Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 450 ดาบดุดันพลิกฟ้า
ตูม! โครม! โครม!เสียงการต่อสู้อันดุเดือดราวกับเทพร้องคำราม กลางอากาศไกลออกไปเต็มไปด้วยแสงไฟลุกลามดุจธารดาราวิ่งเคลื่อน กลายเป็นภาพฉากน่าสะพรึงกลัว“แย่แล้ว หนีเร็ว ดาบนี้น่ากลัวเกินไป ไม่ใช่อานุภาพที่ระดับมหาสมุทรวิญญาณจะต้านไหวแล้ว!”มีคนตะโกนตรงนั้นเงาร่างของผู้ฝึกปราณวิ่งกระเจิงไปทั่วราวกับคลื่นน้ำ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวไร้ซึ่งสีเลือด ในนั้นมีผู้สืบทอดที่เป็นผู้กล้าของสำนักโบราณไม่น้อยพวกเขาล้วนกำลังหนีด้วยความตื่นตระหนกอย่างยิ่ง!“ดาบแตกนั่นมันอะไรกัน เหตุใดจึงน่ากลัวเช่นนี้ สังหารผู้ฝึกปราณไปแล้วมากมาย หนีเร็ว!”ชายหนุ่มที่ถือทวนทองตะโกนเสียงดัง เคลื่อนผ่านกลางอากาศราวสายฟ้า เขาเป็นบุคคลชั้นยอดที่มีชื่อเสียงจากสำนักรวมดาราอันเป็นสำนักโบราณ มีนามว่าหรั่นอิ๋นหลินสวินซึ่งอยู่ไกลออกมาหรี่ตาลง ก็เห็นว่ากลางอากาศไกลๆ มีแสงดาบเปล่งประกายม้วนตัวผ่านท้องฟ้าดุจห้อทะยาน ลำแสงเจิดจ้า ราวกับห่อหุ้มดวงดารานับร้อยพันดวงเอาไว้ ส่องสว่างทั่วแผ่นดินผู้ฝึกปราณหลายคนหนีกระเจิงพร้อมกรีดร้องเสียงดังสิ่งนั้นเป็นดาบแตกเล่มหนึ่ง ตัวดาบดำสนิทแผ่แสงเจิดจ้าสีเงินราวกับทางช้างเผือกม้วนตลบ อานุภาพน่าสะพรึงกลัวหลินสวินหัวใจสะท้านขึ้นมาทันที ดาบแตกเล่มนี้ประหนึ่งเป็นราชันแห่งโลก สยบผู้ฝึกปราณทั้งหมด!?นี่เป็นสมบัติโบราณน่าสะพรึงกลัวที่เชื่อมวิญญาณมากเพียงใด ถึงได้มีอานุภาพพลิกฟ้าเช่นนี้เดิมหลินสวินคิดว่าน้ำเต้าหลอมวิญญาณที่ตนได้มาน่าตะลึงมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับดาบแตกเล่มนี้ ก็ด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดไม่ใช่อานุภาพที่เทียบไม่ได้ แต่เป็นจิตวิญญาณ!ดาบแตกเล่มนั้นราวกับมีสติปัญญา พุ่งสังหารไปทั่วหล้า แสงประกายสีเงินม้วนวน เปรียบได้กับผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะที่ทรงพลังกำลังสยบภูผาธาราพรูด!แสงเลือดสาดกระเซ็น ผู้ฝึกปราณวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังหลบหนีถูกแสงประกายแหลมคมนี้กวาดผ่าน ศีรษะขาดลอยไปในอากาศ เลือดพุ่งกระฉูด ก่อนที่ร่างจะร่วงลงพื้น“อ๊าก…”อีกด้านเหล่าคนหนุ่มสาวที่พลังปราณด้อยกว่าต่างกรีดร้องโหยหวน ถูกแสงประกายสีเงินปกคลุมไล่หลัง ร่างกายถูกเผากลายเป็นฝุ่นผงไม่เหลือแม้แต่ซากในทันทีสถานการณ์นี้น่าสะพรึงกลัวนัก ดาบแตกเล่มหนึ่งราวกับเชื่อมวิญญาณ โจมตีสังหารผู้ฝึกปราณทั่วทุกสารทิศ ส่องแสงประกายสะดุดตา เปลี่ยนให้ใต้หล้านี้กลายเป็นนรกสีเลือด“หนี!”ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นต่างบ้าคลั่ง หวาดผวาอย่างที่สุด พลังของดาบแตกเล่มนั้นยอดเยี่ยมเกินไป แผ่กระจายแสงประกาย ทุกที่ที่ผ่านล้วนไม่มีผู้ใดสามารถต่อต้านได้เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น หลินสวินก็เห็นผู้ฝึกปราณยี่สิบกว่าคนตายอย่างอนาถ สภาพชวนอกสั่นขวัญแขวนนี่เป็นเพียงสิ่งที่หลินสวินเห็นเท่านั้น ก่อนหน้าที่เขาจะมาถึง เกรงว่าคงมีผู้ฝึกปราณที่ตายภายใต้ดาบแตกนี้มากกว่านี้!แข็งแกร่งมาก!แม้แต่หลินสวินยังหวั่นไหว ในใจสั่นสะท้านเห็นได้ชัดว่าดาบแตกนี้เป็นอาวุธสงครามชั้นยอดมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้อยู่ท่ามกลางสมบัติโบราณมากมายในแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นแห่งนี้ ก็ยังเรียกได้ว่าโดดเด่นน่าพรั่นพรึงสิ่งที่ชวนให้ใจสั่นที่สุดคือมันยังเป็นเพียงแค่สมบัติโบราณที่ไม่สมประกอบ คมดาบเสียหาย ไม่สามารถจินตนาการได้จริงๆ ว่าตอนที่มันสมบูรณ์แบบนั้น อานุภาพของมันจะน่าสะพรึงกลัวแค่ไหนศึกอันดุเดือดก่อนหน้านี้ต้องเกิดขึ้นเพราะดาบแตกปรากฏกายเป็นแน่ ด้วยอานุภาพน่าตระหนกอย่างที่สุดทำให้ผู้ฝึกปราณทั่วทุกสารทิศปรารถนาจะครอบครองมันเพียงแต่ไม่มีใครคาดคิดว่า ดาบแตกเล่มนี้จะสะเทือนสวรรค์มากเพียงนี้หลินสวินตัวสะท้านโดยพลัน ด้วยเห็นว่ามีผู้ฝึกปราณที่อยู่ไกลๆ หลายคนกำลังทะยานมาทางเขา และด้านหลังของพวกเขาก็มีดาบแตกหอบม้วนประกายแสงตามมาผู้ฝึกปราณเหล่านั้นก็เห็นว่าหลินสวินยืนอยู่ตรงนั้น แต่กลับไม่มีใครสนใจเขา ต่างหนีตายเอาตัวรอดอย่างบ้าคลั่งเห็นได้ชัดว่าพลังของดาบแตกนั่นทำให้พวกเขาตกใจจนขวัญหนีกันหมดแล้ว“เจ้าหนู เจ้าเป็นลูกศิษย์สำนักไหน อยากตายหรือไง รีบหนี!”ชายชราชุดคลุมสีเขียวคนหนึ่งวิ่งผ่านมา เห็นหลินสวินยืนนิ่งไม่ขยับก็นึกว่าเขาตกใจจนอึ้งค้างไปแล้ว จึงอดเตือนเสียงเคร่งไม่ได้“หนีหรือ”นัยน์ตาดำของหลินสวินสาดประกายเจิดจ้า กลับเป็นฝ่ายพุ่งเข้าหาดาบแตกเล่มนั้นภายใต้สายตาหวาดผวาของชายชราชุดเขียว“เด็กนี่บ้าไปแล้ว!”ชายชราชุดเขียวตัวแข็งค้าง หลุดปากด่า “เพื่อดาบหนึ่งเดียวในโลกนี้ ทิ้งได้แม้แต่ชีวิต ช่างโง่เขลาจริงๆ!”ห่างออกไปก็มีผู้ฝึกปราณมากมายมองหลินสวินด้วยสีหน้าตะลึงไม่มีใครคาดคิดว่าดาบแตกเล่มนั้นจะน่าหวาดหวั่นเพียงนี้ สังหารเหล่าผู้กล้าจากทั่วทุกสารทิศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้กลับยังมีคนไม่รู้ดีชั่ว จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว!นี่มันไม่อยากมีชีวิตแล้วชัดๆ!เงาร่างของหลินสวินเปล่งประกาย แสงสีฟ้าอ่อนเจิดจ้าแผ่กระจาย พลังที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างอย่างบ้าคลั่งห้อทะยานจนแทบควบคุมไม่ได้อานุภาพของดาบแตกเรียกได้ว่าไม่อาจประเมินได้ แต่สำหรับหลินสวินแล้วนี่กลับเป็นคู่ต่อสู้ที่ดีที่สุด ทำให้เขาสามารถเคี่ยวกรำตัวเองในการต่อสู้ หลอมรวมชีพจรวิญญาณ!บางทีการกระทำนี้อาจบ้าคลั่งมาก แต่หลินสวินกลับไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ชิ้ง!ดาบวิญญาณม่วงถูกชักออกจากฝัก เกิดเสียงครวญกระจ่างดังไปทั่วฟ้า เขาฟันสังหารออกไป เข้ากำราบดาบแตกที่พุ่งเข้ามาหนึ่งดาบฟ้าดินเปลี่ยนสี ดุจคืนนิรันดร์มาเยือน ปรากฏการณ์ประหลาดพลันปรากฏ!นี่คือกระบวนท่าคว้าดารา หลินสวินดูเหมือนบ้าคลั่ง แต่ความจริงก็ไม่กล้าประมาท พลังของดาบแตกเล่มนั้นน่ากลัวเกินไป ร้ายกาจยิ่งกว่าระดับหยั่งสัจจะทั่วๆ ไปเสียอีกวู้ม!พลันเห็นดาบแตกนั่นส่องสว่าง แสงเจิดจ้าสีเงินกวาดมา เพียงพริบตาเดียวก็ทำลายกระบวนท่านี้ เกิดเสียงตูมดังลั่น สะเทือนจนหลินสวินกระเด็นออกไปเขากระอักเลือด ใบหน้าขาวซีด เพียงการโจมตีเดียวก็ทำให้เขารู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังดาบแตกกลางอากาศ ดาบแตกแผ่แสงประกายสว่างไสวหาที่เปรียบ ลำแสงที่กระจายออกมาของมันทุกเส้นทุกสายราวกับทางช้างเผือกร่วงหล่นเห็นเงาร่างของหลินสวินใกล้จะถูกปกคลุม ทว่ากลับเห็นเขาคำรามเสียงยาว เส้นผมสีดำปลิวพลิ้วขึ้น กวาดดาบวิญญาณม่วงออกไปอีกครั้งไอดาบพราวพร่างพุ่งขึ้นท้องฟ้า ยิ่งใหญ่อลังการ ดุจผืนน้ำเชื่อมประสานผืนฟ้า ประหนึ่งเจิดจ้าส่องสว่างมานับตั้งแต่อดีตกาลจวบจนทุกวันนี้กระบวนท่าสอยจันทรา!โครม!ฟ้าดินสั่นสะเทือน ส่งเสียงคำรามไม่ขาดสาย บริเวณนี้ถูกแสงแรงกล้าปกคลุม ทำให้คนไม่กล้ามองจ้องหลายคนต่างตกใจกลัวจนหลับตาลง ในใจกระวนกระวายประกายแสงสีเงินระเบิดออก เงาร่างของหลินสวินสะเทือนจนเซถอย ทั่วร่างถูกดาบคมฟาดฟัน แผลกระบี่ที่เดิมทียังไม่หายดียิ่งน่าสะพรึงกลัวกว่าเดิมเขากระอักเลือดระรัว แต่กลับยังไม่ตาย!ผู้ฝึกปราณในที่นั้นต่างหวั่นไหว ชะงักฝีเท้าที่กำลังหนี ต่างไม่กล้าเชื่อว่ามีคนสามารถต้านทานการสังหารของดาบแตกนี้ได้วู้ม!ดาบแตกผ่าขวางกลางอากาศราวกับถูกหลินสวินกระตุ้นจนขึ้งโกรธ ฟันสังหารฟ้าดิน ดวงดารามากมายปรากฏขึ้น เคลือบแฝงด้วยคลื่นสีเงิน โถมทับใส่หลินสวินตูม!เป็นการต่อสู้ระหว่างแข็งชนแข็งอีกครั้ง อากาศบริเวณนี้ส่งเสียงครวญ ภูเขาหลายลูกที่อยู่รอบๆ ต่างกลายเป็นฝุ่นผง พังทลายสิ้นผู้ฝึกปราณบางส่วนที่หนีไม่ทันถูกคลื่นกระแทกนี้อย่างจังก็ล้มพับกับพื้น วิญญาณแทบหลุดจากร่างเสียงสวบดังขึ้น พลันเห็นเงาร่างของหลินสวินพุ่งออกมาจากแสงสีเงินอันเจิดจ้า ทว่าสภาพของเขายิ่งอนาถและย่ำแย่กว่าเดิม เลือดไหลทั่วตัว ย้อมให้อากาศบริเวณนั้นกลายเป็นสีแดงเขายืนถือดาบ นัยน์ตาดำเฉียบคม พลังทั่วร่างราวกับเหวลึกที่ระเบิดตัว เกิดเป็นลมพายุพุ่งขึ้นฟ้าประหนึ่งว่าเขาไม่เคยบาดเจ็บหนักระหว่างการต่อสู้ ตรงกันข้ามพลังนั้นยิ่งแข็งแกร่งมากกว่าเดิม!“เขา…เป็นใคร”นี่คือคำถามของหลายคน พวกเขาต่างตกใจกับภาพนี้ ดาบแตกนั่นน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน ก่อนหน้านี้เพิ่งจะพิชิตโลกา สังหารเหล่าผู้กล้า ทำให้คนอกสั่นขวัญหนี ไม่มีใครกล้าสู้กับมันแต่ยามนี้กลับมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งถือดาบเข้ามา แม้ว่าจะบาดเจ็บสาหัสจนเลือดท่วมตัว แต่กลับสามารถต้านทานการโจมตีของดาบแตกได้หลายต่อหลายครั้ง!“สวรรค์ เป็นเขา! เด็กหนุ่มดุดันที่ก่อนหน้านี้เคยสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะแห่งสำนักยอดกระบี่บูรพา!”ผู้ฝึกปราณบางคนที่อยู่ห่างออกไปก็หยุดฝีเท้า สีหน้าเผยความตะลึง ด้วยจำฐานะของหลินสวินได้จึงส่งเสียงอุทานเป็นระลอก“เขาเคยฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะเฉียนไหว และสู้กับนักพรตสยงจนไม่อาจประเมินแพ้ชนะได้ ทำให้นักพรตสยงต้องกลับไปมือเปล่า ยามนี้เขากลับดุดันจนสู้กับดาบแตกนั่น!”“เขาเป็นใครกันแน่ เหตุใดถึงไม่เคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน”รอบๆ พลันมีเสียงฮือฮาด้วยความแปลกใจดังขึ้นตูม!กลางอากาศดาบแตกระเบิดอานุภาพ ร่ายระบำอยู่กลางท้องฟ้า แสงเรืองรองสะท้านโลกาถาโถม ห้อตะบึงรุนแรงอานุภาพนั้นทำให้ผู้ฝึกปราณมากมายตัวสั่น พูดอะไรไม่ออก แทบจะหยุดหายใจทว่าหลินสวินกลับไม่กลัวเกรง พลังทั่วทั้งร่างพุ่งสูงขึ้น ราวกับเทพมารที่มองใต้หล้านี้อย่างดูถูก เสียงครืนโครมดังลั่น เขาใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งพุ่งเข้าไปทั้งสองพุ่งชนกัน ดวงดาราสะท้อนเต็มฟ้า ประกายดาบสะเทือนโลก ภาพนี้ยิ่งใหญ่อลังการเกินไป พาให้ผู้คนระทึกขวัญจากนั้นบริเวณนั้นก็ระเบิด แสงสว่างกระจัดกระจาย ดาบแตกพุ่งลง ประกายดาบแสบตาราวกับแสงดารา เบียดแทรกอากาศทุกส่วนไม่สามารถหลบหลีกได้สักนิด!ภายใต้การกดดันระดับนี้ หลินสวินกระอักเลือดไม่หยุด เงาร่างเซถอยอย่างต่อเนื่อง ร่างกายราวกับจะแตกออกจากกันก็ไม่ปาน เลือดยังคงไหลไม่หยุดทว่ายิ่งเป็นเช่นนี้พลังของเขากลับยิ่งแข็งแกร่ง ประหนึ่งเตาเผาที่ปั่นป่วน จิตวิญญาณทั้งหมดถูกแผดเผา ต่อต้านอย่างสุดความสามารถแรงสะเทือนระลอกนี้ประหนึ่งทำให้ท้องฟ้าที่ราวกับเลือดยังสั่นสะท้านตาม ไอสังหารอันน่าสะพรึงและความปั่นป่วนกระจายอยู่ทั่วทุกแห่งหน ม้วนคลื่นแสงเจิดจ้าสาดส่องไปทั่วราวกับวันสิ้นโลก“แม้ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างต่อเนื่อง แต่เขา…กลับต้านไว้ได้!”ในที่นั้น ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เหล่าผู้ฝึกปราณซึ่งเดิมยังหนีกระเจิงอยู่ชะงักฝีเท้าโดยไม่ได้นัดหมาย ยืนมองศึกนี้จากระยะไกลด้วยสีหน้าตื่นตะลึง“ระดับมหาสมุทรวิญญาณนี่! แม้แต่ระดับหยั่งสัจจะยังไม่ใช่ กลับสามารถต้านดาบดุดันพลิกฟ้าเล่มนั้นได้ เด็กหนุ่มคนนี้เก่งกาจผิดธรรมดาไปแล้ว!”“พวกเจ้าเห็นหรือไม่ ร่างเขาใกล้จะถูกระเบิดอยู่รอมร่อ แต่พลังกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือเขาฝึกวิชาลับบางอย่างที่สามารถยกระดับของตนในระหว่างการต่อสู้ได้”“เป็นไปไม่ได้ ต้องมีขุมทรัพย์แห่งพลังปิดผนึกอยู่ในร่างกายเขาเป็นแน่ และเมื่อเขาต่อสู้ก็จะถูกเปิดทีละชั้น”เหล่าผู้ฝึกปราณวิพากษ์วิจารณ์ สายตาวูบไหว ตื่นตะลึงไม่อาจสงบลงได้ดาบแตกเล่มนั้น ก่อนหน้านี้ถึงกับสังหารผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะที่ไม่ทันได้ใช้พลังแท้จริงของตัวเองได้อย่างง่ายดาย จุดจบคือเปลวไฟที่ลุกโชนแต่ตอนนี้เด็กหนุ่มคนหนึ่งกลับวิปริตยิ่งกว่าดาบแตกนั่น สู้กับมันด้วยพลังระดับมหาสมุทรวิญญาณซึ่งๆ หน้า ภาพที่เกินจะจินตนาการนี้เป็นเหมือนตำนานก็ไม่ปานตูม โครม~~ศึกอันดุเดือดยังคงดำเนินต่อไปภายใต้ผืนฟ้า ดาบแตกที่ทุกคนมองว่าดุดันพลิกฟ้ากำลังปะทะกับหลินสวิน ทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสีหลินสวินไม่ได้สบายเลย ร่างกายราวกับกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ บาดแผลหนักขึ้นเรื่อยๆ แบกรับแรงกดดันถึงชีวิตที่ยากจะอธิบายเป็นคำพูดได้ถ้าไม่ใช่เพราะก้าวย่างชือน้ำแข็ง บวกกับพลังของเขาที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างการต่อสู้ เกรงว่าคงถูกฆ่าตายคาที่ไปนานแล้วสิ่งเดียวที่ทำให้หลินสวินตื่นเต้นคือ บนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจของเขา ชีพจรวิญญาณเส้นนั้นกำลังก่อตัวอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงส่วนเล็กๆ เท่านั้นก็จะเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แล้ว!‘จะต้องชิงก่อชีพจรวิญญาณออกมาให้ได้ก่อนที่ร่างจะถูกโจมตีระเบิด มิเช่นนั้นไม่เพียงแค่จะคว้าน้ำเหลว แม้แต่ชีวิตก็อาจต้องสังเวยให้กับดาบเล่มนี้!’ในระหว่างการต่อสู้ นัยน์ตาดำของหลินสวินเต็มไปด้วยความแน่วแน่และโหดเหี้ยม เขาเองก็บ้าคลั่งเช่นกันศึกนี้เป็นทั้งโอกาสที่หายากและยังเป็นวิกฤตอันร้ายแรงอีกด้วย ขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายเขาจะคลี่คลายมันได้หรือไม่!——
คอมเม้นต์