Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 447 พลังต้องห้าม
ฟ้าดินสั่นสะเทือน แสงอันงดงามกระเพื่อมไหวร่างกายของหลินสวินราวกับเหวลึก ท่าทางดุจเทพมาร สำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ออกมาถึงขีดสุดแม้จะสู้กับศัตรูทั่วทิศเพียงลำพัง แต่ก็มีอานุภาพราวเย้ยหยันอยู่รางๆตูม!แรงหมัดพวยพุ่ง แสงสีฟ้าอ่อนลุกโชน ในนั้นเต็มไปด้วยอานุภาพราวทลายภูผา ถล่มมหาสมุทร อากาศล่มสลาย มังกรเหินทะยาน ยากที่จะจินตนาการถึงแย่แล้ว!สีหน้าของผู้อาวุโสชุดขาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เข้าสกัดกั้นสุดกำลังแต่สุดท้ายเขาก็ถูกสะเทือนถอย แรงหมัดซัดกระแทกคนหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เขาจนปลิวออกไป กระอักเลือดแดงสด ร้องครวญลั่นฟ้าคนอื่นๆ ต่างอุทานด้วยความตกใจ ในใจตื่นตะลึง ไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินจะน่าสะพรึงเพียงนี้พวกเขาสิบกว่าคนลงมือโจมตี ทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะถึงสองคนเป็นหัวเรือหลักแม้ว่าระดับหยั่งสัจจะทั้งสองจะกดพลังปราณของตัวเองให้อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ แต่ก็ครอบครองพลังแห่งสัจจะ ฝีมือการต่อสู้เลิศล้ำ เพียงพอที่จะกวาดล้างผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณได้อย่างแน่นอนทว่าตอนนี้พวกเขากลับทำอะไรหลินสวินไม่ได้ ทั้งยังถูกบีบจนแทบจะต้านไม่ไหว!“ฟัน!”ทันใดนั้นชายวัยกลางคนหน้าแผลเป็นคนนั้นพลันงัดกระบี่วิญญาณที่ราวกับเกล็ดหิมะออกมาใช้ มันกลายเป็นสายยาวฟันไปทางหลินสวินโดยพลันหลินสวินสะบัดหมัดเข้ารับอย่างแข็งกร้าว แรงหมัดน่าหวาดหวั่นกระแทกกระบี่วิญญาณจนส่งเสียงครวญ แสงวิญญาณสั่นสะท้านสับสนชายวัยกลางคนหน้าแผลเป็นหรี่ตาลง เด็กคนนี้…เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!“หากไม่ใช้พลังระดับหยั่งสัจจะ วันนี้พวกเจ้าตายแน่!”หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบราวกับเป็นการเตือน อันที่จริงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในร่างเขากำลังซัดโหม พลังบ้าคลั่งไร้ที่เปรียบราวกับระเบิดเพลิง ต้องการผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงมาสู้กับตนอย่างเร่งด่วนจึงจงใจส่งเสียงกระตุ้นอีกฝ่าย“น่าชังนัก!”“ใช้พลังทั้งหมดที่มีฆ่าเขาซะ!”ผู้อาวุโสชุดขาวคำรามพลางสะบัดฝ่ามือ ดาบศึกสีเงินใช้วิชาลับ ทำลายหยินหยาง ย้อนกลับห้าธาตุ น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้แทบจะในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ในที่นั้นต่างกัดฟันสำแดงพลังทั้งหมดที่มี ใช้ทั้งวิชาลับและสมบัติสารพัดชนิดราวกับไม่เสียดาย เพื่อเอาชีวิตหลินสวินนัยน์ตาดำของหลินสวินเป็นประกาย ในที่สุดก็รู้สึกถึงแรงกดดันขึ้นมาแล้ว กระตุ้นให้เลือดทั้งร่างเขาเดือดคลั่ง“แบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย!”เขาส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน ใจต่อสู้ระเบิดออกอย่างสิ้นเชิงราวกับภูเขาไฟชั่วขณะนี้หลินสวินถึงขั้นที่เกือบจะลืมน้ำเต้าเพลิงแดงซึ่งถูกแย่งไป จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ พลังสะท้านขวัญและในร่างเขา ชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดเส้นใหม่สาดแสงสว่างไสวบริสุทธิ์ ราวกับกำลังหายใจ เริ่มก่อตัวทีละนิด…ปัง!ไม่นานทวนยาวเล่มหนึ่งถูกหลินสวินซัดจนแตก หญิงสาวที่ถือทวนไม่ทันได้หนีก็ถูกลมหมัดไพศาลปกคลุม เลือดสีแดงสดสาดกระเด็น ตายคาที่อย่างน่าอนาถเสียงตะโกนด้วยความตกใจระคนกราดเกรี้ยวดังลั่น หลายคนเดือดดาลจนถึงขีดสุด ดวงตาแดงก่ำจนถึงตอนนี้หลินสวินฆ่าคนของพวกเขาไปสองคนแล้ว แต่ตัวเองกลับไม่บาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ ทั้งยังยิ่งสู้ยิ่งห้าวหาญ พลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!น่ากลัวเกินไปแล้ว ใครที่ไหนจะเคยเห็นคนที่พลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างการต่อสู้และใครจะเคยเห็น เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นปลายคนหนึ่งที่ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม กลับยังสำแดงพลังราวกับทำลายทัพแตกพ่ายเช่นนี้“ฆ่า!”ผู้อาวุโสชุดขาวใบหน้าเขียวคล้ำ จิตสังหารราวกับคลื่นน้ำถาโถม แสงประกายแผ่พุ่งทั่วตัว โทสะพลุ่งพล่านถึงขีดสุดแต่แม้จะเป็นเช่นนี้เขากลับยังอดทน ไม่เคยเปิดผนึกในร่างให้ฟื้นคืนสู่พลังของระดับหยั่งสัจจะไม่เพียงแค่เขา แม้แต่ชายกลางคนหน้าแผลเป็นก็เช่นเดียวกันเรื่องนี้ทำให้หลินสวินขมวดคิ้วน้อยๆ สู้กันมาจนถึงตอนนี้แล้ว ระดับหยั่งสัจจะทั้งสองกลับยังคงใช้พลังระดับมหาสมุทรวิญญาณ ความอดทนสูงจริงๆทันใดนั้นหลินสวินพลันเข้าใจขึ้นมารางๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากทำ แต่ไม่กล้าทำต่างหาก!แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเต็มไปด้วยพลังต้องห้าม มีเพียงผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้อย่างปลอดภัย เห็นได้ชัดว่าเหล่าคนที่กดพลังให้อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ ไม่กล้าเผยพลังระดับหยั่งสัจจะออกมาเพราะกลัวการสะท้อนกลับของพลังต้องห้ามเสียงตูมดังสนั่น หลินสวินสำแดงพลังอีกครั้ง อากาศราวกับระเบิดออกจากกัน แรงหมัดโถมคลั่งราวกับน้ำหลาก ทั้งกว้างใหญ่และหนาแน่นเกินไปจนไม่มีใครเทียบพริบตานั้นชายวัยกลางคนหน้าแผลเป็นก็สะเทือนจนกระอักเลือด สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ไม่จำยอมและฉุนเฉียว“กู่เหลย เจ้าพาพวกเขาออกไป!”ผู้อาวุโสชุดขาวตะโกนแล้วชิงพุ่งออกมา เงาร่างสาดกลิ่นอายอันน่าสะพรึงโดยพลัน เขาทะยานขึ้นฟ้า ราวกับพริบตานั้นได้กลายเป็นอีกคน ดูน่ากลัวอย่างที่สุดครืนโครม~คลื่นพลังแผ่กระจายไปทั่ว อากาศบริเวณนี้ระเบิดออก แสงสีเงินลุกโหมม้วนห่อร่างหลินสวินเอาไว้แน่นเห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสชุดขาวตระหนักได้ถึงความรุนแรงของสถานการณ์ ทนให้หลินสวินอวดดีต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ สำแดงพลังของผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะออกมา!ฮู้ม~หลินสวินไม่เพียงไม่ตกใจแต่กลับดีใจ ทั้งร่างส่องประกาย เท้าเคลื่อนไหวด้วยก้าวย่างชือน้ำแข็ง แผ่เมฆหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์ เข้าปะทะกับผู้อาวุโสชุดขาวในเวลาเดียวกันนั้น ชายกลางคนหน้าแผลเป็นที่ถูกเรียกว่ากู่เหลยก็นำหนุ่มสาวคนอื่นๆ ของสำนักแสงทองทะยานหนีไปไกลอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเลเห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสชุดขาวตัดสินใจจะเสี่ยงดูสักตั้งเพื่อคว้าโอกาสให้พวกเขาหนีไป ยามนี้แม้กู่เหลยจะไม่ยินยอมเพียงใด ก็ทำได้เพียงเลือกหนีไปก่อน“คิดหนีงั้นหรือ ทิ้งชีวิตไว้!”กลับเห็นเงาร่างของหลินสวินราวกับมังกร แผ่พลังอันยิ่งใหญ่ ชักดาบออกจากฝักแล้วตวัดฟันด้วยกระบวนท่าคว้าดาราอย่างไม่ลังเลฟ้าดินราวกับค่ำคืนนิรันดร์มาเยือน ดวงดารานับหมื่นตกจากฟากฟ้า พลังทำลายล้างสะเทือนฟ้าดินปรากฏขึ้นในดาบเดียว ควบคุมฟ้าดินแต่เพียงผู้เดียว!เห็นได้ชัดว่าอานุภาพของกระบวนท่าคว้าดาราในยามนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างชัดเจน กลิ่นอายอันน่าสะพรึงที่แผ่ซ่านทำให้ผู้อาวุโสชุดขาวยากจะสกัดขวางได้ฟุ่บๆๆประกายดาบกวาดผ่านกลางอากาศ รวมเข้ากับสัญญาณแห่งการทำลายล้างที่ราวกับคืนนิรันดร์ ผู้ฝึกปราณมากมายของสำนักแสงทองที่ทะยานหนีไปเมื่อครู่นี้ บ้างถูกฟันเข้าที่แขน บ้างถูกฟันหลังไหล่ บ้างถูกฟันศีรษะหลุดร่วงลอยล่อง เสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นไม่ขาดสาย“อ๊าก…”“ไม่!”ภาพฉากอันโหดเหี้ยมน่าหวาดหวั่นนั้นราวกับไม่มีสิ่งใดไม่แตกหัก เพียงดาบเดียวนำพามาซึ่งแสงโลหิตอันงดงามเศร้าระทม สังหารไปสามสี่ชีวิตและบาดเจ็บสาหัสอีกเจ็ดแปดคนแม้แต่กู่เหลยยังถูกกดดัน เงาร่างโซซัดโซเซ เกือบจะร่วงหล่นจากกลางอากาศอานุภาพนั้นทำให้ทุกคนหัวใจสะท้าน จิตวิญญาณสั่นสะเทือน น่ากลัวเกินไปแล้ว กระบวนท่าเดียวก็ตะลึงไปทั้งฟ้าดิน“ไอ้เวรเอ๊ย!”ผู้อาวุโสชุดขาวกราดเกรี้ยวอย่างที่สุด คำรามเดือดดาล คิดไม่ถึงเลยว่า ขนาดตนใช้พลังระดับหยั่งสัจจะแล้วกลับไม่สามารถกดดันหลินสวินได้ ทั้งยังให้เขาได้ลงมือทำร้ายคนของฝ่ายตน น่าชังนักชิ้ง!เขาใช้วิชาลับ ดาบศึกสีเงินพุ่งสู่ฟากฟ้าม้วนคลื่นนับพัน ชั่วขณะเดียวราวกับกลายเป็นสัตว์ปีศาจตัวสูงใหญ่ สูงเทียบเท่าภูเขา ปกคลุมไปด้วยเกล็ดหนาแน่น เปล่งประกายแสงอันเย็นเยียบนับไม่ถ้วนฮู้ม~การโจมตีนี้แฝงพลังแห่งสัจจะ ทันทีที่ใช้ก็เห็นท้องฟ้าปั่นป่วน มีพลังต้องห้ามกำลังรวมตัวกันรางๆหลินสวินหรี่ตาลงทันควัน รับรู้ได้ถึงความกดดันยิ่งใหญ่เหลือล้น แต่เขาสงบเยือกเย็น ไม่สะทกสะท้าน พุ่งเข้าไปเผชิญหน้าด้วยท่าทางดูถูกเหมือนเดิมตูมๆๆพริบตานั้นทั้งสองปะทะกันเป็นสิบเป็นร้อยกระบวนท่า สังหารกันอย่างดุเดือดจนหินทรายบินว่อน อากาศพังทลาย อาทิตย์จันทร์ไร้แสงหลินสวินเป็นรองจริงๆ แต่เขาราวกับไม่รู้ตัว ไม่รู้สึกเจ็บ ยังคงพุ่งเข้าไปสังหาร และระหว่างต่อสู้พลังก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!ผู้อาวุโสชุดขาวตระหนกระคนกราดเกรี้ยว แทบจะบ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ว่าเหตุใดก่อนหน้านี้หลินสวินจึงสู้กับฉู่หลินเทียนได้เด็กนี่มันตัวประหลาดชัดๆ ยิ่งแพ้ยิ่งห้าวหาญ ยิ่งสู้ยิ่งแข็งแกร่ง! ราวกับฆ่าไม่ตายอย่างไรอย่างนั้น!“มาอีก!”ผมยาวของหลินสวินปลิวไสว นัยน์ตาดำดุจเหวลึกพลุ่งพล่านราวกับจะกลืนกินฟ้าดิน ดาบวิญญาณม่วงหลั่งแสงเจิดจ้า บุกทะลวงเข้าปะทะ“ในเมื่อรนหาที่ตาย ข้าจะให้เจ้าได้สมปรารถนา!”ผู้อาวุโสชุดขาวบันดาลโทสะ ถูกบีบจนถึงขั้นนี้ เขาแทบจะกลายเป็นปีศาจคลั่งอยู่แล้ว พลันอ้าปากพ่นเลือดพิสุทธิ์ออกมาเห็นธงดำเหินออกมา หลังจากเปื้อนเลือดนั้นก็ส่งเสียงคำรามสะท้านสะเทือนราวกับลมพายุครืนโครม~เพียงส่ายไหวเบาๆ ทุกชีวิตต่างหวาดกลัว แผ่ไอสังหารอันยิ่งใหญ่เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสมบัติที่น่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุดชิ้นหนึ่ง ไอสังหารที่แผ่พุ่งราวกับลมเย็นเยียบจากนรกเข้าทำลายโลกหลินสวินร่างสะท้าน ถูกพลังอันน่าสะพรึงกลัวนั่นสะเทือนจนเซถอย นัยน์ตาหดรัด สมบัตินั่นน่ากลัวถึงขั้นนี้เชียว!พอหันมองผู้อาวุโสชุดขาวอีกทีก็พบว่ารอบตัวเขาถูกควันสีดำปกคลุมไว้ ในมือถือธงดำ ราวกับกลายเป็นอสูรนรก ปลดปล่อยพลังอันบีบคั้นและน่าพรั่นพรึงสามารถเห็นได้รางๆ ว่ารอบตัวเขายังมีสัญลักษณ์รอยสลักวิญญาณหนาแน่นซับซ้อน ดูลึกลับน่ากลัวชัดแจ้งชุดศึกสลักวิญญาณ!หลินสวินหัวใจกระตุกวูบ ในที่สุดก็รู้แล้วว่าธงดำในมือผู้อาวุโสชุดขาวเป็นสมบัติระดับชุดศึกสลักวิญญาณอันน่าสะพรึง“ฆ่า!”ผู้อาวุโสชุดขาวตะโกนก้อง ผืนธงโบกสะบัด ภูตผีร่ำไห้เทพยดาร้องครวญทั่วฟ้า คลื่นเสียงสะท้านจิตวิญญาณ ไอสังหารยิ่งโหมคลั่งราวกับคลื่นสมุทรซัดกระหน่ำอานุภาพของเขาเปลี่ยนไป พริบตาเดียวก็กดข่มหลินสวินจนเงยหน้าไม่ขึ้นพลังนี้แข็งแกร่งเกินไป ทำให้หลินสวินกระอักเลือดรัวๆ หวั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปะทะกับอานุภาพของชุดศึกสลักวิญญาณ และในที่สุดก็ได้เข้าใจความน่าสะพรึงกลัวของสมบัติระดับนี้โครม!ไม่นานเขาก็ถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปแต่สิ่งที่ทำให้หลินสวินฮึกเหิมคือ หลังจากผ่านความทรมานครั้งนี้ พลังที่พลุ่งพล่านรุนแรงอยู่ในร่างได้รับการเคี่ยวกรำอย่างหนัก การควบรวมของชีพจรวิญญาณเส้นใหม่ก็ไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!“ฆ่า!”หลินสวินตะเบ็งเสียง ดาบวิญญาณม่วงในมือระเบิดประกาย ในไอดาบมีปรากฏการณ์ประหลาดที่หมู่ดาวล่องลอยโคจรอยู่รางๆ“ยังไม่ตายอีกหรือ”ผู้อาวุโสชุดขาวตะคอกกราดเกรี้ยว หนวดเคราเผ้าผมพลิ้วไหวครืน!เพียงแต่ขณะที่ผู้อาวุโสชุดขาวคิดกำราบหลินสวินต่อ กลับเห็นว่าบนชั้นฟ้า สีเลือดประหนึ่งอสูรประหลาดกลายเป็นวังวนสายฟ้าแผ่พลังต้องห้ามออกมา!นี่มัน…แย่แล้ว!ผู้อาวุโสชุดขาวตกใจจนขวัญแทบบินหนี นี่คือพลังต้องห้าม เพราะเขาใช้พลังของระดับหยั่งสัจจะ สุดท้ายจึงดึงดูดให้เกิดการสะท้อนกลับของฟ้าดิน!เขาพลันกระโจนหนีไปไกลๆ อย่างบ้าคลั่ง เริ่มเก็บงำอานุภาพ บีบอัดพลังปราณพลังต้องห้ามนั่นไม่ธรรมดา เพียงแค่การโจมตีเดียว ไม่ว่าพลังปราณของเขาจะสูงแค่ไหนก็ต้องถูกฆ่าตายคาที่! ไม่ใช่สิ่งที่พลังคนจะต้านทานได้หลินสวินเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ในใจตระหนกกลัวอย่างอดไม่ได้เช่นกัน แต่สุดท้ายเขาก็กัดฟันไล่ตามผู้อาวุโสชุดขาวคนนั้นไปตูม!สุดท้ายผู้อาวุโสชุดขาวก็ไม่อาจหนีพ้น ถูกแสงเลือดดุจอสูรประหลาดที่ฟาดลงมาจากฟากฟ้าโจมตี เสียงกรีดร้องน่าอนาถดังสะเทือนฟ้าดิน ก่อนจะได้ยินเสียงฟู่แล้วหล่นร่วงจากฟ้าหลินสวินฉวยโอกาสนั้นใช้ก้าวย่างชือน้ำแข็งพุ่งเข้าไปราวสายฟ้า โฉบไปข้างตัวผู้อาวุโสชุดขาวแล้วชิงธงดำนั่นไปแทบจะในขณะเดียวกัน แสงเลือดอสูรประหลาดอีกสายก็ฟาดลงมา ร่างของผู้อาวุโสชุดขาวราวกับน้ำแข็งที่ละลายตัว สลายสิ้นไม่เหลือแม้แต่ซาก!——
คอมเม้นต์