Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 555 ส่งพวกเจ้าไปลงนรก
ธิดาเทพหลินหลางพูดทิ้งท้ายเอาไว้แล้วลอยขึ้นเขาไปเพียงแต่ความหมายในคำพูดของนาง กลับทำให้เหล่าผู้ฝึกปราณที่ถูกจับมาสีหน้าหม่นแสง เดือดดาลอย่างที่สุดไม่ปล่อยให้เหลือรอดงั้นหรือหมายความว่าจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดสินะ!ผู้หญิงคนนั้นใจคอเหี้ยมนัก!“พวกเจ้าทำแบบนี้ไม่ได้นะ ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาฬมังกรบนฝั่งทะเลสาบต่างมองอยู่ พวกเจ้าทำเช่นนี้ จะต้องถูกเผยแพร่ออกไปและกระตุ้นความโกรธของผู้คน!”มีคนพูดเสียงสั่น“เหอะๆ เผ่าวาฬมังกรหรือ ไม่ต้องเป็นห่วง รอตอนที่พวกเราไปจากที่นี่ พวกเขาก็หนีไม่รอดแม้แต่คนเดียว!”สีหน้าของเป้าหยาเย็นชา สายตาเต็มไปด้วยความชิงชัง ไม่พูดถึงเผ่าวาฬมังกรยังพอว่า พอพูดถึงก็ทำให้เขาเดือดดาลอย่างที่สุด ต้นกล้ารุกขทรัพย์วิญญาณทองที่กำลังจะได้ครอบครอง กลับถูกพวกนั้นฉวยโอกาสตอนวุ่นวายลอบทำร้ายและช่วงชิงไป!จะไม่ให้เป้าหยาชิงชังได้อย่างไร“หืม ในเกาะกลางทะเลสาบมีไร่โอสถด้วย! แม้จะรกร้าง แต่ภายในก็ยังมีโอสถวิญญาณไม่น้อยกำลังส่งกลิ่นหอมกรุ่น!”ทันใดนั้นสายตาของสือจวิ้นพลันเหลือบเห็นว่า ตีนเขาที่อยู่ไม่ไกลนักมีไร่โอสถผืนหนึ่งไร่โอสถนั่นวิเศษอย่างมาก รดด้วยคลื่นไฟหินหนืดในทะเลสาบ พื้นดินสะท้อนสีจรัสแสงราวกับเพลิง เต็มไปด้วยหมอกและคลื่นความร้อนเหตุผลที่เมื่อครู่นี้ไม่ได้สังเกตเห็น เพราะถูกหมอกนั่นปกคลุมอยู่แต่ตอนนี้พอมองไปอย่างละเอียด ก็จะพบว่าบนดินที่สีเพลิงสดนั่นมีโอสถวิญญาณไม่น้อยปลูกอยู่เป็นหย่อมๆ!บางส่วนมีลักษณะคล้ายกิเลน มีสีเขียวสดใส นั่นคือหญ้ากิเลน เป็นโอสถที่สูญพันธุ์ไปแล้วในโลกภายนอก แม้แต่ราชันระดับสังสารวัฏมาเห็นก็เป็นต้องตาลุกวาว!บางชนิดมีลักษณะคล้ายโสม แต่มีผลกลมวาว ผลสีแดงสว่าง เหมือนโคมไฟขนาดเล็กที่มีรุ้งศักดิ์สิทธิ์ไหลวนนี่คือ ‘โสมราชันโคมสมบัติ’!ตอนที่เห็นโอสถนี้ เหล่าผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตต่างตาลุกวาว ลมหายใจหอบถี่โสมราชันโคมสมบัติ เพียงหยดเดียวก็สามารถทำให้คนตายฟื้นคืน กระดูกขาวมีเลือดเนื้อขึ้นมาอีกครั้ง! ไม่ว่าจะเจอบาดแผลรุนแรงเพียงใด กลืนลงไปเพียงหยดเดียวก็สามารถกลับเป็นเหมือนเดิมได้ทันที!แม้แต่หลินสวินยังหวั่นไหว โสมราชันโคมสมบัติ หนึ่งโคมหมายถึงหนึ่งพันปี บนโสมราชันต้นนี้อย่างน้อยๆ ก็มีผลที่ราวกับโคมไฟแขวนอยู่สิบแปดดวง ก็หมายความว่ามันหยั่งราก ณ ที่แห่งนี้มาหนึ่งหมื่นแปดพันปีแล้วงั้นหรือและยังมีหญ้ากิเลนนั่น ก็ไม่ธรรมดาเลย ให้ประโยชน์มหัศจรรย์คาดไม่ถึงยามหยั่งรู้การฝึกปราณนอกจากนี้ในไร่โอสถยังมีโอสถวิญญาณอื่นๆ แต่ละชนิดล้วนมีลักษณะโดดเด่น แสงสมบัติไหลวน ส่องแสงแวววาวเป็นประกาย ปล่อยกลิ่นหอมอันเย้ายวนอึกๆ… เสียงกลืนน้ำลายแว่วขึ้นในที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตหรือผู้ฝึกปราณที่ถูกจับมา ตอนนี้ต่างถูกโอสถวิญญาณในไร่โอสถดึงดูดเพียงแค่ตีนเขาเกาะกลางทะเลสาบเท่านั้น ยังไม่ใช่บนภูเขาเทพเซียนที่ไอทองม่วงปกคลุม ก็มีไร่โอสถแบบนี้แล้ว และนี่ก็เพียงพอที่จะเรียกว่าวาสนา“เจ้า ไปเด็ดโอสถวิญญาณต้นหนึ่งมา ถ้าเด็ดกลับมาได้ก็จะไว้ชีวิตเจ้า!”จู่ๆ เป้าหยางก็พูดขึ้น เขาสัมผัสได้อย่างมีไหวพริบว่า แม้ไร่โอสถนั่นจะน่าดึงดูด แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยพลังผนึกต้องห้าม น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก“ข้า…” ผู้ฝึกปราณคนนั้นอึ้ง พลันได้สติ สีหน้าดูแย่มาก จะให้พวกเขาไปตายอีกแล้ว!“ทำไม เจ้ามีปัญหาหรือ”สายตาของเป้าหยาเหี้ยมโหดเต็มไปด้วยไอสังหารผู้ฝึกปราณคนนั้นอัดอั้นเปี่ยมโทสะอย่างที่สุด แต่สุดท้ายก็จนปัญญา ได้แต่เข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้ก้าวเข้าไปในไร่โอสถ แต่ใช้พลังคว้าโอสถวิญญาณต้นหนึ่งจากกลางอากาศฮูม!ทว่าไร่โอสถนั่นพลันมีฝนแสงเทลงมา ไม่เพียงสลายพลังฝ่ามือของเขา แม้แต่ร่างกายของเขาก็ถูกปกคลุมไปด้วย พริบตาเดียวเท่านั้นเขาก็กลายเป็นกองเลือดข้น ตายคาที่พร้อมความเกลียดชังเฮือก!ทุกคนสูดหายใจด้วยความตระหนก ได้สติอย่างสิ้นเชิง ตระหนักได้ว่าผนึกต้องห้ามที่ปกคลุมไร่โอสถอยู่นี้ น่าสะพรึงกลัวกว่าที่พวกเขาจินตนาการไปมากตอนนี้เมื่อรวมหลินสวินเข้าไปด้วย เหลือผู้ฝึกปราณที่ถูกจับมาเพียงสามคน เห็นฉากนี้แล้วต่างรู้สึกคับแค้น โศกเศร้าและสิ้นหวัง“เจ้าไป จำไว้ว่าห้ามใช้พลัง”เป้าหยาชี้ผู้ฝึกปราณอีกคนผู้ฝึกปราณคนนั้นพลันกัดฟัน ส่งเสียงคำรามแล้วพุ่งไปที่ภูเขาม่วงอำพัน“รนหาที่ตาย!”เสียงฟุ่บดังสนั่น เป้าหยากวัดแกว่งทวน สังหารผู้ฝึกปราณคนนั้นอย่างเย็นชาและดุดันทันใดนั้นในลานก็เหลือแค่หลินสวินและผู้ฝึกปราณอีกคน ไม่จำเป็นต้องสงสัยเลยว่า หายนะครั้งต่อไปจะตกอยู่บนหัวพวกเขาอย่างแน่นอน“ไอ้หนู ส่งธนูในมือเจ้ามาก่อน!” จู่ๆ สายตาของสือจวิ้นก็มาหยุดที่หลินสวิน จนขนาดนี้แล้ว เขายังอาลัยอาวรณ์สมบัตินี้“พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้ให้ข้าส่งพวกเจ้าไปลงนรกเป็นอย่างไร”หลินสวินสีหน้านิ่งสงบ ก่อนหน้านี้เขาอดทนมาโดยตลอด สังเกตผนึกต้องห้ามและเค้าโครงของเกาะกลางทะเลสาบ จึงไม่ได้ลงมือในทันทีแต่เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เลี่ยงการต่อสู้ไม่ได้แล้ว“เจ้าว่าอะไรนะ”สือจวิ้นแทบไม่เชื่อหูตัวเอง มาถึงตอนนี้ เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณเผ่ามนุษย์คนนี้ยังกล้าพูดจาแบบนี้อีกหรือ เขาบ้าไปแล้วหรือไร“ข้าบอกว่า ข้าจะส่งพวกเจ้าไปลงนรก!”ในขณะที่พูด หลินสวินพลันยื่นมือสะบัด แสงสีดำแถบหนึ่งยิงออกมานี่คือหนอนกินเทพที่ถูกผนึกไว้ แต่เมื่อพวกมันถูกปลุกขึ้นมา…ก็จะเกิดหายนะ!ชิ้ง!ในขณะเดียวกัน ดาบหักก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ สาดฝนแสงเปล่งประกายราวกับดวงดาวแถบหนึ่ง“รนหาที่ตายจริงๆ!”สือจวิ้นเดือดดาลจนกลายเป็นยิ้ม กวัดแกว่งดาบแหลมกระดูกขาวอย่างรุนแรงแต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพียงการโจมตีเดียวเท่านั้น ดาบแหลมกระดูกขาวของสือจวิ้นก็ถูกฟันขาด ราวกับเปราะบางจนต้านทานการโจมตีเดียวไม่ได้ฟุ่บ!ทันใดนั้นหัวของสือจวิ้นก็หลุดร่วงลงมาอย่างง่ายดายราวกับผ่าแตงโม เลือดสดสาดกระเซ็น ย้อมอากาศจนกลายเป็นสีเลือด“อะไรน่ะ!?”ทุกคนต่างร้องเสียงหลง แทบไม่อยากจะเชื่อเรื่องทั้งหมด เป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดจึงแข็งแกร่งเช่นนี้ต้องรู้ว่าสือจวิ้นก็เป็นผู้มีความสามารถคนหนึ่งในบรรดาคนหนุ่มสาวแห่งเผ่าสิงห์โลหิต มีพลังปราณระดับหยั่งสัจจะ ใครจะกล้าจินตนาการว่า เขาจะถูกเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่งตัดหัวภายในการโจมตีเดียวเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!“เร็ว ฆ่าเขาซะ!”เป้าหยาคำราม เดือดดาลอย่างที่สุด เส้นผมพลิ้วไหว ทว่าไม่นานเสียงของเขาก็หยุดไปตรงหน้าเขามีแสงสีดำสายหนึ่งถูกยิงออกมา และพลันจมดิ่งลงไปในห้วงนิมิตของเขาอย่างไม่สามารถต้านทานได้ความเจ็บปวดที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้แผ่กระจายออกจากจิตวิญญาณ ทำให้สีหน้าของเป้าหยาเปลี่ยนไปฉับพลัน ส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนในเวลาเดียวกัน บริเวณอื่นๆ ผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตหลายคนก็ถูกโจมตีในแบบเดียวกันพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าหนอนกินเทพนั่นกลับไม่สามารถต้านทานได้ แปลกประหลาดอย่างที่สุด ผลคือห้วงนิมิตของพวกเขาถูกโจมตีอย่างกะทันหันชั่วขณะหนึ่งเสียงร้องโหยหวนพลันดังขึ้นในบริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง วุ่นวายไปทั้งลาน ผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตมากมายยังไม่ทันลงมือด้วยซ้ำ ก็พบกับหายนะอันคลุมเครือและหลินสวินก็ฉวยโอกาสนี้เริ่มสังหารตั้งนานแล้ว!ตูม!เขาใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง เงาร่างราวกับภาพฝัน พุ่งขึ้นหน้าไปสังหาร ดาบหักสาดประกายดาราวิบวับ กวาดล้างไปทั่วทิศราวกับธารดาราม้วนกลืนฟุ่บๆๆ…เพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตห้าหกคนก็ถูกตัดหัว กลายเป็นฝนเลือดตายคาที่น่ากลัวเกินไปแล้ว ทุกคนต่างขนลุก“ทุกคนร่วมมือกัน รีบฆ่าเด็กนี่ซะ!” ผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตคนหนึ่งตะโกนตูมโครม!แสงเจิดจ้าโหมคลั่ง หลินสวินระเบิดพลังอย่างสิ้นเชิง ราวกับเด็กหนุ่มเทพมารองค์หนึ่ง เผยพลังต่อสู้ไร้เทียมทาน กวาดล้างไปทั้งลาน“ไอ้พวกขยะ คนมากมายขนาดนี้ยังขวางเขาคนเดียวไม่ได้รึ”เป้าหยาตะเบ็งเสียงกราดเกรี้ยวกลุ่มผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตรุมเข้ามาโจมตีหลินสวิน แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวคือ ระยะห่างของทั้งสองฝ่ายห่างกันมากเกินไปหลินสวินดูเหมือนมีพลังปราณเพียงแค่ระดับมหาสมุทรวิญญาณเท่านั้น แต่เขาถือดาบหัก เท้าใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็ง พลังโจมตีน่าทึ่ง เพียงดาบเดียว ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะต่างถูกฟันจนขาดเป็นสองท่อน กลายเป็นละอองเลือดกลางอากาศนี่มันคนแบบไหนกันแน่ทุกคนต่างหวาดกลัวตูม!มีคนลอบสังหารจากด้านหลัง หลินสวินไม่หลบหลี ใช้ ‘ปะทะฟู่ซี่’ ตอบโต้ แผ่นหลังปะทุพลังอันน่าพรั่นพรึงปานมังกรก็เห็นว่าร่างของคนที่ลอบโจมตีคนนั้นกระแทกพื้นแหลกกระจาย ราวกับถูกมังกรโบราณชนอย่างรุนแรง ภาพน่าตะลึงนักธิดาเทพหลินหลางไม่ได้อยู่ตรงนี้ คนเดียวที่คุกคามหลินสวินได้ก็คือเป้าหยา เขาเป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโส มีพลังปราณระดับหยั่งสัจจะ ดุดันน่าสะพรึงกลัว แข็งแกร่งอย่างที่สุดโชคดีที่จิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ถูกหนอนกินเทพกัดกร่อน ทำให้พลังต่อสู้ของเขายากจะสำแดงออกมาได้ทั้งหมดในสถานการณ์แบบนี้แน่นอนว่าหลินสวินไม่มีอะไรต้องกลัว ลงมืออย่างเต็มกำลัง ราวกับมังกรที่บุกเข้าฝูงหมาป่า ฆ่าฟันอย่างทารุณ ละอองเลือดสาดกระเซ็น……ริมทะเลสาบหินหนืดผู้แข็งแกร่งเผ่าวาฬมังกรยืนปักหลัก ล้อมรอบบุตรเทพอวี่เซียวเซิงราวกับดาวล้อมเดือน“บุตรเทพ หลินหลางขึ้นเขาไปแล้ว ขืนเรายังไม่ลงมือ วาสนาในนั้นอาจจะถูกนางช่วงชิงไป”ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งกล่าวเสียงเบา“เหอะๆ ไม่จำเป็น พวกเราเพียงรออยู่ตรงนี้ หลินหลางนั่นมีปีกก็หนีไม่รอด ไม่ว่านางจะได้วาสนาอันใดมา ก็ต้องตกเป็นของพวกเรา”อวี่เซียวเซิงหัวเราะเบาๆ สีหน้าเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดเราต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงเล่า เฝ้ารออยู่ที่นี่ก็พอแล้ว!”ทุกคนพลันหัวเราะตาม“บุตรเทพท่านดู ผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตบนเกาะกลางทะเลสาบนั่น เกิดความขัดแย้งกับเด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์!”จู่ๆ ก็มีคนร้องขึ้นมาอย่างตกใจทุกคนมองไปและถูกดึงดูดในทันที“เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์คนนั้นเป็นใคร”จู่ๆ อวี่เซียวเซิงก็ถามขึ้น ในใจเขาก็ไม่ค่อยสงบนัก เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่ง กลับสามารถสังหารกวาดล้างจนสิ้น เข่นฆ่าอยู่ท่ามกลางผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตจนเลือดไหลเป็นสายน้ำ ผิดปกติมากเกินไปแล้ว“เหมือนจะมาจากแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ”ผู้แข็งแกร่งเผ่าวาฬมังกรคนหนึ่งพูดอย่างไม่มั่นใจนัก“แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณหรือ”อวี่เซียวเซิงนัยน์ตาเป็นประกาย จมสู่ห้วงความคิด……โครม!บนเกาะกลางทะเลสาบ ดวงตาเย็นชาของหลินสวินสาดส่อง ผมดำปลิวสยาย ทุกที่ที่ดาบหักวาดผ่าน ต้องบังเกิดคลื่นโลหิตสีแดงสดสุดท้ายแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะรุ่นอาวุโสอย่างเป้าหยายังเลี่ยงเคราะห์ไม่พ้น ถูก ‘กระบวนท่าสอยจันทรา’ ของหลินสวินสังหารแต่แล้วสิ่งที่ทำให้หลินสวินแปลกใจคือ ร่างของเป้าหยามีฝนแสงหลากสีแผ่ออกมา ก่อนทะลุอากาศหายไปจากที่นี่!จากนั้นก็มีสถานการณ์คล้ายๆ กันก็เกิดขึ้นอีก หลังจากผู้แข็งแกร่งเผ่าสิงห์โลหิตสองสามคนถูกสังหาร ก็ถูกแสงหลากสีห่อหุ้มไว้เช่นเดียวกัน ก่อนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย‘วิธีรักษาชีวิตเช่นเดียวกับยันต์จักจั่นทองหรือ’ หลินสวินสายตาวูบไหว ในใจแม้จะไม่จำยอม แต่ก็รู้ว่ายากจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้วทว่าในการต่อสู้หลังจากนั้น หลินสวินกลับใจไหววูบ เรียกเสามังกรจตุลักษณ์ออกมา——
คอมเม้นต์