Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 570 เมฆาเคลื่อนทั่วทศทิศ
เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนหนึ่ง ทว่ายามทะลวงเข้าระดับหยั่งสัจจะกลับนำมาซึ่งด่านเคราะห์อสนีไร้เทียมทาน นับแต่โบราณมายากจะได้เห็น แปลกประหลาดชวนประหวั่นนี่เดิมทีก็ทำให้ผู้คนรู้สึกเกินคาดหมายและตกตะลึง แต่เมื่อเห็นว่าท้ายที่สุดหลินสวินมีชีวิตรอดจากด่านเคราะห์อสนี ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกคาดไม่ถึงกว่าเดิมเจ้าหมอนี่เป็นใครกันแน่ในเผ่ามนุษย์ ตั้งแต่เมื่อไหรกันที่ปรากฏสัตว์ประหลาดพลิกฟ้าตนหนึ่งเช่นนี้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ตรงนั้นสั่นสะท้านพูดไม่ออกสวบ!แต่ทว่าท่ามกลางความเงียบสงัด ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งพลันพุ่งออกมาประดุจสายฟ้าแลบ มุ่งกระโจนสังหารไปยังหลินสวินที่อยู่ห่างไกลทันทีเหตุการณ์นี้กะทันหันเกินไป ทำให้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดต่างชะงักงันจากนั้นพวกเขาก็รู้ตัวทันที เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นั่นแม้รอดชีวิตจากด่านเคราะห์อสนีแต่กลับบาดเจ็บหนักใกล้ตายอยู่รอมร่อ เวลานี้คือโอกาสดีที่สุดที่จะกำจัดเขาซะ!เมื่อนึกถึงว่าบนตัวเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นั่นยังซ่อนมหาศุภโชคจากเกาะอริยะปัญจธาตุ ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่กระจายอยู่บริเวณนี้เหล่านั้นยิ่งอดรนทนไม่ไหวกว่าเดิม“เจ้าคนเผ่าเหยี่ยววายุนั่นเหลี่ยมจัดนัก ถึงขั้นลงมือเป็นคนแรก!”“หึ เขาลงมือแล้วอย่างไร แถบนี้มีคู่แข่งกระจายอยู่ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ มีหรือจะให้เขาเผ่าเหยี่ยววายุช่วงชิงศุภโชคไป”“ฆ่า! ฉวยจังหวะที่เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นั่นบาดเจ็บสาหัสต้องกำจัดมันให้ได้ มิฉะนั้นรอมันฟื้นคืนขึ้นมา จะต้องเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งคนหนึ่งแน่นอน!”เสียงตะโกนก้องดังขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอก ทำลายบรรยากาศชวนตระหนกบนฟ้าดินนี้ ผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มโผนทะยานเต็มอัตรา พุ่งตรงไปยังตำแหน่งที่หลินสวินอยู่พวกเขาล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าของทะเลกลืนวิญญาณ อยู่ภายใต้ขุมอำนาจชนพื้นเมืองบรรพกาล คนที่สามารถเข้ามายังแดนลับอสูรมารอริยะได้ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือ ไม่มีผู้อ่อนแอแม้เพียงคนเดียวแต่ตอนนี้พวกเขาเคลื่อนพลพร้อมกัน หนึ่งเพื่อแย่งชิงศุภโชคบนตัวหลินสวิน สองคือหมายฉวยโอกาสนี้กำจัดหลินสวินในคราเดียวถึงอย่างไรการก้าวข้ามด่านเคราะห์ของหลินสวินเมื่อครู่ก็พลิกฟ้าและสะเทือนใต้หล้าเกินไป ทำให้พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคามอย่างลึกซึ้งชั่วขณะเดียวในผืนป่านี้ก็เต็มไปด้วยแสงเคลื่อนไหวทุกทิศทาง พร่างพรายละลานตาแน่นขนัด พุ่งออกมาจากทั่วทุกทิศ ราวกับรุ้งศักดิ์สิทธิ์ที่รวมตัวกันหนาแน่น“เผ่ากวางหยก เผ่าคชามาร เผ่าวิญญาณสมุทร เผ่ากาฬพฤกษ์… บัดซบ! ทำไมคู่แข่งถึงมากมายเช่นนี้”แต่จากที่ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าปรากฏตัว ทำให้ที่แห่งนั้นเปิดฉากอึกทึกทันที ต่างคาดไม่ถึงว่าครานี้ เพียงเพราะเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนเดียวจะดึงดูดคู่แข่งมามากมายขนาดนี้นี่ทำให้ผู้ฝึกปราณจำนวนมากตะลึงงัน รู้ดีว่าเพื่อแก่งแย่งศุภโชคที่บนตัวเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นั่น ที่แห่งนี้จะต้องเกิดฉากคาวเลือดฝนโลหิตเป็นแน่!…หลินสวินหลั่งเลือดไปทั้งตัว ร่างกายดำไหม้นอนบนพื้นดิน รู้สึกผ่อนคลายหลังรอดพ้นพิบัติเคราะห์ พร้อมๆ กับเคียดแค้นชิงชังที่ถูกลอบโจมตีด้วยเขาคิดไม่ถึงสักนิดว่าในช่วงสุดท้ายที่ด่านเคราะห์อสนีใกล้สิ้นสุด จะถึงกับทำให้ตนต้องประสบการโจมตีถึงแก่ชีวิตราวกับว่าเคราะห์สวรรค์เจตนามุ่งเป้ามาที่เขา หมายจู่โจมสังหารเขาให้ตายในฉับพลัน!“นี่มัน…”ทันใดนั้นหลินสวินสังเกตเห็นว่า ภายในถ้ำสวรรค์ในร่างถึงขั้นทิ้งสายโซ่สีเทาท่อนหนึ่งเอาไว้ รัดพันรอบแท่นมรรค แผ่กระจายกลิ่นอายระเบียบและกฎเกณฑ์อันน่าหวาดกลัว และกัดกร่อนแท่นมรรคไม่หยุด!พลังแห่งเคราะห์สวรรค์!สีหน้าหลินสวินพลันเปลี่ยนไปทันที คาดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง ด่านเคราะห์อสนีแม้จางหายไปแล้ว แต่กลับมีพลังส่วนนึ่งเป็นตัวแทนเคราะห์สวรรค์ตกค้างอยู่ในตัว!นี่ก็เท่ากับว่าภายในร่างได้ฝังรากเหง้าแห่งเภทภัยหนึ่งอย่างแท้จริง หากไม่ระวังเพียงนิดเกิดหายนะที่ไม่อาจคาดคิดควรรู้ว่าแท่นมรรคหยั่งสัจจะคือการก่อร่างจากรากฐานมหามรรค รวบรวมต้นกำเนิดมรรควิถีทั้งร่างหลินสวินไว้ด้วยกัน แต่ตอนนี้กลับถูกโซ่เคราะห์สวรรค์พันธนาการและกัดกร่อนนี่ก็เหมือนกับต้องการทำลายรากฐานมรรควิถีของเขา!“น่าชังนัก!”นัยน์ตาดำของหลินสวินจ้องมองท้องฟ้า แค้นจนกัดฟันกรอด เขายิ่งรู้สึกว่าเคราะห์สวรรค์ครั้งนี้เต็มไปด้วยความลี้ลับมากกว่าเดิม ราวกับว่าจงใจมุ่งเป้ามาที่ตน!แต่ไม่นานหลินสวินก็ไม่อาจคิดมากความ ด้วยเขาสังเกตเห็นอันตราย รีบผุดลุกขึ้นและเห็นว่า ห่างไปไม่ไกลมีเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาสังหารอย่างหาญเหี้ยมเงาร่างนั้นรวดเร็วปานภูตผี เมื่อมองดูอย่างถี่ถ้วนก็ให้ตกตะลึงว่าเป็นเหยี่ยววายุตัวหนึ่ง ปีกเขียวสลัวราง กรงเล็บคมกริบดุจใบมีด กลิ่นอายทรงพลังเหลือประมาณขณะเดียวกันหลินสวินก็เห็นว่ากลางเขาทั่วทุกสารทิศ แสงเคลื่อนไหวพุ่งออกมาถี่ยิบมืดฟ้ามัวดิน กำลังมุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็วนั่นคือผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่า!หรือเพราะการเคลื่อนไหวขณะก้าวข้ามด่านเคราะห์ของตนยิ่งใหญ่เกินไป ถึงได้ดึงดูดให้เกิดเหตุการณ์ตรงหน้านี้หลินสวินหรี่ตาลง“เจ้าหนุ่ม ทิ้งคัมภีร์อริยมรรคไว้ซะ แล้วจะไว้ชีวิตเจ้า!”ผู้แข็งแกร่งเผ่าเหยี่ยววายุคนนั้นพุ่งเข้ามา คำพูดแม้กล่าวเช่นนั้น แต่การกระทำเขากลับไม่เกรงใจสักนิด ปีกกระพือพัดหมอกแสงสีเขียวผืนหนึ่ง พลุ่งพล่านด้วยท่วงทำนองมรรคมุ่งพิฆาตไปยังหลินสวินในสายตาเขา หลินสวินเพิ่งก้าวข้ามด่านเคราะห์เสร็จสิ้น บาดเจ็บหนักเจียนตาย ถือเป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุดอย่างแน่นอน ตอนนี้เป็นจังหวะดีที่สุดในการฆ่าคนชิงทรัพย์อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยเหตุนี้ทันทีที่เขาลงมือจึงไม่มีการยั้งมือไว้ไมตรีสักนิด“ไสหัวไป! อาศัยพวกเจ้าเผ่าเหยี่ยววายุ ยังกล้ามาแย่งชิงศุภโชคงั้นรึ”ทว่าไม่รอให้หลินสวินลงมือ กวางหยกดุร้ายเหี้ยมโหดตัวหนึ่งพุ่งเข้ามา กลิ่นคาววายุเตะจมูก เพียงฝ่ามือเดียวก็ตบผู้แข็งแกร่งเผ่าเหยี่ยววายุนั่นลอยออกไปจากนั้นส่งเสียงคำรามสะเทือนใต้หล้า ผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัว นำพาไอสังหารร้ายกาจล้นฟ้า ทำให้อากาศแถบนี้ปรวนแปร ในป่าเขาลำเนาไพรใบไม้ป่วนคลั่งเวลานี้ผู้แข็งแกร่งมากมายที่รีบเร่งมาต่างตระหนก รีบร้อนหลีกหลบแต่ก็มีกลุ่มเผ่าจำนวนมากท่าทีเหิมเกริมน่ากลัวพุ่งสังหาร ไม่หวาดหวั่นเผ่ากวางหยกแม้แต่น้อยเผ่าคชามารที่ตัวใหญ่โตดุจขุนเขา ใบหน้าเหี้ยมโหด เท้าก้าวเหยียบพื้นดิน กระแทกทลายเนินเขา พลานุภาพร้ายกาจน่าหวาดกลัวและมีเผ่าวิญญาณสมุทรที่รูปงามหล่อเหลา ผิวหนังเรืองแสงวารีน้ำเงินหม่น พวกเขาโดดเด่นเป็นอันมาก ดูเหมือนเผ่ามนุษย์แต่กลับมีนัยน์ตาฟ้าคราม ผมยาวสีทองเรืองอร่ามที่ปรากฏตัวพร้อมกันยังมีขุมอำนาจเผ่าอื่นๆ อย่างเผ่าเพลิงแดง เผ่ากาฬพฤกษ์ เผ่าวานรนทีเป็นต้น ผู้แข็งแกร่งมากมายต่างมากันเป็นกลุ่ม พลานุภาพสง่างามเกรียงไกร“กระบวนรบยิ่งใหญ่นัก…”หลินสวินยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น ผมดำทั้งศีรษะพลิ้วสยาย แม้เขาอาภรณ์ย้อมไปด้วยเลือด เวลานี้กลับมีพลานุภาพหยิ่งผยอง นัยน์ตาดำดุจหุบเหว ลึกล้ำและเย็นเยียบเมฆาเคลื่อนทั่วสารทิศ ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนรวมตัวกันมาถึง โอบล้อมทับซ้อนทั่วอาณาบริเวณ ชั่วขณะสถานการณ์พลันเปลี่ยนตึงเครียดขึ้นมา“เจ้าหนูเผ่ามนุษย์ เอาศุภโชคที่เจ้าได้มาจากเกาะอริยะปัญจธาตุออกมา!”มีผู้แข็งแกร่งตวาดลั่น“มีสิทธิ์อะไร”หลินสวินใบหน้าไร้ความรู้สึกกล่าวย้อนถามผู้แข็งแกร่งทั้งกลุ่มต่างยิ้มเยาะ ในสายตาพวกเขา คำถามของหลินสวินในเวลานี้ช่างอ่อนต่อโลกจนน่าขันซะเหลือเกิน มีสิทธิ์อะไร? แน่นอนว่าสิทธิ์ใช้พละกำลังน่ะสิ!เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนหนึ่งที่บาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย เป็นได้แค่แพะรอเชือดเท่านั้น ไม่อาจเรียกได้ว่าโจมตี ไม่มีแม้แต่ความกดดันข่มขู่ใดๆ“ถอยไปให้หมด!”ทันใดนั้นผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกคนหนึ่งตะเบ็งเสียงลั่น ทั่วร่างแผ่พลานุภาพร้ายกาจชวนประหวั่น สั่นสะเทือนลมเมฆ แววตากระหายเลือดน่าหวาดกลัวเขาจับจ้องหลินสวิน “เจ้าเด็กน้อย นำศุภโชคที่ติดตัวออกมา ข้าจะให้เจ้าตายอย่างสมศักดิ์ศรีหน่อย!”“เผ่ากวางหยก พวกเจ้าเห็นพวกข้าไม่มีตัวตนหรือ คิดเก็บกินคนเดียวหรือไร ถามพวกข้าแล้วหรือยัง” มีผู้แข็งแกร่งเผ่าอื่นสีหน้าไม่เป็นมิตร กล่าวเสียงเย็นชา“เหอะๆ พวกเจ้าอยากลองดูสักตั้งไหมล่ะ”ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าต่างฝ่ายต่างคุมเชิงกัน ไม่มีใครยอมใคร เพื่อแย่งชิงศุภโชค พวกเขาต่างคุกคามข่มขู่กันและกัน เผยไอสังหารไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย“ทุกท่าน มิสู้พวกเราฆ่าเด็กนั่นให้ตายเสียก่อน ค่อยถกปัญหาแย่งชิงศุภโชคเป็นอย่างไร”มีผู้แข็งแกร่งเสนอแนะและได้รับเสียงคล้อยตามอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดว่าไม่ควรให้โอกาสหลินสวินพักหายใจ ต้องขุดรากถอนโคนมันโดยเร็ว เลี่ยงการเกิดเหตุไม่คาดฝัน“หุบปาก! พวกเจ้ามีสิทธิ์อะไรมาแย่งกับพวกข้า ถอยไปให้หมด! ไม่เช่นนั้นอย่าโทษว่าพวกข้าสังหารพวกเจ้าจนเรียบ!”ผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกตวาดลั่น ไอสังหารแผ่ซ่านทั่วร่าง กวาดมองเหล่าผู้กล้าหลินสวินยืนอยู่ตรงนั้นตัวคนเดียว ฟังการโต้แย้งและข่มขู่ของผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าพวกนั้น ในใจรู้สึกไร้สาระจนพูดไม่ออกพวกเขาเห็นตนเป็นตัวอะไรเหยื่อที่สามารถแบ่งสรรปันส่วนตามใจชอบงั้นรึในใจหลินสวินมีไอสังหารพวยพุ่ง เขาได้ยินชัดแจ้งแล้ว เจ้าพวกนี้ไม่ได้มาแค่เพื่อสังหารตน ยังหมายแย่งชิงสมบัติล้ำค่าในร่างตนไปด้วย!“ทุกท่าน พวกเจ้าพูดคุยต่อไปนะ ข้าไปก่อนล่ะ รอเมื่อไหร่ที่พวกเจ้าสามารถเจรจาได้ผลสรุป ค่อยตามหาข้าก็ไม่สาย”หลินสวินเปิดปากอย่างอดไม่ได้พริบตานั้นฟ้าดินนี้พลันเงียบสงบ สายตาผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่า ณ ที่นั้นต่างมองมายังหลินสวิน สีหน้าแปลกประหลาดดูเหมือนคาดไม่ถึงว่า จนถึงตอนนี้แล้ว เหยื่อตัวนี้ยังจะกล้าพูดจายั่วยุ“เจ้าหนู เจ้านี่ช่างกำเริบเสิบสานซะจริง ไสหัวมารับความตายซะ!”ผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกคนหนึ่งตะโกนลั่น“เผ่าอย่างพวกเจ้าดีแต่คุยโตโอ้อวดรึไง เรียกพวกเจ้าว่าเผ่าขี้อวดก็นับว่าสมชื่อคู่ควร”หลินสวินขมวดคิ้วมุ่นเผ่าขี้อวด…สีหน้าผู้แข็งแกร่งตรงนั้นต่างเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่น เจ้าเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นี่ไม่กลัวตายรึไง เป็นเนื้อบนเขียงอยู่แล้วยังกล้าพูดพล่ามเช่นนี้อีก“รนหาที่ตาย!”ผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกนั่นเดือดจัด ร้องคำรามแล้วซัดฝ่ามือออกไป รอยฝ่ามือราวโม่หินพลันปรากฏ เต็มไปด้วยท่วงทำนองมรรคเขียวขจี มากพอจะซัดทลายภูเขาสูงใหญ่ลูกหนึ่งนี่คือผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสคนหนึ่ง พลังต่อสู้แข็งแกร่ง ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายต่างตะลึงงัน ไม่อาจไม่ถอยหลบ ไม่กล้ายืนอยู่ตรงนั้นด้วยกลัวจะโดนลูกหลงแต่ทว่าที่ทำให้รู้สึกคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้น หลินสวินไม่แม้แต่จะขยับหนี ปล่อยหมัดออกไปลวกๆ ปะทะกับฝ่ายตรงข้ามในกระบวนการนี้พลังอันน่ากลัวหาใดเปรียบสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกำปั้นของหลินสวิน เต็มไปด้วยกลิ่นอายทำลายล้าง ตรงเข้าปกคลุมผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกนั่นห้วงอากาศทรุดลง พลังทำลายรุนแรง!จู่โจมเพียงคราเดียวทำให้ผู้แข็งแกร่ง ณ ที่นั้นต่างตระหนกตกใจ นี่มันพลังหมัดระดับไหนกันถึงได้น่ากลัวเช่นนี้ พริบตาก็เข้าปกคลุมคู่ต่อสู้ตูม!ที่ตามเสียงกัมปนาทรุนแรงมา คือเสียงโหยหวนของผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกนั่น จากนั้นร่างกายพลันระเบิดออกสนั่นหวั่นไหว ฝนโลหิตราวน้ำตกสาดพรม ย้อมอากาศเป็นสีชาด งดงามชวนประหวั่น“สวรรค์ เขาไม่ใช่บาดเจ็บหนักใกล้ตายรึ ทำไมถึงยังมีพลังต่อสู้เช่นนี้”ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดต่างไหวหวั่น หมัดเดียวบดขยี้ผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งจนแหลกละเอียด! ใครจะกล้าคิดได้“ความสามารถขี้ผงแค่นี้ เผ่าพวกเจ้าก็ได้แต่คุยโตโอ้อวดจริงดังว่า”สีหน้าหลินสวินปรากฏความเหนียดหยันวูบหนึ่งชั่วขณะเดียวผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกที่อยู่ใกล้เคียงต่างโกรธจัด พุ่งตรงเข้าไปในบัดดล ใช้วิธีที่แกร่งที่สุดหมายกำจัดหลินสวินให้สิ้นซากเจ้าเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์นี่ชั่วช้านัก ดูถูกพวกเขาเป็นเผ่าขี้อวด ต้องฆ่ามันให้ตาย ชะล้างความอัปยศ!ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งออกมือต้องเต็มไปด้วยพลานุภาพเป็นธรรมดา ห้วงอากาศแถบนี้ปั่นป่วน กรวดหินทะลวงแหวกอากาศเกิดเสียงครั่นครื้นตูม!ไอสังหารเย็นชาพุ่งวาบออกมาจากนัยน์ตาหลินสวิน น่าพรั่นพรึงหาใดเปรียบ พร้อมกันนั้นเขาก็จู่โจมออกไปโดยไม่ลังเลสักนิดแม้ว่ารอบด้านล้วนเป็นศัตรู เขาก็ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อยนี่คือความเชื่อมั่นและมาดสง่างามไร้คู่ต่อกรอย่างหนึ่ง!เฉกเช่นเดียวกัน นี่คือสมรภูมิแรกหลังเขาบรรลุสู่ระดับหยั่งสัจจะ จึงรีบเร่งต้องการคู่ต่อสู้ส่วนหนึ่งมายืนยันพิสูจน์พลังต่อสู้ของตนว่าอยู่ในระดับไหนแล้ว!…………….
คอมเม้นต์