Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 656 ค่าตอบแทนของการทรยศ
ได้ยินคำตอบเด็ดเดี่ยวและไม่เหลือทางให้ถอยนั้นของหลินสวิน หลินเทียนหลงพังทลายลงอย่างสมบูรณ์ ตะลึงงันอกสั่นขวัญหายอยู่ตรงนั้นเพลิงไฟควันเขม่าตลบอบอวล เสียงร้องโหยหวนก้องกังวาน ร่างไร้วิญญาณบนพื้นมากยิ่งกว่าเดิม แอ่งเลือดที่ส่องสะท้อนใต้แสงดาบเงากระบี่ปรากฏสีแดงบาดตานี่คือโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจคาดการณ์ฉากหนึ่ง ซ้ำยังเพิ่งเปิดฉาก!ไม่เพียงหลินเทียนหลงที่ไม่ตาย หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้เองก็ยังไม่ตายเช่นเดียวกัน เพียงแต่ที่ต่างจากหลินเทียนหลงคือ สองคนหลังเวลานี้ประดุจดั่งบ้าคลั่งพวกเขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่นานแล้ว ถูกกระตุ้นจากภาพต่างๆ เบื้องหน้าจนบ้าคลั่ง บุกจู่โจมอย่างต่อเนื่อง เข้าสังหารหลินสวินราวกับไม่เสียดายชีวิตเพียงแต่หลินสวินกลับไม่คิดสังหารพวกเขาทันที แต่ละคราล้วนซัดทั้งสองปลิวกระเด็น ดูอเนจอนาถมิอาจทานทน“เจ้ามันใจโฉดนัก หมายให้พวกข้าเบิกตามองเจ้าสังหารหมู่พี่น้องร่วมตระกูลพวกเราใช่ไหม” หลินเนี่ยนซานแผดเสียงคำราม ดวงตาปูดโปนแทบถลน“ถ้ามีปัญญาก็ฆ่าข้าซะ! เหตุใดไม่กล้า? มาสิ!” อีกฟากหนึ่งหลินผิงตู้ผมเผ้ายุ่งเหยิง สีหน้าบิดเบี้ยววิกลจริตน่าเสียดาย หลินสวินไม่สนใจไยดีทั้งหมดนี้ ท่าทีมองข้ามและเลือดเย็นอำมหิตเช่นนั้น ทำเอาทั้งสองคนต่างใกล้จะเป็นบ้าไปจริงๆนี่คือการทรมานอย่างโหดร้ายหาใดเปรียบอย่างหนึ่ง ทำให้พวกเขาอยากตายก็ไม่ได้ ได้แต่มองดูตาปริบๆมองเห็นโศกนาฏกรรมนี้ เห็นคนในตระกูลร่วมสายโลหิตแต่ละคนบ้างหวาดผวา บ้างหมดหนทาง บ้างโกรธแค้น บ้างไม่พอใจล้มตัวลงแอ่งเลือดสีแดงสด!ช่างทรมานกันเกินไปแล้ว!ต่อสู้มาถึงเวลานี้ ในโถงนั้นบาดเจ็บล้มตายไปเกินครึ่ง วิธีสังหารคนอย่างหมดจดชัดเจนราวพายุหอบเศษเมฆานั่นของหลินสวิน สะเทือนสยบทุกผู้คนอยู่ก่อนแล้ว ทำให้พวกเขารู้สึกขวัญหนีดีฝ่อและหวาดกลัว ใจต่อสู้พังทลายเพียงแต่เมื่อพวกเขาเลือกที่จะหนีตายกลับค้นพบอย่างพิศวงว่า ทั่วทุกสารทิศล้วนถูกหมอกควันกว้างใหญ่ปกคลุม เสาหินลึกลับสี่ต้นตั้งตระหง่าน กักขังฟ้าดินแถบนี้โดยสมบูรณ์เสามังกรจตุลักษณ์!ทุกคนในที่นั้นมีหรือจะไม่รู้จักสมบัตินี้ นี่คือสมบัติประจำตระกูลหลินแห่งยอดวายุ อยู่ในการครอบครองของหลินเฟยเฟิง บิดาหลินผิงตู้มาตลอดเพียงแต่หลินเฟยเฟิงถูกสังหารในมือหลินสวินตั้งนานแล้ว แน่นอนว่าสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้จึงต้องตกอยู่ในมือหลินสวินพริบตานั้นทุกคนล้วนสิ้นหวัง พวกเขาเพิ่งตระหนักได้ว่า นับตั้งแต่ที่หลินสวินเหยียบเข้าตระกูลหลินแห่งธารประจิม ก็ได้ตระเตรียมวิธีมากมายไว้ก่อนแล้ว ไม่คิดให้พวกเขาจากไปทั้งเป็น!มิน่าล่ะการเคลื่อนไหวที่นี่ยิ่งใหญ่เพียงนี้ แต่จนถึงตอนนี้กลับไม่สร้างความตื่นตระหนกให้คนอื่นในตระกูลหลินแห่งธารประจิมทั้งหมดล้วนเป็นเพราะที่นี่ถูกกักขังปิดผนึกตั้งนานแล้ว!ตูม!ยามรู้ถึงจุดนี้ หลินเทียนหลงราวถูกอสนีบาต ส่วนลึกในก้นบึ้งจิตใจเดิมเขายังฝากฝังโชคลาภลอย หวังว่าผู้อาวุโสตระกูลตนจะทราบข่าวแล้วรีบเร่งมาสังหารเจ้าคนป่าเถื่อนอย่างหลินสวินให้สิ้นซากแต่พริบตาที่เห็นเสามังกรจตุลักษณ์นั้น หัวใจเขาตายด้านอย่างสมบูรณ์เรื่องน่าเศร้าใดๆ ไม่มีเรื่องไหนหนักกว่าจิตใจตาย!เวลานี้สภาพจิตใจของหลินเทียนหลงสามารถใช้คำว่าจิตใจพังทลายมาพรรณนาได้…“ตอนนี้ ก็เหลือแค่พวกเจ้าสามคนแล้ว”ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ริมหูยินเสียงราบเรียบหนึ่ง แต่กลับประหนึ่งฟ้าร้องกัมปนาทก็มิปาน ทำหลินเทียนหลงซึ่งอยู่ในสภาพหมดความรู้สึกและว่างเปล่าได้สติขึ้นมาเขามองโดยรอบอย่างเลื่อนลอย กลับพบว่าที่แห่งนั้นแอ่งโลหิตหยาดย้อมปฐพี ร่างไร้วิญญาณนอนกองมีเพียงหลินเนี่ยนซาน หลินเฟยเฟิงสองคนที่ทรุดนั่งลงบนพื้น ผมเผ้าสยายยุ่ง อาภรณ์ขาดรุ่งริ่งมอมแมม เศษฝุ่นโคลนและคราบเลือดติดเต็มไปทั้งตัว ดวงตาทั้งสองเหม่อลอยและตรงหน้า หลินสวินยืนอย่างโดดเดี่ยว เสื้อผ้ายังคงไม่แปดเปื้อนโลกีย์ สีหน้านิ่งสงบไร้อารมณ์ดังเดิม ราวเด็กหนุ่มผู้ไร้มลทินและเด่นสง่าคนหนึ่ง เมื่ออยู่ในภาพนองเลือดและทารุณนี้จึงยิ่งดูบาดตานัก“พวกนั้น… ล้วนแต่เป็นญาติเจ้า… เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร…” หลินเทียนหลงเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก น้ำเสียงแหบพร่าและโศกเศร้า“ญาติ?”นัยน์ตาดำของหลินสวินปรากฏความเยียบเย็นวูบหนึ่ง “ข้าไม่เคยเห็นญาติต่ำทรามไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อน ตั้งแต่พวกเจ้าเริ่มเลือกทรยศตระกูลหลินและเป็นศัตรูกับตระกูลหลินนั้น ในสายตาข้าพวกเจ้ามันก็แค่คนทรยศกลุ่มหนึ่ง!”“เหอะๆ ตั้งแต่โบราณกาลมา ฉากจบการต่อสู้ใดๆ ล้วนไม่ใช่ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจรหรอกหรือ ครั้งนี้เจ้าชนะข้า ข้าก็ไม่มีคำใดจะพูด จะฆ่าจะแกงแล้วแต่เจ้าเถอะ!”หลินเทียนหลงสีหน้าเฉยชาไม่แยแส“ชนะเป็นเจ้าแพ้เป็นโจรรึ”หลินสวินเวลานี้กลับพลันถอนหายใจแล้วเอ่ยถาม “เจ้าคิดว่า หลังตระกูลจั่วและฉินรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้ จะแก้แค้นแทนพวกเจ้าหรือไม่”หลินเทียนหลงชะงักงัน แต่จากนั้นก็กล่าวตอบโดยไม่ลังเล “แน่นอน!”“เจ้าแน่ใจ?” หลินสวินจ้องมองอีกฝ่ายแน่วนิ่งหลินเทียนหลงหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย แววตาวูบไหว ถึงกับไม่กล้าสบตาหลินสวินอยู่บ้าง หันศีรษะไปอีกด้านน้อยๆหลินสวินน้ำเสียงนิ่งสงบ “แท้จริงในใจเจ้ารู้คำตอบดี ตระกูลจั่วและฉินไม่มีทางออกหน้าแทนเจ้าแน่นอน!”“เพราะข้ายังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเจ้าล้วนตายเรียบ สำหรับตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงพวกนั้น คนตายไม่มีคุณค่าให้ใช้ประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาไม่มีล่วงเกินข้าเพื่อพวกเจ้า!”คำพูดรอบนี้ของหลินสวินดุจใบมีดคมกริบ แทงทะลุจิตใจหลินเทียนหลงอย่างหนักหน่วง ทำเอาสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง สีหน้าซีดเผือดหาใดเปรียบเขาสามารถกลายเป็นหัวหน้าตระกูลหลินแห่งธารประจิม แน่นอนว่าไม่ใช่บุคคลธรรมดา เดิมทีไม่จำเป็นต้องคิดเขาก็รู้ดีว่าที่หลินสวินพูดไม่ผิดแม้แต่น้อยแต่เมื่อเผชิญความเป็นจริงอันโหดร้ายเช่นนี้ ใครเล่าจะสามารถตั้งสติรับมันได้“พวกเราล้วนแพ้แล้ว เจ้ายังจะหยามหน้าพวกเราเช่นนี้อีกรึ” หลินเนี่ยนซานซึ่งทรุดลงกับพื้นอยู่อีกฝั่งเอ่ยปาก น้ำเสียงทุ้มต่ำราวสูญเสียแรงกำลังทั้งมวล“มอบความสบายใจแก่พวกเราเถอะ”ดวงตาทั้งสองของหลินผิงตู้เหม่อลอย ส่งเสียงพึมพำ“พวกเจ้าผิดแล้ว ไว้ชีวิตพวกเจ้าน่ะไม่ใช่เพื่อหยามหน้าและทรมานพวกเจ้า”หลินสวินกล่าวเรียบๆ “ข้าแค่อยากให้โอกาสสุดท้ายแก่พวกเจ้าสามตระกูล”โอกาส?พวกหลินเทียนหลงชะงักโดยพร้อมเพรียงหลินสวินกล่าว “บางทีพวกเจ้าอาจสมควรตาย แต่พวกเจ้าอยากให้คนในตระกูลของตนถูกฝังไปพร้อมกับพวกเจ้างั้นรึ”ประโยคเดียวทำพวกหลินเทียนหลงหวาดหวั่นขึ้นมา ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมากจากไหน กล่าวเสียงกร้าวโดยพร้อมเพรียง “เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่”มีชีวิตอยู่บนโลก พวกเขามิใช่หัวเดียวกระเทียมลีบ ยังมีบุตรภรรยา ยังมีญาติมิตร ยังมีคนในตระกูลร่วมสายเลือดคอยพึ่งพา!เมื่อนึกถึงว่าหากหลินสวินเหี้ยมโหด สังหารคนของพวกเขาสามตระกูลสิ้น ผลลัพธ์นั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ปรารถนาจะเห็นเป็นแน่“พวกเจ้าถามข้าว่าคิดจะทำอย่างไร?”ความนิ่งสงบภายในนัยน์ตาหลินสวินท้ายที่สุดก็ไม่อาจเก็บรักษา ท่วมท้นไปด้วยความโกรธแค้นที่ไม่อาจอำพราง “หากในสามปีนี้ พวกเจ้าสามารถคิดแทนคนในตระกูลเช่นนี้ ไหนเลยจะมีเหตุการณ์วันนี้เกิดขึ้น!?”น้ำเสียงเยียบเย็นดุจดั่งฟ้าร้องกัมปนาท หลินสวินในเวลานี้ไม่อาจควบคุมไฟโทสะแล้ว เขาใช้สองมือของตนขุดรากถอนโคนคนทรยศในตระกูลด้วยตนเอง รสชาติเช่นนั้นมีหรือจะสบายใจคนภายนอกอาจเห็นเขาหลินสวิน ‘สังหารเครือญาติ’ แต่ใครเล่าจะรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดในใจเขาเมื่อเผชิญหน้ากับการย้อนถามของหลินสวิน พวกหลินเทียนหลงสั่นไปทั่วร่าง สีหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม ก้มหน้าหดหู่หมดคำพูดครู่ใหญ่หลินสวินสูดหายใจลึก กล่าวเสียงเรียบ “พวกเจ้าวางใจ ในสายตาข้าหลินสวิน คนในตระกูลที่ไร้ความผิดเหล่านั้นยังคงเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลินของข้า ขอแค่พวกเจ้าสำนึกผิดกลับตัว บนภูเขาชำระจิตจะต้องมีที่สำหรับพวกเขา”พวกหลินเทียนหลงต่างตะลึงงันอยู่ตรงนั้น คล้ายไม่กล้าเชื่ออยู่บ้าง ผลลัพธ์นี้เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิด ไม่ใช่ว่าเลวร้ายเกินไป แต่เป็นดีเกินไป!“บางทีพวกเจ้าอาจไม่เชื่อ ตั้งแต่ที่รับช่วงดูแลภูเขาชำระจิตนั้น ข้าหาได้สนใจสิ่งที่เรียกว่าอำนาจของตระกูลไม่ กระทั่งใคร่ครวญเอาไว้เสร็จสรรพ ว่ารอจัดการศึกนอกศึกในตระกูลหลินให้เรียบร้อยแล้วก็จะลงจากตำแหน่งผู้นำตระกูล”หลินสวินยืนอยู่ตรงนั้น กล่าวเสียงเบาต่อ “ข้ายังต้องชำระแค้นแทนบิดามารดา ตามหาอาจารย์ของข้า แสวงหามหามรรคแห่งตน ไม่มีกำลังและความคิดมาควบคุมดูแลตระกูลหนึ่งโดยสิ้นเชิง น่าเสียดาย… ถึงพวกเจ้ารู้สิ่งเหล่านี้แต่ต้นเกรงว่าคงไม่เชื่อแต่แรก”พวกหลินเทียนหลงสีหน้าปรวนแปรประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย เงียบงันปิดวาจาครืน!หลินสวินสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง เก็บเสามังกรจตุลักษณ์ ผนึกพันธนาการจตุรทิศหายไปทันที“เทียนหลง! พวกเจ้า… นี่มัน… ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้…”ทันใดนั้นเงาร่างชายชราผู้หนึ่งปรากฏตัว เขาคือหลินซีซี ตามลำดับอาวุโสคือปู่รองของหลินสวิน เป็นผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งเขาถูกทำให้ตื่นตระหนกนานแล้ว ร้อนรนกระสับกระส่าย แต่กลับถูกกันไว้นอกเสามังกรจตุลักษณ์ ไม่อาจทำลายผนึกต้องห้ามชนิดนี้และเวลานี้ในที่สุดก็ได้เห็นทุกอย่างเบื้องหน้าชัดเจน หลินซีซีอึ้งงันอย่างที่สุด ราวกับถูกอสนีบาต ลูกตาคั่งโลหิตไปชั่วขณะซากศพและแอ่งโลหิตเกลื่อนกลาดระเนระนาดทั่ว ดุจนรกในโลกมนุษย์อย่างแท้จริง!“ทั้งหมดนี้ เจ้าเด็กนี่เป็นคนทำงั้นรึ” หลินซีซีโกรธจนผมเผ้าหนวดเคราพลิ้วไหว แววตาเย็นยะเยือกจ้องมองร่างหลินสวินเขม็งข้างหลังเขายังมีคนตระกูลหลินแห่งธารประจิมกลุ่มหนึ่ง มีทั้งชายทั้งหญิงแน่นขนัด เวลานี้ต่างถูกภาพนองเลือดนี้ทำเอานิ่งอึ้ง มือเท้าเย็นเยียบน่ากลัวเกินไปแล้ว!พาให้พวกเขาไม่อาจยอมรับ“ไม่ผิด”เห็นได้ว่าหลินสวินเยือกเย็นและนิ่งสงบยิ่ง สบตาหลินซีซีกล่าว “ข้าคือผู้นำตระกูลหลิน แค่ขุดรากถอนโคนคนทรยศส่วนหนึ่งเท่านั้น หรือว่าข้าทำผิด?”“เจ้า…”หลินซีซีโกรธจนตัวสั่นไปทั้งร่าง กัดฟันกรอด “เจ้าถึงกับกล้าฆ่าฟันผู้อาวุโสตระกูลเดียวกันอย่างเนรคุณ สมควรตายยิ่งนัก!”ตูม!พลังน่าหวาดกลัวแผ่กระจายจากร่างหลินซีซี สะท้านหมู่เมฆ นี่คือพลานุภาพของมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ ทันทีที่บันดาลโทสะ ก็สามารถเผาภูผาต้มสมุทร ก่อให้เกิดภัยพิบัติไม่อาจคาดเดาหลินสวินสีหน้าเงียบสงบเยือกเย็นไม่หวั่นเกรง เพียงแต่หลินเทียนหลงกลับหน้าเปลี่ยนสี พุ่งเข้ามาขวางหน้าหลินซีซีทันที“ท่านพ่อ อย่า!”หลินเทียนหลงตะโกนลั่น “ครั้งนี้เป็นพวกข้าที่ผิด คนที่ตายวันนี้มากพอแล้ว! ท่านอย่าได้ลงมืออีกเลย!”“เจ้า…” หลินซีซีตระหนกตกใจอยู่ตรงนั้น เขาคาดไม่ถึงอย่างสิ้นเชิงว่าผู้ที่หยุดยั้งตนคือบุตรชายของตัวเอง!แม้แต่หลินสวินยังคาดไม่ถึงอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่นานเขาก็เยือกเย็นลง ด้วยรู้ว่าหลินเทียนหลงแค่คิดจะกู้คืนความผิดพลาดเท่าที่จะเป็นไปได้“ทำไมกัน” หลินซีซีสีหน้าอึมครึม“สิบกว่าปีก่อน พวกเราก็ทำผิดไปแล้ว เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ทำให้ข้าเข้าใจกระจ่าง พวกเรา… ไม่อาจทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกเด็ดขาด!”หลินเทียนหลงหอบหายใจกระชั้นถี่พักหนึ่ง น้ำเสียงเด็ดเดี่ยวกึกก้อง “อีกทั้งหลินสวินได้รับปากละเว้นคนในตระกูลผู้บริสุทธิ์ ถึงขั้นให้โอกาสพวกเขาหวนคืนภูเขาชำระจิต”“ท่านพ่อ นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว ข้าไม่หวังให้ฆ่าฟันกันเองอีกต่อไปแล้ว รสชาติเช่นนี้มันเจ็บปวดเกินไป…”“ข้าไม่อยากให้คนอื่นๆ ในตระกูลถูกดึงติดร่างแหอย่างไร้ความผิดไปกับข้า หากเป็นเช่นนั้นข้าคงเป็นคนบาปที่ถูกสาปแช่งชั่วลูกชั่วหลาน แม้ตายไปก็ละอายต่อบรรพชนทุกรุ่นของตระกูลหลินเรา…”พูดถึงตอนท้ายสุด หลินเทียนหลงมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะผู้ผ่าเผย หัวหน้าตระกูลหลินแห่งธารประจิมถึงกับน้ำตาคลอสองนัยน์ตา ความรู้สึกแทบจะพังทลาย!หลินซีซีไหวหวั่น คนตระกูลหลินแห่งธารประจิมทั้งหมดในที่นั้นก็หวั่นไหว ทุกคนต่างตะลึงงันอยู่ตรงนั้น ในใจมีรสชาติเหลือจะเอ่ยประการหนึ่งหลินสวินที่อยู่ห่างออกไปลอบพยักหน้า สีหน้าอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย หลินเทียนหลงเวลานี้ได้รับการยอมรับจากเขาแล้วเสี้ยวหนึ่ง………………..
คอมเม้นต์