Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 465 สังหารในหมัดเดียว
ตูม!เพียงแค่พลังเท่านั้น กลับหนักแน่นราวกระแสน้ำเชี่ยวกราก บีบอัดชายหนุ่มชุดแพรผู้นั้นอย่างโหดเหี้ยม“ข้าจะฉีกเจ้าเป็นชิ้นๆ!”ชายหนุ่มชุดแพรร้องเสียงแหลม สองมือกุมประกบสำแดงวิชาลับ โคจรพลังทั้งร่างเพื่อต้านทานทว่าสายไปเสียแล้ว พลังนั้นดูเหมือนไร้รูปร่างแต่กลับสามารถสะเทือนภูผา กดทับเหนือร่างของเขาจนสิ้นทันใดนั้นชายหนุ่มชุดแพรราวถูกค้อนยักษ์อันหนึ่งกระแทกร่างเข้าอย่างแรง เขาร้องโหยหวนและถูกกำราบลงกับพื้นอีกครั้งปัง!บนพื้นกระแทกเป็นหลุมราวภูเขาทลาย ส่วนร่างชายหนุ่มชุดแพรก็เกร็งกระตุก กระดูกทั้งร่างหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างต่อเนื่อง กระอักเลือดออกมาทางปากและจมูก น่าอดสูหาใดเปรียบ“รนหาที่ตาย”“ถึงกับกล้าแผลงฤทธิ์ขนาดนี้ ไม่อยากอยู่แล้วล่ะสิ!”เหล่าผู้ฝึกปราณที่อยู่ใกล้เคียงล้วนเดือดดาล ตะคอกเสียงแข็งช่วงนี้พวกเขาใช้อำนาจบาตรใหญ่จนเคยตัว จึงไม่อาจเชื่อได้เลยว่าเด็กหนุ่มที่เดินออกมาจากภูเขาชำระจิตคนเดียว กลับกล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้ทว่าพวกเขาก็ฉลาด ดูออกว่าพลังปราณของหลินสวินน่ากลัวยิ่งนัก เห็นชัดว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณผู้หนึ่ง เพียงอาศัยพลังปราณก็สามารถกดดันจนชายหนุ่มชุดแพรผู้นั้นไร้เรี่ยวแรงต่อต้านได้ นี่ย่อมไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทำได้ด้วยเหตุนี้แม้จะขัดเคือง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม“ไอ้หนู นี่เจ้ากำลังชักนำเภทภัยมาให้ภูเขาชำระจิตของพวกเจ้านะ! วันนี้ถ้าเจ้าไม่พูดให้ชัด พวกเจ้าทุกคนในภูเขาชำระจิตต้องรับเคราะห์ไปตามๆ กัน!”มีคนด่าทอเสียงดัง“ไร้สาระ!”แววตาหลินสวินเย็นเยียบราวสายฟ้า เมื่อเอ่ยปากก็ตวัดมือไปในอากาศดังโครม แสงเทพสีฟ้าอ่อนโชติช่วง ปะทุออกกลายเป็นมือใหญ่มือหนึ่งกำราบโจมตีคนผู้นั้นถูกตบลงไปกับพื้นราวแมลงวันเสียงดังตุ้บ น้ำลายฟูมปาก ดวงตาเหลือกและหมดสติไปทั้งอย่างนั้นผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ตื่นตะลึงในทันใด เจ้าเด็กนี่จะโหดเหี้ยมไปแล้ว จองหองไม่เกรงกลัวใคร ไร้ซึ่งความกังวลแม้แต่น้อย ทั้งความสามารถในการต่อสู้ก็น่ากลัวถึงที่สุด“เจ้า…เจ้ารู้ไหมว่าทำอะไรอยู่”มีคนทำหน้าดุดันข่มขู่ลงท้าย เมื่อสายตาหลินสวินมองมาทั้งกายเขาก็สั่นเทิ้ม ตกใจจนใบหน้าซีดขาว ถอยออกไปหลายก้าวเสียงดังตึงๆๆในดวงตาสีดำของหลินสวินพลันฉายแววดูถูก แต่ไฟโทสะในใจกลับยิ่งลุกโชน กลุ่มคนพรรค์นี้กล้าใช้อำนาจบาตรใหญ่ขวางหน้าภูเขาชำระจิตหรือ“เลิกแผลงฤทธิ์เสีย เจ้ารู้ไหมว่าทำเช่นนี้จะต้องจ่ายค่าตอบแทนเพียงไหน”“เจ้าหนุ่ม ข้าขอเตือนว่าเจ้าอย่าทำอะไรตามอารมณ์ หาไม่เมื่อเภทภัยที่แท้จริงมาถึงตัว เจ้าต้องได้รับเคราะห์แน่!”ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นไม่พอใจอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่กล้าประลองกับหลินสวินซึ่งหน้า ดังนั้นจึงพากันโวยวายขึ้นมา มีแต่ใช้วาจาข่มขู่ให้กลัว“เหอะๆ ดูท่าพวกเจ้าคงได้ยินคำที่ข้าเพิ่งพูดเมื่อกี้ไม่ชัด ก็ดี ข้าจะฟื้นความทรงจำให้พวกเจ้าเอง!”ท่ามกลางรอยยิ้มสดใส เงาร่างของหลินสวินพลันหายไปจากที่เดิมแย่ล่ะ!ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นพลันหน้าเสีย รับรู้ได้ถึงอันตราย ยกเท้าขึ้นจะเผ่นหนีแต่เห็นได้ชัดว่าช้าไปก้าวหนึ่ง แสงสีฟ้าอ่อนส่องประกายแทรกทะลุออกมา ไหววูบด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึงราววิญญาณร้ายนั่นคือก้าวย่างชือน้ำแข็ง!หลินสวินที่เดือดดาลเต็มทีจะยังเกรงใจอยู่ได้อย่างไร จากนั้นก็เห็นว่าเงาร่างของเขาพุ่งขวาง ฝ่ามือราวโบยบิน โจมตีไปเพียงครั้วเดียวกลับทำลายทุกอย่างให้เป็นซาก ทรงพลังเกินต้านทาน!ปังๆๆ!ก็เห็นว่าทุกคนถูกโจมตีราบคาบ ผู้ฝึกปราณแต่ละคนร้องโหยหวน ถูกกำราบกดลงกับพื้นราวของไร้ประโยชน์บางคนหมายจะโต้กลับ มือถืออาวุธวิญญาณสำแดงพลังข่มขู่ กลับถูกหลินสวินตบอาวุธวิญญาณจนสลายในฉาดเดียว ส่วนตัวคนล้วนถูกกระแทกกระเด็นออกไปเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น บริเวณนั้นก็เต็มไปด้วยผู้ฝึกปราณล้มเกลื่อนระเนระนาด โอดครวญกระจองอแงและตั้งแต่เริ่มจนจบ หลินสวินไม่ได้ออมมือแต่อย่างใด เขาโมโหเข้าแล้วจริงๆ สวะกลุ่มนี้อย่าว่าแต่สู้กับเขาในตอนนี้เลย ต่อให้เปลี่ยนเป็นเขาตอนก่อนปิดด่านเก็บตัวก็สามารถกำราบได้โดยง่ายทว่าพวกเขากลับกล้าแห่มาเหิมเกริมถึงหน้าภูเขาชำระจิต นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจยอมทนได้แม้เขารู้ดีว่าผู้ฝึกปราณเหล่านี้มีคนใหญ่คนโตสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นเพียงพวกปลาซิวปลาสร้อย แต่หลินสวินก็ไม่คิดจะปล่อยไว้“หยุดนะ!”เสียงหวานตวาดขึ้นจากที่ไกลออกไป เป็นหลินจือกระโจนตัวออกมา ใบหน้านางไม่มีความโกรธเคือง กลับมีแต่ความได้ใจก่อนหน้านี้หลังจากโจมตีหลินอวิ๋นเหวินจนได้รับบาดเจ็บสาหัส นางก็เดาได้ว่าจะต้องทำให้เจ้าคนบนภูเขาชำระจิตพวกนั้นทนไม่ได้และภาพในตอนนี้ก็ยืนยันการคาดเดาของนาง อีกทั้งยังพิสูจน์ว่านางทำถูกแล้ว อีกฝ่ายทนไม่ได้อย่างที่คิด!“พี่หลินจือ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว!”“เร็วเข้า ฆ่าไอ้เศษสวะนี่ซะ มันจะกำเริบเสิบสานมากไปแล้ว ถึงกับกล้าโจมตี ไม่เห็นพวกข้าอยู่ในสายตา”เมื่อเห็นว่าหลินจือมาถึง ผู้ฝึกปราณที่ยังไม่ล้มลงไปเหล่านั้นก็ร้องเสียงดัง สีหน้าตื่นเต้น เหมือนหาที่พึ่งพบอย่างไรอย่างนั้นแต่หลินสวินกลับเหมือนไม่ได้สังเกต เงาร่างราวชือน้ำแข็งแผ่พุ่งทะยานออก ได้ยินเสียงตุ้บระลอกหนึ่งดังสับสน เหล่าผู้ฝึกปราณทั้งหมดถูกกำราบลงกับพื้น บ้างกระอักเลือดออกมาทางปากและจมูก บ้างกระดูกและกล้ามเนื้อแตกหัก บ้างเกร็งกระตุกร้องโอดโอย บ้างก็หมดสติไปเลย“รนหาที่ตาย!”เห็นว่าการมาของตน ไม่เพียงไม่ทำให้เด็กหนุ่มผู้นั้นระงับอารมณ์ กลับยิ่งหนักข้อเข้าไปอีก กระทำการอุกอาจต่อหน้า หลินจือพลันสีหน้านิ่งขึงแล้วก็ในเวลานี้เองหลินสวินถึงได้ชายตามองมา ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นล้วนถูกกำราบจนสิ้น เขาย่อมต้องหาเป้าหมายใหม่“เจ้า…คือหลินสวินหรือ”ทันใดนั้นหลินจือเหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง นัยน์ตาหดเกร็งเล็กน้อย ในใจกลับลิงโลดไม่หยุด ในที่สุดเจ้านี่ก็ถูกบีบจนปรากฏตัวแล้ว!ที่พวกเขาขวางอยู่ตรงนี้ เป้าหมายก็เพื่อจับกุมและสังหารหลินสวิน!“อะไรนะ เจ้านี่ก็คือไอ้เศษสวะหลินสวินผู้นั้นหรือ”“เร็วเจ้า ฆ่ามัน! ฆ่ามันก็จะชิงภูเขาชำระจิตกลับมาได้แล้ว”เวลานี้ผู้ฝึกปราณที่ถูกกำราบกับพื้นเหล่านั้นในที่สุดก็ได้สติกลับมาแล้ว ตะโกนโวยวายเสียงดังขึ้นมาตู้ม!หลินสวินยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้นไม่ไหวติง ทว่าทั้งร่างกลับท่วมท้นไปด้วยพลังน่าหวาดหวั่น ปกคลุมอาณาเขตบริเวณนั้น ทำให้ผู้ฝึกปราณที่ร้องเสียงดังเหล่านั้นพากันสั่นสะท้านจนหมดสติไปสถานการณ์พลันเงียบสงบลงไปมาก“หลินอวิ๋นเหวินถูกเจ้าทำร้ายบาดเจ็บหรือ”สายตาหลินสวินมองไปยังหลินจือที่อยู่ไกลออกไป สตรีนางนี้เพิ่งอายุสิบกว่าปี คางแหลมเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ดูอวดดีนัก ขณะเดียวกันก็ดูหยิ่งผยอง เห็นชัดว่าเป็นนายที่วางโตผู้หนึ่ง“ถูกต้อง”หลินจือยิ้มบางๆ พูดอย่างสบายใจว่า “เขาสู้ไม่ได้ยังกล้าเอ่ยปากต่อต้านข้า ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงให้เขาลิ้มรสความลำบากนิดหน่อย”“ความลำบากนิดหน่อยหรือ”ดวงตาสีดำของหลินสวินเย็นเยียบราวน้ำแข็ง พลังปราณของหลินอวิ๋นเหวินแทบถูกทำลาย ต่อให้ฟื้นฟูได้ก็ต้องเสียเวลาไปหลายปี สำหรับเด็กหนุ่มผู้หนึ่งแล้วเป็นการโจมตีที่สาหัสนัก!แต่ในสายตาของหญิงผู้นี้ นี่กลายเป็น ‘ความลำบากนิดหน่อย’!“เหอะๆ มามีเรื่องกับข้า ไม่ฆ่าเขาก็ถือว่าเมตตาแล้วนะ ควรให้ตกใจมากขนาดนี้หรือ”หลินจือยิ้มบางๆ “หลินสวิน ในเมื่อเจ้าปรากฏตัวแล้ว เช่นนั้นก็ดียิ่ง พูดมาเถอะว่าตัวเจ้าจะมัดมือจับตนเอง หรือจะให้พวกเราลงมือ”ยังมีกลุ่มชายหญิงติดตามอยู่ข้างกายนาง มีทั้งบริวาร และลูกหลานในตระกูลรองจากธารประจิม คานเมฆา และยอดวายุรอยยิ้มบนในหน้าหลินสวินหุบลง ดวงตาสีดำมองหลินจืออย่างสงบนิ่ง “เจ้าก็เป็นคนตระกูลหลินหรือ”“ใช่ แต่พวกเราไม่ใช่ลูกหลาน ‘ตระกูลหลิน’ ที่เจ้าอยู่!”หลินจือแก้ให้ถูกต้องอย่างจริงจัง สีหน้าปรากฏความทระนง “เจ้ากับตระกูลหลินแห่งแสงอุดร ล้วนถูกมองว่าเป็นผู้ทรยศ ไม่คู่ควรใช้แซ่หลินอีก!”“ผู้ทรยศ…”หลินสวินเพียงรู้สึกว่าจิตสังหารในใจตนแทบระงับไว้ไม่อยู่ ตระกูลหลินของตนเป็นผู้สืบทอดสายตรง ควบคุมภูเขาชำระจิต ในใจมีแต่ต้องการจะฟื้นคืนความรุ่งเรืองในวันวานของตระกูล แต่ตอนนี้กลับถูกลูกหลานสายรองเหล่านี้มองว่าเป็นผู้ทรยศ!หนำซ้ำยังไม่คู่ควรใช้แซ่หลิน!“อัปยศเสียจริงนะ…”หลินสวินพึมพำ ในดวงตาดำบังเกิดเหวน้ำลึกสองแห่งรางๆ กลิ่นอายพายุโหมคลั่งเขาเดือดดาลถึงที่สุดแล้ว!หลินจือรับรู้ได้อย่างแจ่มชัดว่ากลิ่นอายของหลินสวินดูไม่ชอบมาพากล อดไม่ได้ต้องถอยหลังไปสองก้าว แล้วสั่งว่า “ลุงหงคุน ท่านไปจับกุมเจ้าเด็กนี่!”ยามเอ่ยปาก นางถอยหลังไปอีกครั้ง แม้นางจะอวดดีแต่ก็ไม่รู้ว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินจะน่ากลัวปานไหน นี่เป็นผู้กล้าหนุ่มน้อยที่เคยเอาชนะฮวาอู๋โยว ฉือฉางเฟิง และบีบให้หลิงเทียนโหวคุกเข่าเชียวนะ!นางย่อมไม่โง่เขลาจนลงมือเอง“ให้ข้าจัดการเอง”ชายวัยกลางคนร่างสูงบึกบึนผู้หนึ่งก้าวออกมา สีหน้าเยียบเย็นดุดัน ในตระกูลหลินแห่งธารประจิมก็เป็นหัวหน้าผู้ดูแลต่างสกุลที่เก่งกาจมากผู้หนึ่งเขาพุ่งไปอย่างไม่ลังเล จากนั้นระเบิดเสียงคำรามราวเสียงอสนีบาต ยกมือซึ่งถือดาบใหญ่เล่มหนึ่งฟันโจมตีออกไปน้ำเสียงท่าทางเกรียงไกร สะท้านลมฟ้าหลินสวินยืนตระหง่านไม่เคลื่อนไหว มองดูทุกสิ่งอย่างนิ่งเฉย กระทั่งคมดาบฟันลงมาก็ไม่เห็นเขาเคลื่อนไหว เพียงยื่นมือออกมาจับดาบเล่มนั้น!หืม?นัยน์ตาหงคุนหรี่ลง ไม่กล้าเชื่อว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ถึงกับกล้าใช้มือเดียวมาสกัดกั้นการโจมตีของเขา จะกำเริบเสิบสานไปแล้ว!“ตาย!”เขาตะคอกเสียงดัง สำแดงพลังทั้งหมด แสงสว่างพุ่งออกมาจากคมดาบ พุ่งโจมตีอย่างโหดเหี้ยม หมายจะปลิดชีพหลินสวินให้ตายคาที่ในการโจมตีเดียวเคร้ง!ได้ยินเสียงแตกหักเสียดหูดังขึ้น ดาบใหญ่ที่เป็นอาวุธวิญญาณระดับปฐพีเล่มนั้นกลับถูกทำให้แหลกสลายอย่างเหี้ยมเกรียมในเวลาเดียวพลังน่าหวาดหวั่นก็โจมตีสวนกลับไป ราวมหาสมุทรไพศาลพุ่งโจมตีเก้าชั้นฟ้า ตบใส่หงคุณผู้นั้นอย่างโหดเหี้ยมตูม!ร่างหงคุนสั่นเทิ้มราวถูกสายฟ้าฟาด กระอักเลือดทั้งปากและจมูกเขาคล้ายไม่อาจทำใจเชื่อได้ สีหน้าเหยเกบูดเขียว คำรามเสียงดังขึ้นอีกครั้งแล้วพุ่งเข้าประจัญบาน พลังทั้งร่างโคจรถึงขีดสุด สำแดงอานุภาพดุจขุนเขาใหญ่ก็เห็นว่าร่างของหลินสวินไม่เคลื่อนไหวแม้สักนิด มือกำหมัด พลังหมัดแวววาวบดขยี้ห้วงอากาศ ปะทะกับหงคุนผู้นั้นอย่างจังโครม!หลังจากเสียงสะท้อนโครมใหญ่ที่สะท้านฟ้าดิน หงคุนร้องโหยหวนราวสัตว์ป่าหวีดคำราม ร่างกายครึ่งหนึ่งระเบิดออก เลือดสดๆ พุ่งกระเซ็นย้อมให้เป็นสีแดงฉานตุ้บ! ยามร่วงลงพื้นดวงตาเขาก็เหลือกขึ้น ตายคาที่ไปทั้งอย่างนั้น! บาดแผลรุนแรงเกินไป หมัดนี้ทำให้อวัยวะตันห้ากลวงหกของเขาล้วนสลายกลายเป็นจุณ!ทั้งที่นั้นสูดหายใจเยียบเย็น พวกหลินจือพากันสีหน้าเปลี่ยน หงคุนเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสมบูรณ์ผู้หนึ่ง ถือเป็นผู้แข็งแกร่งในรุ่นอาวุโสแต่ตอนนี้ เพียงชั่วพริบตาเขาก็ถูกปลิดชีพคาที่!แม้พวกเขาหลายคนจะรู้นานแล้ว ว่าหลินสวินเคยกระทำการอุกอาจใหญ่โตที่งานเลี้ยงฉลองพระชนมพรรษาจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน เอาชนะฉือฉางเฟิงและหลิงเทียนโหวติดต่อกันแต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า พบหน้ากันครั้งแรก ผู้มีพลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณรุ่นอาวุโสผู้หนึ่งจะถูกสังหารเหมือนเศษกระดาษเช่นนี้เสียแล้ว!นี่มันน่ากลัวไปแล้ว!เวลานี้สายตาที่ทุกคนมองไปยังหลินสวินล้วนเปลี่ยนไปหลินสวินยืนตระหง่านอยู่ตรงนั้น ดวงตาสีดำเย็นเยียบ พุ่งไปทางหลินจือพลางว่า “ตอนนี้ถึงตาเจ้าแล้ว”——
คอมเม้นต์