Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 619 ออกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์
“ขอเรียนถามผู้อาวุโส นี่เป็นวิชาใดหรือ”ระหว่างที่วานรเฒ่าใจเต้นระส่ำระสายอยู่นั้น หลินสวินก็ลุกขึ้นยืนแล้วเอ่ยถาม“วิชานี้มีนามว่า ‘เคล็ดวิชาแสงอริยะนพนภา’ เป็นมรดกตกทอดสูงสุดของเผ่าข้า”สายตาที่วานรเฒ่ามองมายังหลินสวินมีแววตาอ่านยากบอกไม่ถูกเพิ่มขึ้นมา “ในเมื่อถูกเจ้าจำได้หมดแล้ว ไม่แน่ว่าอาจเป็นวาสนานำพา แต่ยังหวังว่าเจ้าจะไม่แพร่งพรายสู่ภายนอก หาไม่แล้วจะชักนำเวรกรรมใหญ่โตคับฟ้า”หลินสวินหวาดหวั่นในใจ ตอบรับอย่างเคร่งขรึม“เคล็ดวิชาแสงอริยะนพนภาหรือ เหตุใดข้าถึงรู้สึกคุ้นหูอยู่บ้าง”เจ้าคางคกนิ่วหน้า น่าเสียดายที่เขาสูญเสียความทรงจำอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะครุ่นคิดอย่างแข็งขันอย่างไรก็นึกถึงร่องรอยที่มีประโยชน์ไม่ออกสักนิดแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ก็ทำให้หลินสวินตื่นตระหนกไม่ว่างเว้น วิชาลับอริยมรรคที่สามารถทำให้เจ้าคางคกคุ้นหูได้ ต้องไม่มีทางเรียบง่ายแน่“ข้าต้องเตือนเจ้าว่ายามมหาสงครามมาถึง คุณชายน้อยเผ่าข้าก็จะอุบัติขึ้นจากความเงียบงัน เจ้าเคยสร้างความแค้นกับเขา เวรกรรมครั้งนี้ต้องสะสางโดยพวกเจ้า”ทันใดนั้นวานรเฒ่าก็เอ่ยปาก พูดถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณชายน้อยที่จำศีลอยู่ใต้เกาะอริยะปัญจธาตุนั้น‘ยามมหาสงครามมาถึงหรือ’หลินสวินครุ่นคิด มีท่าทีสงสัยวานรเฒ่าอยู่บ้าง ว่ากันตามหลักแล้ว เขาควรมองตนเป็นศัตรูถึงจะถูกแต่ผิดคาด ท่าทีของเขากลับผิดปกตินัก ดูประหลาดชอบกลหรือว่าจะเกี่ยวกับเจดีย์สมบัติไร้อักษรนั้นหรือบางทีอาจจะเกี่ยวกับศุภโชคที่ตนได้รับมาจากโบราณสถานดวงกมลหลินสวินไม่แน่ใจอยู่บ้าง“ไปเถอะ แดนลับนี้จะปิดตัวลงแล้ว”วานรเฒ่าเงยหน้ามองฟ้าแล้วตัดบทเมื่อพูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อ สำแดงวิชาเคลื่อนย้าย นำพวกหลินสวินหายตัวไปจากที่นั่นในพริบตา……นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กหนุ่มเทพมารนั่นชิงศุภโชคที่ใหญ่ที่สุดในภูเขาเทพหมอกม่วง ได้รับมรดกของตำราทองสาส์นหยกนั้นไป!”“เพียงแต่แดนลับอสูรมารอริยะกำลังจะปิดตัวลง เมื่อเขาปรากฏตัวต้องพ้นเคราะห์ได้ยากแน่!”“เหอะๆ ชิงวาสนาได้มากกว่านี้แล้วอย่างไรเล่า ท้ายที่สุดแล้วก็กลายเป็นการไปลำบากแทนผู้อื่น ทั้งยังต้องจ่ายค่าตอบแทนถึงชีวิตเพื่อสิ่งนี้”โลกภายนอกเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงสนทนา ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าล้วนรอคอยอยู่เวลานี้คนใหญ่คนโตเหล่านั้นสงบนิ่งนัก สีหน้าเรียบเฉย แต่ดวงตาของพวกเขาจดจ้องที่ทางออกตรงท้องฟ้าเหนือแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์พวกเขาก็กำลังรอคอย รอคอยเวลาที่เด็กหนุ่มเทพมารปรากฏตัว!เดิมทีคนใหญ่คนโตเหล่านั้นยังหวั่นกลัวพลานุภาพของแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณอยู่บ้าง แต่ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณละทิ้งเด็กหนุ่มคนนั้นไปแล้ว มองว่าเด็กหนุ่มผู้นั้นเป็นคนที่ถูกตัดหางปล่อยวัดในสถานการณ์เช่นนี้ เขาเลิกคิดจะรอดชีวิตจากไปเลย!เมื่อเวลาดำเนินไป ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าบางคนต่างเดินออกมาจากทางเข้าแดนลับอสูรมารอริยะ ก่อให้เกิดเสียงครึกโครมไปทั่วทุกคนต่างรับรู้ได้ว่าการเคลื่อนไหวช่วงชิงวาสนาครั้งนี้ถึงเวลาปิดฉากแล้วพวกเซียวหรันก็กลับออกมาอย่างปลอดภัย แจ้งบางเรื่องให้ผู้เฒ่าเกาหยางทราบ ฝ่ายหลังสีหน้ายิ่งแปรเปลี่ยนเป็นบูดเขียวเป็นหลินเสวียนผู้นั้นดังคาด!“ท่านผู้เฒ่า เด็กนั่นเก็บซ่อนวาสนามากมายไว้กับตัว ครั้งนี้ต้องจับมันมาฆ่าให้ตาย ไม่อาจปล่อยให้เผ่าอื่นได้ไปง่ายๆ!”ซูซิงเฟิงโมโหฟันกรอด“ใช่แล้ว ศิษย์พี่กงหยางอวี่ก็ถูกมันฆ่าตาย วันนี้หากไม่กำจัดมันให้สิ้นซาก ภายหลังไม่ช้าก็เร็วต้องเป็นหนามยอกอกแน่”เหวินเสียงกับอวิ๋นเช่อก็พากันเอ่ยปาก“วางใจเถอะ วันนี้มันหนีไปไหนไม่พ้นแล้ว!”ผู้เฒ่าเกาหยางสีหน้าโกรธเกรี้ยวเหี้ยมเกรียม ดวงตาเต็มไปด้วยจิตสังหาร“ทุกท่าน รอเด็กนี่ปรากฏกาย ข้าขอร้องเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือให้ข้าลงมือจับมันไว้เป็นคนแรก ส่วนศุภโชคที่อยู่กับตัวมัน พวกเจ้าเอาไปได้หมดเลย!”เวลานี้ท่านย่าเทพสังหารเผ่าวาฬมังกรเอ่ยปากบุตรเทพเผ่าวาฬมังกรของพวกเขา รวมถึงผู้แข็งแกร่งที่ตามเข้าไปยังแดนลับอสูรมารอริยะด้วยกัน แทบจะถูกเด็กหนุ่มคนนี้ฆ่าตาย นี่ทำให้นางชิงชังจนแทบคลั่ง“ยายเฒ่า! เจ้ากำลังพูดถึงใคร น้ำเสียงวางโตนักนะ!”ตรงทางเข้าแดนลับอสูรมารอริยะพลันมีเสียงตะคอกดูถูกเสียงหนึ่งดังขึ้นหืม?ดวงตาทั้งสองของท่านย่าเทพสังหารแผ่รังสีทองออกมา ชั่วพริบตาก็เห็นเงาร่างของพวกหลินสวิน จ้าวจิ่งเซวียนเดินออกมาจากแดนลับอสูรมารอริยะผู้ที่พูดจากำเริบเสิบสานและโอหังเช่นนี้ได้ย่อมเป็นเจ้าคางคก“มันนี่ล่ะ! เด็กหนุ่มเทพมารคนนั้น!”“สวรรค์ มันกล้าออกมาจริงๆ เกินความคาดหมายยิ่งนัก”นอกแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ร้อนระอุขึ้นมาในทันใด สายตาของผู้แข็งแกร่งทุกคนถูกดึงดูด รู้สึกประหลาดใจและอึกทึกครึกโครมเพราะสิ่งนี้“ไอ้สวะ มาถึงตอนนี้พวกเจ้ายังกล้าจองหองอีกหรือ”ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาฬมังกรคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว โมโหจนไอสังหารพลุ่งพล่านไปทั้งร่าง เด็กหนุ่มเทพมารนั่นทำให้พวกเขาเสียหน้าจนหมดสิ้น แทบอยากจะพุ่งไปฟาดฟันปลิดชีพเขาเสียนอกจากนี้ผู้แข็งแกร่งจากเผ่าต่างๆ อย่างเผ่าสิงห์โลหิต เผ่าคชามาร เผ่ากาฬพฤกษ์ เผ่ากวางหยก เผ่าวานรนทีก็ล้วนสีหน้าอึมครึมเคร่งขรึม จ้องมองหลินสวิน คิดจะสังหารเขาในทันทีขนาดขุมอำนาจที่อหังการ์อย่างเผ่าวัวมารทรงพลัง เผ่าหงส์หิรัณย์ เผ่าโห่วเมฆาเหล่านี้ก็ล้วนมีสายตาไม่เป็นมิตร จิตสังหารพุ่งทะลุเมฆาพูดได้ว่า หลินสวินไปยืนอยู่ตรงนั้นก็เหมือนประภาคารหลังหนึ่ง ดึงความแค้นออกมาได้อย่างผิดธรรมดา กลายเป็นที่จับจ้องของเผ่าใหญ่แต่ละเผ่า ทั้งหมดล้วนเกลียดชังและมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น“ข้าว่าทุกคน พวกเจ้ามาต้อนรับพวกข้าหรือ ฮ่าๆๆ วางก้ามเก่งเหลือเกินนะ เพียงแต่ทำไมพวกเจ้าถึงโมโหโทโสขนาดนั้น ทำเหมือนพวกข้าเคยฆ่ายกครัวพวกเจ้ามาก่อนก็ไม่ปาน”เจ้าคางคกหัวเราะร่า ท่าทางเหมือนชี้แนะเรื่องใหญ่โต พูดไปเริงร่าไปผู้แข็งแกร่งทั้งมวลพลันสีหน้าถมึงทึง ชิงชังจนกัดฟันกรอด“ไอ้สารเลว ความตายมาเยือนแล้วยังกล้าเล่นลิ้น!”ท่านย่าเทพสังหารน้ำเสียงดุดัน“หึ!”คนใหญ่คนโตแต่ละเผ่าล้วนสีหน้าเหี้ยมเกรียม“เจ้าเดรัจฉานเฒ่า เจ้าบ่นบ้าอะไรน่ะ ถ้ากล้าก็เข้ามาสิ ข้าจะตบเจ้าให้ตายก่อนเลย!”เจ้าคางคกชำเลืองมอง ชี้ไปยังท่านย่าเทพสังหารพลางตะคอกท่านย่าเทพสังหารโกรธจนแข็งทื่อไปทั้งตัว เจ้าเดรัจฉานเฒ่าหรือ เด็กหนุ่มชุดเขียวคนนี้ถึงกับกล้าด่านางว่าเป็นเดรัจฉานเฒ่าหรือ ช่างน่าสับเป็นพันชิ้นนัก!“ข้าจะไปฆ่ามัน!”“ให้ตายสิ! รนหาที่ตาย!”ขณะนี้ก็มีผู้แข็งแกร่งหลายคนทนไม่ไหวแล้ว มีทั้งเผ่าวาฬมังกรและกำลังจากเผ่าอื่นๆ คู่แค้นมีมากมายนักขนาดซูซิงเฟิงยังตวาดอย่างเย็นชาว่า “หลินเสวียน ความตายมาเยือนพวกเจ้าแล้ว ถ้าไม่รู้จักคุกเข่าสำนึกผิด ยังคงกำเริบเสิบสานอีก วันนี้ต้องตายแน่!”“ทุกท่าน ไม่ว่าอย่างไรเด็กนี่ก็เกี่ยวข้องกับแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณของพวกข้า ไม่สู้ให้พวกข้าลงมือจับมันฆ่าซะเป็นอย่างไร”ผู้เฒ่าเกาหยางก็เอ่ยปากแล้ว ไอสังหารพลุ่งพล่าน สายตาราวสายฟ้าจับจ้องเพ่งเป้าไปยังหลินสวินหลินสวินสังเกตการณ์ด้วยสายตาเย็นเยียบมาตลอด กระทั่งเห็นผู้เฒ่าเกาหยางเอ่ยปากเขาก็พลันหัวเราะ ด้วยรับรู้ว่าตนเดาถูกจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าเหล่านั้น หรือแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ เห็นได้ชัดว่าล้วนไม่คิดจะปล่อยตนไป“ผู้อาวุโส ต้องรบกวนท่านแล้ว” สายตาหลินสวินมองไปยังวานรเฒ่าที่อยู่อีกด้าน“เรื่องเล็กน้อย”วานรเฒ่าพูดอย่างสบายๆ เขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ท่าทางงกเงิ่น หน้าตากร้านโลก ไม่สะดุดตาอย่างยิ่ง แต่ตั้งแต่เริ่มจนจบกลับไม่หวั่นไหวสะทกสะท้าน เหมือนไม่เห็นใครอยู่ในสายตาสักนิด“มอบให้พวกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณจัดการหรือ ข้าไม่ยอมก่อนล่ะ!”ท่านย่าเทพสังหารหัวเราะเหี้ยมเกรียม นางอดทนมานานแล้ว เวลานี้ไม่อาจเก็บกลั้นจิตสังหารได้อีก พลันหยัดกายขึ้น ยื่นมือไปในห้วงอากาศหมายจะจับหลินสวินตูม!มือใหญ่ข้างหนึ่งบดบังท้องฟ้า มีรัศมีเทพน่าหวาดหวั่นหมุนวน น่ากลัวคับฟ้าทุกคนพากันหวาดผวา ไม่คิดเลยว่าท่านย่าเทพสังหารที่เป็นถึงราชันระดับสังสารวัฏ เวลานี้กลับลงมือกับผู้น้อยคนหนึ่งโดยไม่สนฐานะ!จากจุดนี้ก็เห็นได้ว่านางโกรธแค้นถึงขั้นไหน“ไอ้เด็กนี่มันชั่วร้ายเหิมเกริม ฆ่ามัน ต้องมีส่วนของพวกข้าเผ่าสิงห์โลหิตด้วย!”อีกด้านหนึ่ง ผู้อาวุโสเผ่าสิงห์โลหิตตะโกนก้อง ถึงกับลงมือในเวลาเดียวกัน“หึ!”ผู้เฒ่าเกาหยางสีหน้าถมึงทึง ย่อมไม่มีทางทนให้ผู้อื่นแย่งลงมือก่อน เรียกเตาเทพหมื่นปักษาออกมา ปกคลุมไปทางหลินสวินโดยไม่ลังเลนอกจากนี้ยังมีคนใหญ่คนโตผู้อื่นลงมืออีกแทบจะในเวลาเดียวกัน!ภาพนี้เรียกได้ว่าตะลึงโลกาอย่างไม่ต้องสงสัยราชันสังสารวัฏกลุ่มหนึ่งกลับร่วมกันเคลื่อนไหว รีบร้อนจะแย่งกันฆ่าหลินสวินให้ได้เป็นคนแรก นี่ทำให้ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าในที่นั้นล้วนตื่นตระหนกจนแทบจะหายใจไม่ออกแต่ขอเพียงคิดโดยถี่ถ้วน นี่ก็เป็นเรื่องธรรมดา หลินสวินมีมหาศุภโชคอยู่กับตัว ตัดเรื่องความแค้นออกไป แค่เพื่อช่วงชิงมหาศุภโชคชั้นนี้ ใครก็ไม่ยอมล้าหลังผู้อื่นแล้วโครม!ฟ้าดินระเบิดออก เมื่อราชันระดับสังสารวัฏลงมือ พลานุภาพอัศจรรย์ชั้นนั้นเพียงพอที่จะพลิกภูผาคว่ำสมุทร ทำลายสิ้นใต้หล้าส่วนหนึ่งแล้วและตอนนี้ เป็นถึงราชันระดับสังสารวัฏกลุ่มหนึ่งออกโจมตี ก็เห็นว่าห้วงอากาศยุ่งเหยิง แสงเทพพุ่งทะลุเมฆา พลังมหามรรคน่าหวาดหวั่นเกี่ยวกระหวัด สภาพการณ์น่าตื่นตะลึงถึงที่สุด ช่างเหมือนจะทำลายล้างโลกา“ฆ่า! ต้องฆ่าเจ้าเด็กนั่น!”เวลานี้เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ถูกหลินสวินเอาชนะอย่างพวกซูซิงเฟิงจากแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ หนิวทุนเทียนจากเผ่าวัวมารทรงพลัง เมิ่งเหลียนชิงจากเผ่าหงส์หิรัณย์ ข่งซิ่วจากเผ่าโห่วเมฆาล้วนกัดฟันกรอด สีหน้าฮึกเหิม จับจ้องอย่างใกล้ชิดไม่มีใครเชื่อว่าหลินสวินจะเอาชีวิตรอดไปได้ในยามนี้ ที่ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าสนใจก็คือ ใครจะสังหารหลินสวินได้เป็นคนแรก แล้วชิงวาสนาที่อยู่กับตัวเขาไป!น่าเสียดายที่พวกเขาล้วนเมินวานรเฒ่าที่อยู่ข้างกายหลินสวินตูม!ในเวลาเดียวกับที่กลุ่มราชันระดับสังสารวัฏลงมือ วานรเฒ่าที่ไม่เปิดเผยความสามารถ ดูเหมือนเป็นผู้เฒ่างกเงิ่นมาตลอดพลันยืดหลังขึ้น เงยหน้ามองรอบด้าน ดวงตาที่ผ่านโลกมามากแผ่พุ่งแสงธรรมเปล่งประกายราวสายฟ้าสองสายออกมา ฉีกทึ้งห้วงอากาศ!เปรี๊ยะ!มือใหญ่ที่โจมตีกลางอากาศของท่านย่าเทพสังหารพลันแหลกสลายราวเศษกระดาษตึง!กระบี่วิญญาณที่ผู้อาวุโสเผ่าสิงห์โลหิตเรียกออกมาส่งเสียงโหยหวนอับแสงลงราวกับงูตาย แทบตกลงไปในทะเลขณะเดียวกัน การโจมตีน่าหวาดหวั่นที่มาจากสี่ทิศแปดด้านนั้น เวลานี้กลับถูกโจมตีให้สลายกลายเป็นละอองแสงบ้าคลั่งปลิวกระจาย ราวกับอ่อนแอเหลือประมาณและสิ่งที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ เป็นเพียงแสงธรรมสองสายที่ยิงพุ่งออกมาจากดวงตาวานรเฒ่าตัวนั้นเท่านั้นหรือพูดได้ว่า อาศัยเพียงพลังจากสายตาคู่หนึ่ง วานรเฒ่าก็สามารถสลายการโจมตีของเหล่าราชันระดับสังสารวัฏได้!นี่ดูเหนือความคาดหมายยิ่งนัก แต่กลับเกิดขึ้นจริงตรงหน้าคนใหญ่คนโตแต่ละเผ่าตื่นตระหนกหวาดผวา สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาบังเกิดแสงเทพไหววูบ สายตาล้วนมองไปยังวานรเฒ่าข้างกายเด็กนั่นถึงกับมีผู้น่ากลัวชั้นนี้ติดตามด้วยหรือในที่นั้นพากันอึ้งพูดไม่ออก ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าล้วนหวาดผวาสั่นสะท้านแล้ว ลูกตาแทบจะหลุดออกมา ไม่อาจทำใจเชื่อทุกอย่างนี้นั่นเป็นถึงการโจมตีของเหล่าราชันระดับสังสารวัฏเชียวนะ จะถูกสลายส่งเดชเช่นนี้ได้หรือน่ากลัวเกินไปแล้ว!เวลานี้ความฮึกเหิมในใจพวกซูซิงเฟิง หนิวทุนเทียน เมิ่งเหลียนชิงก็มลายหายไปสิ้นราวถูกราดด้วยน้ำเย็น ในสมองงุนงง เหตุใด…เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้——
คอมเม้นต์