Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 454 ราวกับนิพพาน
ชีพจรวิญญาณนี้เหนือความคาดหมายจริงๆ เพิ่งจะก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา กลับกลืนกินพลังวิญญาณในร่างกายและลูกกลอนวิญญาณโอสถวิเศษที่หลินสวินเก็บสะสมมาจนหมดทั้งยังเหมือนว่าไม่สามารถทำให้มันพอใจได้!สุดท้ายหลินสวินกัดฟัน หยิบลูกกลอนอสูรมารสีใสเม็ดหนึ่งออกมา อ้าปากกลืนเข้าไปนี่คือลูกกลอนอสูรมารของอสูรมารเสือดาวมรกต รวมความพิเศษเอาไว้มากมาย ถ้าเอามาเป็นวัตถุดิบยา สามารถหลอมลูกกลอนวิญญาณระดับปฐพีได้อย่างแน่นอนแต่ถ้ากลืนเข้าไปโดยตรง ฤทธิ์ยาจะลดลงอย่างมากแต่ตอนนี้หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนั้นแล้วครืนโครม~พลังเร่าร้อนน่าสะพรึงกลัวราวกับธารหินหนืดแพร่กระจายภายในร่างหลินสวินฉับพลันครั้งนี้แตกต่างจากเมื่อครู่นี้ ยังไม่ทันที่หลินสวินจะเข้าไปหลอมพลัง ชีพจรวิญญาณก็ราวกับปากเหวลึก เกิดพลังกลืนกินอันน่ากลัว กลืนพลังทั้งหมดของลูกกลอนอสูรมารเสือดาวมรกตหลินสวินพลันเกิดภาพลวงตาว่าชีพจรวิญญาณราวกับจะเหมือนตัวเขา เร่งร้อนอยากให้มั่นคงจนรอไม่ได้แล้ว“ที่รักหนอที่รัก ข้าจะดูซิว่าเจ้าจะกลืนลูกกลอนอสูรมารกี่เม็ด!”หลินสวินหยิบลูกกลอนอสูรมารขึ้นมาอีกเม็ด อ้าปากกลืนเข้าไปมูลค่าของลูกกลอนอสูรมารนั้นสูงมาก หากอยู่ในจักรวรรดิจื่อเย่า ลูกกลอนอสูรมารเช่นเสือดาวมรกตสามารถขายได้ในราคาสูงเสียดฟ้า!หลังจากฆ่าเฉียนไหว หลินสวินพาเชลยอย่างเหรินเมี่ยวเมี่ยวยกทัพจับศึกมาสิบวันโดยไม่หยุด ระหว่างทางฆ่าอสูรมารระดับมหาสมุทรวิญญาณมาสิบกว่าตัวและได้ลูกกลอนอสูรมารมาสิบกว่าเม็ดเดิมเขาคิดว่าจะใช้ในการฝึกปราณในภายหลัง แต่ตอนนี้เขาทำได้เพียงสละของรักด้วยความเจ็บปวด ‘ป้อน’ ลูกกลอนอสูรมารที่มีมูลค่าน่าตกใจเหล่านี้ให้ชีพจรวิญญาณหนึ่งเม็ดสองเม็ดสามเม็ดหลินสวินกลืนลูกกลอนอสูรมารอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของเขาราวกับเป็นสื่อกลาง ไม่จำเป็นต้องหลอม พลังของลูกกลอนอสูรมารเหล่านั้นก็ถูกชีพจรวิญญาณกลืนกินไปเองในกระบวนการนี้ชีพจรวิญญาณส่องแสงเจิดจ้าราวกับเหวที่ลุกโชน กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์แผ่พุ่งออกมา เกิดเสียงสวดราวกับเสียงธรรมอันคลุมเครือเป็นระลอกๆกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์นั่นรุนแรงเกินไป ราวกับแก่นแท้ไหลเวียนอยู่บนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจ พลังที่แผ่ซ่านได้ย้อมทุกส่วนในหัวใจให้บริสุทธิ์ดั่งแก้วใสตึก! ตึก! ตึก!จังหวะการเต้นของหัวใจราวกับเสียงกลองใหญ่ หนักแน่นมั่นคง ยิ่งใหญ่แข็งแกร่ง ในทุกๆ ครั้งก็จะปลดปล่อยกลิ่นอายอันบริสุทธิ์ แผ่กระจายอยู่ในเลือด ไหลเคลื่อนไปถึงเส้นลมปราณ จุดชีพจร กล้ามเนื้อ กระดูกและผิวหนัง…ทันใดนั้นประหนึ่งรูขุมขนทั้งหมดบนร่างหลินสวินเปล่งประกาย ส่องแสงวับวาวราวกับเคลือบกระจกที่เคลือบแสงอันบริสุทธิ์ แฝงไอวิญญาณและกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์หลินสวินสัมผัสได้อย่างฉับไวว่า ร่างกายของตนทั้งภายในและภายนอก ทุกอย่างรอบตัวกำลังถูกกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์แทรกซึมและยกระดับ กำลังอยู่ในกระบวนการการเปลี่ยนแปลงยามหลินสวินเหลือลูกกลอนอสูรมารเพียงแค่สองเม็ด ในที่สุดชีพจรวิญญาณก็หยุดการกลืนกิน ดูเหมือนจะเพียงพอแล้ว มันพาดอยู่บนเส้นปราณหัวใจราวกับอาทิตย์ดวงใหญ่ที่ปลดปล่อยแสงศักดิ์สิทธิ์แรงกล้า!ครื้นโครม~~กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์เอ่อล้นออกมาจากหัวใจ ไหลเวียนไปทั่วทั้งร่าง หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะวิญญาณอันเป็นเอกลักษณ์ของหลินสวิน กำเนิดเป็นพลังแทรกซึมลึกลับหลินสวินโล่งอกอย่างที่สุด คลี่คลายวิกฤตได้แล้ว ทำให้ในใจเขาคลายความกดดันอย่างแท้จริง จึงเข้าสู่สภาวะสงบนิ่งหลินสวินฉวยโอกาสนี้ถือ ‘แหวนประสานมายา’ ขับเคลื่อนวิชายุทธ์ เริ่มนั่งสมาธิวิ้ง~ในหัว เสียงที่ราวกับระฆังยามรุ่งสางและกลองยามพลบค่ำ คล้ายกำลังท่องบนสวด สะท้อนอยู่ในห้วงนิมิตนี่คือ ‘คัมภีร์ประสานมายา’ ที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษตระกูลหลิน มีเพียงทายาทสายตรงของตระกูลหลินเท่านั้นที่สามารถเข้าใจความลึกลับยิ่งใหญ่ซึ่งซ่อนอยู่ โดยอาศัยแหวนประสานมายาในขณะเดียวกัน ภายในร่างของหลินสวิน มรดกโบราณ ‘เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกิน’ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดจากห้องโถงมรรคาสวรรค์ก็เริ่มขับเคลื่อนเช่นกันส่วนบนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจ ชีพจรวิญญาณที่ดุจอาทิตย์แรงกล้าแผ่กระจายกลิ่นอายบริสุทธิ์ราวกับแก่นแท้ ไหลหลั่งดั่งธารหยก ย้อมไปทั่วทั้งร่างกายหลินสวินในยามนี้เปล่งประกายไปทั้งตัว ดวงหน้าสุภาพหล่อเหลาสงบนิ่ง หว่างคิ้วหมดจดมีกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์อยู่รางๆในอากาศราวกับมีเสียงธรรมดังก้องกังวาน ดุจดั่งเสียงแห่งธรรมชาติที่เลื่อนลอยและห่างไกลนี่เป็นการปะทุแบบหนึ่งหลังจากผ่านการเคี่ยวกรำหนักหน่วง ภายใต้การสนับสนุนของคัมภีร์ประสานมายา เคล็ดวิชาหลุมดำกลืนกินและชีพจรวิญญาณ ทำให้ร่างกาย พลังปราณและจิตวิญญาณของหลินสวินล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง!……สามวันต่อมาร่างกายภายนอกของหลินสวิน รอยแผลถี่ยิบที่หลงเหลือจากการต่อสู้กรำศึกได้ตกสะเก็ดและลอกออก เผยให้เห็นผิวหนังที่แวววาวราวกับหยกชั้นหนึ่ง รูขุมขนคายแสงวิญญาณ ดูบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์เจ็ดวันต่อมาร่างกายของเขาเกิดเสียงกังวาน กระดูกเปล่งประกาย เส้นเอ็นเนื้อเยื่อดุจหยก โลหิตสะอาดโปร่งใส แผ่กระจายกลิ่นอายบริสุทธิ์!พลังในร่างเขาได้เสร็จสิ้นการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่ประหนึ่งนิพพาน เปรียบได้กับอาวุธวิญญาณ ทั้งบริสุทธิ์และไร้มลทิน!สิบวันต่อมาในห้วงนิมิต ดวงดาวแห่งจิตแต่ละดวงเปล่งประกาย พลันส่องสว่างขึ้น ราวกับทางช้างเผือกที่ลุกโชนเจิดจ้า เติมเต็มร่างกายที่ว่างเปล่า ส่องสะท้อนจิตวิญญาณดวงดาวแห่งจิตจากร้อยกลายเป็นพันหมื่นดวง ‘ดาราจักรโคจร’ ระดับแรกของสามระดับใหญ่แห่ง ‘เคล็ดเวทบริกรรม’ มาถึงขั้นสมบูรณ์แบบ!พลันเห็นว่าในห้วงนิมิต ดวงดาวนับหมื่นเปล่งประกายระยิบระยับ โคจรอยู่ในวงวัฏจักรอันลึกลับ หมุนวนเป็นประกาย แทรกซึมทั้งในและนอกจิตวิญญาณสิบห้าวันต่อมาตูม!ภายในร่างหลินสวินเกิดเสียงคำราม ราวกับสายฟ้ากำลังสั่นสะเทือน ประหนึ่งภูเขาพุ่งชนกันเป็นเสียงตูมตาม แผ่กลิ่นอายน่าสะพรึงกลัวทะเลปราณของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มหาสมุทรพลังวิญญาณอันกว้างใหญ่ ยามนี้ล้วนเปลี่ยนเป็นเหวใหญ่!เหวใหญ่โคจร พายุวิญญาณน่ากลัวพุ่งทะยาน หมุนวนกึกก้องและในพายุวิญญาณ อาทิตย์จันทร์เดี๋ยวผุดขึ้นผุดลง ดาราส่งแสงวิบวาบ สายฟ้าพัวพัน เสียงฟ้าร้องดังอึกทึก เกิดปรากฏการณ์ ‘ซุ่มซ่อนพลัง’ อันยิ่งใหญ่น่าสะพรึงกลัว!เหวขนาดใหญ่เปิดขึ้นในทะเลปราณ พายุวิญญาณพวยพุ่ง ปลุกให้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดยิ่งใหญ่ สิ่งนี้ดูเหลือเชื่อมาก ถ้าผู้ฝึกปราณคนอื่นเห็นคงตกใจจนอ้าปากค้างและอยากจะเชื่อนี่เป็นปรากฏการณ์ที่มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นเพราะพรสวรรค์ ‘หุบเหวกลืนกิน’ ของหลินสวินได้กำเนิดขึ้นอีกครั้ง ทั้งยังผสมผสานกับพลังยุทธ์ของเขา ทำให้ไม่เหมือนใคร!วันที่ยี่สิบหลินสวินฟื้นจากสมาธิ ดวงตาสีดำขลับสงบนิ่ง ปรากฏการณ์ลักษณ์เหวใหญ่รางๆ สาดประกายแสงราวกับสายรุ้งศักดิ์สิทธิ์ ทำลายความมืดและส่องสว่างภายในถ้ำระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสมบูรณ์!หลินสวินสัมผัสกับการเปลี่ยนแปลงรอบตัว ภายในใจเต็มไปด้วยความดีใจไม่เพียงแค่พลังปราณที่เปลี่ยนไปสู่ระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสมบูรณ์ แม้แต่ร่างกาย จิตวิญญาณก็เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ราวกับยกระดับหลินสวินหยิบกระบี่วิญญาณเล่มหนึ่งออกมา นี่คือหนึ่งในทรัพย์หลังศึกที่เขาได้มา เป็นอาวุธวิญญาณระดับปฐพีชิ้ง!เมื่อฝ่ามือของหลินสวินออกแรง เพียงพริบตาเท่านั้นกระบี่วิญญาณก็ถูกบีบแตก ละอองแสงปลิวว่อนถ้าผู้ฝึกปราณในระดับเดียวกันมาเห็นจะต้องตะลึงอย่างแน่นอน เพียงออกแรงก็สามารถบีบอาวุธวิญญาณระดับปฐพีได้อย่างง่ายดาย ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ พลังนี้เรียกได้ว่าโดดเด่น!หลินสวินลุกขึ้น ความหดหู่ในใจถูกสลัดทิ้ง การเข้าสู่แดนวิญญาณโบราณในครั้งนี้ ไม่เพียงก่อชีพจรวิญญาณจนสำเร็จ พลังของเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบใหม่ดุจนิพพาน ทำให้หลินสวินรู้สึกตื่นเต้นยินดีอย่างไม่ต้องสงสัยยามนี้ แม้จะออกจากแดนวิญญาณโบราณตอนนี้ก็ไม่เสียดาย!‘ด่านที่สี่ของทางเดินเมฆาหยกนี้ลึกลับมากจริงๆ ทำให้ข้าประสบเคราะห์ที่นี่ ผ่านการต่อสู้ฆ่าฟันแต่รอดมาได้ สุดท้ายยังได้เกิดการเปลี่ยนแปลง บางทีนี่อาจจะเป็นวาสนาของข้า…’หลินสวินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ผมสีดำประบ่า โครงหน้าสุภาพหล่อเหลาเผยรอยยิ้มสดใสอบอุ่นที่ไม่ได้เกิดขึ้นนานแล้วนับตั้งแต่วันที่ฆ่าเฉียนไหวจนถึงตอนนี้ หลินสวินก็ตกอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ ไม่เคยเผยรอยยิ้มออกมาแม้แต่ครั้งเดียว เย็นชากระหายเลือดจนถูกผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ มองว่าเป็นปีศาจยามนี้วิกฤตภายในร่างคลี่คลายแล้ว ราวกับผ่านพ้นหายนะแล้วเกิดใหม่ จิตใจว่างเปล่าสงบเงียบ ความเป็นตัวของตัวเองที่ถูกการฆ่าฟันและวิกฤตครอบงำจึงหวนคืน กลับสู่ปกติหลินสวินนึกถึงการฆ่าฟันในช่วงหลายวันที่ผ่านมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และอดแลบลิ้นไม่ได้ โชคดีที่ที่นี่ไม่ใช่จักรวรรดิจื่อเย่า มิเช่นนั้นฆ่าผู้สืบทอดสำนักโบราณและผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะมากมายขนาดนี้ ยามออกไปต้องถูกผู้มีอำนาจมากมายกดดันอย่างแน่นอนหลินสวินเดินออกจากถ้ำไปโดยไม่ได้คิดอะไรมากเพียงพริบตาเท่านั้นความดีใจของเขาก็หายแวบไป ถูกความระแวดระวังเข้ามาแทนที่ในภูเขาที่เงียบและแปลกประหลาดแห่งนี้ พลังชั่วร้ายรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพียงแค่หายใจก็ทำให้รู้สึกกลัดกลุ้มใจสับสน สภาพจิตใจก็ค่อยๆ เสียไปด้วยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ามีหมอกเลือดสีแดงเข้มปกคลุม ราวกับเป็นความจริงอันชวนตะลึงหลินสวินนึกถึงโครงกระดูกอสูรมารโบราณที่ดุร้าย นึกถึงแม่น้ำเลือดที่ไหลอย่างเงียบเชียบและซากศพโบราณน่าสะพรึงที่ผุดขึ้นผุดลงอยู่ในแม่น้ำเลือด…วินาทีต่อมา เขาก็นึกถึงสุสานเดียวดายและป้ายหินแห่งนั้น ในใจรู้สึกกลัวอย่างไม่ทราบสาเหตุที่นี่อันตรายขึ้นเรื่อยๆ!หลินสวินผ่านการเปลี่ยนแปลงราวกับนิพพาน จิตวิญญาณมีความเฉียบคมอย่างมาก รู้สึกได้ว่าภายในภูเขาอันน่ากลัวนี้มีพลังบางอย่างที่ทำให้การหายใจติดขัด ราวกับอะไรบางอย่างกำลังจะตื่นจากความเงียบ‘ต้องออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด’หลินสวินหายใจเข้าลึกๆ ทั่วร่างกำจายแสงสีฟ้าอ่อน ต่อต้านและสลายกลิ่นอายชั่วร้ายสีเลือดในอากาศจากนั้นเงาร่างของเขาวูบไหว มุ่งหน้ากลับไปตามทางเดิมไม่นานก็จะเข้าใกล้อาณาเขตของสุสานนั่นแล้ว หลินสวินตัดสินใจจะอ้อม เพราะกลิ่นอายตรงนั้นน่ากลัวมาก ทำให้เขาไม่กล้าผ่านพรึ่บ!แต่ในขณะนั้นเองมีร่างอันเพรียวบางปรากฏขึ้น ผิวพรรณขาวยิ่งกว่าหิมะ รูปลักษณ์งดงามน่าดึงดูด ปากแดงระเรื่อมีเสน่ห์อย่างน่าทึ่งเป็นเหลียนเตี๋ยอีผู้สืบทอดแห่งแดนวิญญาณหมื่นมายา!ทำไมเป็นนางอีกแล้ว?หลินสวินประหลาดใจ บังเอิญเกินไปแล้ว ครู่เดียวเขาก็เพ่งสายตา ดูออกว่าเหลียนเตี๋ยอีเหมือนจะถูกตามฆ่า ชุดกระโปรงสีแดงเพลิงเปื้อนคราบเลือด ใบหน้าขาวผ่องละเอียดลออก็ขาวซีดเล็กน้อยนางขมวดคิ้วกัดฟันแน่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความแค้นเคือง ในปากเหมือนกำลังพึมพำท่องอะไรสักอย่าง“ช่วยข้าด้วย!”พอเห็นหลินสวิน เหลียนเตี๋ยอีก็ส่งเสียงทันที จากนั้นเงาร่างพลันทะยานเข้ามาหาหลินสวิน“เจ้าไปตามหาสุดยอดวาสนามิใช่หรือ เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้”หลินสวินอดถามไม่ได้“ไร้สาระ ที่นี่ก็คือ ‘แดนโบราณโลหิตร้าง’ แหล่งกำเนิดวาสนาอย่างไรเล่า!”เหลียนเตี๋ยอีกลอกตาใส่หลินสวิน จากนั้นพลันร้อนรนขึ้นมา “เร็วๆ ออกไปจากที่นี่ก่อน พวกข้างหลังกำลังจะมาถึงแล้ว ”หลินสวินกลับยิ่งไม่ขยับ พูดพร้อมใบหน้าไร้เดียงสา “เจ้าเป็นฝ่ายถูกตามล่า มิใช่ข้าเสียหน่อย”“ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตาขาว เจ้ามันใจไม้ไส้ระกำ ข้าไม่น่าเอาน้ำเต้าเพลิงแดงให้เจ้าแต่แรก!”เหลียนเตี๋ยอีแค้นจนกัดฟันกรอด ก่นด่ายกใหญ่ ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์ไม่อำนวย นางอยากจะเข้าไปซัดหลินสวินสักที——
คอมเม้นต์