Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ตอนที่ 445 ทางเดินเปิดออก
แรงหมัดคำราม สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน ดังสนั่นเสียดหูอานุภาพนั่นรวมพลังแห่งกระบวนท่าทลายภูผา ทลายสมุทรและทลายวิญญาณเอาไว้ น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก ทำให้สีหน้าของผู้ฝึกปราณจำนวนไม่น้อยที่อยู่โดยรอบเปลี่ยนไปเล็กน้อยฟุ่บตึง!ยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ชายหนุ่มจากสำนักยอดกระบี่บูรพาคนนั้นถูกกดทับด้วยฝ่ามือนี้ตรงๆ ร่างกายแนบติดพื้นราวกับคางคก เลือดกบจมูกปากเฮือก!หลายคนสูดหายใจอย่างตะลึง ใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็สามารถล้มผู้สืบทอดรุ่นใหม่ที่เก่งกาจของสำนักยอดกระบี่บูรพาได้อีก!สายตาที่พวกเขามองหลินสวินต่างเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้ตอนที่หลินสวินมาถึง หลายคนต่างชี้นิ้ววิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างดูถูกสุดกำลัง คิดว่าเขาไม่รู้จักประมาณตน มาที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรกับการมารนหาที่ตายทว่าเมื่อเห็นภาพนี้ พวกเขาต่างอดรู้สึกกลัวไม่ได้ สันหลังเย็นวาบ ตระหนักได้ว่าเด็กหนุ่มที่เสื้อผ้าฉีกขาด เลือดอาบตัวคนนี้ เป็นบุคคลที่เก็บงำความร้ายกาจได้อย่างลึกล้ำหลินสวินก้าวเข้าไป นัยน์ตาดำเผยไอสังหาร ท่าทางเหมือนจะฆ่าชายหนุ่มคนนั้นให้สิ้น“เจ้าหหนูอย่าเหิมเกริม!”ทันใดนั้นฝั่งสำนักยอดกระบี่บูรพาพลันมีผู้อาวุโสชุดม่วงคนหนึ่งพุ่งออกมา หว่างคิ้วพลันยิงแสงสายหนึ่งใส่หลินสวินหลินสวินสะบัดหมัดเข้าต้าน เสียงตูมดังสนั่น อากาศบริเวณนั้นทรุดตัว แสงเจิดจ้าม้วนตลบไปทั่ว อานุภาพนั้นทำให้หลายคนตกใจจนหัวใจสะท้านยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะโจมตีแล้ว!ผู้อาวุโสในชุดม่วงที่ก้าวออกมาคนนั้นสีหน้าเย็นชา ทันทีที่กำฝ่ามือแสงสีเงินเจิดจ้าพลันปรากฏ เคลื่อนตัวขวางกลางอากาศกลับเห็นว่าหลินสวินไม่เพียงไม่หลบหลีก แต่ยังพุ่งเข้าไปหา แสงสีฟ้าอ่อนบนฝ่ามือลุกโหมราวกับท้องทะเลโหมคลั่ง ปะทะแสงสีเงินนั่น กลางอากาศพลันระเบิดออกเป็นฝนแสงแสบตา ฟ้าดินล้วนสะเทือนจนฉีกขาด เกิดเสียงระเบิดปังๆ“หึ!”ผู้อาวุโสชุดม่วงหน้าเคร่งขรึมขึ้น ขนาดเขาเอาจริงแล้ว หลินสวินยังต้านทานไว้ได้ถึงสองครั้งติด ทำให้เขารู้สึกโกรธอย่างอดไม่ได้ หมายจะสังหารอย่างจริงจังตูม!รอบตัวเขาแสงเงินแผ่กระจายไป ทะยานตัวขึ้นกลางอากาศ กางสองแขนออกราวกับนกอินทรี พลังอำนาจน่าหวั่นหวาดอย่างที่สุดทุกคนต่างตกตะลึง ผู้อาวุโสชุดม่วงแข็งแกร่งเกินไป ราวกับน้ำป่าไหลหลาก สำแดงพลังของระดับหยั่งสัจจะออกมาอย่างเต็มกำลัง ทำให้ไม่มีใครกล้ามองใกล้ๆ!“ฉู่หลินเทียน ยอดฝีมือคนหนึ่งจากสำนักยอดกระบี่บูรพาที่มีชื่อเสียงมายาวนานแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะมากับเหล่าลูกศิษย์ในสำนักด้วย”“ดูเหมือนว่าการแย่งชิงเพื่อเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นในครั้งนี้จะโหดร้ายมาก”สายตาหลายคู่ต่างเผยความแปลกใจฉู่หลินเทียนเคลื่อนตัว นำพามาซึ่งแรงลม เศษฝุ่นดินทรายบินว่อน หมอกเงินแผ่กระจายไปทั่วสิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือ แม้เผชิญกับการสังหารของระดับหยั่งสัจจะ หลินสวินก็ยังไม่เคยถอยตรงกันข้าม นัยน์ตาดำของเขาพลุ่งพล่านราวกับเหวลึก แสงสีฟ้าอ่อนแผ่ออกจากร่างกาย พลังก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นอย่างไม่มีที่เปรียบทันใดนั้นทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือด หนึ่งแก่หนึ่งเด็ก หนึ่งเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณ อีกหนึ่งเป็นผู้อาวุโสระดับหยั่งสัจจะ ต่างสำแดงฝีมือท่ามกลางฟ้าดินพลันเห็นแสงประกายที่ดูราวกับคลื่นโหมคลั่งบดขยี้อากาศ ทำให้ผืนแผ่นดินสั่นสะเทือน ฟ้าดินเปลี่ยนสีผู้กล้าชั้นยอดไม่น้อยที่รวมตัวกันอยู่ที่นี่อย่างหนาแน่น ยังมีผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะที่ติดตามมาและซ่อนตัวอยู่ในที่มืดยามเห็นการต่อสู้นี้สีหน้าต่างหวั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ พลังต่อสู้ของฉู่หลินเทียนนั้นไม่ต้องพูดถึง เป็นถึงระดับหยั่งสัจจะ พลังของเขาทุกคนต่างเห็นประจักษ์ชัดแจ้งมานานแล้วคนที่เหนือความคาดหมายจริงๆ คือหลินสวิน!ใครจะคิดว่าเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นปลายคนหนึ่ง จะสามารถสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะได้ ทั้งยังไม่เคยถูกสยบโดยทันที!น่าสะพรึงกลัวเกินไปแล้ว มองไปทั่วพื้นที่ตรงนี้ นอกจากพวกที่ความสามารถโดดเด่นสะดุดตาไม่กี่คนที่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้แล้ว คนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันต่างดูจืดจางลงไป!เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครเหตุใดจึงร้ายกาจเพียงนี้ตูมมม!สถานการณ์การต่อสู้เป็นไปอย่างดุเดือด เสียงระเบิดดังขึ้นต่อเนื่อง สะเทือนฟ้าดินทุกคนต่างดูออกว่าแม้หลินสวินจะถูกโจมตีจนถอยหลังครั้วแล้วครั้งเล่า แต่กลับสามารถพุ่งเข้ามาใหม่ได้ทุกครั้ง ราวกับไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ ในระหว่างการต่อสู้อานุภาพและความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ!“ข้านึกออกแล้ว เขาคือเด็กหนุ่มคนที่ประลองกับนักพรตสยง!”“ที่แท้ก็เป็นเขา ข้าได้ยินมาว่าแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะอย่างเฉียนไหว ซึ่งเป็นคนติดตามของเหวยจวิ้นผู้สืบทอดแห่งสำนักหลอมไฟยังถูกเด็กคนนี้ฆ่า หรือข่าวลือนี้จะเป็นความจริง”เสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นระลอกหนึ่ง เห็นได้ชัดว่ามีคนเคยได้ยินข่าวลือของหลินสวินมาบ้างทันใดนั้นเรื่องทั้งหมดพลันกระจายออกไปในวงกว้าง ผู้ฝึกปราณหลายคนในนั้นไม่รู้จักหลินสวิน แต่พอรู้ว่าเขาเคยฆ่าเฉียนไหว และบีบจนนักพรตสยงต้องถอยทัพกลับไปมือเปล่า ก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นไม่น้อยช่างเป็นเรื่องที่น่าตกใจเกินไปแล้ว!ใครจะกล้าจินตนาการว่าเด็กหนุ่มที่เสื้อผ้าฉีกขาดดูสะบักสะบอมอย่างที่สุดคนนี้ จะเคยทำเรื่องใหญ่สะเทือนฟ้าดินเช่นนี้คนที่สามารถข้ามระดับไปฆ่าระดับหยั่งสัจจะ และบีบให้นักพรตสยงผู้ฝึกปราณสายอสูรต้องถอยทัพ นี่มัน…เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!แม้แต่หลิงจื่อนั่วแห่งเขาเมฆาสวรรค์ เถี่ยเชียนหานแห่งสำนักสงัดดารา อวิ๋นเคอแห่งสำนักกระบี่แรกวิญญาณ หยวนจั้นผู้ฝึกตนสายอสูรแห่งสำนักเทพโลหิต เหลียนเตี๋ยอีแห่งแดนวิญญาณหมื่นมายา บุคคลชั้นยอดพวกนี้ต่างถูกดึงดูด เริ่มสังเกตถึงการมีตัวตนของหลินสวินสามารถฆ่าผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะได้ด้วยพลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณ มองไปทั่วหล้านี้ เรียกได้ว่าเป็นบุคคลที่โดดเด่นสะเทือนฟ้าดินได้แล้ว!สีหน้าของเหล่าชายหญิงแห่งสำนักยอดกระบี่บูรพาต่างเปลี่ยนไป ระหว่างทางก่อนหน้านี้พวกเขายังวิพากษ์วิจารณ์และดูถูกหลินสวินอยู่เลยแต่ใครจะคิดว่ายามนี้เด็กหนุ่มที่พวกเขาดูถูก จะสยบคนคุ้มกันของพวกเขาได้ ทั้งยังชนะสหายร่วมสำนักของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นยามนี้ยังสู้กับผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะของสำนักพวกเขาอย่างดุเดือดโดยไม่พ่ายแพ้!เรื่องนี้ทำให้พวกเขาทำอะไรไม่ถูก ยิ่งทำให้พวกเขาทั้งตกใจและเดือดดาลฉู่หลินเทียนที่กำลังต่อสู้กับหลินสวินอย่างดุเดือดก็ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ดังขึ้นเช่นกัน เดิมเขาเองก็ประหลาดใจมาก เกือบจะคิดว่าหลินสวินเป็นผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ แต่กดพลังปราณให้อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณเท่านั้นแต่ตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว เด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้เป็นอัจฉริยะที่ไม่เปิดเผยตัว! ทั้งยังเคยฆ่ายอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะกับมือ!เรื่องนี้ทำให้ฉู่หลินเทียนอดขนลุกไม่ได้ แม้แต่นักพรตสยงยังกลับไปมือเปล่า! เขาฉู่หลินเทียนเชื่อมั่นว่าพลังของตนไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่กล้าพูดว่าจะชนะนักพรตสยงได้เมื่อเทียบกันแล้ว จะเห็นได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ป่าเถื่อนเพียงใด!หากพ่ายแพ้การต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่สามารถล้มเด็กหนุ่มคนนี้ได้ สำนักยอดกระบี่บูรพาของพวกเขาจะขายหน้าท่ามกลางสายตาของทุกคนอย่างที่สุด!ยามนี้หลินสวินแผลงฤทธิ์ อานุภาพสะเทือนฟ้า ทำให้ทุกคนต่างหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าดูถูกส่วนฉู่หลินเทียนกลับดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้างอีกทั้งท่ามกลางสายตาของทุกคน ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะอย่างเขาลงมือขนาดนี้แล้วกลับยังไม่สามารถทำอะไรหลินสวินได้ ย่อมเป็นเรื่องที่น่าอับอายอย่างไม่ต้องสงสัยที่สำคัญที่สุดคือ ฝั่งสำนักยอดกระบี่บูรพาต่างไม่กล้าลงมือช่วยอีก ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วย แต่ถ้าส่งคนไปสู้กับหลินสวินอีกก็จะยิ่งเสียหน้า ไม่กี่วันเรื่องนี้คงแพร่กระจายไปทั่วทั้งแดนวิญญาณโบราณและกลายเป็นเรื่องตลกเป็นแน่วู้ม~~ทว่าไม่นานก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น แสงเลือดที่เกาะตัวบนฟากฟ้าแผ่คลื่นอันน่าสะพรึงออกมา ทันใดนั้นท้องฟ้าเหนือเสาหินโบราณที่อยู่ไกลๆ พลันระเบิด กลายเป็นเส้นทางที่ประหนึ่งน้ำวนสีเลือดเส้นหนึ่ง แพร่พลังต้องห้ามอันน่าหวั่นหวาดออกมามากมายทางเดินสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเปิดออกในตอนนี้!พื้นที่ตรงนั้นเกิดแรงสะเทือนขึ้นกะทันหัน ทุกสายตาต่างถูกดึงดูด ไม่สนใจการต่อสู้ระหว่างหลินสวินกับฉู่หลินเทียนอีก“ไป!”“รีบลงมือ!”“เร็วๆๆ โอกาสไม่เคยรอใคร!”เสียงตะโกนร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพลันเห็นแสงสายแล้วสายเล่าพุ่งทะลวงอากาศ โฉบทะยานไปยังทางเดินน้ำวนสีเลือดนั่นราวกับกระแสน้ำหลาก“ไอ้หนู คราวนี้ไว้ชีวิตเจ้าไปก่อน รอเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเมื่อไหร่ก็จะเป็นวันตายของเจ้า!”ฉู่หลินเทียนเองก็แอบร้อนรน ไม่มีกะจิตกะใจสู้กับหลินสวินต่อ รีบทิ้งท้ายด้วยคำพูดรุนแรงแล้วพุ่งไปยังทางเดินโลหิตที่อยู่ไกลๆ นั้นโอกาสในการฆ่าหลินสวินมีมากมาย แต่โอกาสที่จะเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นนั้นมีเพียงหนึ่งครั้ง สิ่งใดสำคัญกว่ากันเขาย่อมรู้ดีหลินสวินเห็นเช่นนี้ในใจก็ไม่ยินยอมอย่างมากแต่ไม่นานเขาก็สัมผัสได้อย่างมีไหวพริบว่า พลังของฉู่หลินเทียนกำลังอ่อนลง เห็นได้ชัดว่ากำลังกดระดับพลังปราณของตัวเอง พยายามหลบเลี่ยงพลังต้องห้ามในทางเดินสีเลือดนั่น เพื่อผ่านด่านเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเห็นเช่นนี้หลินสวินก็เอาธนูวิญญาณไร้แก่นสารออกมาอย่างไม่ลังเล ง้างสายธนูสีแดงก่ำดั่งเลือดจนสุดวู้ม!ลูกศรวิญญาณที่เลือนรางจนราวกับเป็นภาพมายาทะลุอากาศ พุ่งเข้าหาฉู่หลินเทียนลูกธนูนี้ไม่ได้ต้องการฆ่า เพียงสามารถบีบให้ฉู่หลินเทียนจำต้องใช้พลังระดับหยั่งสัจจะก็พอแล้วเพราะถ้าเป็นแบบนี้ หากฉู่หลินเทียนไม่อยากตายก็ต้องออกจากทางเดินสีเลือด ไม่กล้าเดินหน้าต่อ มิเช่นนั้นจะถูกพลังสะท้อนกลับฉึก!เลือดสดพุ่งออกมา ด้วยฉู่หลินเทียนไม่หลบเลี่ยง ตั้งรับลูกธนูของหลินสวินอย่างจัง ตรงแขนขวาปรากฏหลุมเลือดขึ้นหลุมหนึ่ง“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ฝากไว้ก่อนเถอะ…!” เสียงคำรามอย่างทั้งเจ็บปวดและโกรธเกรี้ยวของฉู่หลินเทียนดังขึ้นในทางเดินสีเลือด ก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็วหลินสวินหรี่ตา คิดไม่ถึงว่าเพื่อเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่น ฉู่หลินเทียนถึงกับทำใจเหี้ยมกับตัวเองได้ถึงเพียงนี้ตอนที่หลินสวินเก็บธนูวิญญาณไร้แก่นสาร ผู้ฝึกปราณในที่นั้นก็พุ่งเข้าแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นไปกว่าครึ่งแล้ว ยามนี้ไม่มีใครสนใจเขาอีก ต่างล้วนอยากพุ่งเข้าไปสุดกำลังอย่างบ้าคลั่งนี่ก็คือผู้ฝึกปราณ เมื่อเผชิญกับโอกาสหนึ่งเดียวในโลกที่สามารถเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นได้ ย่อมไม่มีใครยอมให้ตนพลาดโอกาสนี้“หนุ่มน้อยสุดหล่อ ความสามารถของเจ้าไม่ธรรมดา หลังจากเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเรามาร่วมมือกันตามหาสมบัติดีหรือไม่”จู่ๆ สายลมอันหอมกรุ่นก็พัดเข้ามา เรือนร่างเพรียวบางร้อนแรงและน่าเย้ายวนปรากฏขึ้น เป็นเหลียนเตี๋ยอีผู้สืบทอดแห่งแดนวิญญาณหมื่นมายานั่นเองนางมีดวงตางดงาม เรือนร่างสะโอดสะอง ริมฝีปากแดงราวกับเพลิงไฟ ทุกอิริยาบถล้วนแฝงเสน่ห์ชวนหลงใหลถ้าเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่นคงหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ก้มหัวให้ไปตั้งนานแล้วแต่หลินสวินเพียงเหลือบมองนางคราหนึ่งค่อยปฏิเสธอย่างเฉยชา “ขอโทษด้วย ข้าชินกับการเคลื่อนไหวคนเดียว”“อ้อ น่าเสียดายจัง”เหลียนเตี๋ยอีถอนหายใจเบาๆ คราหนึ่ง เงาร่างพลันกลายเป็นแสงหลากสี มุ่งหน้าไปยังทางเดินสีเลือดหลินสวินมองนางจนลับสายตาไป ก่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ คำหนึ่ง พยายามสะกดพลังที่กำลังเดือดดาลบ้าคลั่งอยู่ในร่างกายการต่อสู้กับฉู่หลินเทียนเมื่อครู่นี้สั้นเกินไป ทำให้เขาไม่สามารถควบรวมชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดอีกครึ่งที่ยังเหลืออยู่ได้ทว่าขอเพียงแค่เข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่น ก็จะมีโอกาสมากมาย!พรึ่บ!เงาร่างของหลินสวินเองก็พริบไหว ทะยานไปยังทางเดินสีเลือดเช่นกัน และหายไปอย่างรวดเร็ว“หากเด็กคนนี้คิดจะเป็นศัตรู ก็ฆ่าทันที!”หลินสวินเพิ่งจะจากไปได้ไม่นาน เหล่าผู้ฝึกปราณที่ลอบเฝ้าสังเกตการกระทำของหลินสวินอยู่ต่างเผยสีหน้าโหดเหี้ยมความสามารถอันน่าทึ่งของหลินสวินเมื่อครู่นี้ ได้สร้างความหวาดกลัวและระแวงให้พวกเขาเข้าแล้ว………………
คอมเม้นต์