Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 482 ปรากฏการณ์ประหลาดอุบัติต่อเนื่อง
สีหน้าบรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีต่างไม่น่าดูขึ้นมาทันทีถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้หลินสวินเผยพลังต่อสู้โหดร้ายป่าเถื่อนเหลือประมาณบนลานแสดงยุทธ์ เกรงว่าพวกเขาคงเข้าไปสั่งสอนหลินสวินตั้งนานแล้วพวกเขาต่างไม่เคยเห็นคนที่โอหังหยาบกระด้างเช่นนี้มาก่อน!หลินสวินหาได้ใส่ใจพวกเขาไม่ ยังคงยืนอยู่หน้าป้ายหิน คิดคำนวณในใจก่อนหน้านี้เอาชนะสืออวิ๋นเผิง เซวียอวิ้น จินจู๋หลิว หลันอวี่รวมสี่คน ทำให้เขาได้ป้ายประจำตัวมาสี่แผ่น คะแนนที่เพิ่มขึ้นรวมกันแล้วน่าจะใกล้ประมาณหนึ่งพันห้าร้อยคะแนน ยังห่างจากห้าพันคะแนนอยู่มากพูดได้ว่าอย่างน้อยเขาต้องหาอีกสามพันห้าร้อยคะแนนถึงจะสามารถก้าวเข้าสู่ ‘การทดสอบบันไดสวรรค์’ ได้หลินสวินทอดถอนใจ ช่างยุ่งยากจริงๆ“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าการก้าวขึ้นสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณจะได้คะแนนหรือไม่ แต่ข้ารู้ว่าหากสามารถขึ้นเป็นอันดับหนึ่งบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณก็จะได้รับรางวัลสองพันคะแนนทันที!”สืออวี่เริ่มพูด“ที่จริงแล้ว มิสู้เจ้าลองก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งดูสิ คว้ารางวัลที่เหลือมาก่อน หลังจากนั้นค่อยดูว่าจะไต่เข้ากระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณต่อหรือไม่”หนิงเหมิงเสนอแนะอย่างไม่ใส่ใจหลินสวินคล้อยตาม สองพันคะแนนถือว่าเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว“โอหังนัก พวกเจ้าเห็นอันดับหนึ่งแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเป็นสิ่งใดกัน นั่นเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็สามารถก้าวขึ้นไปได้หรือไง”ศิษย์สาขายุทธ์วิถีคนหนึ่งตะโกนขึ้น“เจ้าคนถ่อยพวกนี้ ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ!”ศิษย์คนอื่นส่งเสียงเอะอะขึ้นบ้าง พวกเขาต่างโกรธแค้นยิ่งนัก แต่ไรมาหลินสวินก็เย่อหยิ่งพอตัวแล้ว คิดไม่ถึงว่าคำพูดคำจาของสืออวี่และหนิงเหมิงจะโอหังเช่นนี้ ราวกับว่าการแย่งชิงอันดับหนึ่งแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเป็นเรื่องที่ทำได้ตามใจ“หากพวกเจ้าไม่พอใจ มิสู้มาท้าพนันกันเป็นอย่างไร ถ้าข้าทำได้ พวกเจ้าก็นำคะแนนที่มีทั้งหมดให้ข้า หากข้าแพ้คะแนนที่ข้ามีก็เป็นของพวกเจ้า”หลินสวินพูดพลางยิ้มกริ่ม แววตาจ้องมองไปยังบรรดาศิษย์เหล่านั้นพวกสืออวี่ หนิงเหมิงต่างนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เพื่อที่จะได้คะแนนมา เจ้าหมอนี่สติฟั่นเฟือนถึงขั้นท้าพนันแล้ว!เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่แต่บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีเหล่านั้นโกรธแทบถึงขีดสุดแล้ว ยามหลินสวินอยู่บนลานแสดงยุทธ์ สีหน้าท่าทางราวพ่อค้าหน้าเลือด เล่นกับชีวิตเพื่อคะแนนเท่านั้นมาวันนี้เขายังท้าพนันเพื่อให้ได้คะแนนมาอีก นี่ถ้าไม่ใช่พ่อค้าหน้าเลือดจะเป็นอะไรไปได้พวกเขาสงสัยนักว่าคนแบบหลินสวินกลายมาเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณได้อย่างไร ทั้งยังประสบความสำเร็จเฉกเช่นทุกวันนี้ได้อย่างไร ในสายตาเขานอกจากความมั่งคั่งแล้ว แม้แต่หน้าตา ศักดิ์ศรี ความน่าเกรงขามก็ไม่ต้องการเสียแล้วกระมัง“ข้าเดิมพันกับเจ้าเอง!”ศิษย์คนหนึ่งลุกขึ้น หยิบป้ายประจำตัวของตนออกมาอย่างกราดเกรี้ยว “ข้าอยากลองดูนักว่า เจ้าหนูอย่างเจ้าจะขึ้นเป็นอันดับหนึ่งได้หรือไม่!”“ข้าร่วมด้วย”“เรื่องดีเช่นนี้จะขาดข้าไปได้อย่างไร”ภายในเวลาอันรวดเร็วก็มีศิษย์กว่าห้าหกคนลุกขึ้น แต่ละคนต่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันหมายท้าพนันกับหลินสวิน ที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาไม่เชื่ออยู่แล้วว่าหลินสวินจะแย่งชิงอันดับหนึ่งมาได้ไม่ดูหน่อยหรือว่าอันดับหนึ่งตอนนี้คือใครเป็นจ้าวจิ่งเหวิน! บุคคลผู้เป็นดั่งกษัตริย์โฮ่วอี้ในตำนาน เปล่งประกายราวดวงตะวันอันโชติช่วง!คนหยาบคายจองหองเช่นหลินสวินถูกกำหนดไว้เป็นเพียงไข่มุกเม็ดเล็กๆ เท่านั้น มิอาจเทียมสู้แสงตะวันจันทราศิษย์คนอื่นต่างสงบนิ่งลงไม่น้อย แม้แต่อันดับห้าแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณอย่างหลันอวี๋ยังพ่ายแพ้ในกำมือหลินสวิน นี่เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ว่าหลินสวินแข็งแกร่งเพียงใดด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่กล้าผลีผลามร่วมด้วย“พวกเจ้าไม่เข้ามาเล่นด้วยกันรึ”ใบหน้าหล่อเหลาของหลินสวินเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสอ่อนโยนอบอุ่น มองมาทางศิษย์เหล่านั้นที่น่าเสียดายคือบรรดาศิษย์พวกนี้ถึงแม้จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแต่ไม่ถูกหลอก ในทางกลับกันเห็นหลินสวินนิ่งสงบท่าทางมั่นใจเช่นนั้น ในใจพวกเขารู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล“ช่างน่าเสียดายนัก…”หลินสวินพูดเสียงแผ่วกับตัวเอง สูดหายใจเข้าคราหนึ่ง ดวงตาดำขลับมองไปยังป้ายหิน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมจริงจังตัวเขาในขณะนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน กิริยาท่าทางดั่งหุบเหวลึก สงบนิ่งไม่สะทกสะท้าน ครอบคลุมไปด้วยท่วงท่าทระนงสง่างามพวกสืออวี่ หนิงเหมิงมองอย่างจดจ่อ เมื่อครู่ยังพูดคุยหัวเราะด้วยกัน แต่พอหลินสวินเตรียมจะไต่ขึ้นอันดับอย่างเอาจริง ในใจของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเล็กน้อยอันที่จริงสิ่งที่ป้ายหินทดสอบมิได้มีเพียงพละกำลังเท่านั้น ยังมีพรสวรรค์และพลังแฝง แต่เท่าที่พวกเขาทราบตั้งแต่กำเนิดหลินสวินประสบเหตุการณ์เลวร้าย ถูกพรากคุณลักษณะพรสวรรค์หายากอย่าง ‘หุบเหวกลืนกิน’ ไปนั่นหมายความว่าอย่างน้อยที่สุดสำหรับเรื่องพรสวรรค์ เกรงว่าหลินสวินจะเสียเปรียบอยู่มาก ไม่อาจเทียบกู้อวิ๋นถิงผู้มี ‘กายสุวรรณมรรคอัคคี’ ได้“ฮึ ดูทำท่าทำทางเข้า!”เห็นหลินสวินเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมา บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีต่างยิ้มเยาะ พวกเขาต่างรอดูความสนุกจากหลินสวินกันทั้งนั้นวู้ม!หลินสวินยื่นมือขวาออกมา สงบจิตใจประทับฝ่ามือลงบนพื้นผิวป้ายหินเพียงชั่วพริบตาเดียว พื้นผิวป้ายหินสีดำสนิทปรากฏแรงกระเพื่อมยากหยั่งถึงแลดูมหัศจรรย์ แสงสีทองส่องประกายลอยล่องราวกระแสน้ำขึ้นลงเห็นแสงแพรวพราวสุดพรรณนาพวยพุ่งออกมาจากใต้ป้ายหินอย่างไม่คาดฝัน พุ่งทะยานขึ้นมา เพียงพริบตาเดียวก็ไล่มาถึงสิบอันดับแรก“นี่มัน…”บรรดาศิษย์เหล่านั้นต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง ความเร็วในการเลื่อนระดับนี้เร็วเกินไปแล้วกระมังพวกสืออวี่ หนิงเหมิงเองก็อ้าปากค้าง ถึงแม้ไม่ใช่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ แต่แค่กระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณนี้ก็ไม่ธรรมดาเอาเรื่องผู้ที่สามารถจารึกชื่อไว้บนนั้นได้ มีเพียงศิษย์ชั้นยอดในสาขายุทธ์วิถี ทั้งยังมีเพียงร้อยตำแหน่งเท่านั้น!แต่ในชั่วพริบตาหลินสวินก็สามารถนำชื่อพุ่งพรวดไปถึงสิบอันดับแรกได้ เห็นได้ชัดถึงความแข็งแกร่งและน่าจับตามองอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ผู้คนตกตะลึง“ไม่ต้องกังวล สิบอันดับแรกมีขึ้นก็มีลง ที่สำคัญคือสามอันดับแรก ล้วนเหมือนภูเขาลูกใหญ่สูงชันสามลูก หากจะปีนป่ายขึ้นไปนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่นอน”ศิษย์คนหนึ่งวิเคราะห์อย่างใจเย็น “หลินสวินเคยทำให้หลันอวี่พ่ายแพ้ เขาทำได้ถึงขั้นนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา ต่อจากนี้ต้องดูว่าเขามีความสามารถพอที่จะขึ้นไปยังสามอันดับแรกหรือไม่!”เมื่อพูดเช่นนั้น ศิษย์คนอื่นๆ ต่างค้นพบว่าลำแสงที่แสดงถึงอันดับของหลินสวินนั้น หลังจากถึงสิบอันดับแรกแล้วความเร็วก็ช้าลงจริงอย่างที่คิดนั่นทำให้พวกเขาสงบใจลงเล็กน้อยอันดับเก้าอันดับแปดอันดับเจ็ด…ยิ่งอันดับหลินสวินสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกสืออวี่ หรือบรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีในที่นั้น ต่างจิตใจตื่นเต้นตามอันดับที่เปลี่ยนไปยิ่งเห็นว่าอันดับของหลินสวินเลื่อนเลยอันดับห้าไล่มาถึงอันดับสี่ ศิษย์ที่เข้าร่วมท้าพนันสีหน้าต่างถอดสีแต่พวกเขากลับไม่ท้อใจด้วยเรื่องแค่นี้และยอมแพ้แน่ เพราะความยากลำบากที่แท้จริงอยู่ที่สามอันดับแรก!สามอันดับแรกนั้น อันดับหนึ่งคือจ้าวจิ่งเหวิน อันดับสองคือจั่วอวี้จิง อันดับสามคือหญิงสาวผู้มีนามว่าอวี่หรูหั่วเดิมทีกู้อวิ๋นถิงอยู่ในอันดับสอง เพียงแต่ก่อนหน้านี้เขาพลิกฟ้าและอยู่เหนือผู้ใด กดอันดับหนึ่งอย่างจ้าวจิ่งเหวินลงได้ และพาตนเองขึ้นสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ ลำดับรายชื่อจึงยึดตามกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณที่หายไป ส่งผลให้ตำแหน่งรายชื่อที่อยู่รองลงมาอย่างจ้าวจิ่งเหวิน จั่วอวี้จิง อวี่หรูหั่วทั้งสามคนเลื่อนขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งแต่ถึงอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นจ้าวจิ่งเหวิน จั่วอวี้จิง หรืออวี่หรูหั่ว ต่างเรียกได้ว่าเป็นคนแถวหน้ารุ่นเยาว์แห่งสาขายุทธ์วิถีในขณะนี้เปรียบเสมือนผู้มีอิทธิพล มิใช่ใครก็สามารถมาสั่นคลอนได้โดยง่ายหลินสวินในตอนนี้มาถึงอันดับสี่ เขาจะมีพลังพอไต่ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งภายในครั้งเดียวได้หรือไม่?ทุกคนต่างจับตามองเพียงแต่ขณะนั้นกลับเกิดเหตุประหลาดอย่างคาดไม่ถึงบังเกิดเสียงธรรมดั่งเสียงจากสวรรค์กึกก้องกังวาน เก่าแก่เนิบช้า ราวก้าวผ่านสายธารแห่งกาลเวลา ขณะเดียวกันแสงวิเศษเจิดจ้าพุ่งตรงสู่ฟากฟ้า ป้ายหินโบราณส่งเสียงสะท้อน ทางเดินบุปผชาติร่วงหล่นดอกแล้วดอกเล่า แสงทองกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่น ปกคลุมทั้งป้ายหินและหลินสวิน รวมถึงฟ้าดินบริเวณนั้น!“นี่มัน…”พวกสืออวี่ หนิงเหมิงจ้องตาเขม็ง สั่นสะท้านทั้งกายและใจ ปรากฏการณ์ประหลาดนี้ครอบคลุมวงกว้างยิ่งกว่าที่กู้อวิ๋นถิงเคยทำเสียอีก ทั้งยังทางเดินบุปผชาติร่วงหล่น นั่นเป็นพลังพลังแห่งสัจจะโดยแท้!หรือว่าหลินสวินเองก็จะเปิดม่านสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในนั้น?“เป็นไปได้ยังไงกัน!”บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีเหล่านั้นตระหนกตกใจร้องเสียงหลง ถูกปรากฏการณ์ที่จู่ๆ ครอบคลุมกว้างใหญ่ไพศาลนี้ทำให้สั่นสะท้าน ภายในใจล้วนสั่นระริกกู้อวิ๋นถิงก่อนหน้านี้ก็เคยชักนำปรากฏการณ์ประหลาด หรือหลินสวินในตอนนี้จะตามไปด้วย เลื่อนขึ้นสู่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณ?แต่ในเวลาอันรวดเร็วก็มีคนสังเกตว่า ถึงแม้ปรากฏการณ์ประหลาดนั้นแผ่กว้างมหัศจรรย์ไร้ที่เปรียบ แต่พื้นผิวป้ายหินยังเป็นกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเหมือนเดิม และยังไม่ปรากฏกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณให้เห็น!สิ่งที่จุดประกายให้ศิษย์เหล่านั้นอย่างยิ่งยวดคือ อันดับของหลินสวินหลังจากมาถึงอันดับที่สี่กลับชะงักอยู่ตรงนั้น ไม่เพิ่มขึ้นอีก!“ฮ่าๆๆ ข้านึกว่าเกิดปาฏิหาริย์ขึ้นจริงเสียอีก ที่แท้เจ้าหลินสวินนี่ก็มีเพียงเท่านี้!”“ยังคิดเพ้อเจ้อหวังขึ้นเป็นอันดับหนึ่งอีกหรือ ฝันไปเถอะ!”“ชนะแล้ว ฮ่าๆๆ ชนะแล้ว สวรรค์มีตาจริงๆ”บรรดาศิษย์เหล่านั้นต่างอดไม่ได้ที่จะตะโกนดีใจลิงโลด แต่ละคนต่างรู้สึกยินดีปรีดาหลังตกอยู่ในความอึดอัดมานาน หยิ่งผยองระเริงตัว กระหยิ่มยิ้มย่องจนพูดไม่ออกพวกสืออวี่เองก็ตะลึงงัน ปรากฏการณ์ประหลาดยิ่งใหญ่มหัศจรรย์เช่นนั้น ทำไมถึงเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ได้?ตึง!เวลานี้เสียงธรรมดั่งเสียงจากสวรรค์ดังขึ้นอีกครั้ง บนป้ายหินโบราณนั้น แสงประกายสีทองกลายเป็นทางเดินบุปผชาติแห่งมหามรรค เบื้องบนทะยานขึ้นเก้าชั้นฟ้า เบื้องล่างโน้มจรดพื้นดิน ปกคลุมทั่วอาณาบริเวณด้วยประกายแพรวพราวศักดิ์สิทธิ์เหลือพรรณนา แม้ร่างของหลินสวินเองก็มองเห็นได้ไม่ชัดเจนทุกคนในที่นั้นต่างใจสั่นระรัว ปรากฏการณ์ประหลาดยังปรากฏขึ้นอีก หรือทั้งหมดนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น?แต่เมื่อเห็นว่าบนป้ายหินยังคงเป็นกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ อีกทั้งอันดับของหลินสวินก็ไม่ได้เปลี่ยนไป บรรดาศิษย์สาขายุทธ์วิถีเหล่านั้นต่างลอบถอนใจ สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยาะและได้ใจแต่สำหรับพวกสืออวี่กลับขมวดคิ้วมุ่น มีบางอย่างคาดเดาไม่ออก ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก แตกต่างจากปรากฏการณ์ประหลาดที่กู้อวิ๋นถิงก่อให้เกิดโดยสิ้นเชิง เรื่องนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่?ซ่าๆพวกเขาหาได้รู้ตัวไม่ ขณะที่เสียงธรรมดังกึกก้องกังวาน อาณาเขตอื่นๆ ในสำนักศึกษามฤคมรกต ปรากฏเจตจำนงอันน่าหวาดกลัวสายแล้วสายเล่า ปกคลุมไปทั่วในฉับพลัน“มีศิษย์จะเลื่อนขึ้นกระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณอีกแล้วงั้นรึ”“เด็กคนนี้เป็นใครกัน”“มองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก ร่างกายถูกพลังแห่งสัจจะมหามรรคแผ่คลุมอยู่ ไม่สามารถสัมผัสได้”“เหตุการณ์ดูเหมือนไม่ชอบมาพากล ทุกท่านลองไปดูหน่อยเถิด ปรากฏการณ์ประหลาดยิ่งใหญ่หาใดเปรียบเช่นนี้ แต่กระดานรวมมหาสมุทรวิญญาณกลับยังไม่ปรากฏ”“ก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้หรือ”“ดูเหมือนเคยมีมาก่อน แต่คลุมเครือเกินไป เรื่องก่อนหน้านี้ถูกคนปิดบังไว้ จัดการรายละเอียดทั้งหมด ทำให้ผู้คนไม่ทราบความเป็นจริง”เจตจำนงอันน่าหวาดกลัวเหล่านั้นยังคงหมุนวน ล้วนแล้วแต่น่าตกใจ ยากคาดเดาถึงความลี้ลับที่ซ่อนอยู่ภายในป้ายหินโบราณนี้มีที่มาน่าอัศจรรย์ สืบทอดมาจากดินแดนโบราณแห่งหนึ่งตั้งแต่สมัยโบราณกาล ต่อให้ถูกหลอมแล้วเคลื่อนย้ายมายังสำนักศึกษามฤคมรกตแห่งนี้กว่าหลายพันปี ก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถไขความลับที่ซ่อนอยู่ในป้ายหินทั้งหมดได้!………………………
คอมเม้นต์