Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 514 รอดตายหวุดหวิด
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไรที่บนฟ้ามีฝนละเอียดโปรยปราย นำพาความชื้นสู่ห้วงอากาศหลินสวินและหลินจงโดยสารอยู่บนเกี้ยวสมบัติที่เคลื่อนไปตามถนนราวใยแมงมุมอย่างไม่ช้าไม่เร็วระหว่างทางได้ยินเสียงร้องโหยหวนและเสียงต่อสู้ราวอัสนีบาตไหวสะเทือนดังขึ้นเป็นครั้งคราวแต่เพียงชั่วครู่หนึ่งก็เงียบหายไป ราวกับทุกสิ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเกี้ยวสมบัติ หลินสวินสีหน้าผ่อนคลาย ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าศัตรูที่ซุ่มอยู่ตามถนนต้องมาจากหนึ่งในพวกตระกูลฉือ ตระกูลจั่วและตระกูลฉินแน่หรืออาจเป็นขุมอำนาจทั้งสามตระกูลร่วมมือกันก็เป็นได้ที่พวกเขามาซุ่มตรงนั้นล่วงหน้าก็เดาได้อย่างง่ายดาย เพราะใครก็รู้ว่าวันนี้หลินสวินจะจัดงานแถลงที่อัครการค้าในสถานการณ์เช่นนี้ ขอเพียงซุ่มระหว่างทางไม่ช้าก็เร็วหลินสวินต้องปรากฏตัวจนได้เพียงแต่หลินสวินก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะถึงกับระงับความโมโหไว้ไม่อยู่เช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าหลังจากรับรู้ได้ว่าตนมีแนวโน้มก้าวหน้ารวดเร็วยิ่งนัก ก็ทำให้พวกเขารู้สึกถึงภัยคุกคาม ไม่อาจยอมทนให้ตนเติบใหญ่ได้อีกแล้ว“ยังดี ครั้งนี้อัครการค้าตระเตรียมกำลังคนมากมาย หาไม่แล้วระหว่างทางนี้อาจต้องรับศึกหนักที่ไม่อาจคาดการณ์ได้…”หลินสวินแง้มม่านของเกี้ยวสมบัติ สายตาทอดไปไกลและเห็นบุปผาโลหิตดอกหนึ่งเบ่งบานในห้วงอากาศที่ไกลสุดสายตา สีแดงสดงดงามน่าหวั่นใจหลินจงเตือนอยู่ข้างๆ ว่า “นายน้อย จะชะล่าใจไม่ได้นะขอรับ ในเมื่อพวกเขากล้าลงมือ ต้องเตรียมตัวมาอย่างสมบูรณ์แน่”หลินสวินส่งเสียงอืมแล้วกล่าวว่า “ลุงจง ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของจักรวรรดินี้ เคยมีเรื่องตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงถูกทำลายเกิดขึ้นหรือไม่”หลินจงส่ายหัว “แทบจะไม่มีขอรับ”ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มเจื่อน “นายน้อย ท่านอย่าลืมสิขอรับว่าเมื่อห้าร้อยปีก่อนตระกูลหลินของพวกเราก็เป็นหนึ่งในตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง แต่ตอนนี้…”หลินสวินอึ้งไป ตกอยู่ในภวังค์ความคิดเกี้ยวสมบัติเดินหน้าไปตามทาง ตลอดทางราบเรียบเงียบสงบ แต่หลินสวินกับหลินจงรู้ดีว่าในที่ที่ตนมองไม่เห็นกำลังเกิดการต่อสู้นองเลือดครั้งแล้วครั้งเล่าเอี๊ยด!ทันใดนั้นเกี้ยวสมบัติพลันหยุดลง ล้อเกี้ยวเสียดสีกับพื้นดินเข้าอย่างรุนแรง เกิดเป็นเสียงชวนเสียวฟัน แทบจะในเวลาเดียวกันชายสูงวัยที่ขับเกี้ยวก็ตะโกนเสียงทุ้มว่า “ทั้งสองท่านระวังตัวขอรับ!”ตูม!แรงน่าหวาดหวั่นซัดเข้ามา เกิดเป็นพลังทำลายล้าง เกี้ยวสมบัติถูกบีบอัดจนจะแตกออกเหมือนอยู่กลางพายุในทันใดหลินสวินกับหลินจงพุ่งตัวออกมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลสักนิดในขณะเดียวกัน เกี้ยวสมบัติที่ปกคลุมไปด้วยรอยสลักวิญญาณหนาแน่นระเบิดสลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ปลิวกระจายอย่างครึกโครมหลินสวินนัยน์ตาหดรัด เกี้ยวสมบัตินี้เป็นสิ่งที่เทพเศรษฐีจัดการด้วยตัวเอง สามารถรับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะ แต่ตอนนี้กลับพังทลายอย่างง่ายดาย แค่คิดก็รู้ว่าศัตรูที่มาโจมตีต้องมีพลังระดับกระบวนแปรจุติ!อย่างที่คาด การต่อสู้ดุเดือดกำลังเกิดขึ้นไกลออกไป ชายสูงวัยที่ขับเกี้ยวประจัญบานกับเงาร่างในชุดสีดำร่างหนึ่งอยู่นี่ถือเป็นการประลองระหว่างผู้ฝึกยุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติครั้งหนึ่ง ทักษะและวิชาลับที่ใช้เหนี่ยวนำพลังมหามรรคแห่งฟ้าดิน น่ากลัวเหลือคณาสิ่งนี่ทำให้หลินสวินรู้สึกสังหรณ์ใจ รับรู้ได้ว่าต่อให้อัครการค้าตระเตรียมกำลังคนอย่างรัดกุมมากแล้ว แต่เกรงว่าคงคิดไม่ถึงว่าศัตรูจะใช้กำลังคนที่น่ากลัวเช่นนี้เพื่อมาสังหารตนผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติ!ในหมู่ขุมอำนาจชั้นสูงล้วนเรียกได้ว่าเป็นบุคคลระดับเสาเทพค้ำทะเล จะไม่เคลื่อนไหวโดยง่ายสวบ!ทันใดนั้นคมกระบี่สว่างจ้าแสบตาก็ปรากฏขึ้นอย่างฉับไว พุ่งโจมตีผ่านห้วงอากาศเข้ามาชั่วพริบตานั้นกลิ่นอายอันตรายน่าหวาดหวั่นที่ยากบรรยายบังเกิดขึ้นในจิตใจ ทำให้ทั้งตัวหลินสวินเจ็บแปลบขึ้นมา นัยน์ตาหดรัดผู้มีปราณระดับกระบวนแปรจุติอีกคนหนึ่ง!ศัตรูที่มาจู่โจมครั้งนี้ไม่ได้มีมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติเพียงคนเดียว!“หาที่ตาย!”หลินจงตะคอกเสียงดัง พุ่งทะลุเมฆขึ้นไป อาสัญสลายปรากฏขึ้นพร้อมเสียงดังชิ้ง พลังสีเทาขมุกขมัวไหลเอ่อออกมา ปกคลุมทั่วร่างหลินจงเปรี้ยง!การต่อสู้ปะทุขึ้น และเวลานี้หลินสวินก็ดูออกทั้งหมดแล้วว่า นายของคมกระบี่สว่างจ้านั้นก็เป็นผู้ฝึกปราณที่ปกปิดร่างกายด้วยชุดดำ ดูรูปลักษณ์ไม่ออกเช่นกันนี่เป็นถึงนครต้องห้าม เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิ แม้จะพูดว่าแถบนี้เป็นชานเมืองเงียบเหงายิ่งนัก แต่อย่างไรเสียก็อยู่ในขอบเขตของนครต้องห้ามแต่ศัตรูกลับกล้าซุ่มกำลังพลระหว่างทาง ถึงขั้นใช้ผู้ฝึกปราณระดับกระบวนแปรจุติ นี่พิสูจน์ได้ว่าเพื่อสังหารหลินสวิน พวกเขาไม่เสียดายค่าตอบแทนทั้งสิ้นแล้ว!‘หากมีมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติมาอีกคน วันนี้คงยุ่งยากเสียแล้ว…’หลินสวินยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น ใบหน้าหล่อเหลาปรากฏสีหน้าขึงขังราวกับจะทำให้การคาดเดาของหลินสวินเป็นเรื่องจริง ทายเรื่องไม่ดีเช่นนี้ถูกเข้าเสียแล้ว เด็กหนุ่มเพียงรู้สึกว่าภาพข้างหน้าพร่ามัว ลำแสงสี่สายตกลงมาจากฟ้า!ชั่วพริบตาทัศนวิสัยของเขาก็แปรผันไป กลายเป็นมาอยู่ในภาพมายาสีขาวโพลนไร้ขอบเขต เสาหินสี่ต้นพุ่งสู่ฟ้า ตระหง่านขึ้นสี่ทิศบนพื้นดินสุดขอบบนเสาหินนั้นประทับด้วยภาพโบราณซับซ้อน แผ่พลังต้องห้ามที่น่าหวาดกลัวออกมาสวบ!หลินสวินใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งลองฝ่าออกไป แต่ไม่ว่าเขาจะเคลื่อนไหวหายตัวอย่างไรกลับไม่มีทางหลุดออกจากการผนึกของเสาหินสี่ต้นนั้นได้!พูดอีกอย่างก็คือ ภาพมายานี้ก็เหมือนคุกที่ขังหลินสวินไว้ภายใน“เวลามีค่า ไอ้หนู พวกเราก็ควรมาคุยกันได้แล้ว”ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งที่ปกปิดตัวด้วยชุดคลุมสีดำก็ปรากฏขึ้น ทั่วกายพลุ่งพล่านไปด้วยแสงสีดำ ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนอย่างที่คิด เป็นผู้มีปราณระดับกระบวนแปรจุติอีกคนหนึ่ง!หลินสวินรู้สึกหนักใจ รับรู้ได้ว่าอันตรายถึงแก่ชีวิตที่แท้จริงมาแล้ว“อย่าคิดว่าจะโชคดีหลุดพ้นไปได้อีก ถูกกักขังอยู่ใน ‘เสามังกรจตุลักษณ์’ นี้ ภายในชั่วหนึ่งถ้วยชา ต่อให้ราชันระดับสังสารวัฏมา ก็ไม่อาจทำอะไรได้”ชายชุดดำเสียงแก่ชรา มีน้ำเสียงโหดเหี้ยมเย็นชา“เจ้าต้องการพูดคุยเรื่องอะไร”ขณะนี้หลินสวินกลับใจเย็นนัก มองออกว่าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้หมายจะลงมือกับตนตั้งแต่แรก“ง่ายมาก ปล่อยพลังจิตวิญญาณเสีย ให้ข้าควบคุมจิตวิญญาณของเจ้าชั้นหนึ่ง ข้าไม่เพียงรับรองว่าเจ้าจะมีชีวิตต่อไป ทั้งยังมีชีวิตต่อไปอย่างดีด้วย”ชายชุดดำมือไพล่หลัง เงาร่างของเขาสูงใหญ่ แผ่นหลังตรงแน่ว แสงสีดำน่าหวาดหวั่นพันพัวอยู่รอบกาย ราวกับเป็นราชันที่เดินออกมาจากนรก น่าอกสั่นขวัญแขวน“เจ้าคิดจะควบคุมข้าหรือ” หลินสวินนิ่วหน้า“นี่เป็นทางรอดเพียงหนึ่งเดียวของเจ้า หาไม่ เจ้าคิดว่าข้าจะเลือกมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเจ้าตอนนี้ ไม่ใช่ฆ่าเจ้าทันทีหรือ”ชายชุดดำหัวเราะเสียงเบา เขาดูมั่นใจในตัวเองนักว่าควบคุมสถานการณ์ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ได้กังวลเลยว่าหลินสวินในตอนนี้จะเล่นตุกติกอะไรได้“หากข้าไม่รับปากล่ะ”หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาสีดำฉายแววเยียบเย็น“ไม่ต้องลองถ่วงเวลาแล้ว วันนี้เจ้าทำได้เพียงรับปาก”ชายชุดดำพูดพลางหายตัวไปในอากาศ เวลาต่อมาก็ปรากฏตัวต่อหน้าหลินสวิน ยื่นมือมาคว้าคอหลินสวินไว้แล้วยกตัวเขาขึ้นว่องไวเกินไปแล้ว ช่างเหมือนหายตัวในพริบตาราวปีศาจ สำแดงพลังของระดับกระบวนแปรจุติออกมาอย่างหมดจด ทำให้หลินสวินไม่มีโอกาสดิ้นรนต่อต้านเลย!“ข้าเพียงใช้แรงนิดหน่อย ชีวิตเจ้าก็จะจบสิ้นในพริบตา ไอ้หนู เผชิญหน้ากับความเป็นจริงเถิด ต่อให้เจ้ามีพรสวรรค์พลิกฟ้ากว่านี้ แต่อย่างไรก็ยังไม่ได้เติบโต จะฆ่าเจ้าในตอนนี้ง่ายเสียยิ่งกว่าฆ่าเป็ดฆ่าไก่อีก”ชายชุดดำเอ่ยปากอย่างสบายใจ น้ำเสียงไม่ทุกข์ไม่ร้อน ไม่ได้จงใจเหยียดหยาม แต่เป็นท่าทางโอหังที่แสดงออกมาเองโดยไม่รู้ตัวก็เป็นเช่นนี้จริง ในสายตาของผู้ฝึกยุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนหนึ่งย่อมดูไม่สลักสำคัญและอ่อนแอยิ่งนักเพียงแต่หลินสวินเวลานี้กลับดูใจเย็นถึงที่สุด ต่อให้ถูกบีบคออยู่จนแทบหายใจไม่ออก สีหน้าเขาก็ยังคงสงบนิ่งหาใดเทียบ “เจ้ารู้ผลลัพธ์ของการทำเช่นนี้หรือไม่”กร๊อบ!เสียงเพิ่งดังออกมา ชายชุดดำก็หักกระดูกแขนซ้ายของหลินสวิน เจ็บจนหลินสวินร้องอู้อี้ในคอ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นซีดขาว เหงื่อกาฬไหลมาจากหน้าผากไม่ต้องสงสัยเลยว่า ชายชุดดำผู้นี้ต้องเป็นคนโหดเหี้ยมไร้ความเมตตา การข่มขู่ของเขาก็ตรงไปตรงมาที่สุด นั่นก็คือใช้วิธีที่ร้ายกาจที่สุดวิธีหนึ่งไปทำร้ายและบีบบังคับให้หลินสวินจำนน!“ไอ้หนู เจ้าไร้เดียงสาไปแล้ว วันนี้ข้ากล้าลงมือกับเจ้าที่นี่ ก็ต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ต่างๆ มานานแล้ว”ชายชุดดำยิ้มบางๆ มองจากมุมของหลินสวิน เห็นเพียงฟันขาวสะอาดหนาแน่นของฝ่ายตรงข้าม ดูน่าหวั่นกลัวยิ่งนัก“ดูท่าวันนี้ข้าพูดอะไรก็คงไม่มีประโยชน์แล้ว ไม่ตายก็ต้องศิโรราบใช่ไหม”หลินสวินเก็บกลั้นความเจ็บปวดที่แขนหัก ริมฝีปากยังคงฝืนยิ้มบางๆ“ถูกต้อง เจ้าเป็นเด็กฉลาดคนหนึ่ง ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเลือกทางที่เป็นประโยชน์กับทั้งข้าและเจ้า”ชายชุดดำพยักหน้า“ถุย!”ทันใดนั้นหลินสวินก็ถ่มน้ำลายออกมา มันตกใส่ตำแหน่งกรามล่างของชายชุดดำผู้นั้น ของเหลวใสๆ นั่นไหลลู่ไปตามผิว“ไอ้แก่ เจ้าฝันไปเถอะ”หลินสวินพูดชัดถ้อยชัดคำ ยิ้มสดใสนักชายชุดดำเงียบไปแล้ว ทำให้คนรับรู้ได้อย่างแจ่มชัดว่าเขาถูกน้ำลายที่ถ่มออกมาโดยกะทันหันนี้ยั่วโมโหแล้วบางทีตั้งแต่เขาฝึกปราณมาถึงตอนนี้ คงไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ถูกคนถ่มน้ำลายใส่หน้า นี่ทำให้เขาไม่อาจข่มความเดือดดาลในใจได้เด็กหนุ่มที่ทำได้เพียงนั่งรอความตายผู้หนึ่ง กลับใจกล้าคับฟ้าเช่นนี้ ใช้วิธีชั้นต่ำมาเหยียดหยามเขา ต่อให้เป็นเทพเซียนมาเยือนก็คงถูกยั่วโมโหถึงขีดสุดปัง!เวลาต่อมาหลินสวินก็ถูกจับกระแทกลงพื้นอย่างรุนแรง กระดูกทั่วร่างเกือบแตกสลาย อดส่งเสียงอู้อี้ออกมาไม่ได้จากนั้นชายชุดดำผู้นั้นก็หัวเราะน่ากลัวออกมา “ไม่ต้องรีบ ข้ายังมีเวลาทรมานเจ้าตั้งมากก่อนเจ้าจะยอมสยบ!”เขาพูดพลางใช้เท้าหนึ่งเหยียบลงไป เสียงดังกร๊อบอื้ออึง มือซ้ายทั้งมือของหลินสวินถูกบดขยี้ เลือดสีแดงฉานพรั่งพรูออกมาเมื่อได้ยินเสียงกระดูกระเบิดแหลก เลือดกระเซ็นกระสายนั้น ชายขุดดำก็ส่งเสียงครางด้วยความพอใจ แล้วจึงยกเท้าขึ้นจะเหยียบมือขวาของหลินสวินอีกหลินสวินพลันกลิ้งตัวบนพื้น หลบไปอีกด้านหนึ่งชายชุดดำหัวเราะจิ๊จ๊ะแปลกประหลาด “ดูสิ เหมือนหนอนตัวหนึ่งกำลังกลิ้งดิ้นรนอยู่บนพื้น น่าเสียดายนะ วันนี้หากข้าไม่ได้ระบายความเดือดดาลที่อยู่ในใจ ข้าคงไม่รามือแต่เพียงเท่านี้”เขาพูดพลางใช้เท้าเหยียบไปที่หลินสวินอีกครั้งหนึ่ง ไม่ได้ใช้มือ แต่ใช้ฝ่าเท้าเหยียบหลินสวินลงกับพื้น เหยียดหยามและทรมานเขาอย่างถึงที่สุด“ไอ้แก่! เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้าจริงหรือ”หลินสวินถลันตัวลุกขึ้นคำรามดุดันชายชุดดำอึ้งไปและในเวลานี้เอง เขาพลันเห็นว่ามีแสงสีดำยิงพุ่งออกมาจากมือหลินสวินชายชุดดำยื่นมือออกมาจับแสงสีดำนี้ไว้ในมือ“เหอะๆ ถึงตอนนี้แล้วยังคิดเล่นตุกติกลอบจู่โจมหรือ ไอ้หนู เจ้านี่ไม่ยอมแพ้จริงๆ นะ! แต่ว่าที่ข้าอยากได้ที่สุดก็คือเด็กไม่ยอมคนแบบเจ้านี่ล่ะ ทรมานแล้วถึงค่อยรู้สึกพอใจหน่อย”ชายชุดดำหัวเราะร่า พลิกฝ่ามือก็เห็นเพียงหนอนที่เล็กละเอียดราวเมล็ดขาวกลุ่มหนึ่ง พลันยิ่งหัวเราะชอบใจ“หนอนหรือ ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าอาศัยหนอนพวกนี้จะพลิกสถานการณ์ได้หรือ”ชายชุดดำถากถางอย่างไม่เกรงใจกลับเห็นว่าหลินสวินหุบยิ้ม พยักหน้าอย่างจริงจัง “ได้แน่นอน”ชายชุดดำอึ้งไป ในตอนนี้เองหนอนเหล่านั้นในฝ่ามือเขาก็พลันเจาะเข้าไปในเลือดเนื้อของเขา ราวถูกปลุกจากห้วงนิทราลึกนี่…ชายชุดดำใจสั่นสะท้าน ประสบการณ์กรำศึกมานานปีทำให้เขารับรู้ได้อย่างเฉียบแหลมถึงอันตรายอย่างที่สุด สีหน้าอดเปลี่ยนไปในบัดดลไม่ได้เขากระตุ้นพลังอย่างบ้าคลั่ง หมายจะบีบให้หนอนเหล่านี้ออกมาแต่ที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ พลังปราณระดับกระบวนแปรจุติของเขาที่สามารถตัดภูผาผ่าสมุทรได้ กลับไม่อาจไล่หนอนออกไปได้หนอนกลุ่มนั้นเหมือนดั่งมายา เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ร่างแท้จริง สามารถทะลุทุกสิ่ง ไม่อาจขวางกั้นหรือกักขังได้เลยแย่แล้ว!ชายชุดดำใจสั่นสะท้านยิ่ง เกิดความหวาดผวายากบรรยาย นี่มันหนอนบ้าอะไรกัน ทำไมถึงลึกลับเช่นนี้ไม่รอให้เขาได้ทำความเข้าใจ ก็รับรูได้ว่าห้วงนิมิตเจ็บปวดขึ้นโดยพลัน เหมือนถูกสายฟ้าสว่างวาบฟาดฟันฉีกขาดอย่างโหดเหี้ยม ทำให้เขาสั่นโคลงไปทั้งตัวอย่างห้ามไม่ได้ ร้องโหยหวนน่าหดหู่ออกมาที่น่ากลัวที่สุดก็คือความเจ็บปวดนี้ไม่ได้จบลง หนอนแต่ละตัวเหมือนฝูงฉลามที่ได้กลิ่นคาวเลือด พุ่งไปยังห้วงนิมิตของเขาอย่างบ้าคลั่ง กัดกินและฉีกทึ้งจิตวิญญาณของเขาไม่หยุดหย่อนพลังวิญญาณของระดับกระบวนแปรจุตินั้นแข็งแกร่งตั้งเท่าไร แต่เมื่อพบกับการโจมตีเช่นนี้ถึงกับยากรับมือได้ ไม่อาจต่อต้านได้เลย“ไม่! ไม่! ไม่…”ชายชุดดำร้องเสียงดังอย่างคลุ้มคลั่ง สองมือทึ้งศีรษะอย่างเสียจริตราวเจ็บปวดถึงขีดสุด ร่างกายเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงประหนึ่งเป็นลมบ้าหมูหลินสวินที่อยู่ไกลออกไปก็อดสยดสยองไม่ได้ นั่นคือหนอนกินเทพ เป็นสิ่งที่ได้มาจาก ‘เขตต้องห้ามโลหิตร้าง’ ในแดนวิญญาณโบราณ หลังจากถูกเขานำกลับมาก็ผนึกเก็บไว้ในร่างมาโดยตลอดทว่าขนาดเขายังคิดไม่ถึงว่าพลังของหนอนกินเทพนี้จะน่าหวาดหวั่นเช่นนี้ ถึงกับทำให้มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติยังไม่อาจต้านทานได้!——
คอมเม้นต์