Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 475 สาขายุทธ์วิถี
ถูกหลี่เซียวเฟยกระโชกโฮกฮากใส่ หลินสวินก็ไม่โกรธเลยสักนิด เพียงยิ้มน้อยๆ กล่าว “เจ้าหนุ่ม หน้าตาน่าเกลียดก็ต้องฝึกตนให้มาก มิเช่นนั้นจะยิ่งโดนดูหมิ่น ต่อไปหาเมียไม่ได้ นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก”หญิงสาวหลายคนส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่หลี่เซียวเฟยโกรธจนริมฝีปากสั่นระริก เขาสามารถเข้าสู่สำนักศึกษามฤคมรกตและถีบตัวเองเข้ามาอยู่ในสาขายุทธ์วิถี ก็เป็นการแสดงถึงความเก่งกาจอย่างหนึ่งแล้ว แต่จากคำพูดของหลินสวิน กลับถูกตราหน้าจนเหลืออด ช่างยั่วโทสะเหลือเกิน“ข้าจะดวลกับเจ้า!”หลี่เซียวเฟยตะเบ็งเสียง เบิกตาโพลง“พอแล้ว เจ้าถอยไปก่อน”เซวียอวิ้นมุ่นคิ้ว รู้สึกว่าหลี่เซียวเฟยไม่มีความอดทน“ข้า…”สีหน้าของหลี่เซียวเฟยอึมครึม สุดท้ายจ้องหลินสวินเขม็งโดยไม่พูดอะไรอีก“หลินสวินเจ้าตัดสินใจอย่างไร”เซวียอวิ้นนัยน์ตาเย็นชา รูปลักษณ์ของนางงดงามละเอียดลออ บุคลิกดั่งหิมะน้ำแข็ง ดูสูงส่งแต่กำเนิด เพียงแต่ดูเย่อหยิ่งเกินไปเสียหน่อยกลุ่มชายหญิงที่ตามเซวียอวิ้นมาต่างมองมาทางหลินสวิน“เจ้าก็เป็นเชื้อพระวงศ์หรือ”หลินสวินยังคงยิ้มถามเซวียอวิ้นมุ่นคิ้วทันที ความเหลืออดแวบผ่านเข้ามาในสายตา“หลินสวิน ตอนนั้นเจ้ากล้าบังคับให้หลิงเทียนโหวคุกเข่า ยามนี้จะขี้ขลาดเพียงนี้ได้อย่างไร หรือว่าเจ้ากลัวแล้ว”ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาเหน็บแนมอย่างดูถูก เขามีนามว่าสืออวิ๋นเผิง เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งในสาขายุทธ์วิถี และเป็นผู้ที่มีความสามารถโดดเด่นในหมู่คนรุ่นเยาว์“รอให้เจ้าสามารถบังคับให้หลิงเทียนโหวคุกเข่าได้เมื่อไหร่ ค่อยมาถามข้าว่ากลัวหรือไม่”หลินสวินเหลือบมองสืออวิ๋นเผิงปราดหนึ่ง ความหมายของสิ่งที่พูดก็คือ เจ้ายังไม่มีสิทธิ์มาพูดจาเช่นนี้กับข้า“เจ้า…”สืออวิ๋นเผิงเองก็ถูกยั่วยุ หลินสวินอวดดีเกินไปแล้ว กล้าดูถูกเขาเชียว ต้องรู้ว่าเขาสืออวิ๋นเผิงก็นับว่าเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในสาขายุทธ์วิถี เคยโดนใครพูดฉีกหน้าเช่นนี้เมื่อไหร่กัน“หลินสวิน ลืมบอกเจ้าไป หลินเสวี่ยเฟิงเป็นญาติผู้พี่ของเจ้าสินะ ปัจจุบันเขาเป็นเหมือนหนูข้างถนนตัวหนึ่งในสาขามังกรเร้น มีแต่คนรังเกียจ”เวลานี้ชายหนุ่มอีกคนก้าวไปข้างหน้าพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ เอ่ยพูดอย่างสบายๆ “อ้อ จริงสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนเขายังมาท้าประลองกับข้า ผลลัพธ์เจ้าก็คงรู้ เขาอ่อนแอเกินไป ข้าไม่ทันระวังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เหมือนว่าตอนนี้ก็ยังพักฟื้นอยู่”หลินเสวี่ยเฟิง!หลินสวินหรี่ตาเล็กน้อย ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาแตกต่างไปจากเดิมบ้าง หลินเสวี่ยเฟิงเป็นผู้สืบทอดของตระกูลหลินแห่งแสงอุดร ยิ่งไปกว่านั้นคือเป็นญาติผู้พี่คนแรกที่ ‘สวามิภักดิ์’ ต่อหลินสวินเพียงแต่หลินสวินไม่เคยคิดว่าหลินเสวี่ยเฟิงจะได้รับผลกระทบเพราะเรื่องของเขา และถูกรังแกในสำนักศึกษามฤคมรกต!สิ่งนี้แตะโดนขีดจำกัดแห่งโทสะของหลินสวินอย่างไม่ต้องสงสัย“เจ้าชื่ออะไร”หลินสวินมองชายหนุ่มคนนั้น นัยน์ตาดำเย็นชา“จินจู๋หลิว”ชายหนุ่มยังคงยิ้มน้อยๆ หว่างคิ้วเปี่ยมไปด้วยความเย่อหยิ่งทันใดนั้นพวกหลิวฮุย หยางจิ้งเหยาต่างกระสับกระส่าย สีหน้าเผยความแปลกใจ เป็นเขาเองหรือ!จินจู๋หลิว อัจฉริยะผู้ครองอันดับเก้าแห่งกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ ชื่อเสียงสะเทือนสาขายุทธ์วิถี โดดเด่นอย่างมาก มีผลงานการต่อสู้อันรุ่งโรจน์มากมายที่ผู้คนพูดถึงอย่างสนุกสนานเรียกได้ว่าชื่อเสียงของจินจู๋หลิวคนนี้โด่งดังกว่าเซวียอวิ้นและสืออวิ๋นเผิงด้วยซ้ำ“หลินสวิน ข้าถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าตัดสินใจอย่างไร”เซวียอวิ้นสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดเสียงเย็น ความอดทนของนางกำลังจะหมดลงแล้วยามนี้สายตาของหลินสวินกวาดมองพวกเซวียอวิ้น สืออวิ๋นเผิง จินจู๋หลิว หลี่เซียวเฟยทีละคน สุดท้ายเขายิ้มอย่างร่าเริงกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าหากวันนี้ข้าไม่ยินยอม พวกเจ้าก็จะไม่หยุดสินะ”ทุกคนเงียบ และนี่ก็เป็นการยอมรับแล้ว“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าอยากรู้นักว่าพวกเจ้าจะแก้แค้นแทนหลินเทียนโหวอย่างไร”หลินสวินถาม“ไม่ใช่แก้แค้นแทนหลิงเทียนโหว แต่ล้างความอับอายให้ราชวงศ์ ให้เจ้าชดใช้ความผิดที่เคยกระทำไว้!”สืออวิ๋นเผิงพูดเสียงเย็น“ประลองเป็นอย่างไร”หลินสวินพูด“ไม่เลว”สืออวิ๋นเผิงพยักหน้า“ได้!”เหนือความคาดหมายของทุกคน เมื่อหลินสวินรับปากอย่างเด็ดเดี่ยว ทำให้พวกของเซวียอวิ้นยังแปลกใจส่วนพวกเจ้าอ้วนหลิวฮุยและหยางจิ้งเหยาต่างเผยความกังวล พากันห้ามปราม“อาจารย์เสี่ยวหลิน ห้ามไปบาดหมางกับพวกเขาเชียวนะ พวกเขากล้าพูดเช่นนี้ คงคิดวิธีเล่นงานท่านไว้แล้วแน่”“ใช่แล้ว ขอเพียงท่านอยู่ที่สาขาสลักวิญญาณก็จะไม่มีใครกล้าทำอะไรท่าน”ลูกศิษย์เหล่านี้ต่างหวังดี เพียงแต่หลินสวินกลับส่ายหน้า ให้พวกเขาไม่ต้องพูดมากไปกว่านี้“ไปเถอะ”หลินสวินมองเซวียอวิ้นแวบหนึ่ง แล้วเอามือไพล่หลังเดินออกไป“เจ้าหมอนี่แม้จะร่ำไรไปบ้าง…แต่ก็ไม่ได้ขี้ขลาด”หลี่เซียวเฟยพึมพำ“หึ แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ ไปรายงานพวกศิษย์พี่จ้าวจิ่งเหวิน ศิษย์พี่จั่วอวี้จิง แจ้งว่าหลินสวินถูกพวกเราบังคับออกมาแล้ว!”สืออวิ๋นเผิงสั่งเสียงเย็นส่วนพวกของเซวียอวิ้นต่างก้าวเท้าตามหลินสวินไป ท่าทางแบบนั้นเหมือนควบคุมตัวนักโทษไม่มีผิด“พวกเราก็ไปด้วย! หากพวกเจ้ากล้าทำให้อาจารย์เสี่ยวหลินลำบากใจ พวกเราไม่ยอมเด็ดขาด!”เจ้าอ้วนคำรามด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม“ใช่ ไปด้วยกัน!”ทันใดนั้นลูกศิษย์ระดับ ค. ห้องเก้าก็เคลื่อนทัพมาด้วยกัน……สาขายุทธ์วิถีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ตั้งตระหง่านเรียงรายอยู่ทั่ว“อะไรนะ หลินสวินกล้ามางั้นหรือ”“ไป ไปดูกัน”“ฮ่าๆ คราวนี้มีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว”วันนี้ถูกลิขิตให้ไม่สงบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในสาขายุทธ์วิถี เมื่อรู้ว่าหลินสวินมาเยือนตามคำเชิญ ก็เกิดความฮือฮาอย่างใหญ่หลวงทันทีตอนที่หลินสวินเพิ่งเดินเข้าสาขายุทธ์วิถีก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งขวางเอาไว้“เจ้าคือหลินสวินหรือ เลิกหัวหดเป็นเต่าแล้วหรือ” คนเหล่านั้นหัวเราะเยาะหลินสวินก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ได้สนใจพวกเขา เขารู้สึกประหลาดใจมากกว่า ว่าการที่เขาล่วงเกินราชวงศ์เกี่ยวอะไรกับลูกศิษย์เหล่านี้หรือว่าเบื้องหลังเรื่องนี้ยังมีคนแอบยุยง หมายจะใช้พลังของลูกศิษย์เหล่านี้ทำให้ตนอับอาย?“หึ มาถึงขนาดนี้แล้วยังจะกล้าจองหองพองขน ช่างไม่รู้ที่ตาย จะบอกให้นะ วันนี้เจ้ากล้าก้าวเข้ามาในสาขายุทธ์วิถี ก็ต้องชดใช้ให้กับความผิดที่เจ้ากระทำเอาไว้!”คนเหล่านั้นขึ้งโกรธหลินสวินยังคงไม่สนใจ เดินตามพวกเซวียอวิ้นไปข้างหน้าเพียงแต่ระหว่างทางมีเงาร่างปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาล้วนเป็นศิษย์สาขายุทธ์วิถี มีทั้งชายและหญิง แต่ละคนเป็นถึงบุคคลชั้นยอดแห่งระดับมหาสมุทรวิญญาณเพียงแต่ท่าทีที่พวกเขามีต่อหลินสวินกลับแย่มาก วิพากษ์วิจารณ์หลินสวินเสียๆ หายๆ และถากถางให้อับอายมาตลอดทางนี่ทำให้หลินสวินยิ่งมั่นใจว่า เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องมีคนจงใจตั้งเป้าโจมตีตนแน่!จะเป็นใครกันตระกูลจั่ว ตระกูลฉิน หรือจะเป็นเชื้อพระวงศ์?“หลินสวิน ข้าพูดกับเจ้าอยู่ ได้ยินหรือไม่!?”ระหว่างทางชายหนุ่มผมขาวคนหนึ่งตะเบ็งเสียง สายตาดุร้ายเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน หลินสวินไม่สนใจเขาเสียที ทำให้เขารู้สึกขุ่นเคืองหลินสวินเหลือบมองเซวียอวิ้นพร้อมกล่าว “เจ้าผมขาวคนนี้เป็นใครกัน จู้จี้จุกจิกเหลือเกิน หรือจะชราก่อนวัยอันควร ปากถึงได้สั่นแบบนี้”บริเวณนั้นพลันเงียบลงทันที ทุกคนต่างอึ้งงัน รวมทั้งพวกเซวียอวิ้น จินจู๋หลิวและสืออวิ๋นเผิงต่างก็พูดไม่ออกจวบจนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง จุดที่ห่างออกไปมีคนหัวเราะลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่ “ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม เจ้าหมอนี่กล้าเรียกหลันอวี่ว่าผมขาว ทั้งยังบอกว่าเขาชราก่อนวัยอันควร ฮ่าๆ”สีหน้าของทุกคนที่อยู่บริเวณโดยรอบต่างแปลกประหลาด แต่ก็ไม่กล้าหัวเราะหลันอวี่เป็นถึงคนแกร่งที่อยู่อันดับห้าในกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณเชียวนะ!บรรพบุรุษของหลันอวี่มีความเกี่ยวดองกับเชื้อพระวงศ์ ถือว่าเป็นเชื้อพระวงศ์ครึ่งหนึ่ง เขามีความสามารถโดดเด่น นิสัยดุดัน ในสาขายุทธ์วิถีไม่ค่อยมีใครกล้าล่วงเกินเขาแง่หนึ่งเพราะฐานะของเขาพิเศษ อีกแง่หนึ่งเพราะความสามารถของหลันอวี่วิปริตมากจริงๆ ในสาขายุทธ์วิถีที่เป็นศูนย์รวมอัจฉริยะ หลัวอวี่ก็นับว่าอยู่ในระดับชั้นยอดเช่นกันผมขาว?หลันอวี่โกรธจนจมูกแทบคด บนโลกนี้ใครกล้าเรียกเขาเช่นนี้บ้างในขณะเดียวกันสิ่งที่ยั่วโทสะที่สุดคือคำพูดเสียดสีที่ว่า ‘ชราก่อนวัยอันควร’ นี่มันเหี้ยมโหดเกินไปแล้ว เขาเป็นถึงผู้กล้าผ่าเผย อยู่ในช่วงวัยที่กำลังรุ่งโรจน์ อนาคตไร้ขีดจำกัด กลับมีคนกล้าเย้ยหยันเขาเช่นนี้ รนหาที่ตายชัดๆ!“หลินสวิน ดูเหมือนเจ้าไม่อยากอยู่แล้วจริงๆ”หลันอวี่สีหน้าอึมครึม ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ผมขาว กลับไปดูแลร่างกายให้มาก ไม่แน่อาจมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นบ้าง อายุยังน้อยกลับชราก่อนวัยอันควร เฮ้อ น่าสงสารจริงๆ”หลินสวินกลับถอนหายใจ ส่ายหน้าแล้วเดินต่อเพลิงโทสะลุกโชนในใจหลัวอวี่ เขาโกรธจนสุดจะทนแล้วจริงๆ ท่าทางที่ถอนหายใจอย่างเวทนาของหลินสวินบวกกับคำพูดอันโหดร้ายนั่น ทำให้หลันอวี่หมดความอดทน น่าชิงชังเกินไปแล้ว“เจ้ารนหาที่ตายหรือ”หลันอวี่เผยรังสีสังหารหลินสวินเหลือบมองเขาด้วยสายตาที่ยังคงเวทนา“คุณชายหลันอวี่ อย่าไปถือสาเขา เดี๋ยวถึงลานแสดงยุทธ์ยังมีโอกาสจัดการเขาอีกมาก!”ข้างๆ สีหน้าของหลี่เซียวเฟยเผยความประจบสอพลอ“หึ!”สายตาของหลันอวี่จ้องหลินสวินอย่างเย็นเยียบ “กล้าประลองกับข้าที่ลานแสดงยุทธ์หรือไม่”ลานแสดงยุทธ์หรือหัวใจของหลินสวินวูบไหว ตระหนักได้ว่า ดูเหมือนคนที่จะหาเรื่องเขาวันนี้ เขาคงจะต้องจัดการที่ ‘ลานแสดงยุทธ์’ ทั้งหมด“ได้ แต่เจ้าต้องรอก่อน”หลินสวินยิ้มพูด“ยังต้องรออีก? หรือเจ้ากลัว”หลันอวี่เย้ยหยัน“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ความหมายของข้าคือคนที่อยากแลกเปลี่ยนความรู้กับข้ามีเยอะมาก เจ้าก็เข้าแถวรอสักหน่อย รอให้ข้าจัดการพวกเขาก่อน แล้วค่อยเล่นเป็นเพื่อนเจ้าก็ได้”หลินสวินพูดเบาๆ ทำให้หลันอวี่สั่นเทิ้มไปทั้งกาย หมอนี่อวดดีเกินไปแล้ว กล้าดูถูกเขาถึงเพียงนี้!แม้แต่สีหน้าของพวกเซวียอวิ้น จินจู๋หลิว สืออวิ๋นเผิงก็ดูแย่ไปบ้าง เห็นได้ชัดว่าคำพูดนี้ของหลินสวินหมายความว่า เขาสามารถกวาดล้างพวกเขาทุกคนได้ด้วยตัวคนเดียว!“แน่นอน” จู่ๆ หลินสวินก็พูดขึ้นอีกว่า “ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีสิทธิ์มาท้าประลองกับข้าได้ตามใจชอบ คนที่อยากดวลกับข้า อย่างน้อยก็ต้องนำของเดิมพันออกมาสักหน่อย”ของเดิมพันหรือหลายคนในบริเวณนั้นอึ้ง หมอนี่มาถึงสาขายุทธ์วิถีแล้ว ไม่เพียงไม่ก้มหัว แต่ยังคิดจะเอาของเดิมพันด้วยหรือนี่มัน…กำเริบเกินไปแล้วกระมัง!หลันอวี่เองก็ตะลึง ครู่ใหญ่จึงกล่าวว่า “เจ้าอยากเดิมพันด้วยสิ่งใด”หลินสวินระบายยิ้ม “คะแนนสะสมของสำนัก ใครอยากท้าประลองกับข้า ก็ต้องเอาคะแนนสะสมทั้งหมดมาเดิมพัน และอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งพัน”เอาหนึ่งพันคะแนนมาเป็นของเดิมพัน?ทุกคนต่างพูดไม่ออก หมอนี่เห็นคะแนนสะสมเป็นอะไร หนึ่งพันคะแนนเชียวนะ มูลค่านั้นมากกว่าสิบล้านเหรียญทองเสียอีก!“ทำไมเจ้าไม่ตายไปซะ!”หลัวอวี่โกรธจนสุดจะทน รู้สึกว่าหลินสวินจงใจหาเรื่อง คะแนนสะสมหนึ่งพันแต้ม ด้วยฐานะและความสามารถของเขาในตอนนี้ ยังต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะสะสมมาได้!…………………
คอมเม้นต์