกลับรู้ดีว่า เมื่อการต่อสู้รุนแรงเกิดขึ้น การสูญเสียความแข็งแกร่งทางกายภาพเล็กน้อย ก็อาจก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดนี่เป็นสัญชาตญาณการต่อสู้อย่างหนึ่งที่ได้รับการบ่มเพาะจากค่ายกระหายเลือดจู่ๆ ในท้องฟ้าที่มืดมนเบื้องหน้าก็ปรากฏสีเลือด ราวกับแสงไฟสะดุดตาท่ามกลางรัตติกาลหลินสวินเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง ไม่นานเขาก็เห็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยซากศพพื้นดินชุ่มเลือด ซากศพยังคงมีเลือดไหลพรูออกมา มีทั้งศพผู้ฝึกปราณในเครื่องแบบทหารจักรวรรดิ และมีศพรูปร่างแปลกประหลาดของเผ่าพ่อมดเถื่อนกลางอากาศยังคงหลงเหลือกลิ่นเขม่าปืนใหญ่ เป็นการยืนยันว่าสงครามของที่นี่เพิ่งจบลงไม่นานหลินสวินหรี่ตาลงกะทันหัน เห็นว่าบนศพของผู้ฝึกปราณจักรวรรดิส่วนใหญ่ล้วนไม่สมบูรณ์ มีร่องรอยการถูกผ่าชำแหละมากมายบางคนโดนควักหัวใจ บางคนโดนตัดหัว บางคนถูกควักลูกตาทั้งสองข้างไป บางคนถูกผ่าครึ่งและอวัยวะภายในได้หายไปหมดแล้ว เหลือเพียงร่างกายที่ว่างเปล่าถึงขั้นที่มีศพหนึ่งถูกดึงเอ็นขุดกระดูกออก เหลือเพียงแค่เลือดเนื้อกองหนึ่ง!ภาพที่โหดร้ายและนองเลือดนี้ทำให้หลินสวินรู้สึกขยะแขยงจนคลื่นไส้แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไร ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งจึงหมุนตัวออกไป‘สงครามนี้ผู้ฝึกปราณฝั่งจักรวรรดิพ่ายแพ้ ส่วนต่างๆ ในศพของพวกเขาถูกนำไปเป็นทรัพย์หลังศึก!’หลินสวินได้ข้อสรุปในใจในตำราคู่มือหนังสัตว์เคยอธิบายไว้ว่า คุณูปการทางทหารของสมรภูมิกระหายเลือดเปื้อนไปด้วยเลือด และคุณูปการทางทหารก็มาจาก ‘ทรัพย์หลังศึก’ อันโหดร้ายและวิปริตเหล่านี้!ไม่เพียงแค่เผ่าพ่อมดเถื่อน หากผู้ฝึกปราณจักรวรรดิเป็นฝ่ายชนะศึก ก็จะเอาอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของเผ่าพ่อมดเถื่อนไปด้วยเช่นกันนี่ก็คือคุณูปการทางทหาร!ครืนโครม…เคลื่อนไหวไปข้างหน้าต่อไปได้ไม่นาน บนท้องฟ้าก็ปรากฏรอยแตกร้าว สามารถมองเห็นแสงแพรวพราวมากมายกะพริบอยู่ภายใน ดูงดงามและสะดุดตาอย่างที่สุดแต่ในใจหลินสวินกลับเต็มไปด้วยความเย็นเยียบอากาศแตกร้าว!ภายนอกที่ดูงดงามนี้ กลับเป็นอันตรายอย่างที่สุดที่สามารถทำให้ราชันระดับสังสารวัฏหวาดหวั่นได้ หากถูกม้วนเข้าไปจะต้องตายอย่างแน่นอน‘คาวเลือด ความมืดมน ความวุ่นวายอลม่าน ความรุนแรง…’แม้จิตใจของหลินสวินจะแข็งแกร่งราวกับเหล็ก ก็ยังรู้สึกหนักอึ้งสมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้เป็นน่าสยดสยองราวกับวันโลกาวินาศ เต็มไปด้วยคาวเลือดและกลิ่นเหม็นเน่าทุกหนทุกแห่ง แต่กลับมองไม่เห็นพลังชีวิตเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดแผ่วเบาดังมาพร้อมกับสายลม คล้ายมีคล้ายไม่มี แต่กลับไม่อาจรอดพลังจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่และไม่มีใครเทียบของหลินสวินเงาร่างของหลินสวินหายไปจากที่เดิมทันทีห่างออกไปหลายพันจั้ง ตรงหน้าเนินดินเตี้ยๆ มีร่างหนึ่งคืบคลานอยู่เป็นผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนหนึ่ง เลือดไหลท่วมตัว สองขาของนางแหลกสลายด้วยถูกอาวุธทื่อบางชนิดทุบ เลือดเนื้อเปื่อยยุ่ย ได้แต่ใช้สองมือคลานบนพื้นบนพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่น ถูกร่างของนางละเลงเป็นทางสีเลือดยาวหลินสวินเฝ้ามองอยู่เงียบๆ สุดท้ายก็ตามไปโดยไม่ได้พูดอะไรราวกับรับรู้ได้ถึงการมาเยือนของหลินสวิน ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ากลับมาอย่างยากลำบาก เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เจ็บปวด เปื้อนไปด้วยเศษโคลนและคราบเลือดเบ้าตาของนางว่างเปล่า ยังคงมีเลือดหยดลง ลูกตาไม่รู้ว่าถูกควักออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ดูสยดสยองและน่าสะพรึงกลัวผิดปกติสีหน้าของหลินสวินเงียบสงบ เขาดูออกว่าเดิมทีผู้หญิงคนนี้ต้องงดงามมากแน่ เครื่องหน้าของนางโดดเด่นมาก แม้ว่าผิวจะเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น กลับไม่สามารถซ่อนความขาวเนียนผุดผ่องของนางแต่ในตอนนี้สองขาของนางแหลกเละ ดวงตาถูกควัก ร่างกายเต็มไปด้วยฝุ่นและคราบเลือด คลานอยู่บนพื้น ท่าทางเหมือนกำลังจะตาย ดูไร้ที่พึ่งและเจ็บปวดอย่างมากทันใดนั้นหลินสวินสังเกตเห็นว่า นิ้วมือที่เปื้อนเลือดของหญิงสาวกำลังเขียนอะไรบางอย่างบนพื้นอย่างสั่นๆ เขาอดขึ้นไปดูไม่ได้ตูม!แต่ในตอนนี้เอง ร่างของหญิงสาวก็ระเบิดฉับพลัน!พลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมาจากร่างกายที่ระเบิดออก ผสมกับเลือดเนื้อที่แหลกสลายปกคลุมไปทางหลินสวินหลินสวินลอบถอนหายใจ ราวกับคาดการณ์ถึงฉากนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ร่างกายวูบไหวหายไปจากจุดเดิม หลบหนีกระแสทำลายล้างนี้ล่วงหน้าหนึ่งก้าว“ตั้งกี่ปีมาแล้ว ยังไม่เคยเห็นไก่อ่อนแบบนี้มาก่อนเลย ฮ่าๆ หรือจักรวรรดิเผ่ามนุษย์นั่นไม่มีผู้แข็งแกร่งที่สามารถสู้ได้แล้ว”“เหยื่อที่ชัดเจนเพียงนี้ยังดูไม่ออก น่าผิดหวังจริงๆ รีบฆ่าเขาให้สิ้นเรื่อง”“ข้าอยากได้ตาเขา”“ข้าจะเอาหัวใจเขา”“หนังของเขาก็ไม่เลว ข้าจะเอา”บริเวณที่ไม่ไกลจากเนินเขาเล็ก เดิมมีแต่ซากศพเน่าเปื่อย แต่ตอนนี้กลับมีเงาร่างกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาจากภายในในบรรดาพวกเขามีทั้งชายและหญิง ดูไม่ต่างกับมนุษย์มากนัก เพียงแต่บนร่างกายของพวกเขากลับประทับลายสัญลักษณ์ลึกลับในตำแหน่งที่แตกต่างกันออกไปบ้างแข็งแกร่งเหมือนภูเขา บนแขนหนาใหญ่ปกคลุมด้วยลายสัญลักษณ์สีเหลืองบ้างร่างกายถูกล้อมรอบด้วยหมอกน้ำ น้ำไหลหยดลงจากร่าง ดวงตาก็เป็นสีฟ้าราวกับเพชรบ้างเป็นสีขาวเงินทั้งตัว เส้นผมยาวเปล่งแสงสายฟ้าเส้นบาง โดดเด่นแสบตาราวกับบุตรแห่งสายฟ้าพวกเขาเป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนอย่างไม่ต้องสงสัย!เผ่าพ่อมดเถื่อนแบ่งเป็นเก้าสาย ได้แก่ ทองคำ พฤกษา วารี อัคคี พสุธา อัสนี แสง มืดและโบราณหลินสวินเคยผ่าร่างกายของผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนสายต่างๆ ด้วยตัวเองมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในค่ายกระหายเลือดแล้ว จึงรู้จักพวกเขาเป็นอย่างดีเขาถึงขั้นดูออกตั้งแต่แวบแรกที่เห็นว่า ในบรรดาผู้แข็งแกร่งเผ่าพ่อมดเถื่อนแปดคนที่ปรากฏตัวตอนนี้ มีห้าคนที่เป็น ‘จอมพลังพ่อมดเถื่อน’ ซึ่งก็เท่ากับผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณเผ่ามนุษย์มีสามคนที่เป็น ‘จอมเวท’ ซึ่งก็เทียบเท่ากับระดับหยั่งสัจจะทาสเถื่อน นักรบเถื่อน จอมพลัง จอมเวทและมหาเวทคือระดับการฝึกปราณของเผ่าพ่อมดเถื่อน ตรงกับระดับการฝึกปราณทั้งห้าของเผ่ามนุษย์อย่าง ระดับกำลังภายใน จิตผสานวิญญาณ มหาสมุทรวิญญาณ หยั่งสัจจะและกระบวนแปรจุติทันทีที่พวกเขาปรากฏตัว ก็มีลักษณะของการปิดล้อม สีหน้าล้วนแฝงความเย้ยหยันและโหดร้ายจากกลิ่นอายชั่วร้ายและกลิ่นคาวเลือดที่แผ่ออกจากร่างกายของพวกเขาก็ดูออกว่า พวกเขาล้วนไม่ใช่คนธรรมดา และสามารถจัดให้อยู่ในหมู่ผู้เหี้ยมโหดได้เพียงแต่…หลินสวินกลับทำเหมือนมองไม่เห็น เขายืนอยู่อย่างนั้น สายตาจับจ้องในตำแหน่งที่ร่างกายของผู้หญิงคนนั้นระเบิด บนพื้นดินตรงนั้นยังคงมองเห็นตัวหนังสือสีเลือดที่นางเขียนเอาไว้ก่อนตาย…‘ข้าเป็นเหยื่อ เจ้าเป็นปลา เหตุใดจึงไม่หนี!!’นี่ไม่ใช่คำพูดเพื่อขอความช่วยเหลือหรือคำพูดสุดท้ายก่อนตาย แต่ประหนึ่งเป็นเสียงคำรามที่สหายร่วมรบไม่ได้ดั่งใจ แฝงความกังวลและเดือดดาลแต่ความห่วงใยที่ซ่อนอยู่ลึกๆ นั่นกลับทำให้หลินสวินสั่นเทิ้มไปทั้งตัว ราวกับตำแหน่งหนึ่งภายในใจถูกโจมตี รู้สึกเกลียดชังและอัดอั้นอย่างบอกไม่ถูกเขานึกถึงสองขาที่แหลกเละของผู้หญิงคนนั้น เบ้าตาว่างเปล่าเลือดนองหลังจากถูกควักลูกตา รวมทั้งทางเลือดยาวที่ถูกร่างกายของนางลากผ่าน…“ตามคาด นี่เป็นไก่อ่อนที่เพิ่งมาถึงสนามรบ ตกใจจนเพี้ยนไปแล้ว! ฮ่าๆๆ”เหล่าผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนส่งเสียงหัวเราะลั่นพวกเขาไม่ได้ดูถูก ปิดล้อมอย่างแน่นหนาทุกทาง ทุกคนต่างระมัดระวังและหวาดระแวง นี่คือท่วงท่าปกติที่ผู้คร่ำหวอดในสนามรบมานานปีเท่านั้นจึงจะหล่อหลอมออกมาได้“ข้าเพียงอยากช่วยเจ้าอย่างสุดความสามารถ… แต่ไม่คิดว่า… พวกเขาจะโหดเหี้ยมกว่าที่ข้าคิด…”หลินสวินพึมพำเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันหน้ากลับมา ในดวงตาสีดำเต็มไปด้วยความเย็นชาและเรียบเฉย “พวกเจ้าล้วนสมควรตาย”“ลงมือ!”ผู้แข็งแกร่งพ่อมดเถื่อนที่เป็นผู้นำยิ้มอย่างเหี้ยมโหด พร้อมโบกมือโดยไม่เสียเวลาพูดพร่ำทำเพลงพวกเขาเปิดการโจมตีทันทีโครม!ค้อนยักษ์ที่ตีจากกระดูกสัตว์ตกลงมาจากท้องฟ้า ส่งเสียงอึงอล ทุบอากาศจนทรุดตัว และพุ่งใส่กลางศีรษะของหลินสวินฟุ่บ!หลินสวินวาดดาบหักในมือออกไปคราหนึ่งโดยไม่หันมองด้วยซ้ำ ค้อนยักษ์แหลกละเอียด ศีรษะหนึ่งที่เลือดอาบลอยขึ้นกลางอากาศผู้ตายคือจอมเวทคนหนึ่ง จนกระทั่งก่อนตาย สีหน้าของเขาก็ยังคงมีรอยยิ้มเหี้ยมอยู่ เพียงแต่มันแข็งทื่ออยู่อย่างนั้นแล้วเขาไม่ทันได้ตอบสนอง ถึงขั้นยังไม่ทันได้รับรู้ถึงความหวาดกลัวและไร้ที่พึ่งด้วยซ้ำก็ถูกฆ่าทันที ดาบนั่นฉับไวจนเหลือเชื่อ!ฟุ่บ!และตอนนี้หลินสวินก้าวออกไปแล้ว ดาบหักแผ่แสงระยิบระยับดั่งดวงดารา เปิดฉากเข่นฆ่าขึ้นจนกระทั่งฆ่าจอมเวทคนที่สองไป ผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ถึงเพิ่งมีปฏิกิริยา ส่งเสียงคำรามเดือดดาล สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากจะเห็นได้ว่าการลงมือของหลินสวินว่องไวเพียงใด และพลังสังหารน่าสะพรึงกลัวเพียงใด แทบจะเป็นหนึ่งดาบหนึ่งศีรษะ!นี่ก็คือการเชือดไก่ให้ลิงดู!จอมเวทคนที่สามฉวยโอกาสได้ไว ถอยหนีดังคาด เขาผ่านศึกมานับร้อย ผ่านเหตุการณ์นองเลือด ช่ำชองและมีไหวพริบ แน่นอนว่าต้องตระหนักได้ว่า ปลาที่ติดกับในครั้งนี้แท้จริงแล้วเป็นตัวร้ายกาจผึง!ธนูวิญญาณไร้แก่นสารถูกหลินสวินหยิบขึ้นมา ลูกศรหนึ่งพุ่งออกไปอย่างไร้สุ้มเสียง ยิงสังหารจอมเวทที่หนีห่างไปหลายพันจั้งจนร่วงลงพื้นชั่วพริบตาบริเวณนั้นก็เหลือเพียงจอมพลังพ่อมดเถื่อนที่มีพลังปราณเท่ากับระดับมหาสมุทรวิญญาณแค่ห้าคน เพียงแต่ตอนนี้สีหน้าของพวกเขาต่างซีดเซียว สั่นเทิ้มไปทั้งตัวฟุ่บ!หลินสวินไม่พูดพร่ำทำเพลง ดาบหักม้วนแผ่ธารดาราสีเงินยวงออกมา ใช้วิธีที่รวดเร็วฉับไว ตัดศีรษะทั้งหมดลงไปกองอยู่บนพื้น จบศึกที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันให้สิ้นสุดในชั่วพริบตาเพียงแต่หลินสวินยังคงอึดอัดใจ ราวกับมีความรู้สึกหนึ่งอัดอั้นอยู่ในใจ‘นี่ก็คือสมรภูมิกระหายเลือด!’หลังจากนั้นครู่ใหญ่ หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ และหยุดคิดเรื่องนี้ หลังจากกวาดทรัพย์หลังศึกจนหมดก็หมุนตัวจากไปพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แดงราวกับเลือด——
คอมเม้นต์